ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ โลกนี้จะอยู่ยังไงนะ จะส่งผลอะไรต่อโลกนี้ไหม แล้วถ้าคนคนหนึ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไรต่อโลกนี้เลย กำลังจะหายไปจากโลกนี้ จะมีใครคิดถึงเขาไหม

If Cats Disappeared From The World คือหนังที่เล่าเรื่องเรื่องของชายคนหนึ่งที่กำลังจะตายจากอาการเนื้องอกในสมอง และยิ่งไปกว่านั้น เขาได้พบว่าเขาจะมีชีวิตได้อีกเพียง 1 วันเท่านั้น แต่แล้วก็มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือมีข้อเสนอหนึ่งที่สิ่ง ๆ หนึ่งยื่นให้เขา ก็คือการให้อะไรบางอย่างหายไปจากโลกนี้ เพื่อแลกกับการอยู่ต่อบนโลกนี้ได้อีก 1 วัน

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่แสดงถึงความสวยงามของสิ่งมีชีวิตและคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ได้ดีมาก ๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องของแมวเท่านั้น มันคือความเรียบง่ายที่เรียบเรียงได้สุดยอดมาก ๆ มันคือหนังที่ดีที่สุดในรอบครึ่งปีแรกเลยก็ว่าได้

การค่อย ๆ เล่าเรื่องไปอย่างช้า ๆ ทำให้เราได้มีเวลาที่จะคิดตามสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ มีการเล่าแบบตัดสลับไปมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตเพื่อเสริมเรื่องราวให้มันแน่นมากขึ้น โดยเรื่องในอดีตที่ยกมามันคือเรื่องสำคัญที่พระเอกได้เรียนรู้มาในชีวิต และมันก็สามารถเล่าให้เราได้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งที่กำลังจะหายไป รวมถึงผลกระทบที่ตามมาระหว่างสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนมาก ๆ และไฮไลท์สำคัญก็คือช่วงเวลาที่ผ่านมานี่แหละ แต่ละประเด็นที่หนังเอามาใส่มันค่อย ๆ ไต่ระดับความเข้มข้นไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

และเรื่องที่หนังได้ปูมาตลอดทางนี่แหละ ทำให้จุดพีคของเรื่องมันพีคมาก ๆ และเราก็เกลียดการขยี้ของหนังเรื่องนี้มาก ๆ มันทำให้เรื่องที่เศร้าอยู่แล้ว เศร้ามากขึ้นไปอีก เรื่องที่เหมือนจะพีคแล้ว มีพีคขึ้นไปกว่านี้อีก คือมันสุด ๆ จริง ๆ อารมณ์ที่ดู ณ ตอนนั้นคือปลดปล่อยออกมาเต็มที่มาก ร้องไห้จนตาแฉะ หน้าเปียกไปหมดเลย

พอดูจบแล้วก็แทบไม่อยากจะออกจากโรงเลยอ่ะ เป็นหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่อยากจะนั่งต่อจนจบเครดิตโดยไม่เกี่ยวกับการรอดูฉาก End Credit ตอนนั้นมันทำให้เราอยากใช้เวลาปลดปล่อยความคิด คิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต และได้ระลึกถึงคนสำคัญ ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเรา

เรื่องราวของคนที่เรารัก เรื่องราวของคนที่รักเราที่สุด เรื่องเล็ก ๆ ที่ถูกตีความให้ยิ่งใหญ่และมันสามารถสื่อได้ “ถึง” คนดูอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ Sensitive นี่เตรียมทิชชู่ไปได้เลย มันจี๊ดหนักมากจริง ๆ

สิ่งที่ชอบมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่หนังสามารถแสดง “ตัวตน” ของความเป็น “แม่” และ “พ่อ” ได้ชัดเจนมาก ๆ คือความเป็นแม่มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ และความเป็นพ่อมันก็เป็นแบบนี้จริง ๆ และสิ่งเหล่านี้มันยิ่งเสริมเนื้อเรื่องให้มันไปได้สุดทางมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนแมวนี่เหมือนเป็นตัวสำคัญที่คอยเชื่อมเรื่องราวของพระเอกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ และเป็นตัวที่เปรียบเสมือนตัวแทนของอะไรอย่างหนึ่งที่สำคัญชีวิตของตัวพระเอกนี้มาก ๆ


ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ คือการเปรียบเปรยระหว่างสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่บนโลกใบนี้กับชีวิตของคนคนเดียวที่กำลังจะตายจากไป ว่าถ้าอะไรหายไปจะส่งผลต่อโลกนี้มากกว่ากัน สำหรับพระเอกของเรื่องที่ได้มีโอกาสเรียนรู้บทเรียนชีวิตแบบรวบรัดก็ได้ค้นพบแล้วว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดของการเกิดมาโลกใบนี้ แต่สำหรับคนดูอย่างเราล่ะ เรารู้หรือยังว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต เราคือสิ่งมีชีวิตที่สำคัญกับโลกนี้หรือเปล่า

แล้วถ้าเราตายไปจะมีใครร้องไห้ให้เราไหม ?


ฝากติดตามผลงานด้วยงับ https://www.facebook.com/MeMyWord/

ยังไม่ได้ดูเลย แถวบ้านไม่เข้า
หนังญี่ปุ่นที่โปรดักไม่ใหญ่รึนอกๆกระแสหน่อย ตจว นี่ต้องรอแผ่นอย่างเดียวจริงๆ


ป.ล.เห็นคนที่ได้ดูบอกว่า ทาเครุ แสดงดีมาก...เข้าขั้นพระเอกเบอร์ต้นๆของญี่ปุ่นไปละตอนนี้

ไม่น้ำตาคลอ มาเตะผมได้เลยเรื่องนี้

ผมให้ 9.9 /10
หักไป 0.1 โทษฐานทำร้องไห้ในโรงหนัง อายคน

เดี๋ยวไปดูต้นเดือนหน้าครับ

น่าจะเข้าหลายๆโรงหน่อย

หันตูดมา

ถ้าให้คะแนนตามเกณฑ์นี้ ให้เท่าไหร่ครับ

10/10 - ดีสุดเรื่องนึงตั้งแต่ดูหนังมา
9/10 - ดีสุดเรื่องนึงของปีนี้
8/10 - เยี่ยม!

ให้ .5 ก็ได้นะครับ

ปกติไม่ค่อยชอบให้คะแนนซะด้วยสิ
แต่ให้ 10 เลยก็ได้ครับ ไม่รู้จะหักอะไรจริงๆ
และถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ดีที่สุดเรื่องนึงตั้งแต่ดูหนังมาก็ได้ครับ มันมีอะไรให้จดจำ ให้ตีความ หรือว่าให้คิดต่อเยอะเลยครับ

นั่นน่ะสิ เข้าโรงน้อยมาก แต่ถ้ากระแสดีๆอาจมีเพิ่มอยู่นะ

ผมนี่หน้าเปียกเลยครับ

งั้น List ไว้เลยครับว่าต้องดู

เป็นหนังดีคุ้มเงินในรอบปีนี้ของผมเลยครับ เป็นตัวอย่างว่าหนังที่บทดีไม่จำเป็นต้องมีความอลังก็สามารถเป็นหนังดีได้ มันขึ้นอยู่กับความสร้างสรรค์และทัศนคติล้วน ๆ ครับ

หนังญี่ปุ่นมันสไตล์นี้อยู่แล้วฮะ

เรียกน้ำตา สะกดอารมณ์ ให้ข้อคิด กับคนดู

รีวิวแบบนี้ บอกเลยไม่พลาดแน่นอน ชอบหนังแนวนี้อยู่แล้วด้วย