ความอยาก "ดูแพง" ทำลายความรวยที่แท้จริงของคุณ
เมื่อคืนเจอหนังสือที่น่าสนใจใน Amazon เลยซื้อแบบ Kindle มาอ่านดู หนังสือนั้นคือ The Millionaire Fastlane หลังจากอ่านไป 60 หน้า (ยังไม่จบ) ผมพบว่าเนื้อหามีประโยชน์และควรนำมาแชร์บางส่วนครับ
ในหนังสือพูดถึงทางสามแบบในชีวิตของทุกคน
- Sidewalk (ทางข้างถนน) เป็นทางที่คนส่วนใหญ่เป็นและนำไปสู่ความจนในบั้นปลาย
- Slow Lane (เลนขับช้า) เป็นทางที่คนกลุ่มหนึ่งมุ่งไปทางรวยที่ไม่ต้องเสี่ยงเลยแต่โอกาสรวยตามเป้าจริง ๆ น้อยมาก และถึงทำได้ก็เป็นตอนที่แก่มากจนไม่สามารถทำอย่างที่อยากทำได้เต็มี่แล้ว
- Fast Lane (เลยขับเร็ว) ทางที่ดีสุดคือรวยในขณะที่อายุยังไม่เยอะ
ทีนี้ผมจะพูดถึงทางแบบแรกเท่านั้นซึ่งมีประโยชน์ต่อหลาย ๆ คนแน่นอน ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือการที่เราเห็นคนรวยใช้ชีวิตในแบบหรูหราแล้วหลายคนก็รู้สึกว่าอยากชดเชยความรู้สึกตรงนั้นด้วยการซื้อของที่ทำให้ "ดูเหมือนรวย" หรือ "ดูแพง" โดยการเอาตัวเองไปผูกกับหนี้ที่เกินตัวเพื่อให้ได้ของเหล่านั้นมา เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อจากการเอาบ้าน / ที่ดินไปจำนอง เป็นต้น
ความสำคัญจริง ๆ คือแนวคิดของคนกลุ่มนี้จะคิดว่ากำลังจับจ่ายที่ตัวเองมีคือ รายได้ + หนี้สินที่สามารถก่อได้ เช่น มีเงินเดือน 20,000 บาทแต่มีวงเงินบัตรเครดิต 80,000 บาทก็ตีความกำลังจับจ่ายของตัวเองคือ 100,000 บาทในระยะสั้น โดยที่คิดว่าการผ่อนจ่ายบัตรเครดิตไม่เสียหายอะไร แต่ด้วยนิสัยทางการเงินผิด ๆ ที่จะต้องหาของดูแพงมาเสริมเข้าตัวเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็จะถึงจุดที่วงเงินบัตรเต็มและต้องจ่ายขั้นต่ำสุดของบัตร โดยแม้แต่ขั้นต่ำสุดของบัตรก็ยังทำให้เงินเดือนแทบไม่เหลือไปทำอย่างอื่น
วงจรอุบาทว์มันจะเป็นประมาณนี้ครับ
งานสร้างรายได้ --> รายได้ถูกใช้ไปในการสร้างภาพให้ดูแพง (เสื้อผ้าแบรนด์ นาฬิกาแพง ๆ รถซักคัน) เพื่อเข้าสังคม --> ด้วยภาพที่ดูแพงนั้นก่อให้เกิดหนั้สินจึงจำเป็นต้องทำงานที่ตัวเองไม่ชอบเพื่อให้รอด --> แล้วก็วนกลับไปข้อแรกอีกครั้ง
ในหนังสือให้นิยามว่าต่อให้คุณเป็นวิศวกรเงินเดือนสูง ๆ เป็นแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลดังรายได้ดีแต่ตราบใดที่ทัศนคติการใช้เงินยังเป็น อำนาจการจ่าย = รายได้ + หนี้สินที่ก่อได้ ตราบนั้นคุณก็ยังเป็นคนกลุ่มนี้อยู่
ในชีวิตจริงผมได้เห็นตัวอย่างเหล่านี้มาเยอะมาก ตั้งแต่แม่บ้านเงินเดือนหมื่นกว่าแต่ต้องถอยไอโฟนออกมาเพื่อให้ดูแพงในสังคม พนักงานเงินเดือนสองหมื่นกว่าที่ต้องซื้อรถที่แพงเกินฐานเงินที่ตัวเองมีเพื่อให้ดูดี (ถอยอีโคคาร์ก็ขับไปทำงานได้แต่ต้องถอยซีวิคแทนเพราะอยากดูแพง) ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกอดงานที่เกลียดเพื่อประคอง ต้องใช้เงินเดือนชนเดือนและแทบไม่มีเงินเหลือเก็บเลย
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจ่ายไหวมั้ยกับของที่คุณอยากได้
คำนวณง่าย ๆ ว่าถ้าของที่คุณอยากได้คุณสามารถซื้อได้ด้วยเงินสดและไม่มีผลกระทบต่อชีวิตปกติของคุณไม่ว่าจะเกิดภาวะใด ๆ ในอนาคต นั่นคือคุณซื้อได้ครับ อย่างถ้าคุณซื้อหมากฝรั่งห่อนึงแล้วอีกอาทิตย์นึงตกงานคุณคงไม่คิดอะไรกับหมากฝรั่งห่อนั้นด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าเพราะหมากฝรั่งห่อนั้นทำให่เงินเก็บหายไปแทบหมดหรือเป็นหนี้ก้อนโต
มันเป็นเรื่องปกติมากที่คุณจะอยากได้รถ เสื้อผ้าแบรนด์ นาฬิกาหรู ๆ หรืออะไรดี ๆ แต่มันจะดีกว่ามากถ้าของที่คุณอยากได้เหล่านั้นมันอยู่ในอำนาจที่คุณจ่ายได้จริงไม่ใช่การเอาวงเงินหนี้มารวมเป็นอำนาจจ่ายตัวเองครับ คนที่ดูเหมือนรวยเพราะขับรถหรูแต่เป็นหนี้ผ่อน 5 ปีกับคนที่ขับรถหรูเพราะจ่ายเงินสดแล้วถอยออกมาได้เลยในเบื้องหน้าคล้ายกันแต่ด้านหลังต่างกันสิ้นเชิงครับ
วิธีการดูว่าคุณเป็นคนในกลุ่มนี้หรือไม่
- มีรายได้ทางเดียวหรือสองทาง
- ทำงานหนัก
- มีเงินเก็บน้อยมากหรือไม่มีเลย
- มีหนี้ที่เกิดจากการซื้อ "ของเล่น" ต่าง ๆ มากมายในบัตรเครดิตและต้องจ่ายทุกเดือน
- ยังมีความคิดว่าวงเงินบัตรเครดิตคืออำนาจจับจ่าย
แล้วคุณล่ะครับเป็นคนกลุ่มนี้หรือไม่ครับ?
เรื่องราวภาคต่อที่เกี่ยวข้อง
ทางเลือกที่อาจเปลี่ยนคุณไปตลอดชีวิต
Slow Lane - ทางรวยแห่งฝันที่มักไปไม่ถึง
แผนธุรกิจที่ดีที่สุด
รางวัลแด่คนช่างฝัน...
บัญญัติ 5 ประการสำหรับการทำธุรกิจ
"ผู้ชายทุกคนอยากได้ภรรยาที่ดีพร้อมแต่น้อยคนที่ทำตัวให้ดีพอที่จะได้จริง ๆ" - นิรนาม
"ความยิ่งใหญ่ของเราไม่ได้เกิดจากการไม่เคยล้มเลยหากแต่เกิดจากการลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้ม" ขงจื๊อ
"อยู่ห่างจากคนคิดลบไว้ เพราะสำหรับเค้าทุกทางแก้ล้วนมีแต่ปัญหา" อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์