BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2010
ตอบ: 2278
ที่อยู่: พื้นที่เล็กๆ
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:20
[RE]จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.
GeneralAK พิมพ์ว่า:
PorchBlue พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
PorchBlue พิมพ์ว่า:
บางคอมเม้นต์ก็เหมือนเด็กน้อยอ่ะ ไม่วิเคราะห์อะไรก่อนพิมพ์

การบินไกลๆนี่มันเหนื่อยจะตาย ถึงจะแค่นั่งเฉยๆก็เหอะ และมันมีโรคที่ป่วยจากการเดินทางโดยเครื่องบินอยู่ (แอร์โฮสเตสและนักบินจะเป็นกันเยอะ)

ในเมื่อข้อกำหนดมันมีมาแบบนี้แล้ว ยังจะไปนั่งด่าว่านักบินผิด และไล่ให้ไปนั่งที่นั่ง Business class อีก

ผู้โดยสารต่างหาก กับ Ground staff ที่ผิด
1. ทำไมไม่ล้อคที่นั่งไว้ให้ นักบินก่อน
2. ผู้โดยสารทั้งหมด หรือเฉพาะบางที่นั่นแหละ ทำไมไม่ยอมกลับไปนั่งที่นั่งตัวเอง ในชั้น Business class
กรณีนี้ พอมีปัญหาพนักงานก็ต้องพยายามอธิบายแล้วแน่นอน ว่าทำไมต้องให้นักบินนั่งตรงนี้ แต่ผู้โดยสารคงไม่ยอม คิดประมาณว่าฉันไม่ผิด ถึงพนักงานจะพยายามอธิบายแล้ว นึกภาพบนเครื่องออกเลย พวกเห็นแก่ตัวเยอะ อยากสบาย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


และในเรื่องของการเสียเวลา 2 ชั่วโมง เพราะอะไร มันก็เพราะผู้โดยสารที่ซื้อตั๋ว Business class แต่มานั่งที่ของนักบินใน First class ไม่ยอมลุกกลับไปนั่งที่ตัวเอง ตามเงินที่จ่าย

แต่ก็ยังมีบางคนด่านักบินต่ออีก และด่าคนขับเครื่องที่ไม่ยอมเอาเครื่องขึ้นอีก คงคล้ายๆกรณีรามอสแหละ ออกตัวด่าไปแล้ว พอคดีพลิกจะกลับคำก็ยังไงอยู่เลยต้องตามน้ำด่าไป

 


ผู้โดยสารไม่ผิดเลยครับ สิทธิ์จองที่คือมาก่อนได้ก่อน เมื่อเค้าปล่อยที่ fc ให้เป็น bc แล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของคนที่ได้อัพเกรด เค้าทำตามสิทธิ์อย่างถูกต้อง ไม่ได้เดินไปนั่งเอง แต่เช็คอินที่นั่งนั้นตั้งแต่เคาน์เตอร์นะ

มันเป็นความผิดพลาดของกราวด์เอง ผิดพลาดการภายใน ทำไมต้องให้ผู้โดยสารรับกรรม  


ผมหมายถึงตอนพนักงานไปอธิบายบนเครื่องครับ

ผู้โดยสาร ณ ตำแหน่งที่นั่งนั้นๆ ที่ต้องให้นักบินนั่ง ก็น่าจะรู้ว่าตัวเองต้องย้ายที่ แต่ทำไมไม่ยอมย้ายล่ะครับ ถึงได้อัพเกรดที่นั่งมาแล้ว แต่ตามความจริงคือเสียเงินซื้อ Business class กลับไปนั่งที่นั่งตามที่จ่ายเงิน ก็น่าจะถูกต้องแล้ว  


ต้องให้นักบินนั่งหรือไม่ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมสงสัยและถาม จขกท ครับ

เพราะถ้านักบินต้องพักผ่อนเต็มที่ เพื่อเตรียมบินไฟลต์ต่อไป มันก็รับฟังได้

แต่ จขกท ก็บอกว่า กลับมาถึงไทยก็ได้พักอีก 48 ชัวโมง

ประกอบกับ จขกท ก็บอกว่า ตัวเองเคยนั่งชั้น Eco ด้วยซ้ำ แสดงว่ากฎนี้ไม่ใช่กฎที่ตายตัวขนาดจะทำให้ขึ้นบินไม่ได้ และมีทางที่สามารถถอยได้

โดยสามัญสำนึกของการเป็นผู้ให้บริการ ถ้าตัวเองต้องเสียสิทธิ์เพื่อผู้ใช้บริการ โดยสาเหตุเกิดจากความผิดพลาดขององกรณ์ตัวเอง มันก็ต้องยอมเสียสิทธิ์นั้น แล้วมาเฉ่งกันภายในทีหลังครับ

ยกเว้นว่าจะไม่ได้คิดในฐานะผู้ให้บริการ หรือคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนที่มาใช้บริการ  


เอาเจ้าของกระทู้มาเทียบได้แค่ส่วนนึงเท่านั้นแหละครับ เพราะจากที่เจ้าของกระทู้บอกว่าตัวเองยังเป็นนักบินหน้าใหม่

แต่นักบินที่ขับเครื่องไปซูริค ระยะเวลาบินประมาณ 10-11 ชั่วโมง ต้องเป็นกัปตันที่มีประสบการณ์และอายุเยอะแน่นอน ไม่ใช่นักบินที่จบมาใหม่แน่

ซึ่งคนมีอายุและทำงานด้านนี้มานาน เดินทางไกลบ่อยๆ อยู่กับการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศเยอะๆ และเปลี่ยนโซนเวลามาหลายปี การรักษาสุขภาพร่างกายตัวเองก็ต้องดูแลให้ดี เพื่อให้ตัวเองสามารถทำงานได้นานๆ ยิ่งเห็นบอกว่าขาดแคลนนักบินประสบการณ์สูงอยู่แล้วด้วย

จะไปมัวแต่มอง ลูกค้าเป็นพระเจ้าแบบอาชีพอื่นก็โลกสวยเกินไป
อาชีพบางอาชีพ ก็เป็นอาชีพเฉพาะด้าน จะเอาทุกอาชีพมาเทียบกับหมดได้ยังไง ออกมาดูโลกความเป็นจริงบ้าง

(หมายถึงคนที่ชอบเอาอาชีพอื่นมาเทียบนะ)
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Aug 2010
ตอบ: 14257
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:22
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
PorchBlue พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
PorchBlue พิมพ์ว่า:
บางคอมเม้นต์ก็เหมือนเด็กน้อยอ่ะ ไม่วิเคราะห์อะไรก่อนพิมพ์

การบินไกลๆนี่มันเหนื่อยจะตาย ถึงจะแค่นั่งเฉยๆก็เหอะ และมันมีโรคที่ป่วยจากการเดินทางโดยเครื่องบินอยู่ (แอร์โฮสเตสและนักบินจะเป็นกันเยอะ)

ในเมื่อข้อกำหนดมันมีมาแบบนี้แล้ว ยังจะไปนั่งด่าว่านักบินผิด และไล่ให้ไปนั่งที่นั่ง Business class อีก

ผู้โดยสารต่างหาก กับ Ground staff ที่ผิด
1. ทำไมไม่ล้อคที่นั่งไว้ให้ นักบินก่อน
2. ผู้โดยสารทั้งหมด หรือเฉพาะบางที่นั่นแหละ ทำไมไม่ยอมกลับไปนั่งที่นั่งตัวเอง ในชั้น Business class
กรณีนี้ พอมีปัญหาพนักงานก็ต้องพยายามอธิบายแล้วแน่นอน ว่าทำไมต้องให้นักบินนั่งตรงนี้ แต่ผู้โดยสารคงไม่ยอม คิดประมาณว่าฉันไม่ผิด ถึงพนักงานจะพยายามอธิบายแล้ว นึกภาพบนเครื่องออกเลย พวกเห็นแก่ตัวเยอะ อยากสบาย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


และในเรื่องของการเสียเวลา 2 ชั่วโมง เพราะอะไร มันก็เพราะผู้โดยสารที่ซื้อตั๋ว Business class แต่มานั่งที่ของนักบินใน First class ไม่ยอมลุกกลับไปนั่งที่ตัวเอง ตามเงินที่จ่าย

แต่ก็ยังมีบางคนด่านักบินต่ออีก และด่าคนขับเครื่องที่ไม่ยอมเอาเครื่องขึ้นอีก คงคล้ายๆกรณีรามอสแหละ ออกตัวด่าไปแล้ว พอคดีพลิกจะกลับคำก็ยังไงอยู่เลยต้องตามน้ำด่าไป

 


ผู้โดยสารไม่ผิดเลยครับ สิทธิ์จองที่คือมาก่อนได้ก่อน เมื่อเค้าปล่อยที่ fc ให้เป็น bc แล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของคนที่ได้อัพเกรด เค้าทำตามสิทธิ์อย่างถูกต้อง ไม่ได้เดินไปนั่งเอง แต่เช็คอินที่นั่งนั้นตั้งแต่เคาน์เตอร์นะ

มันเป็นความผิดพลาดของกราวด์เอง ผิดพลาดการภายใน ทำไมต้องให้ผู้โดยสารรับกรรม  


ผมหมายถึงตอนพนักงานไปอธิบายบนเครื่องครับ

ผู้โดยสาร ณ ตำแหน่งที่นั่งนั้นๆ ที่ต้องให้นักบินนั่ง ก็น่าจะรู้ว่าตัวเองต้องย้ายที่ แต่ทำไมไม่ยอมย้ายล่ะครับ ถึงได้อัพเกรดที่นั่งมาแล้ว แต่ตามความจริงคือเสียเงินซื้อ Business class กลับไปนั่งที่นั่งตามที่จ่ายเงิน ก็น่าจะถูกต้องแล้ว  


ขอโทษทีที่ quote ซ้ำครับ

ผมกลับไปอ่านของ จขกท อีกที

เครื่องลำเดิม ที่นั่ง fc ไม่มี มี bc ทั้งหมด แบบนอนราบ

เครื่องลำใหม่ มีที่นั่ง fc แต่ที่นั่ง bc เป็นแบบไม่นอนราบ

ผมว่าอันนี้ก็พอจะเป็นตัวบอกได้ว่า ทำไมผู้โดยสารถึงไม่ยอมเปลี่ยน

เพราะตอนจอง จองเพราะเข้าใจว่าจะได้นอนราบ แต่พอมาถึงเครื่องจริง ที่นั่งกลับไม่ได้เป็นแบบนอนราบ

แบบนี้ถ้าชดเชยไม่ได้สมเหตุสมผล ผมว่าน่าเกลียดมากๆ นะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Aug 2010
ตอบ: 14257
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:26
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Pchrp_TONG พิมพ์ว่า:
777 ไม่มี fc แต่ 747 มี9ที่ ซึ่งมันควรจะต้องว่างอยู่ตามหลัก เพราะขามา มา777นั่งbc ขากลับก็ควรจะเป็นอย่างนั้น

แต่พอมีการเปลี่ยนเครื่อง ขากลับผู้โดยสารบางส่วน ได้มานั่งที่fc แบบงงๆ หมดทั้ง9ที่ ซึ่งจริงๆแล้วควรสงวนไว้ให้ทีมกัปตันกับที่จะพาสซีฟ(เรื่องเกี่ยวกับrest)กับ ผดส gold member พอเกิดปัญหา พนักงานภาคพื้นไม่ยอมแก้ไข หนีปัญหาจนเครื่องดีเลย์ สุดท้ายมีคำสั่งลงมาให้หา ผดส2คนไปนั่งที่เดิม "ตามสิทธิ์" ที่ได้ซื้อมา แต่พนักงานภาคพื้นบอกว่า ให้ย้ายเพราะกัปตันจะเอาไปให้พวกพ้องตัวเอง เรื่องมันก็เลยเถิดมาขนาดนี้

ส่วนเรื่องอีโก้ใครยอมใครไม่ยอม อันนี้ก็แล้วจะจักรยานของแต่ละคน


 


จากที่ จขกท บอกไว้ ผมว่าอันนี้ตอบโจทย์ได้เยอะ ผมเพิ่งอ่านดีๆ อีกรอบเหมือนกัน

B777 - ไม่มี First class, ที่นั่ง BC เป็นแบบ flat(คือนอนราบ)
B747 - มีFirst Class, ที่นั่ง BC ไม่เป็นแบบราบ

คือเป็น bc เท่าเดิม ที่เสียสิทธิ์ในการนอนราบ

อย่างนี้เรียกว่าตามสิทธิ์เหรือเสียสิทธิ์ ก็แล้วแต่จะพิจารณา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ห นู น ย ม ทู ต
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 15846
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:26
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
The Journey of new beginnings.
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2010
ตอบ: 2278
ที่อยู่: พื้นที่เล็กๆ
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:29
[RE]จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.
GeneralAK พิมพ์ว่า:
PorchBlue พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
PorchBlue พิมพ์ว่า:
บางคอมเม้นต์ก็เหมือนเด็กน้อยอ่ะ ไม่วิเคราะห์อะไรก่อนพิมพ์

การบินไกลๆนี่มันเหนื่อยจะตาย ถึงจะแค่นั่งเฉยๆก็เหอะ และมันมีโรคที่ป่วยจากการเดินทางโดยเครื่องบินอยู่ (แอร์โฮสเตสและนักบินจะเป็นกันเยอะ)

ในเมื่อข้อกำหนดมันมีมาแบบนี้แล้ว ยังจะไปนั่งด่าว่านักบินผิด และไล่ให้ไปนั่งที่นั่ง Business class อีก

ผู้โดยสารต่างหาก กับ Ground staff ที่ผิด
1. ทำไมไม่ล้อคที่นั่งไว้ให้ นักบินก่อน
2. ผู้โดยสารทั้งหมด หรือเฉพาะบางที่นั่นแหละ ทำไมไม่ยอมกลับไปนั่งที่นั่งตัวเอง ในชั้น Business class
กรณีนี้ พอมีปัญหาพนักงานก็ต้องพยายามอธิบายแล้วแน่นอน ว่าทำไมต้องให้นักบินนั่งตรงนี้ แต่ผู้โดยสารคงไม่ยอม คิดประมาณว่าฉันไม่ผิด ถึงพนักงานจะพยายามอธิบายแล้ว นึกภาพบนเครื่องออกเลย พวกเห็นแก่ตัวเยอะ อยากสบาย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


และในเรื่องของการเสียเวลา 2 ชั่วโมง เพราะอะไร มันก็เพราะผู้โดยสารที่ซื้อตั๋ว Business class แต่มานั่งที่ของนักบินใน First class ไม่ยอมลุกกลับไปนั่งที่ตัวเอง ตามเงินที่จ่าย

แต่ก็ยังมีบางคนด่านักบินต่ออีก และด่าคนขับเครื่องที่ไม่ยอมเอาเครื่องขึ้นอีก คงคล้ายๆกรณีรามอสแหละ ออกตัวด่าไปแล้ว พอคดีพลิกจะกลับคำก็ยังไงอยู่เลยต้องตามน้ำด่าไป

 


ผู้โดยสารไม่ผิดเลยครับ สิทธิ์จองที่คือมาก่อนได้ก่อน เมื่อเค้าปล่อยที่ fc ให้เป็น bc แล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของคนที่ได้อัพเกรด เค้าทำตามสิทธิ์อย่างถูกต้อง ไม่ได้เดินไปนั่งเอง แต่เช็คอินที่นั่งนั้นตั้งแต่เคาน์เตอร์นะ

มันเป็นความผิดพลาดของกราวด์เอง ผิดพลาดการภายใน ทำไมต้องให้ผู้โดยสารรับกรรม  


ผมหมายถึงตอนพนักงานไปอธิบายบนเครื่องครับ

ผู้โดยสาร ณ ตำแหน่งที่นั่งนั้นๆ ที่ต้องให้นักบินนั่ง ก็น่าจะรู้ว่าตัวเองต้องย้ายที่ แต่ทำไมไม่ยอมย้ายล่ะครับ ถึงได้อัพเกรดที่นั่งมาแล้ว แต่ตามความจริงคือเสียเงินซื้อ Business class กลับไปนั่งที่นั่งตามที่จ่ายเงิน ก็น่าจะถูกต้องแล้ว  


ขอโทษทีที่ quote ซ้ำครับ

ผมกลับไปอ่านของ จขกท อีกที

เครื่องลำเดิม ที่นั่ง fc ไม่มี มี bc ทั้งหมด แบบนอนราบ

เครื่องลำใหม่ มีที่นั่ง fc แต่ที่นั่ง bc เป็นแบบไม่นอนราบ

ผมว่าอันนี้ก็พอจะเป็นตัวบอกได้ว่า ทำไมผู้โดยสารถึงไม่ยอมเปลี่ยน

เพราะตอนจอง จองเพราะเข้าใจว่าจะได้นอนราบ แต่พอมาถึงเครื่องจริง ที่นั่งกลับไม่ได้เป็นแบบนอนราบ

แบบนี้ถ้าชดเชยไม่ได้สมเหตุสมผล ผมว่าน่าเกลียดมากๆ นะ  


ในส่วนนี้ ผมก็ไม่มีข้อมูลว่ามันต่างกันมากขนาดไหน ถ้าต่างกันมากก็น่าเกลียดเกินไป
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1597
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:34
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
ส่วนตัวเท่าที่อ่านมา

Ground โดนไปดอกนึงเต็มๆแน่นอนเนื่องจากไม่จองที่ให้นักบินก่อนหรือไม่บอกรายละเอียดว่าจะเปลี่ยนเครื่องบิน

ส่วนตัวมองว่าสุดท้ายของเรื่องนี้ เรียก Ground มาคุย และเยียวยา 2 ท่านนั้นที่ต้องย้าย ไปนั่ง BC หรือไม่ก็อาจจะทั้งลำเพราะ มันเลททั้งเครื่อง เลทแบบไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เลทเพราะข้อมูลไม่ลงตัวเอาเครื่องขึ้นไม่ได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 May 2007
ตอบ: 1676
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:37
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 496
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:38
จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.
GeneralAK พิมพ์ว่า:
Pchrp_TONG พิมพ์ว่า:
777 ไม่มี fc แต่ 747 มี9ที่ ซึ่งมันควรจะต้องว่างอยู่ตามหลัก เพราะขามา มา777นั่งbc ขากลับก็ควรจะเป็นอย่างนั้น

แต่พอมีการเปลี่ยนเครื่อง ขากลับผู้โดยสารบางส่วน ได้มานั่งที่fc แบบงงๆ หมดทั้ง9ที่ ซึ่งจริงๆแล้วควรสงวนไว้ให้ทีมกัปตันกับที่จะพาสซีฟ(เรื่องเกี่ยวกับrest)กับ ผดส gold member พอเกิดปัญหา พนักงานภาคพื้นไม่ยอมแก้ไข หนีปัญหาจนเครื่องดีเลย์ สุดท้ายมีคำสั่งลงมาให้หา ผดส2คนไปนั่งที่เดิม "ตามสิทธิ์" ที่ได้ซื้อมา แต่พนักงานภาคพื้นบอกว่า ให้ย้ายเพราะกัปตันจะเอาไปให้พวกพ้องตัวเอง เรื่องมันก็เลยเถิดมาขนาดนี้

ส่วนเรื่องอีโก้ใครยอมใครไม่ยอม อันนี้ก็แล้วจะจักรยานของแต่ละคน


 


จากที่ จขกท บอกไว้ ผมว่าอันนี้ตอบโจทย์ได้เยอะ ผมเพิ่งอ่านดีๆ อีกรอบเหมือนกัน

B777 - ไม่มี First class, ที่นั่ง BC เป็นแบบ flat(คือนอนราบ)
B747 - มีFirst Class, ที่นั่ง BC ไม่เป็นแบบราบ

คือเป็น bc เท่าเดิม ที่เสียสิทธิ์ในการนอนราบ

อย่างนี้เรียกว่าตามสิทธิ์เหรือเสียสิทธิ์ ก็แล้วแต่จะพิจารณา
 

เพียงแต่ขากลับกบท.ก็ไม่ได้มีการจำหน่ายตั๋วแบบ fc ในเส้นทางนี้ กบท. ผิดพลาดที่ปล่อยให้ ผดส bc เลื่อนมานั่ง fc ได้หมดโดยไม่ได้กันที่ไว้ให้นักบิน

ผดส อีกส่วนใหญ่กับต้องผิดหวังเรื่องนี้เหมือนกันเพราะไม่ได้นอนราบ เนื่องจากต้องเปลี่ยนเครื่องซึ่งสาเหตุอาจมาจากเครื่องเสียหรืออะไรก็แล้วแต่

แต่ความรู้สึกของผมคือ เหมือนคุณได้ลาภลอย แล้วมีคนมาแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริงแล้วไม่ยอมคืนให้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ห นู น ย ม ทู ต
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 15846
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:42
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที  
q
ผมเข้าใจในสิ่งที่ท่านสื่อละ
ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่านมากๆครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
The Journey of new beginnings.
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 496
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:49
จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที  
q
ผมเข้าใจในสิ่งที่ท่านสื่อละ
ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่านมากๆครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ  


เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 ตุลาคม 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ ได้สอบถามนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มองว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนเครื่องบินที่ใช้เดินทาง จาก โบอิ้ง 777 มาเป็น โบอิ้ง 747 ส่งผลให้ไม่มีที่นอนสำหรับนักบิน ทำให้ต้องขยับนักบินมาในที่ First Class เพราะนักบินที่จะโดยสารไปด้วยจะต้องนับชั่วโมงพักผ่อนให้เพียงพอสำหรับการบินเที่ยวบินต่อไปตามระเบียบการบิน 

          ส่วนผู้โดยสารเดิมที่จองตั๋วชั้นธุรกิจ หรือ Business class ทุกคน เมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องเป็น โบอิ้ง 747 ทำให้มีบางคนที่ได้รับสิทธิเลื่อนชั้นเป็น First class ดังนั้นการขอให้ผู้โดยสารสละที่นั่ง First class และย้ายกลับไปนั่ง Business class จึงไม่ถือว่าเป็นการเสียประโยชน์ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อย แต่กรณีนี้มองว่าการบินไทยผิดพลาดด้านการสื่อสารที่ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง 
.
.
.

ประเด็นคือ เอ็งคุยกันยังไง มันถึงยาวนานมา 2 ชั่วโมง ผมว่า ฝั่งนึงคิดว่า ข้าถูกข้าทำตามกฎ เอ็งต้องย้าย อีกฝั่ง ข้าเป็นลูกค้า ทำกับข้าแบบนี้ได้ไง ข้าไม่ย้าย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 May 2007
ตอบ: 1676
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 22:55
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Pchrp_TONG พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที  
q
ผมเข้าใจในสิ่งที่ท่านสื่อละ
ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่านมากๆครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ  


เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 ตุลาคม 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ ได้สอบถามนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มองว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนเครื่องบินที่ใช้เดินทาง จาก โบอิ้ง 777 มาเป็น โบอิ้ง 747 ส่งผลให้ไม่มีที่นอนสำหรับนักบิน ทำให้ต้องขยับนักบินมาในที่ First Class เพราะนักบินที่จะโดยสารไปด้วยจะต้องนับชั่วโมงพักผ่อนให้เพียงพอสำหรับการบินเที่ยวบินต่อไปตามระเบียบการบิน 

          ส่วนผู้โดยสารเดิมที่จองตั๋วชั้นธุรกิจ หรือ Business class ทุกคน เมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องเป็น โบอิ้ง 747 ทำให้มีบางคนที่ได้รับสิทธิเลื่อนชั้นเป็น First class ดังนั้นการขอให้ผู้โดยสารสละที่นั่ง First class และย้ายกลับไปนั่ง Business class จึงไม่ถือว่าเป็นการเสียประโยชน์ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อย แต่กรณีนี้มองว่าการบินไทยผิดพลาดด้านการสื่อสารที่ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง 
.
.
.

ประเด็นคือ เอ็งคุยกันยังไง มันถึงยาวนานมา 2 ชั่วโมง ผมว่า ฝั่งนึงคิดว่า ข้าถูกข้าทำตามกฎ เอ็งต้องย้าย อีกฝั่ง ข้าเป็นลูกค้า ทำกับข้าแบบนี้ได้ไง ข้าไม่ย้าย  


ถ้าเอาตามที่ผมอ่านจากท่านอื่นๆมา ก็คือไอ้พนักงานคนที่ไปคุย ไม่รู้ไปคุยอีท่าไหน ดันไปพูดว่านักบินต้องการที่นั่งให้เพื่อนของนักบินเอง ถ้าไม่ได้ จะไม่บิน ผมก็ไม่รู้นะว่าจริงรึเปล่า

คือเหมือนไม่ได้อธิบายให้ผู้โดยสารเข้าใจดีๆ

ถ้าจริงนี่ น่าจะโดนหนักแน่นอนไอ้พนักงานคนนั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 496
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 23:10
จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.
Robert9 พิมพ์ว่า:
Pchrp_TONG พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที  
q
ผมเข้าใจในสิ่งที่ท่านสื่อละ
ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่านมากๆครับ ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันครับ  


เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 ตุลาคม 2561 ข่าวเวิร์คพอยท์ ได้สอบถามนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มองว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนเครื่องบินที่ใช้เดินทาง จาก โบอิ้ง 777 มาเป็น โบอิ้ง 747 ส่งผลให้ไม่มีที่นอนสำหรับนักบิน ทำให้ต้องขยับนักบินมาในที่ First Class เพราะนักบินที่จะโดยสารไปด้วยจะต้องนับชั่วโมงพักผ่อนให้เพียงพอสำหรับการบินเที่ยวบินต่อไปตามระเบียบการบิน 

          ส่วนผู้โดยสารเดิมที่จองตั๋วชั้นธุรกิจ หรือ Business class ทุกคน เมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องเป็น โบอิ้ง 747 ทำให้มีบางคนที่ได้รับสิทธิเลื่อนชั้นเป็น First class ดังนั้นการขอให้ผู้โดยสารสละที่นั่ง First class และย้ายกลับไปนั่ง Business class จึงไม่ถือว่าเป็นการเสียประโยชน์ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อย แต่กรณีนี้มองว่าการบินไทยผิดพลาดด้านการสื่อสารที่ใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง 
.
.
.

ประเด็นคือ เอ็งคุยกันยังไง มันถึงยาวนานมา 2 ชั่วโมง ผมว่า ฝั่งนึงคิดว่า ข้าถูกข้าทำตามกฎ เอ็งต้องย้าย อีกฝั่ง ข้าเป็นลูกค้า ทำกับข้าแบบนี้ได้ไง ข้าไม่ย้าย  


ถ้าเอาตามที่ผมอ่านจากท่านอื่นๆมา ก็คือไอ้พนักงานคนที่ไปคุย ไม่รู้ไปคุยอีท่าไหน ดันไปพูดว่านักบินต้องการที่นั่งให้เพื่อนของนักบินเอง ถ้าไม่ได้ จะไม่บิน ผมก็ไม่รู้นะว่าจริงรึเปล่า

คือเหมือนไม่ได้อธิบายให้ผู้โดยสารเข้าใจดีๆ

ถ้าจริงนี่ น่าจะโดนหนักแน่นอนไอ้พนักงานคนนั้น  

ผมได้ยินมาว่า กราวไม่ยอมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จน ทางกทมโทรสั่ง แต่แทนจะบอก ผดสดีๆตามเหตุและผล กลับพูดเหมือนที่ท่านว่า
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย Pchrp_TONG เมื่อ Fri Oct 19, 2018 23:22, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 1472
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 23:28
ถูกแบนแล้ว
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
ความรู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2008
ตอบ: 4572
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 19, 2018 23:36
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
แล้วนักบินได้กลับตามแผนการที่สายการบินวางไว้หรือเปล่าครับ หรือกลับกันตามสะดวกเอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 12369
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Oct 20, 2018 00:52
[RE: จากคนใน สรุปเหตุการณ์กบท.]
Spoil
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
Robert9 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SpuRFc พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
Chokkz พิมพ์ว่า:
SM7 พิมพ์ว่า:
พอได้อ่านแบบนี้กลับเห็นใจนักบินนะ การจัดการภาคพื้นห่วยมาก ปล่อยให้ผู้โดยสารมาโซนนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่ามี DH อยู่

แต่นักบินทวงสิทธิ์มันกลับทำ ผดส. เสียหาย นักบินโดนสังคมประนามแต่คนปล่อยที่นั่งนี้ล่ะ ?  


คือการจัดการภาคพื้นห่วยก็เรื่องนึง
มันเป็นอะไรที่พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง คนนอกไม่ได้รู้ Process ตรงนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรู้ไปทำไม

ผมเห็นนักบินหลายคนก็ยอมนั่ง BC หรือ ต่ำกว่านี้ได้ ถ้าผู้โดยสารเขาได้สิทธิ์แล้ว
เพราะผู้โดยสารก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็จองมาอย่างถูกต้อง เพราะยังไงผู้โดยสารต้องรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมละ ดังนั้นผู้โดยสารก็มีสิทธ์นั่งตรงนั้นโดยชอบธรรมอยู่ดี เพราะคงเปิดให้มีการจองที่นั่งใหม่ก่อนจะขึ้นเค่รื่องอยู่แล้วแหละ
ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปนั่งซะหน่อย เครื่องพวกนี้

การที่นักบินใช้ผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อทวงสิทธิ์(จากบริษัท?)
แล้วส่งผลกระทบต่อผู็โดยสารทั้งหมดโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้โดยสารต้องเกี่ยวด้วย
ผมว่าแย่นะ สมควรแล้วที่โดนประนาม

ส่วนบริษัทกับภาคพื้นก็ผิดอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก คนละส่วนกัน



 

เคสนี้ ผดส. ก็ผิดส่วนหนึ่ง ตัวเองจอง BC แต่เครื่องเปลี่ยนได้ upgrade เป็น BF แต่พอให้กลับไปอยู่ในฐานันดรก็บ่ายเบี่ยง เพราะไม่มีใครเสียสละ (upgrade มาหลายคน แต่โดนเลือกปฏิบัติที่แถวหน้า) จริงๆ ผดร. ถ้าทราบความจำเป็นควรจะกลับไปที่เดิมนะ ไม่ควรเหนียวอะไรขนาดนี้  


ผมอ่านจากเรื่องที่ผู็โดยสารเขาแชร์มา (ต้นเรื่อง)

มันไม่ใช่การแจ้งความจำเป็นแบบที่เห็นในนี้อ่ะครับ ไอพวก suited rest , iaia อะไรแบบนี้อะ

แต่มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเดินมาบอกเขาว่า
ขอให้ลูกค้าที่ได้รับการอัพเกรดกลับไปนั่งที่เก่าเพราะมีนักบินจะมานั่งตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่ยอม Pilot On Duty จะไม่ทำการ Take off เครื่อง
ซึ่งจากที่เขาร้องเรียนมา มันคือการที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประกาศที่นักให้ Passive Crew แล้ว แต่ P.I.C ไม่ยอมรับ โดยไม่ได้สนใจผู็โดยสารเลยนี่ไง

เป็นคุณคุณจะว่ายังไงหละ ถ้าคุณได้รับข้อความแบบนี้อะ
เป็นผมก็คิดแบบผดส. สองท่านนี้แหละ 555555+



 


แบบนี้จะมองว่าการเมืองภายในหรือโดนวางยาได้ไหม หรือจริงๆแล้วสกิลของ ground ที่มาแก้ปัญหามีน้อย ลืมกันที่นั่งก็ส่วนนึงแต่มาเจรจาด้วยการบอกเหตุผลว่าถ้าไม่กลับไปที่เดิมนักบินจะไม่ยอมบินนะ แบบนี้มันโยนขี้ให้กันชัดๆแบบอ้างคนอื่นเพื่อเอามาเป็นเหตุผลให้ตัวเอง  


จะวางยาหริอไม่วางยา หรือโยนขี้ ไม่โยน ไม่ใช่เรื่องที่ ลูกค้าต้องมาทำความเข้าใจครับ
พวกคุณมีปัญหากันในองค์กรยังไง นั่นก็เป็นเรื่องขององค์กรกับนักบินครับ พวกคุณต้องไปจัดการกันเอง
และคนซวยต้องไม่ควรเป็นลูกค้าครับ
ซึ่งเรื่องนี้ลูกค้าซวยครับ ผมทำงานบริการ ผมคิดแบบนี้จริงๆ


 


แต่งานบริการที่คุณกำลังพูดถึง คือนักบินนะครับ ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารหลายร้อยคนในไฟลท์ต่อๆไป

ผมไม่โทษผู้โดยสารที่จะไม่ยอมย้ายที่นั่ง แต่ผมก็มองในแง่ของเรื่องความปลอดภัยว่านักบินก็ทำถูกต้องแล้ว

สมมตินักบินพักผ่อนได้ไม่ดีพอแล้วเกิดมีผลกระทบกับไฟลท์ต่อๆไปที่จะบิน ความเสียหายจะเยอะกว่าแค่เสียเวลา 2 ชม.

พูดกันตรงๆ ถ้านักบินนั่งแบบปกติกลับมา ก็ไม่ได้แปลว่านักบินจะมีอาการผิดปกติง่ายๆหรอก แต่มันมีความเสี่ยง ถึงแม้จะแค่ 0.000000000001% แต่มันก็คือความเสี่ยง

เค้าถึงได้มีกฏและวิธีปฏิบัติออกมาไง ว่านักบินต้องนอนกลับจะได้พักผ่อนเต็มที่ คือเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ผมย้ำนะว่า ผู้โดยสารไม่ได้ผิด แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มาแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ก็ควรทำตาม ผมมองว่ามันคือเรื่องความปลอดภัย

เพราะฉนั้น ผมมองว่าผู้โดยสารควรจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม แล้วสารการบินก็รับผิดชอบเยียวยาตามหลังไป

ผมไม่รู้ว่านักบินคนนั้นจะอีโก้สูงรึเปล่า แต่ผมคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้วแน่นอน

งานบริการมีหลายอย่าง หลายแขนง แต่ที่เรากำลังพูดถึง คืองานบริการที่มีหลายๆชีวิตฝากไว้

 

ท่านพูดเหมือนเวลาที่เสียไปเปล่าๆของลูกค้ามันมีความสำคัญน้อยกว่าเวลาที่พวกนักบินจะได้พักอะ


คือเข้าใจว่าท่านมองว่าความเสี่ยงมันอาจจะเพิ่ม
แต่ความจริงคิอนักบินที่บินกลับกลุ่มนั้นยังมีเวลาอีก 48 ชม หรือ 2 วัน ในการพักเพื่อเตรียมตัวทำไฟล์ต่อไป

ถ้ามองแบบนี้เวลา สองชั่วโมงที่หากไม่เสียไปของลูกค้ามันจะเกี่ยวอะไรกับความเสี่ยงของไฟล์ต่อไปของ Crew กลุ่มนี้อีกล่ะครับ

เห็นด้วยที่ว่า ถ้าแจ้งให้ผู้โดยสารเข้าใจ ย้ำว่าเข้าใจ ผู้โดยสารก็ควรทำตาม แล้วก็มีการเยียวยาคืนไป

แต่ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นหละ หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าไม่ได้เข้าใจเหตุผลของการขอที่นั่งคืนแบบเคสนี้น่ะ ลูกค้าต้องยอมใช่ไหม


 
ก็มันจะไม่มีการเสีย 2 ชม.ไง ถ้ามีการอธิบายที่ถูกต้องและผู้โดยสารเข้าใจและปฏิบัติตามโดยดี

ตอบเรื่อง ว่าเกี่ยวกับไฟลท์ต่อๆไปยังไง ในเมื่อได้พักอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

คือผมไม่ใช่หมอนะ ผมจะพูดแค่เรื่องความปลอดภัย การนอน 10 ชม. กับการนั่งหลับ 10 ชม. ท่านว่ามีความแตกต่างไหม ต่อร่างกาย ยิ่งกับคนที่ต้องเดิงทางบ่อยเป็นประจำด้วยแล้ว ท่านคิดว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้จะมีผลไหม

ผมย้ำนะว่าผู้โดยสารไม่ได้ผิดเพราะความผิดพลาดมาจากสายการบินแน่นอนและผมไม่ได้มองว่า 2ชั่วโมงของผู้โดยสารไม่มีค่า

ผมแค่จะบอกว่า เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเรื่องหลักการบริการ อาจจะผิดหลักการบริการแต่มันถูกตามหลักความปลอดภัยสากล ยิ่งกับอาชีพนักบิน ที่มีชีวิตของผู้โดยสารพ่วงมาด้วย ผมจึงคิดว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนหลักการบริการ แล้วก็ค่อยไปเยียวยาผู้โดยสารกันอีกที  
 


747 BC ไม่ถึงกะนั่งหลับครับ นอนสบายเหมือนกันเชื่อผมเถอะ ผมเคยนั่ง หลับปุ๋ย ถ้าคนมันจะพักจริงๆยังไงก็หลับแค่อาจไม่นอนราบถึง 180 เคสนี้จบง่ายมากแล้วก็กัปตันท่านนั้นเห็นว่ามีเวลาพักอีก 48 ชั่วโมงก่อน Flight ถัดไป การจะบอกว่าย้ายไปนั่ง BC แล้วบอกจะทำให้พักผ่อนไม่เต็มที่บอกเลยว่า nonsense ผมก็นั่ง Flight ยาวนี่แหละ 10 กว่าชั่วโมง นอนสบายตัวใช้ได้(มีแอบไหลนิดหน่อยเพราะเบาะมันเอียงลงนิดนึง)

ส่วนเรื่องสิทธิตามข้อกำหนดกฏหมายบลาๆๆ หากเกิดปัญหาแบบนี้ผมมองว่าตัวนักบินซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสามารถจบปัญหาด้วยการปราณีปรานอมย้ายไปนั่ง(นอน) seat ที่ว่างได้ครับ ไม่น่าทำให้การพักผ่อนของท่านๆเขาแย่ลงซักเท่าไหร่ เพราะมันก็นอนสบายจริงๆถ้าไม่มัวแต่ทำนู่นทำนี่ แต่ที่ต้องโดนเต็มๆคือระบบการจัดการของทั้งหมดตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องเลยแบบนี้
แก้ไขล่าสุดโดย Flix เมื่อ Sat Oct 20, 2018 01:06, ทั้งหมด 3 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel