เฟลล์ บีสต์
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ คือสัตว์โบราณจำพวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่(ฉบับหนังสือว่าเป็นจำพวกนกยักษ์ไร้ขน) ที่มีปีกเป็นพังผืดยึดกับลำตัว ทำให้สามารถบินไปบนท้องฟ้าได้ เฟลล์ บีสต์ มีลักษณะคล้ายไวเวิร์น คอยาว มีลำตัวสีเทาดำ หางยาว ความกว้างปีกประมาณ 15 เมตรเห็นจะได้ และอาวุธที่สำคัญของพวกมัน คือกรงเล็บที่แหลมคมและใหญ่โต ที่สามารถจะโฉบเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตติดไปกับอุ้งเท้ามันได้จำนวนมาก นอกจากนี้เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของมัน ก็ทำลายโสดประสาทของผู้ที่ได้รับฟังให้เสียสูญได้
เฟลล์ บีสต์ จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
เฟลล์ บีสต์ ปรากฏอยู่ในภาพยนต์ชุด ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โดยเป็นพาหนะของพวกภูตแหวน นาซกูล ที่หลังจากได้สูญเสียพวกม้าดำไป แต่ดูเหมือนว่า เฟลล์ บีสต์ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งการรบ และการลาดตระเวณ เมื่อครั้งที่พวกโฟรโด้ผ่านทางบึงมรณะไปยังมอดอร์ ก็เกือบถูกภูตแหวนจับได้ ครั้งนั้นเราจึงได้เห็นว่า พาหนะตัวใหม่ของพวกนาซกูล คือ เฟลล์ บีสต์ นั่นเอง เฟลล์ บีสต์ ยังมีส่วนสำคัญในการรบช่วงสวงครามแหวนอย่างมาก ทั้งสมรภูมิทุ่ง เพเลนนอร์ ไปจนสงครามที่ประตูดำ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ และล้มตายไปพร้อมกับการล่มสลายของเซารอน
............
บัลร็อก
บัลร็อก คือ อสุรกายผู้มีดวงจิตแห่ง ไมอาร์ เป็นเทพแห่งไฟทั้งมวล แต่เดิม บัลร็อกมีจำนวนมากมาย และถูกจัดเป็นพลรบทีมีส่วนช่วยในสงครามอัญมณียุคที่ 1(สงครามซิลมาริลฯ) อย่างมาก และเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายเทพมาร มอร์ก็อธ บาวเกลียร์ ในสมัยนั้น ก็อธม็อก แม่ทัพ บัลร็อก ก็ยังถือเป็นสมุนฝ่ายขวาของ มอร์ก็อธ อีกด้วย(ในขณะที่ เซารอน เป็นสมุนฝ่ายซ้าย) แต่เมื่อครั้ง อังก์บันด์ พ่ายสงคราม พวก บัลร็อก ก็เสียจำนวนประชากรไปแทบสิ้น เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่รอดมายังยุคที่ 3 ดังเช่นตัวที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนไปเจอเข้าที่ คาซาดดูม ในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
ในช่วงที่คนแคระพยายามฟื้นฟูอณานิคมมอเรีย ได้ขุดลึกลงไปยังก้นเหวแห่งความมืด และที่นั่น ต้นตระกูลดูรินแห่งคนแคระ ก็ได้ปลุกอสุรกายตนนี้ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และเข้าจัดการผู้นำตระกูลดูรินจนสิ้น หลังจากนั้นมา พวกคนแคระไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้าไปยังใจกลางของ คาซาดดูม อีกเลย
บัลร็อก จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
บัลร็อก ไม่มีร่างกายหยาบที่แน่นอน บางครั้งมันจึงปรากฏกายออกมาในลักษณะอสุรกายที่ลุกโชติไปด้วยเปลวไฟ บัลร็อกมีแซ่ไฟที่มีอานุภาพร้ายแรงเป็นอาวุธ และมีพลังที่สามารถจะทำให้ทุกอย่างลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟร้อนแรงได้ ครั้งที่พันธมิตรแห่งแหวนเดินทางผ่านเหมืองมอเรีย บัลร็อกก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา และเข้าต่อสู้กับ กานดาล์ฟ จนทำให้ กานดาล์ฟ เดอะ เกรย์ สิ้นชื่อไปในวันนั้น เพราะนอกจาก กานดาล์ฟ(ที่เป็นไมอาร์ด้วยกันแล้ว) แล้ว ยากที่จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถกำจัดบัลร็อกลงได้
.............
นท์
อายุของ เอนท์ เก่าแก่พอๆ กับอายุของโลก เพราะเอนท์เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิดที่กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ของอาดาร์(โลก) เทพี ยาวันนาร์ ทรงสร้างสรรพสิ่งที่งดงาม และงอกเงยได้ อาทิ ต้นไม้ ดอกไม้ และ พฤกษชาติต่างๆ ดังนั้น เอนท์จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุอานามนานพอที่จะเคยเห็นแสงแห่งทวิพฤกษาได้
เอนท์ อย่าง ทรีเบียร์ด อาศัยอยู่ป่า ฟังกอร์น รูปลักษณ์โดยทั่วไปของเอนท์นั้น คล้ายคลึงกับต้นไม้เป็นอย่างมาก จนยากที่แยกออกได้ว่าในป่านี้มีต้นไม้หรือเอนท์จำนวนเท่าไหร่กันแน่ เพียงแต่เอนท์นั้นสามารถที่จะพูดได้ในทุกๆ ภาษา แต่พวกเขาให้เวลาในการพูดแตละประโยคนานมากๆ จนผู้ฟังอาจจะไม่อดทนรอฟังได้จบ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นเอนท์พูดกันเท่าไหร่นัก
ทรีเบียร์ด จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
ใน เดอะ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ ฮอบบิทน้อยสองคน เมอร์รี่ และ ปิปปิ้น หนีการตามล่าของพวก อุรุก ไฮค์ เข้าไปในป่า ฟังกอร์น ที่นั่นเขาได้พบ ทรีเบียร์ด เอนท์แก่ใจดี ทรีเบียร์ด เล่าให้ฮอบบิทฟังว่า ในสมัยที่นานมาแล้ว(ยุคที่ 1) พวกเอนท์มีอยู่เป็นจำนวนมาก และแตกแขนงออกเป็นหลายสายพันธุ์ แต่กาลเวลาผ่านไปนับหมื่นปี เวลา ทำให้พวกเขาลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย จนในยุคที่ 3 มีเอนท์ เหลืออยู่เพียงสองจำพวกเท่านั้น คือที่ป่าโบราณ( โอลด์ ฟอเรส) และ ป่าฟังกอร์น เท่านั้น
............
วาร์ก
พวก วาร์ก เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายหมาล่าเนื้อขนาดใหญ่ พบได้ทัวไปในมิดเดิลเอิร์ท อุปนิสัยของพวกนี้ดุร้าย และหวงอณาเขต บ่อยครั้งจึงเข้าร่วมกับพวก ก็อบลิน(หรือถูกนำไปเป็นพาหนะ) ในการออกล่า ปล้นสดมถ์ และเผาทำลายหมู่บ้านชาวป่า วาร์กมีขากรรไกรใหญ่ และเขี้ยวแหลมคม แผลที่ถูกจัดจากขากรรไกรนี้จะมีสภาพเป็นแผลฉกรรจ์ เหยื่อจะเสียเลือดจนอ่อนแรง ฝีเท้าของวาร์กนั้นแข็งแรงมาก พวกมันสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง และชำนาญการล่าเหยื่อในพื้นที่ทุ่งโล่ง
วาร์ก ในมิดเดิลเอิร์ทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ คือ วาร์กจากเหนือ หรือวาร์กที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขามิสตี้ พวกนี้รูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ วิ่งเร็ว ดวงตาโตสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด สมรรถภาพเหมาะแก่การใช้ชีวิตแถบเทือกเขาแบบเขามิสตี้ บางพวกหากินเป็นกลุ่ม ออกล่าเหยื่อเป็นอาหารในเวลากลางคืน บางพวกก็เข้าสวามิภักดิ์ กับ ก็อบลินภูเขา เพื่อช่วยกันในการล่าเหยื่อ และ ออกปล้น วาร์กพวกนี้ปรากฏให้เห็นใน ภาพยนต์ ชุด เดอะ ฮอบบิท
วาร์ก จาก เดอะ ฮอบบิท
ส่วนอีกพวก คือ วาร์ก ทางใต้ ที่หากินอยู่แถบทุ่งหญ้าราบโล่งในแถบดันแลนด์ ชายแดนโรฮาน และ ไอเซนการ์ด พวกนี้มีขนสีน้ำตาลอ่อน มีลายแซมเป็นจุด และ ดวงตาเล็ก น่าตาคล้ายไฮยีน่า มีส่วนสำคัญในการรบของทัพไอเซนการ์ด ในช่วงสงครามแหวน ซารูมานก็มีคำสั่งในก็อบลิน นำทหารขี่วาร์กพวกนี้ออกไปซุ่มโจมตีชาว โรฮาน ที่กำลังอพยพไปยังปราการ เฮล์ม ดีฟ อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น วาร์กชนิดนี้ปรากฏตัวในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
ไอเซนการ์ด วาร์ก
...............
เกรท บีสต์
สัตว์จำพวกนี้หากินอยู่ทุ่งราบโล่ง แถบทะเลสาบ รูนห์ ฟากตะวันออกของเทือกเขา มอดอร์ ทางใต้ของดินแดน โรวห์วานิออน เกรท บีสต์ มีเขาใหญ่งอกมากลางกระโหลกศีรษะคล้ายนอแรด ลำตัวอ้วนสั้น น้ำหนักมหาศาล ขนาดลำตัวยาวประมาณ 6 เมตร อาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม และกินพืชหญ้าเป็นอาหาร เติมเป็นสัตว์รักสงบ แต่ในช่วงสงครามแหวน ถูกพวกมอดอร์ไล่ต้อนมาเป็นสัตว์พาหนะ ใช้แรงงานให้แบกสัมภาระ ตลอดจนยุทธโธปกรณ์ในการรบต่างๆ ให้กับมอดอร์ เกรท บีสต์ นับเป็นสัตว์หายาก และเสี่ยงต่อภาวะใกล้สูญพันธุ์ แต่หลังจากมอดอร์พ่ายสงครามแล้ว ยังพอมีชาวกอนดอร์พบเห็นพวกมันกลับมาแพร่พันธุ์ และหากินอยู่แถบทุ่งหญ้าอยู่บ้าง
มูมักคิล
มูมักคิล เป็นชื่อเรียกในภาษามนุษย์ชาว กอนดอร์ ในขณะที่พวก ฮอบบิท เรียกว่า โอลิฟอนท์ มีลักษณะคล้ายช้างแอฟริกา แต่มีขนาดยักษ์ ร่างกายสูงใหญ่ ความสูงราวๆ ตึก 8 ชั้น ขายาวใหญ่ แข็งแรง ลักษณะเด่นที่แปลกประหลาดของ มูมักคิล คือมันมีกะโหลกศีรษะที่เรียวยาวกว่าช้างปกติทั่วไป ใบหูเล็ก และมีงาใหญ่ 6 งา (งอกเหนือมุมปากบนช่วงจมูก 2 งา ใต้คางอีก 2 งา และสีข้างแก้ม อีก 2 งาเล็กๆ) มูมักคิลมีน้ำหนักตัวมหาศาล สามารถเหยียบมนุษย์ให้แบนจมดินได้
ถิ่นฐานของ มูมักคิล คือทุ่งหญ้าห่างไกลออกไป ทางใต้สุดของแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ท เรียกว่า ฮารัด ไล่เรี่ยไปจนถึงรอบๆ ทะเลสาป อัลมาเรน มูมักคิล เป็นสัตว์ป่าทีรักความสงบ กินพื่ชหญ้าเป็นอาหาร หากินเป็นฝูง และมีหัวหน้าเป็นจ่าฝูง ในช่วงสงครามแหวน เซารอน มีคำสั่งให้พวกมนุษย์ชาวป่า ฮาราดริม เข้าร่วมกับทัพ มอดอร์ พวก ฮาราดริม จึงไล่ต้อนเอาฝูง มูมักคิล มาเป็นพาหนะในการรบ และในศึกทุ่ง เพเลนนอร์ ปิดล้อม มินัส ทิริธ พวกฮาราดริม ก็ขี่บนหลังตัวมูมักคิลมาออกรบด้วย โดยสร้างกระโจมไม้ขึ้นไปบนหลังของมัน และบรรจุพลรบได้ราว 50 คน
มักคิล จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์
แมงมุมยักษ์ จากภาพยนต์ The hobbit
แมงมุมยักษ์ (เกรท สไปเดอร์)
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามถิ่นที่อยู่ และรูปลักษณ์ จริงๆ แล้วพวกแมงมุมมีถิ่นกำเนิดที่มาจากสถานที่อันไกลโพ้น ต้นกำเนิดพวกมันมาจากตำนานแห่งการสร้างอาดาร์(โลก) เลยก็ว่าได้ กล่าวคือ อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษของพวกนี้ เคยคิดที่จะกลืนกินอัญมณีซิลมาริลฯ อันเป็นบ่อเกิดแห่งแสงสว่างทั้งมวลก่อนที่จะมีดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ ปรากฏขึ้นบนโลก
ปัจจุบันในยุคที่ 3 ลูกหลานแมงมุมยักษ์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่าอันมืดมิดไร้แสงตะวันของ เมิร์กวู๊ด ในแผ่นดิน โรวห์วานิออน และพวกมันสร้างรังอยู่ที่นั้น ก่อนหน้านี้ที่ความมืดยังไม่มาสิงสู่อยู่ที่ โดลกุลดูร์ ป่าแห่งนี้ชื่อว่า กรีนวู๊ด และเป็นที่ที่จะสรรหาความสงบ ร่มเย็น และธรรมชาติอันเขียวชอุ่มได้ไม่กี่ที่บนมิดเดิลเอิร์ท แต่ตั้งแต่จอมมารหวนกลับมา โดยเริ่มจากทิศตะวันออก ทุกอย่างที่เคยเขียวก็กลับแห้งแล้ง มืดทึบ และเย็นยะเยือก จำนวนของแมงมุมยักษ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณด้วย แมงมุมประเภทแรกที่อาศัยอยู่ในเมิร์กวู๊ด คือพวกที่มีขายาว ที่ขามีลายสลับ ร่างเบา และปราดเปรียว พวกนี้มีขนาดความกว้างของลำตัวไม่เกิน 2 เมตร แต่ที่น่าปวดหัวคือมันมีจำนวนเยอะมาก และเป็นปัญหาที่เอล์ฟป่าชาวซิลวันต้องจักการบ่อยๆ ถึงยังไงจำนวนมันก็ไม่ลดลงซักที แมงมุมพวกนี้ปรากฏในภาพยนต์ชุด The Hobbit
ชีล็อบ จากภาพยนต์ The Lord of the rings
ชีล็อบ
ชีล็อบ คือมารดาของเหล่าบรรดาแมงมุมที่กระจัดกระจายอยู่ในป่าเมิร์กวู๊ด ฉายาว่านางพญาแมงมุมแห่งคิริธอุงโกล ในขณะที่ลูกหลานของนางอาศัยอยู่ในป่าไม้อันมืดทึบ แต่นางกลับยึดเอาช่องเขา คิริธอุงโกล เป็นรัง ชีล็อบจะทำกับดัก จับเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ผ่านช่องเขามา โดยปกติแล้วนางจะได้กินแต่บรรดาพวก ออร์ค ที่ชะตาขาดพลัดเข้ามา แต่นานๆ ทีก็จะมีเนื้ออร่อยของนกที่แล่นมาทำรังบ้าง วิธีการสร้างกับดักของนางคือนางจะขึงใยเส้นบางๆ แต่เหนียวมากเอาไว้ รอสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นเข้ามาติดกับ ใยที่ขึงก็จะสั่นสะเทือน และจากใจกลางของรังที่ลึกเข้าไปในถ้ำ นางก็จะรับรู้ได้ ชีล็อบสืบเชื้อสายโดยตรงมาจาก อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษ แต่ความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ของนางก็ไม่ได้ย่อหย่อนลงไป พวกออร์คเอง หากไม่จำเป็นก็จะไม่เดินทางผ่านช่องเขาคิริธอุงโกล เป็นอันขาด
ลักษณะเด่น ที่ ชีล็อบ ต่างจากพวกที่อยู่ใน เมิร์กวู๊ด คือนางมีลำตัวที่ใหญ่กว่า 2 - 3 เท่า(ประมาณ 6 เมตร) ตัวอวบอ้วน ลักษณะคล้ายจำพวกแมงมุมดิน ขาสั้นแต่ใหญ่ และมีพิษร้ายที่เหล็กในปลายก้น
ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โฟรโด้ หลงกลเชื่อคำพูดของ กอลลั่ม จนพลัดจาก แซม หลงเข้าไปในรังชีล็อบ ที่นั้นเขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของแซม ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เรารู้ว่า ชีล็อบเกลียดและกลัวแสงสว่าง และดาบของเอล์ฟ
.............
วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย
เจ้าตัวนี้คือสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์ ที่เซารอนจับมาเลี้ยงไว้ในบึงน้ำหน้าประตูทางเขาเหมืองมอเรีย เพื่อเป็นเสมือนยามเฝ้าระวัง ไม่ให้สิ่งมีชีวิตใดๆ เล็ดรอดเข้ามา หรือ ออกไปได้ ฉายา วอชเชอร์ คือผู้เฝ้าระวัง ดังนั้นสิ่งมีชิวิตที่หลงเข้ามาในถิ่นของมัน ก็จะถูกหนวดยาวๆ ของมันจับไว้ แล้วกินจนหมดสิ้น การรับรู้ความสั่นไหวของสิ่งมีชีวิตจาก วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย นั้นเสถียรมาก คือมันรับรู้การเคลื่อนไหวจากสิ่งต่างๆ ผ่านทางการสั่นกระเพื่อมของน้ำ ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ เมอรี่แอนดอค แบรนดิงบั๊กส์ ฮอบบิทน้อยขว้างก้อนหินลงน้ำ ในขณะที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนหลงหาทางเข้าอยู่หน้าประตูเหมือง มอเรีย อารากอน ได้มาปรามเขาไว้ เพราะรับรู้มาว่าใต้หนองน้ำนี้มีสิ่งอันตรายแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าที่แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไร จนกระทั่งมันปรากฏตัวออกมา
วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย หน้าประตู "ทวารแห่งดูริน"
ยักษ์ศิลา
ยักษ์ศิลา ปรากฏตัวออกมาท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ และสภาวะอากาศที่ปรวนแปรของเทือกเขามิสตี้ พวกมันขว้างหินก้อนใหญ่ใส่กันอย่างสนุกสนาน นับเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูยาก แต่ถ้าเราเป็นหนึ่งในคณะเดินทางของบิลโบ้ เราเองก็คงไม่อยากเจอเหตการณ์ไม่คาดฝันอย่างนั้น นี่คือฉากที่ปรากฏในภาพยนต์ the Hobbit ยักษ์ศิลา จัดเป็นดวงจิตธรรมชาติของหินผา(สโตนท์) จำพวกหนึ่ง เป็นไมอาร์แห่งธรรมชาติ ในภาพยนต์ดีไซน์ออกมาให้คล้ายๆ โกเลม ของตำนาน นอร์ส แต่แท้จริงแล้ว ในฮอบบิท ฉบับหนังสือ เจ้าตัวที่โยนหินใส่กันนี้มีรูปลักษณ์ออกไปทาง โทรล์ภูเขาเสียมากกว่า
ปีเตอร์ แจ๊คสัน ผู้กำกับภาพยนต์ชุดนี้ เคยให้สัมภาษน์ไว้ว่า " ยักษ์ศิลา ที่ขว้างหินใส่กัน เราเสริมไว้ในบทของ แบทเทิล ออฟ ธันเดอร์ "สงครามอสุนีบาท" จัดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นบนมิดเดิลเอิร์ท แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อมิดเดิลเอิร์ท คำทำนายเคยว่าไว้ว่า ทุกๆ 300 ปี ยักษ์ศิลาจะตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วเขวี้ยงหินใส่กันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ..."
ยักษ์ศิลา จากภาพยนต์ เดอะ ฮอบบิท
กวาง ของกษัตริย์ ธรันดูอิล
กษัตริย์พราย ธรัลดูอิล แห่ง วู๊ดแลนด์ ทรงประทับบนหลังกวางขนาดใหญ่ ที่มีเขาแผ่กว้างออกมาคล้ายกิ่งไม้ เราพบเห็นกวางชนิดนี้ครั้งแรก ในภาพยนต์ The Hobbit I แต่ในฉบับนิยายมีเรื่องเล่าว่า คณะของธอรินได้เดินทางผ่านป่าเมิร์กวู๊ด ระหว่างทางที่สะพานในถนนสายป่าขาดไปโดยมีแม่น้ำกว้างขวางทางอยู่ คิลีหนึ่งในคณะครแคระได้แลเห็นกวางสีขาวตัวใหญ่ ยืนทอดตัวอยู่บนถนนอีกฝั่ง กวางตัวนั้นมีลำแสงเรืองออกจากตัว และมีเขาแผ่กว้าง ดังนั้นเราจึงสันนิษฐานได้ว่า ธรันดูอิล ทรงเป็นเอล์ฟจ้าวที่มีกวางเป็นพาหนะ และกวางชนิดนี้มีที่วู๊ดแลนด์ที่เดียวในมิดเดิลเอิร์ท ดูเหมือนว่าจะคล้ายคลึงกับกวางดึกดำบรรพ์ชื่อ เมกาโลเซรอส ของยุคน้ำแข็งจนน่าจะเป็นพันธุ์เดียวกัน
กระต่ายป่า ของ ราดากัสต์
ราดากัสต์ พ่อมดสีน้ำตาล เป็นหนึ่ง ไมอาร์(เทวดา) ที่อวตารเป็น อิสตาริ(พ่อมด) ทั้ง 5* ของมิดเดิลเอิร์ท แต่ดูเหมือนว่าด้วยนิสัยขี้เล่น และเปิ่นๆ ของเขา ทำให้ไม่เป็นที่นับหน้าถือตาในหมู่ผู้วิเศษด้วยกันเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไร "เขาก็มีความยิ่งใหญ่ในแบบของเขา" นี่คือคำพูดของ กานดาล์ฟ ที่เอ่ยถึงราดากัสต์ ให้ บิลโบ้ ฟัง ในเรื่อง The Hobbit
ราดากัสต์ สามารถสื่อสารกับบรรดาสรรพสัตว์ได้ทุกชนิด นั่นคือความพิเศษของเขา และเขามีกระต่ายป่าตัวใหญ่เป็นเสมือนพาหนะในการลากเลื่อน ทำให้สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยความเร็วสูง กระต่ายนั้นไม่ธรรมดา! เพราะเป็นกระต่าย รอสโกเบล ที่มีขนาดเท่าสุนัขตัวย่อมๆ และวิ่งเร็วประดุจสายป่าน ราดากัสต์เลี้ยงกระต่ายป่าเป็นเพื่อน พวกมันมีสีน้ำตาล และมีนิสัยน่ารัก ที่มาของชื่อรอสโกเบลทีราดากัสต์ตั้งให้ คือสถานที่ ซึ่งเป็นบ้านของเขาเอง
รอสโกเบล บ้านต้นไม้ของ ราดากัสต์
* 5 พ่อมด แห่ง มิดเดิลเอิร์ท ได้แก่ ซารูมาน พ่อมดขาว , กานดาล์ฟ พ่อมดเทา , ราดากัสต์ พ่อมดน้ำตาล และ พ่อมดน้ำเงินสองคน อลาทาร์ และ พันลันโด
เครไบรน์ แห่ง ดันแลนด์
แต่เดิมมันคือสัตว์จำพวกอีกาที่อยู่ในอาณัตของ ราดากัสต์ แต่ครั้งหนึ่งช่วงสงครามแหวน ซารูมาน หยิบยืมราดากัสต์ไป เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่า ซารูมานเอาพวกมันไปเป็นสายสืบ คอยสอดแนมพันธมิตรแห่งแหวน เครไบรน์ คืออีกาสีดำขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในดินแดนป่าเปิดโล่งที่เรียกว่า ดันแลนด์ ทางตะวันตกของ ไอเซนการ์ด ไปจนถึงป่าโบราณ ฟังกอร์น นกพวกนี้ฉลาด สายตาดี รอบรู้ และเข้าใจทุกๆ ภาษา ใน ลอดส์ ออฟ เดอะริงส์ คณะพันธมิตรแห่งแหวนถูกพวกมันพบเข้าขณะเดินทางผ่าน เอเรกิออน ได้ไม่ไกล จึงรายงานไปยังซารูมานเข้า
ออร์น
บีออร์น คือ มนุษย์ ที่สามารถกลายร่างเป็น สัตว์ ได้(เชล์ฟ์ ชิฟเตอร์) เขาเป็นเผ่าโบราณเก่าแก่ที่มีมานานในมิดเดิลเอิร์ท แต่มาถึงยุคที่สามก็เหลือไม่มากแล้ว เพราะพวก ออร์ค คร่าชีวิตพวกเขาดุจเกมส์กีฬา จนมาในเรื่อง The Hobbit คณะธอรินมาพบเข้าก็เป็นคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์แล้ว เวลาปกติเขาก็ดูเป็นผู้ชายร่างยักษ์ หนวดเครารุงรัง มักจะพกขวานขนาดใหญ่ไปไหนมาไหนด้วยตลอด แต่พอลองโกรธเข้าจนเลือดขึ้นหน้า เขาสามารถที่จะกลายร่างเป็นหมีตัวใหญ่ได้ และเมื่อเวลานั้นเขายิ่งน่ากลัว เพราะไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลยนอกจากสัญชาติญาณสัตว์ แต่บิออร์นเองก็เป็นคนที่อ่อนโยน รักสัตว์ รักธรรมชาติ ในบ้านชายป่าเมิร์กวู๊ดของเขาเต็มไปด้วยบรรดาสรรพสัตว์ สวนดอกไม้ และรังผึ้ง เพราะเขาชอบกินน้ำผึ้งมากๆ นั่นเอง นอกจากนี้บิออร์นยังเป็นผู้สร้างแก่งหิน คาร็อก อีกด้วย เมื่อยามที่เขาเหงา หรือ ว้าเหว่ เขาก็จะมานั่งเหม่อลอยไปยังคาร็อก และหวนคิดถึงเผ่าพันธุ์เพื่อนพ้องที่เคยรุ่งโรจน์ของเขาในอดีต
ม้า (มิดเดิลเอิร์ท)
ม้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถหาพบได้ทั่วไปในมิดเดิลเอิร์ท พอๆ กับโลกแห่งความเป็นจริงของเรา ม้าในมิดเดิลเอิร์ทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ม้าวิเศษ เป็นม้าที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เช่น แชโดว์ แฟ็กซ์ , ม้าศึก ที่ใช้ในการบของเหล่าอัศวิน เช่น สโนว์ เมน ของ เธโอเดน และ ม้าโพนี่ ซึ่งเป็นม้าแคระ ถึงแม้จะเหมือนสัตว์ธรรมดาทั่วไป แต่ยอดอาชาไนยของมิดเดิลเอิร์ทนั้นก็มีชื่อเสียง และมีความพิเศษเฉพาะตัว ดังเช่นม้าที่เป็นพาหนะในกษัตริย์สมัยโบราณของมิดเดิลเอิร์ท ปลายยุคที่ 3 มีม้าที่โด่งดังอยู่บ้าง อาทิ
ม้าวิเศษ : แชโดว์ แฟ็กซ์
เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ ทั้งผิวกาย และแผงคอ สืบเชื้อสายมาจากยอดอัสดรในปฐมยุคแห่งเทพโอเรเม สามารถควบวิ่งได้รวดเร็วดุจลมหอบ ฝีเท้าเบาจนวิ่งบนผิวน้ำได้ นับเป็นม้าคู่ใจที่พ่อมดเทา กานดาล์ฟ ใช้เป็นพาหนะในการทำภารกิจต่างๆ ในมิดเดิลเอิร์ทมานับไม่ถ้วนแล้ว
ม้าศึก : สโนว์ เมน
ยอดอาชาพาหนะของกษัตริย์ เธโอเดน กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว แต่ทว่าด้วยอุบัติเหตุทำให้เป็นยมทูตแห่งนายตนเอง
ม้าโพนี่
ส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การรบ จึงใช้ในการเดินทาง แบกสัมภาระ หรือเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง
ม้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ปรากฏในเรื่อง
อัลฟารอธ
พาหนะที่สวยงาม รวดเร็ว ที่ กลอฟินเดล(ในฉบับภาพยนต์ เป็น อาร์เวน) ใช้ควบบึ่งพา โฟรโด้ ข้าม ฟอร์ด บรุยเนน หนีพวกภูตแหวน
เอลรอธ
ม้าคู่ใจของ เลโกลัส ที่ได้รับมอบมากจาก เอโอแมร์ โรวเฮียริม
ม้าภูต
เป็นม้าสีดำสนิท ที่มีนิสัยดุร้าย และมีความเป็นภูตสิงสู่ เรียกว่าสภาวะสมิงพราย เป็นพาหนะของพวก นาซกูล
นอกจากนี้ยังมีม้าอื่นๆ อีก ที่ไม่ได้เอ่ยถึงเป็นการเจาะจง เช่น บิล ของ แซม เป็นม้าโพนี่(ม้าแคระ) ที่ไว้ใช้แบกสัมภาระของฮอบบิท , บรีโก้ ม้าคู่ใจกษัตริย์อารากอน , เฟลารอว์ฟ แห่ง โรฮัน ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
หนังสือ - The lord of the rings : the fellowship of the ring
The lord of the ring : the two towers
The lord of the ring : the return of the king
The Hobbit
คลังข้อมูล จาก Wikipedia , Onering , tengwar ฯลฯ
จบแล้วครับ สำหรับบรรดาสรรพชีวิต ใน มิดเดิลเอิร์ท ใครมีข้อมูลอะไร ติติง แก้ไข เพิ่มเติม ก็ร่วมกันโพสต์ ร่วมกันแชร์ นะครับ ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม และ อ่าน กระทู้นะครับ
เครดิต
http://pantip.com/topic/31839624
รูปไม่ขึ้นเข้าไปดูเองในเล่นในมือถือแก้ลำบาก