BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:30
รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit


ออร์ค


เริ่มกันที่ ออร์ค หากพูดถึง ออร์ค แล้ว หลายๆ คนคงจะนึกถึงตัวประหลาดน่าตาน่าเกลียดน่ากลัว รูปร่างกำยำล่ำสัน นิสัยป่าเถื่อนโหดร้าย เป็นสมุนผู้รับใช้จอมมาร นาม ดาร์ก ลอดส์ เซารอน เจ อาร๋ อาร์ โทลเคียน ผู้ประพันธ์ ท่านหยิบยืมอมนุษย์พวกนี้มาจากตำนานยุโรปเหนือ นอร์ส สแกนดิเนเวีย ตลอดจนนิทานปรัมปราต่างๆ ในเฉพาะ มิดเดิลเอิร์ท ออร์ค แบ่งแยกออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์ แต่มันเริ่มจริงๆ ก็เมื่อยุคที่ 1 เมื่อสมัยหลายหมื่นปีก่อนหน้านี้ ในยุคสงครามอัญมณี (ปรากฏในเรื่อง The Silmarilion) คราวนั้นเทพอสูรนาม มอร์ก็อธ บาวเกียร์ จับตัวพวกเอล์ฟไปทรมานด้วยวิธีต่างๆ นา ด้วยความที่เป็นปรปักษ์กับองค์ เอรู อิลูวาทาร์ เทพบิดร จนพวกเขาสุดทนจะรับได้ จิตใจของเอล์ฟถูกความทารุณ และ ด้านมืดครอบงำ จนทมิฬ มอร์ก็อธ ดัดแปลงพันธุกรรม เอล์ฟ จนเกิดเป็น ออร์ค สิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณ์ และ วิสัย ต่างกันสุดขั้ว ด้วยความที่พวกมันชั่วร้าย ป่าเถื่อน และทรหด จึงถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล ไว้ใช้สำหรับเป็นกองรบในสงครามต่างๆ เรื่อยมาจนจวบยุคที่ 3



มอดอร์ ดินแดนภูมรณะ อันเป็นที่อยู่ของจอมมาร เซารอน และ กองทัพ ออร์ค นับแสนๆ



พวก ออร์ค ในยุคที่สาม



ออร์คมืด พวกนี้ส่วนใหญ่ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นสำหรับการรบ จนมีทักษะด้านการฆ่าติดตัว นิสัยชั่วร้าย นิยมชมชอบในเรื่องการทรมาน เป็นกำลังทหารทางด้านฝ่ายมืด ของ เซารอน เรียกอีกอย่างว่า ออร์ค แห่ง มอดอร์ ออร์คพวกนี้เกลียดและกลัวแสงแดด จึงไม่นิยมที่จะออกล่า หรือ เดินทัพ ในเวลากลางวันแสกๆ

ถิ่นที่อยู่ : มิดเดิลเอิร์ท , เอเรียดอร์ , มอดอร์

เผ่าพันธุ์ : ออร์ค , อมนุษย์ , ผีร้าย

รูปลักษณ์ : กำยำ ลำสัน ตัวดำทมิฬ ผิวหยาบ น่าตาน่าเกลียดน่ากลัว สวมชุดเกราะที่ดัดแปลงมาจากเหล็กกล้า และ ถืออาวุธใหญ่โต เสียงร้องคำรามน่ากลัว

อุปนิสัย : โหดร้าย ป่าเถื่อน ชื่นชอบในการฆ่าฟัน ทำสงคราม และ เสียงกรีดร้อง






ในช่วงสงครามแหวน พ่อมดขาว ซารูมาน ทรยศต่อเหล่าพันธมิตรในมิดเดิลเอิร์ท ด้วยความต้งการที่จะสวามิภักติ์ต่อ เซารอน มอดอร์จึงจัดตั้งกองทัพออร์คให้ไปเป็นสมุนรับใช้ของซารูมานที่ไอเซนการ์ด และแบ่งกองรบส่วนหนึ่งไปซุ่มสังเกตการณ์อยู่ในเหมืองมอเรีย ดินแดนป่าอันสงบ และอุดม ของดันแลนด์ ตลอดจนชายแดน โรฮัน จึงลุกเป็นไฟ พวกออร์คแผ้วถางมันจนราบ และไอเซนการ์ดเอง ก็จัดตั้งนิคมของออร์คให้แก่มอดอร์ โดยการขุดโพรงลึกเข้าไปใต้รากฐาน ของรอบๆ หอคอย ออธังค์

...............

ต่อมาเป็น ออร์ค จำพวกที่มีถิ่นฐานอยู่ทางเหนือขึ้นมา ไล่เลี่ยตั้งแต่ เอเรียดอร์ โรวห์วานิออน จนสุดเทือกเขา มิสตี้ ทางเหนือ พวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์เก่าแก่ที่สืบเชื้อสายกลายๆ มาจากออร์คพลัดถิ่นแห่ง อังก์บัน ในยุคที่สามพวกมันสร้างถิ่นฐานอยู่ช่วงแผ่นดินเหนือ กุนดาบัด เรียกว่า กุนดาบัด ออร์ค



กุนดาบัด ออร์ค ตลอดจน ออร์ค เผ่าอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ทางเหนือ มักชอบก่อสงครามเรื่อยๆ กับอิสระชนถิ่นเหนือ ตั้งแต่สงครามแบบกองโจร ปล้นฆ่า จนไปถึงรบทัพจับศึก แผ่นดินเหนือจึงลุกเป็นไฟบ่อยครั้ง ตั้งแต่ อาร์นอร์(กอนดอร์เหนือ) รบกับพวกมนุษย์ มาจนถึงหมู่บ้านชาวเขาแถบมิสตี้ เมาเทนน์ และศึกกับวงศ์วาน ดูริน แห่งคนแคระ ที่ได้สังหารผู้นำแห่งตระกูลพวกเขาไปหลายคน เช่น ธรอร์ ที่ถูกสังหารโดย อาซ็อก แม่ทัพ กุนดาบัด ในสงคราม อะซานูบิลซาร์


อาซ็อก แม่ทัพ ออร์ค แห่งภู กุนดาบัด ปรากฏในเรื่อง The Hobbit



บอล์ก ลูกชายของ อาซ็อก




ฟิมบูล เดอะ ฮันเตอร์ นักล่าค่าหัว จาก กุนดาบัด


ปลายยุคที่ 3 พวก ออร์ค จากกุนดาบัด ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรภายใต้การนำของ มอดอร์ ในการรบและทำสงครามใหญ่กับพวกมนุษย์ ทำให้ ออร์ค จากถิ่นเหนือรวมตัวกันครั้งใหญ่ และช่วงสงครามแหวน จึงเกิดสงครามใหญ่ทางเหนือ และ ตะวันออก ภายใต้การนำทัพของ เมาท์ ออฟ ซาวรอน บุก เอสการ็อธ , เดล และ เอเรบอร์

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของ ออร์ค ที่อยู่ทางเหนือ ที่อยู่ภ่ยใต้การนำทัพของราชาภูต วิชคิงส์ แห่ง อังก์มา พวกนี้มักชอบเปิดสงครามกับพวกดูเนไดน์ ทายาทเผ่ามนุษย์ที่อยู่ทางอณาจักร อาร์นอร์ ซึ่งผมจะกล่าวถึงเมือมีโอกาศในครั้งต่อไป

...........




ต่อมาเป็นพวก ออร์ค ที่กลายพันธุ์ หรือมีการดัดแปลงพันธุกรรม ให้มีประสิทธิภาพในการรบมากขึ้น พวกนี้คือ อุรุก ไฮค์ ที่ไม่กลัวแสงแดด สามารถเดินทางกลางแสงอาทิตย์ร้อนแรงได้ และมีรูปร่างใหญ่โต ล่ำสันกว่าพวก ออร์คทั่วไปถีงเท่าตัว และดูเหมือนว่าจะป่าเถื่อน และโหดร้ายกว่าสายพันธุ์ต้นแบบมันเป็นอันมาก

ประวัติความเป็นมาของ อุรุก ไฮค์ : ช่วงสงครามแหวน เผ่าพันธุ์ อุรุก ไฮค์ ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นในโพรงลึกใต้แผ่นดิน ไอเซนการ์ด โดยแนวคิดของพ่อมดขาว ซารูมาน ที่คิดว่าพวก ออร์ค และ ก็อบลิน มีความสามารถในการรบก็จริง แต่อ่อนข้อให้กับสถาวะธรรมชาติ คือ แพ้แสงแดด ทำให้เป็นอุปสรรคในการรบ ซารูมาน จึงคิดค้นวิธีที่จะทำให้กองทัพผีร้ายพวกนี้ทนต่อแดด แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาจึงแปรเปลียนเป็นวิธีการที่จันำเอาสายพันธุที่แข็งแกร่ง โหดร้ายมาเป็นทัพของตน จึงได้เอาเชื้อของ ออร์ค และ ก็อบลิน มาผสมกัน จนเกิดกลายเป็นลูกผสม อุรุก ไฮค์ ขึ้นมา



การเพาะพันธุ์ อุรุก ไฮค์


เผ่าพันธุ์ : อุรุก ไฮค์ , อมนุษย์

ถิ่นอาศัย : ไอเซนการ์ด

รูปลักษณ์ : ตัวใหญ่ กว่า ออร์ค และ ก็อบลิน (ประมาณ 2 เมตรกว่า) ผมยาวหยิก ผิวกายสีแดงดำ นิยมสวมชุดเกราะเหล็ก และหมวกเกราะที่มีสัญลักษณ์ของ ซารูมาน คือ ฝ่ามือสีขาว ชำนาญอาวุธประเภท ดาบใหญ่ และ ธนู

อุปนิสัย : ชื่นชอบการฆ่าฟัน รบเก่ง ทนทาน ซื่อสัตย์ รับคำสั่งเจ้านายแต่เพียงผู้เดียว

อรุก ไฮค์ ใน The Lord of The rings



ลูช ผู้สังหาร โบโรเมีย หนึ่งในคณะพันธมิตรแห่งแหวน


ช่วงสงครามแหวน เกิดศึกขึ้นที่ เฮล์มดีฟ ปราการผาโบราณ โดยพวก อุรุก ไฮค์ ของ ซารูมาน ถูกจัดตั้งกองทัพพลนับหมื่น เพื่อไปทำลายปราการหินแห่งโรฮาน เกิดเป็นศึกใหญ่ เรียกว่า ศึก เฮล์มดีฟ ขึ้น กำแพงหินที่แข็งแกร่งและไม่เคยมีใครทำลายลงได้ของเฮล์มดีฟ ถูกพวก อุรุก ทำลายได้ ด้วยดินระเบิด


เบอร์เซิร์ก อุรุก ไฮค์ ผู้ทำลายปราการหิน


...........''..



ก็อบลิน : Goblins


พวกนี้เป็นอมนุษย์จำพวกหนึ่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญเป็นพลรบฝ่ายมืดเช่นเดียวกับ ออร์ค แต่ทางด้านความฉลาด และ ว่องไว แล้ว ดูเหมือนก็อบลินจะได้เปรียบกว่า เจ้าพวกนี้มีขนาดเล็กกว่าออร์ค ลำตัวประมาณเด็กเล็กๆ เห็นจะได้ แต่ว่องไว ปราดเปรียว และชำนาญอาวุธประเภทธนู ก็อบลินใน มิดเดิลเอิร์ท อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปทางเทือกเขามิสตี้ ในอุโมงค์ โพรงหิน และที่ต่างๆ จนเป็นประชากรทีมีมาก ชาวบ้านชาวป่าทั่วไปจะไม่นิยมเดินทางผ่านเทือกเขามิสตี้หลังตะวันตกดิน เพราะช่วงเวลานี้ก็อบลินจะออกหากิน และทยอยปรากฏตัวกันออกมาจำนวนมาก

เผ่าพันธุ์ : ก็อบลิน , อมนุษย์ , ผีร้าย

ถิ่นอาศัย : ใต้รากฐานของเทือกเขามิสตี้ตลอดแนวยาว ในโพรง ถ้ำ เรื่อยมาจนสุดเหมืองมอเรีย

รูปลักษณ์ : ตัวเล็ก ว่องไว เสียงกรีดร้องแหลมเล็ก ลำตัวสีแดงน้ำตาล แต่พวกที่อยู่ในมอเรียจะมีผิวสีเขียว บางพวกสวมเกราะเหล็กเป็นก็อบลินที่นิยมการรบ

อุปนิสัย : แสบ ดุร้าย ชอบก่อกวนชาวบ้าน ทำลายเส้นทาง วางกับดัก และจับม้าของชาวป่ากินเป็นประจำ

ในช่วงของสงครามแหวน ก็อบลินจากเทือกเขามิสตี้ทางใต้ ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมในสงคราม โดยเซารอน ส่งพวกมันไปสอดแนมใต้เทือกเขามิสตี้ และแอบซุ่มในมอเรีย ตลอดจนคาซัดดูม เพื่อสังเกตุการณ์ถึงความเป็นไปต่างๆ



ก็อบลิน ใน เดอะ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์


ก็อบลิน ใน เดอะ ฮอบบิท




ก็อบลิน ในอุโมงค์เทือกเขามิสตี้


เมื่อครั้งที่ บิลโบ้ แบ็คกินส์ เดินทางไปเพื่อทำภารกิจเอเรบอร์ ทั้งคณะได้ถูกจับโดบพวกก็อบลินภูเขาที่อยู่ทางเหนือของเทือกเขามิสตี้ เพื่อไปเป็นเหยื่อและเครื่องบรรณาการให้แก่ ก็อบลิน คิงส์(ราชาก็อบลิน) ในครั้งนั้นเผยให้เราเห็นว่า พวกก็อบลินนั้นทำรังอยู่ฬนโพรงลึกใต้ภูเขา และมีนิคมที่ใหญ่โต พวกมันมักจับเฉลยต่างๆ มาได้ ริบข้าวของ และกินเนื้อเหยื่อพวกนั้น ในบรรดาก็อบลินนั้นมี คิงส์ ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้า และคอยบรรชาการเรื่องเลวร้ายต่างๆ



ก็อบลิน คิงส์

ความสูง 3 เมตร

ถิ่นอาศัย : อุโมงค์ก็อบลิน เทือกเขามิสตี้

รูปลักษณ์ : ลำตัวอ้วนใหญ่ ผิวหนังขรุขระ สวมมงกุฏและถือไม้เท้าที่ดัดแปลงจากเศษกระดูก

อุปนิสัย : เจ้ากี้เจ้าการ อันตราย และขี้โม้โอ้อวด ชอบร้องรำทำเพลงด้วยเครื่องดนตรีที่มีทำนองเสียงแปลกๆ แม้ว่าจะดูขี้โอ่ แต่ก็มีอิทธิพลอย่างมากกับบรรดาภูตผีที่อยู่บนภูเขา



ก็อบลิน คิงส์ กับ พ่อมดเทา กานดาล์ฟ


............




เผ่าพันธุ์ : โทรล์ , อมนุษย์

ถิ่นอาศัย : ทั่วไปตามป่า ภูเขา ในมิดเดิลเอิร์ท โดยมีต้นกำเนิดมาจาก เอทเทนมัวร์

รูปลักษณ์ : ตัวอ้วนกลม ใหญ่ นิสัยอุ้ยอ้าย

อุปนิสัย : เชื่องช้า มีตั้งแต่พวกที่ขี้อาย โง่เขลา ไปจนถึงพวกที่เป็นเพชรฆาต หรือ โทรล์ศึก


พวก โทรล์ นี้ ตัวใหญ่โตก็จริง แต่พวกมันนั้นโง่ เพราะมีมันสมองนิดเดียวเมื่อเทีบกับขนาดร่างกายที่สูงราว 6 - 7 เมตร ของมัน แต่เดิมแล้วโทรล์ในมิดเดิลเอิร์ทนิสัยรักสงบ เชื่องช้า และนิยมความสันโดด มีคนพบพวกมันบ่อยๆ ในป่ายามค่ำคืน โดยที่พวกมันจะนั่งผิงไฟ และกินเนื้อสัตว์ย่างที่จับได้ตามป่า หรือขโมยเขามาอีกที แต่ถ้าจะนับจริงๆ แล้วโทรล์มีหลายประเภท ชนิดที่ดุร้าย ว่องไว ก็ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นในช่วงสงครามของปฐมยุค และปลายยุคที่ 3 ของ เซารอน


โทรล์ป่า , โทร์ลภูเขา


โทรล์ถ้ำ


ปรากฏในภาพยนต์เรื่อง The lord of the rings พวกนี้มีลักษระคล้ายๆ กับพวกแรก แต่หลีกเร้นจากแสงตะวันและพงไพร ไปอยู่ในขุมลึกของโถงถ้ำ จนนานวันเข้าสายตาพวกมันแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ทำให้มันตาฝ้าฟาง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาให้มันดูเหมือนจะเป็นพละกำลังที่มากขึ้น พวกนี้มีทักษะในการต่อสู้ที่ถูกสอนโดยก็อบลิน ทำให้บ่อยครั้งถูกเกณฑ์มาใช้ในสงครามในฐานะของแรงงานชั้นต่ำ ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ คณะพันธมิตรแห่งแหวนเดินทางผ่านเหมืองมอเรีย ได้ถูกพวกก็อบลินดักโจมตี ในบรรดาทัพก็อบลินนั้นมีโทรล์ถ้ำเป็นพลรบอยู่ด้วย ทำให้เรารู้ว่า โทรล์ถ้ำมีผิวกายขรุขระสีเขียวคล้ำ พูดไม่ได้ และถืออาวุธหนักเป็นอาวุธ

โทรล์ศึก


โทรล์ พวกนี้ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อใช้ในการรบโดยเฉพาะ โดยแนวความคิดของ เซารอน โทรล์เองก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถโดนแสงแดดได้ ดังนั้นโทรล์ศึกจึงทนต่อแสงแดด นอกจากนั้นพวกมันยังมีร่างกายที่แข็งแรง ใหญ่โต และดุร้ายเป็นเท่าตัว พวกนี้ชื่นชอบการฆ่าฟันเป็นวิสัย แต่โง่ ดูเหมือนพละกำลังจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่มีประโยชน์ของมัน โทรล์ศึกมีส่วนสำคัญในการรบของปลายยุคที่ 3 มันเป็นหนึ่งในกองทัพมอดอร์ ที่บุกเข้าล้อม มินัส ทิริธ ภายหลังจากที่ กอรนธ์(ทุ่นหัวหมาป่า) ตีประตูเมืองมินัส ทิริธ แตกได้ เซารอนเองก็จับพวกมันสวมชุดเกราะที่ทำด้วยเหล็กกล้า ทำให้เพิ่มความน่ากลัว และประสิทธิภาพมากขึ้น


แม่ทัพ โทรล์ แห่ง มอดอร์


เรียกอีกอย่างว่า โอล็อก ไฮค์ เจ้าตัวนี้ปรากฏออกมาที่ประตูดำ ในช่วงที่ทัพกอนดอร์เข้าปิดล้อม มอดอร์ เป็นโทรล์ที่มีความพิเศษ นอกจากมันจะดุร้าย แข็งแกร่ง รวดเร็ว มันยังมีความฉลาด มีหัวคิด และพูดภาษามนุษย์ได้ด้วย นับเป็นสิ่งที่โทรล์ทั่วไปไม่มี แม่ทัพ โทรล์สวมชุดเกราะที่ทำด้วยเหล็กกล้าซ้อนกันเป็นชั้น ถืออาวุธหนักคือดาบใหญ่เป็นอาวุธ และยังมีหน้าที่สำคัญในการเฝ้าประตูมอดอร์อีกด้วย

หลังจากที่ มอดอร์ แฟ้สงคราม เซารอน สลายร่างไปแล้ว พวกโทรล์ก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่มีใครเห็นมันอีกเลย แต่ก็ลือๆ กันว่ายังพอมีโทรล์จำพวกโทรล์ป่าอาศัยอยู่ในส่วนลึกของพงไพรอยู่บ้าง แต่นานๆ ทีจะได้ยินสักครั้ง

นอกจากนี้ยังมีโทรล์อีกลักษณะหนึ่ง เราเรียกว่า โทรล์หิมะ เจ้าพวกนี้ไม่มีการกล่าวถึงเป็นพิเศษมากนัก รู้เรื่องก็เพียงแค่ว่าพวกมันอาศัยอยู่ในถ้ำทางเหนือของมิดเดิลเอิร์ท และชอบที่จะออกมาเดินดุ่มๆ ท่ามกลางหิมะตกหนักบ่อยครั้ง


..........



มังกร สเม๊าก์

สเม๊าก์ เป็นตัวร้ายตัวสำคัญในไตรภาค ชุด The Hobbit มันเป็นมังกรไฟสีแดงทอง ที่มีขนาดใหญ่โตมโฟราฬ ปีกกว้างกว่า 30 เมตร หางยาวทรงพลัง กรงเล็บแหลมคม และมีความดุร้าย เจ้าเล่ห์ เป็นยิ่งยวด นอกจากนี้ สเม๊าก์ ยังสามารถพูด และ เข้าใจ ในทุกๆ ภาษาได้ ไฟของมังกรร้อนแรงมาก ขนาดเผาทำลายแหวนวิเศษได้(แต่ไม่สามารถเผาแหวนเอกได้) มังกร สเม๊าก์ จัดเป็นมังกรตัวสุดท้ายในมิดเดิลเอิร์ท หลังจากที่บรรพบุรุษของพวกมังกรเคยรุ่งเรืองมาในยุคที่ 1

สเม๊าก์ บุกทำลายเมือง เดล และ เอเรบอร์ เมื่อ ศักราชที่ 2770 และครั้งนั้นมันได้ยึดเอาเอเรบอร์เป็นบ้าน และนอนทับอยู่บนกองทอง และ ขุมสมบัติอันมหาศาลไว้ใต้พุงของมัน ไม่มีอัศวิน หรือ วีรบุรุษ หน้าไหนกล้าย่างกรายเข้ามาในเขตโลนลี่ เมาท์เทน มากว่า 200 ปี จนกระทั่ง บิลโบ้ แบ็กกินส์ เดินทางมาถึงในภารกิจเอเรบอร์


สเม๊าก์ เผาเมืองเดล


ช่วงก่อนสงครามห้าทัพ สเม๊าก์ บินไปเผาทำลายเมืองทะเลสาป เอสการ็อธ ด้วยความคิดที่ว่าชาวเมืองให้ความช่วยเหลือ "หัวขโมยนักขี่ถัง" ซึ่งก็หมายถึงบิลโล ในการขโมยเอาถ้วยทองคำ(ฉบับภาพยนต์ว่าเป็น อาร์เคนสโตน) ไปจากท้องพระโรงเอเรบอร์ มังกรโกรธมากจึงเผาเมืองทิ้ง แต่ก็พลาดท่าโดน บาร์ด ทายาท กิริออน แห่งแคว้นเดล ใช้ยิงธนูยิงเข้ากลางจุดสำคัญ แล้วร่วงลงมากระแทกเมืองกลางทะเลสาปตาย ก่อนจะจมหายไปใต้ก้นทะเลสาป ด้วยเหตครั้งนั้น สเม๊าก์ มังกรทองจึงสิ้นชื่อ


โฉมหน้าของ สเม๊าก์

.............




ไกวเฮียร์

นกอินทรียักษ์พวกนี้ มีความเป็นสัตว์ชั้นสูงที่สง่ามาก โดยพวกมันเองก็ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร และหยิ่งในศักดิ์ศรีของตน ไกวเฮียร์ สืบเชื้อสายมาจากพญาอินทรี ธอว์รอนดอร์ สัตว์บริวารของเทพ มานเว แห่งยุคที่ 1 จนมาถึงยุคที่ 3 พวกมันก็ยังคงเสน่ห์ของบรรพบุรุษของมันไว้ไม่เสื่อมคลาย กล่าวคือ ไกวเฮียร์ มีแบบอย่างวิถีชีวิต และการดำเนินรอยตามแบบบรรพบุรุษ

ไกวเฮียร์ อาศัย และ ทำรังอยู่แถบเทือกเขามิสตี้ทางตอนเหนือ ตอยเฝ้าระวัง และสังเกตการณ์อยู่บนผาสูง ถึงความเป็นไปในโรวห์วานิออน พวกไกวเฮียร์เกลียดพวก ออร์ค และ ก็อบลิน มากๆ เพราะพวกนี้ชอบส่งเสียงดัง พวกมันมาพร้อมกับเปลวไฟ และการปล้นฆ่า ทำลายความเงียบสงบของเขามิสตี้ บ่อยครั้งพวกมันจึงถลาเข้าเล่นงานจน ออร์ค กับ ก็อบลิน ถอยไม่เป็นท่า

ไกวเฮียร์ ใน The Hobbit



เมื่อครั้งที่คณะของบิลโบ้ แบ็คกินส์ เดินทางไปทำภารกิจเอเรบอร์ เกิดถูกพวกวาร์ก กับ ก็อบลิน จุดไฟเผาป่า ดักล้อมจนขึ้นไปคาอยู่บนยอดสน ครั้งนั้น ไกวเฮียร์ บินแล่นลาดตระเวนอยู่เหนือน่านฟ้า มาพบเข้า จึงเข้าช่วยเหลือ พวกอินทรียอมให้พวกคนแคระ และกานดาล์ฟ ขึ้นหลัง พาไปส่งที่ คาร็อก กานดาล์ฟรู้สึกขอบคุณ และเป็นหนี้ชีวิตพวกนกอย่างมาก จึงออกปากให้เป็นสหาย และมอบมงกุฎทองให้ การผูกพันธมิตรครั้งนั้นส่งผลต่อเนื่องมายังสงครามห้าทัพไม่นานต่อมา และอีก 60 ปีให้หลัง(ช่วงสงครามแหวน) กานดาล์ฟก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากพวกอินทรีมาตลอด นับว่าเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายธรรมะที่มีส่วนช่วยได้เยอะ


พญาอินทรี กับ สงครามแหวน



ไกวเฮียร์ ได้กลับมามีบทบาทช่วยเหลือพันธมิตรแห่งแหวนอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามแหวน ใน Lord of the rings เมื่อครั้งที่ กานดาล์ฟ ถูก ซารูมาน พ่อมดขาวทรยศ และจับขังไว้บนยอดหอคอย ออธังค์ ที่สูงเสียดฟ้า ครั้งนั้นถ้าไม่ได้ ไกวเฮียร์ กลับมาช่วยไว้อีกครั้งกานดาล์ฟคงแย่ ด้วยว่าเหตการณ์ในช่วงนั้นเป็นเหตุคับขัน สงครามแหวนเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถ้าพลาดเข้าเพียงเสี้ยว โลกของกลุ่มอิสระชนก็คงจะตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด ไม่เพียงพวกมนุษย์เท่านั้น เผ่าอินทรีเองก็คงจะตกที่นั่งลำบากด้วย

ครั้งสุดท้าย คือที่หน้าประตูดำ แบล็กเกท ที่ทัพ กอนดอร์ กับ มอดอร์ เข้าโรมรันกัน กอนดอร์เสียเปรียบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรบทางบก หรือเวหา เพราะบนฟ้ามีพวก นาซกุลเหินเวหา บินร่อนอยู่ นับเป็นการช่วยเหลือครั้งสุดท้ายของ ไกวเฮียร์ ที่ได้เข้าโจมตีพวก เฟลล์บีสต์ พาหนะของนาซกุลจนบาดเจ็บกลับไปเพลี้ยงพล้ำ ก่อนที่จะมีส่วนสำคัญ ในการช่วยพา โฟรโด้ และ แซม ออกมาจากภูเขาไฟมรณะ ที่กำลังระเบิดอย่างบ้าคลั่ง


...........


118
0
หากโดน 201 เรื้อน จะถูกแบน
Pong Ji-Sung , บักโอ้ , Stigma , METRONOME , kakaza , loppeooo , Son Of Darkness , sukiojenny , pE3grean , SubJanG , iBRAHiMOViCz , takoru , Akashi1 , colonchoccolate , lekgunner , โมชิ โมชิ , Barcelonistu , ๐mC๐ , nongbooboo2 , Baron Schweinsteiger , GREEN_SMOKER , l2ol3ot , 2andy-Gunner , underhilles , -Little_Boy- , Ju$talive , คุณหมอขายาว , Blive , Lanoline , wizzzzz , #JAPAN , Titan , NINE_FINGER , moobeerzaa , fw_converse , sundan , zerpenteer , FastAndFurious_Takumi , tangsukae , jadellcom , BadboyM , Gomeen , Coll1de , JonathanLoveSwift , ReiNDeaR , Kabuki-Mono , Dark Schneider , Schwarzenegger , krittakorn19 , sasane12 , Remix , Hard2Register , nora(aron) , poomziza , LoveMilinOnly , laws , ท่าuผู้นำ , JuIcYwAr , เทพบุตร จุติลงมาเกิด , almond09 , IE_ManU , ผมชื่อกิดนะคับ , SYNB , itawunba , BarceloZa , 4-3-3 , manchestud , Vegaz , MaiABS , lucifera , snowblow , BaByYaKuZa , luckyyy , สบูจ๋าย , sneezing , ((Autty)) , DickeY , Jimmycool , AngryBrids , Always_The_Blues , joeyslp , sankhacha , Freedomzx , stepnoob , El tiburón , vthanakan , Swordpig , Cruyff , AmWachr_MiKKie , JsGreat , AristoTum , BATLE2000 , forecastle , Negredo , The_Ravenz , jofromhell , HanZy , Ar Aum , Jack $parrow , snishot , a_nik+10 , superboy-jr , JumperED , juneofman , nainong , FarnOffspring , golf_gunner_69 , ks_majenta , Penguinz , SK@ , Zigzag21 , Shokubutsu , mapa , MR.EMRE , bank345 , TheBlue8 , doxdox , magka
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:31
Top Comment [RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]



เฟลล์ บีสต์

สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ คือสัตว์โบราณจำพวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่(ฉบับหนังสือว่าเป็นจำพวกนกยักษ์ไร้ขน) ที่มีปีกเป็นพังผืดยึดกับลำตัว ทำให้สามารถบินไปบนท้องฟ้าได้ เฟลล์ บีสต์ มีลักษณะคล้ายไวเวิร์น คอยาว มีลำตัวสีเทาดำ หางยาว ความกว้างปีกประมาณ 15 เมตรเห็นจะได้ และอาวุธที่สำคัญของพวกมัน คือกรงเล็บที่แหลมคมและใหญ่โต ที่สามารถจะโฉบเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตติดไปกับอุ้งเท้ามันได้จำนวนมาก นอกจากนี้เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของมัน ก็ทำลายโสดประสาทของผู้ที่ได้รับฟังให้เสียสูญได้




เฟลล์ บีสต์ จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

เฟลล์ บีสต์ ปรากฏอยู่ในภาพยนต์ชุด ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โดยเป็นพาหนะของพวกภูตแหวน นาซกูล ที่หลังจากได้สูญเสียพวกม้าดำไป แต่ดูเหมือนว่า เฟลล์ บีสต์ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งการรบ และการลาดตระเวณ เมื่อครั้งที่พวกโฟรโด้ผ่านทางบึงมรณะไปยังมอดอร์ ก็เกือบถูกภูตแหวนจับได้ ครั้งนั้นเราจึงได้เห็นว่า พาหนะตัวใหม่ของพวกนาซกูล คือ เฟลล์ บีสต์ นั่นเอง เฟลล์ บีสต์ ยังมีส่วนสำคัญในการรบช่วงสวงครามแหวนอย่างมาก ทั้งสมรภูมิทุ่ง เพเลนนอร์ ไปจนสงครามที่ประตูดำ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ และล้มตายไปพร้อมกับการล่มสลายของเซารอน


............



บัลร็อก

บัลร็อก คือ อสุรกายผู้มีดวงจิตแห่ง ไมอาร์ เป็นเทพแห่งไฟทั้งมวล แต่เดิม บัลร็อกมีจำนวนมากมาย และถูกจัดเป็นพลรบทีมีส่วนช่วยในสงครามอัญมณียุคที่ 1(สงครามซิลมาริลฯ) อย่างมาก และเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายเทพมาร มอร์ก็อธ บาวเกลียร์ ในสมัยนั้น ก็อธม็อก แม่ทัพ บัลร็อก ก็ยังถือเป็นสมุนฝ่ายขวาของ มอร์ก็อธ อีกด้วย(ในขณะที่ เซารอน เป็นสมุนฝ่ายซ้าย) แต่เมื่อครั้ง อังก์บันด์ พ่ายสงคราม พวก บัลร็อก ก็เสียจำนวนประชากรไปแทบสิ้น เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่รอดมายังยุคที่ 3 ดังเช่นตัวที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนไปเจอเข้าที่ คาซาดดูม ในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

ในช่วงที่คนแคระพยายามฟื้นฟูอณานิคมมอเรีย ได้ขุดลึกลงไปยังก้นเหวแห่งความมืด และที่นั่น ต้นตระกูลดูรินแห่งคนแคระ ก็ได้ปลุกอสุรกายตนนี้ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และเข้าจัดการผู้นำตระกูลดูรินจนสิ้น หลังจากนั้นมา พวกคนแคระไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้าไปยังใจกลางของ คาซาดดูม อีกเลย


บัลร็อก จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

บัลร็อก ไม่มีร่างกายหยาบที่แน่นอน บางครั้งมันจึงปรากฏกายออกมาในลักษณะอสุรกายที่ลุกโชติไปด้วยเปลวไฟ บัลร็อกมีแซ่ไฟที่มีอานุภาพร้ายแรงเป็นอาวุธ และมีพลังที่สามารถจะทำให้ทุกอย่างลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟร้อนแรงได้ ครั้งที่พันธมิตรแห่งแหวนเดินทางผ่านเหมืองมอเรีย บัลร็อกก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา และเข้าต่อสู้กับ กานดาล์ฟ จนทำให้ กานดาล์ฟ เดอะ เกรย์ สิ้นชื่อไปในวันนั้น เพราะนอกจาก กานดาล์ฟ(ที่เป็นไมอาร์ด้วยกันแล้ว) แล้ว ยากที่จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถกำจัดบัลร็อกลงได้

.............



นท์

อายุของ เอนท์ เก่าแก่พอๆ กับอายุของโลก เพราะเอนท์เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิดที่กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ของอาดาร์(โลก) เทพี ยาวันนาร์ ทรงสร้างสรรพสิ่งที่งดงาม และงอกเงยได้ อาทิ ต้นไม้ ดอกไม้ และ พฤกษชาติต่างๆ ดังนั้น เอนท์จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุอานามนานพอที่จะเคยเห็นแสงแห่งทวิพฤกษาได้

เอนท์ อย่าง ทรีเบียร์ด อาศัยอยู่ป่า ฟังกอร์น รูปลักษณ์โดยทั่วไปของเอนท์นั้น คล้ายคลึงกับต้นไม้เป็นอย่างมาก จนยากที่แยกออกได้ว่าในป่านี้มีต้นไม้หรือเอนท์จำนวนเท่าไหร่กันแน่ เพียงแต่เอนท์นั้นสามารถที่จะพูดได้ในทุกๆ ภาษา แต่พวกเขาให้เวลาในการพูดแตละประโยคนานมากๆ จนผู้ฟังอาจจะไม่อดทนรอฟังได้จบ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นเอนท์พูดกันเท่าไหร่นัก



ทรีเบียร์ด จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์


ใน เดอะ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ ฮอบบิทน้อยสองคน เมอร์รี่ และ ปิปปิ้น หนีการตามล่าของพวก อุรุก ไฮค์ เข้าไปในป่า ฟังกอร์น ที่นั่นเขาได้พบ ทรีเบียร์ด เอนท์แก่ใจดี ทรีเบียร์ด เล่าให้ฮอบบิทฟังว่า ในสมัยที่นานมาแล้ว(ยุคที่ 1) พวกเอนท์มีอยู่เป็นจำนวนมาก และแตกแขนงออกเป็นหลายสายพันธุ์ แต่กาลเวลาผ่านไปนับหมื่นปี เวลา ทำให้พวกเขาลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย จนในยุคที่ 3 มีเอนท์ เหลืออยู่เพียงสองจำพวกเท่านั้น คือที่ป่าโบราณ( โอลด์ ฟอเรส) และ ป่าฟังกอร์น เท่านั้น


............



วาร์ก

พวก วาร์ก เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายหมาล่าเนื้อขนาดใหญ่ พบได้ทัวไปในมิดเดิลเอิร์ท อุปนิสัยของพวกนี้ดุร้าย และหวงอณาเขต บ่อยครั้งจึงเข้าร่วมกับพวก ก็อบลิน(หรือถูกนำไปเป็นพาหนะ) ในการออกล่า ปล้นสดมถ์ และเผาทำลายหมู่บ้านชาวป่า วาร์กมีขากรรไกรใหญ่ และเขี้ยวแหลมคม แผลที่ถูกจัดจากขากรรไกรนี้จะมีสภาพเป็นแผลฉกรรจ์ เหยื่อจะเสียเลือดจนอ่อนแรง ฝีเท้าของวาร์กนั้นแข็งแรงมาก พวกมันสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง และชำนาญการล่าเหยื่อในพื้นที่ทุ่งโล่ง

วาร์ก ในมิดเดิลเอิร์ทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ คือ วาร์กจากเหนือ หรือวาร์กที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขามิสตี้ พวกนี้รูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ วิ่งเร็ว ดวงตาโตสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด สมรรถภาพเหมาะแก่การใช้ชีวิตแถบเทือกเขาแบบเขามิสตี้ บางพวกหากินเป็นกลุ่ม ออกล่าเหยื่อเป็นอาหารในเวลากลางคืน บางพวกก็เข้าสวามิภักดิ์ กับ ก็อบลินภูเขา เพื่อช่วยกันในการล่าเหยื่อ และ ออกปล้น วาร์กพวกนี้ปรากฏให้เห็นใน ภาพยนต์ ชุด เดอะ ฮอบบิท




วาร์ก จาก เดอะ ฮอบบิท


ส่วนอีกพวก คือ วาร์ก ทางใต้ ที่หากินอยู่แถบทุ่งหญ้าราบโล่งในแถบดันแลนด์ ชายแดนโรฮาน และ ไอเซนการ์ด พวกนี้มีขนสีน้ำตาลอ่อน มีลายแซมเป็นจุด และ ดวงตาเล็ก น่าตาคล้ายไฮยีน่า มีส่วนสำคัญในการรบของทัพไอเซนการ์ด ในช่วงสงครามแหวน ซารูมานก็มีคำสั่งในก็อบลิน นำทหารขี่วาร์กพวกนี้ออกไปซุ่มโจมตีชาว โรฮาน ที่กำลังอพยพไปยังปราการ เฮล์ม ดีฟ อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น วาร์กชนิดนี้ปรากฏตัวในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์





ไอเซนการ์ด วาร์ก


...............



เกรท บีสต์

สัตว์จำพวกนี้หากินอยู่ทุ่งราบโล่ง แถบทะเลสาบ รูนห์ ฟากตะวันออกของเทือกเขา มอดอร์ ทางใต้ของดินแดน โรวห์วานิออน เกรท บีสต์ มีเขาใหญ่งอกมากลางกระโหลกศีรษะคล้ายนอแรด ลำตัวอ้วนสั้น น้ำหนักมหาศาล ขนาดลำตัวยาวประมาณ 6 เมตร อาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม และกินพืชหญ้าเป็นอาหาร เติมเป็นสัตว์รักสงบ แต่ในช่วงสงครามแหวน ถูกพวกมอดอร์ไล่ต้อนมาเป็นสัตว์พาหนะ ใช้แรงงานให้แบกสัมภาระ ตลอดจนยุทธโธปกรณ์ในการรบต่างๆ ให้กับมอดอร์ เกรท บีสต์ นับเป็นสัตว์หายาก และเสี่ยงต่อภาวะใกล้สูญพันธุ์ แต่หลังจากมอดอร์พ่ายสงครามแล้ว ยังพอมีชาวกอนดอร์พบเห็นพวกมันกลับมาแพร่พันธุ์ และหากินอยู่แถบทุ่งหญ้าอยู่บ้าง


มูมักคิล

มูมักคิล เป็นชื่อเรียกในภาษามนุษย์ชาว กอนดอร์ ในขณะที่พวก ฮอบบิท เรียกว่า โอลิฟอนท์ มีลักษณะคล้ายช้างแอฟริกา แต่มีขนาดยักษ์ ร่างกายสูงใหญ่ ความสูงราวๆ ตึก 8 ชั้น ขายาวใหญ่ แข็งแรง ลักษณะเด่นที่แปลกประหลาดของ มูมักคิล คือมันมีกะโหลกศีรษะที่เรียวยาวกว่าช้างปกติทั่วไป ใบหูเล็ก และมีงาใหญ่ 6 งา (งอกเหนือมุมปากบนช่วงจมูก 2 งา ใต้คางอีก 2 งา และสีข้างแก้ม อีก 2 งาเล็กๆ) มูมักคิลมีน้ำหนักตัวมหาศาล สามารถเหยียบมนุษย์ให้แบนจมดินได้

ถิ่นฐานของ มูมักคิล คือทุ่งหญ้าห่างไกลออกไป ทางใต้สุดของแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ท เรียกว่า ฮารัด ไล่เรี่ยไปจนถึงรอบๆ ทะเลสาป อัลมาเรน มูมักคิล เป็นสัตว์ป่าทีรักความสงบ กินพื่ชหญ้าเป็นอาหาร หากินเป็นฝูง และมีหัวหน้าเป็นจ่าฝูง ในช่วงสงครามแหวน เซารอน มีคำสั่งให้พวกมนุษย์ชาวป่า ฮาราดริม เข้าร่วมกับทัพ มอดอร์ พวก ฮาราดริม จึงไล่ต้อนเอาฝูง มูมักคิล มาเป็นพาหนะในการรบ และในศึกทุ่ง เพเลนนอร์ ปิดล้อม มินัส ทิริธ พวกฮาราดริม ก็ขี่บนหลังตัวมูมักคิลมาออกรบด้วย โดยสร้างกระโจมไม้ขึ้นไปบนหลังของมัน และบรรจุพลรบได้ราว 50 คน



มักคิล จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์



แมงมุมยักษ์ จากภาพยนต์ The hobbit


แมงมุมยักษ์ (เกรท สไปเดอร์)

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามถิ่นที่อยู่ และรูปลักษณ์ จริงๆ แล้วพวกแมงมุมมีถิ่นกำเนิดที่มาจากสถานที่อันไกลโพ้น ต้นกำเนิดพวกมันมาจากตำนานแห่งการสร้างอาดาร์(โลก) เลยก็ว่าได้ กล่าวคือ อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษของพวกนี้ เคยคิดที่จะกลืนกินอัญมณีซิลมาริลฯ อันเป็นบ่อเกิดแห่งแสงสว่างทั้งมวลก่อนที่จะมีดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ ปรากฏขึ้นบนโลก



ปัจจุบันในยุคที่ 3 ลูกหลานแมงมุมยักษ์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่าอันมืดมิดไร้แสงตะวันของ เมิร์กวู๊ด ในแผ่นดิน โรวห์วานิออน และพวกมันสร้างรังอยู่ที่นั้น ก่อนหน้านี้ที่ความมืดยังไม่มาสิงสู่อยู่ที่ โดลกุลดูร์ ป่าแห่งนี้ชื่อว่า กรีนวู๊ด และเป็นที่ที่จะสรรหาความสงบ ร่มเย็น และธรรมชาติอันเขียวชอุ่มได้ไม่กี่ที่บนมิดเดิลเอิร์ท แต่ตั้งแต่จอมมารหวนกลับมา โดยเริ่มจากทิศตะวันออก ทุกอย่างที่เคยเขียวก็กลับแห้งแล้ง มืดทึบ และเย็นยะเยือก จำนวนของแมงมุมยักษ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณด้วย แมงมุมประเภทแรกที่อาศัยอยู่ในเมิร์กวู๊ด คือพวกที่มีขายาว ที่ขามีลายสลับ ร่างเบา และปราดเปรียว พวกนี้มีขนาดความกว้างของลำตัวไม่เกิน 2 เมตร แต่ที่น่าปวดหัวคือมันมีจำนวนเยอะมาก และเป็นปัญหาที่เอล์ฟป่าชาวซิลวันต้องจักการบ่อยๆ ถึงยังไงจำนวนมันก็ไม่ลดลงซักที แมงมุมพวกนี้ปรากฏในภาพยนต์ชุด The Hobbit




ชีล็อบ จากภาพยนต์ The Lord of the rings


ชีล็อบ

ชีล็อบ คือมารดาของเหล่าบรรดาแมงมุมที่กระจัดกระจายอยู่ในป่าเมิร์กวู๊ด ฉายาว่านางพญาแมงมุมแห่งคิริธอุงโกล ในขณะที่ลูกหลานของนางอาศัยอยู่ในป่าไม้อันมืดทึบ แต่นางกลับยึดเอาช่องเขา คิริธอุงโกล เป็นรัง ชีล็อบจะทำกับดัก จับเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ผ่านช่องเขามา โดยปกติแล้วนางจะได้กินแต่บรรดาพวก ออร์ค ที่ชะตาขาดพลัดเข้ามา แต่นานๆ ทีก็จะมีเนื้ออร่อยของนกที่แล่นมาทำรังบ้าง วิธีการสร้างกับดักของนางคือนางจะขึงใยเส้นบางๆ แต่เหนียวมากเอาไว้ รอสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นเข้ามาติดกับ ใยที่ขึงก็จะสั่นสะเทือน และจากใจกลางของรังที่ลึกเข้าไปในถ้ำ นางก็จะรับรู้ได้ ชีล็อบสืบเชื้อสายโดยตรงมาจาก อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษ แต่ความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ของนางก็ไม่ได้ย่อหย่อนลงไป พวกออร์คเอง หากไม่จำเป็นก็จะไม่เดินทางผ่านช่องเขาคิริธอุงโกล เป็นอันขาด



ลักษณะเด่น ที่ ชีล็อบ ต่างจากพวกที่อยู่ใน เมิร์กวู๊ด คือนางมีลำตัวที่ใหญ่กว่า 2 - 3 เท่า(ประมาณ 6 เมตร) ตัวอวบอ้วน ลักษณะคล้ายจำพวกแมงมุมดิน ขาสั้นแต่ใหญ่ และมีพิษร้ายที่เหล็กในปลายก้น

ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โฟรโด้ หลงกลเชื่อคำพูดของ กอลลั่ม จนพลัดจาก แซม หลงเข้าไปในรังชีล็อบ ที่นั้นเขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของแซม ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เรารู้ว่า ชีล็อบเกลียดและกลัวแสงสว่าง และดาบของเอล์ฟ

.............



วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย

เจ้าตัวนี้คือสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์ ที่เซารอนจับมาเลี้ยงไว้ในบึงน้ำหน้าประตูทางเขาเหมืองมอเรีย เพื่อเป็นเสมือนยามเฝ้าระวัง ไม่ให้สิ่งมีชีวิตใดๆ เล็ดรอดเข้ามา หรือ ออกไปได้ ฉายา วอชเชอร์ คือผู้เฝ้าระวัง ดังนั้นสิ่งมีชิวิตที่หลงเข้ามาในถิ่นของมัน ก็จะถูกหนวดยาวๆ ของมันจับไว้ แล้วกินจนหมดสิ้น การรับรู้ความสั่นไหวของสิ่งมีชีวิตจาก วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย นั้นเสถียรมาก คือมันรับรู้การเคลื่อนไหวจากสิ่งต่างๆ ผ่านทางการสั่นกระเพื่อมของน้ำ ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ เมอรี่แอนดอค แบรนดิงบั๊กส์ ฮอบบิทน้อยขว้างก้อนหินลงน้ำ ในขณะที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนหลงหาทางเข้าอยู่หน้าประตูเหมือง มอเรีย อารากอน ได้มาปรามเขาไว้ เพราะรับรู้มาว่าใต้หนองน้ำนี้มีสิ่งอันตรายแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าที่แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไร จนกระทั่งมันปรากฏตัวออกมา



วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย หน้าประตู "ทวารแห่งดูริน"


ยักษ์ศิลา

ยักษ์ศิลา ปรากฏตัวออกมาท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ และสภาวะอากาศที่ปรวนแปรของเทือกเขามิสตี้ พวกมันขว้างหินก้อนใหญ่ใส่กันอย่างสนุกสนาน นับเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูยาก แต่ถ้าเราเป็นหนึ่งในคณะเดินทางของบิลโบ้ เราเองก็คงไม่อยากเจอเหตการณ์ไม่คาดฝันอย่างนั้น นี่คือฉากที่ปรากฏในภาพยนต์ the Hobbit ยักษ์ศิลา จัดเป็นดวงจิตธรรมชาติของหินผา(สโตนท์) จำพวกหนึ่ง เป็นไมอาร์แห่งธรรมชาติ ในภาพยนต์ดีไซน์ออกมาให้คล้ายๆ โกเลม ของตำนาน นอร์ส แต่แท้จริงแล้ว ในฮอบบิท ฉบับหนังสือ เจ้าตัวที่โยนหินใส่กันนี้มีรูปลักษณ์ออกไปทาง โทรล์ภูเขาเสียมากกว่า

ปีเตอร์ แจ๊คสัน ผู้กำกับภาพยนต์ชุดนี้ เคยให้สัมภาษน์ไว้ว่า " ยักษ์ศิลา ที่ขว้างหินใส่กัน เราเสริมไว้ในบทของ แบทเทิล ออฟ ธันเดอร์ "สงครามอสุนีบาท" จัดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นบนมิดเดิลเอิร์ท แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อมิดเดิลเอิร์ท คำทำนายเคยว่าไว้ว่า ทุกๆ 300 ปี ยักษ์ศิลาจะตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วเขวี้ยงหินใส่กันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ..."


ยักษ์ศิลา จากภาพยนต์ เดอะ ฮอบบิท


กวาง ของกษัตริย์ ธรันดูอิล

กษัตริย์พราย ธรัลดูอิล แห่ง วู๊ดแลนด์ ทรงประทับบนหลังกวางขนาดใหญ่ ที่มีเขาแผ่กว้างออกมาคล้ายกิ่งไม้ เราพบเห็นกวางชนิดนี้ครั้งแรก ในภาพยนต์ The Hobbit I แต่ในฉบับนิยายมีเรื่องเล่าว่า คณะของธอรินได้เดินทางผ่านป่าเมิร์กวู๊ด ระหว่างทางที่สะพานในถนนสายป่าขาดไปโดยมีแม่น้ำกว้างขวางทางอยู่ คิลีหนึ่งในคณะครแคระได้แลเห็นกวางสีขาวตัวใหญ่ ยืนทอดตัวอยู่บนถนนอีกฝั่ง กวางตัวนั้นมีลำแสงเรืองออกจากตัว และมีเขาแผ่กว้าง ดังนั้นเราจึงสันนิษฐานได้ว่า ธรันดูอิล ทรงเป็นเอล์ฟจ้าวที่มีกวางเป็นพาหนะ และกวางชนิดนี้มีที่วู๊ดแลนด์ที่เดียวในมิดเดิลเอิร์ท ดูเหมือนว่าจะคล้ายคลึงกับกวางดึกดำบรรพ์ชื่อ เมกาโลเซรอส ของยุคน้ำแข็งจนน่าจะเป็นพันธุ์เดียวกัน





กระต่ายป่า ของ ราดากัสต์

ราดากัสต์ พ่อมดสีน้ำตาล เป็นหนึ่ง ไมอาร์(เทวดา) ที่อวตารเป็น อิสตาริ(พ่อมด) ทั้ง 5* ของมิดเดิลเอิร์ท แต่ดูเหมือนว่าด้วยนิสัยขี้เล่น และเปิ่นๆ ของเขา ทำให้ไม่เป็นที่นับหน้าถือตาในหมู่ผู้วิเศษด้วยกันเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไร "เขาก็มีความยิ่งใหญ่ในแบบของเขา" นี่คือคำพูดของ กานดาล์ฟ ที่เอ่ยถึงราดากัสต์ ให้ บิลโบ้ ฟัง ในเรื่อง The Hobbit

ราดากัสต์ สามารถสื่อสารกับบรรดาสรรพสัตว์ได้ทุกชนิด นั่นคือความพิเศษของเขา และเขามีกระต่ายป่าตัวใหญ่เป็นเสมือนพาหนะในการลากเลื่อน ทำให้สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยความเร็วสูง กระต่ายนั้นไม่ธรรมดา! เพราะเป็นกระต่าย รอสโกเบล ที่มีขนาดเท่าสุนัขตัวย่อมๆ และวิ่งเร็วประดุจสายป่าน ราดากัสต์เลี้ยงกระต่ายป่าเป็นเพื่อน พวกมันมีสีน้ำตาล และมีนิสัยน่ารัก ที่มาของชื่อรอสโกเบลทีราดากัสต์ตั้งให้ คือสถานที่ ซึ่งเป็นบ้านของเขาเอง



รอสโกเบล บ้านต้นไม้ของ ราดากัสต์

* 5 พ่อมด แห่ง มิดเดิลเอิร์ท ได้แก่ ซารูมาน พ่อมดขาว , กานดาล์ฟ พ่อมดเทา , ราดากัสต์ พ่อมดน้ำตาล และ พ่อมดน้ำเงินสองคน อลาทาร์ และ พันลันโด



เครไบรน์ แห่ง ดันแลนด์

แต่เดิมมันคือสัตว์จำพวกอีกาที่อยู่ในอาณัตของ ราดากัสต์ แต่ครั้งหนึ่งช่วงสงครามแหวน ซารูมาน หยิบยืมราดากัสต์ไป เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่า ซารูมานเอาพวกมันไปเป็นสายสืบ คอยสอดแนมพันธมิตรแห่งแหวน เครไบรน์ คืออีกาสีดำขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในดินแดนป่าเปิดโล่งที่เรียกว่า ดันแลนด์ ทางตะวันตกของ ไอเซนการ์ด ไปจนถึงป่าโบราณ ฟังกอร์น นกพวกนี้ฉลาด สายตาดี รอบรู้ และเข้าใจทุกๆ ภาษา ใน ลอดส์ ออฟ เดอะริงส์ คณะพันธมิตรแห่งแหวนถูกพวกมันพบเข้าขณะเดินทางผ่าน เอเรกิออน ได้ไม่ไกล จึงรายงานไปยังซารูมานเข้า



ออร์น

บีออร์น คือ มนุษย์ ที่สามารถกลายร่างเป็น สัตว์ ได้(เชล์ฟ์ ชิฟเตอร์) เขาเป็นเผ่าโบราณเก่าแก่ที่มีมานานในมิดเดิลเอิร์ท แต่มาถึงยุคที่สามก็เหลือไม่มากแล้ว เพราะพวก ออร์ค คร่าชีวิตพวกเขาดุจเกมส์กีฬา จนมาในเรื่อง The Hobbit คณะธอรินมาพบเข้าก็เป็นคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์แล้ว เวลาปกติเขาก็ดูเป็นผู้ชายร่างยักษ์ หนวดเครารุงรัง มักจะพกขวานขนาดใหญ่ไปไหนมาไหนด้วยตลอด แต่พอลองโกรธเข้าจนเลือดขึ้นหน้า เขาสามารถที่จะกลายร่างเป็นหมีตัวใหญ่ได้ และเมื่อเวลานั้นเขายิ่งน่ากลัว เพราะไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลยนอกจากสัญชาติญาณสัตว์ แต่บิออร์นเองก็เป็นคนที่อ่อนโยน รักสัตว์ รักธรรมชาติ ในบ้านชายป่าเมิร์กวู๊ดของเขาเต็มไปด้วยบรรดาสรรพสัตว์ สวนดอกไม้ และรังผึ้ง เพราะเขาชอบกินน้ำผึ้งมากๆ นั่นเอง นอกจากนี้บิออร์นยังเป็นผู้สร้างแก่งหิน คาร็อก อีกด้วย เมื่อยามที่เขาเหงา หรือ ว้าเหว่ เขาก็จะมานั่งเหม่อลอยไปยังคาร็อก และหวนคิดถึงเผ่าพันธุ์เพื่อนพ้องที่เคยรุ่งโรจน์ของเขาในอดีต



ม้า (มิดเดิลเอิร์ท)


ม้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถหาพบได้ทั่วไปในมิดเดิลเอิร์ท พอๆ กับโลกแห่งความเป็นจริงของเรา ม้าในมิดเดิลเอิร์ทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ม้าวิเศษ เป็นม้าที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เช่น แชโดว์ แฟ็กซ์ , ม้าศึก ที่ใช้ในการบของเหล่าอัศวิน เช่น สโนว์ เมน ของ เธโอเดน และ ม้าโพนี่ ซึ่งเป็นม้าแคระ ถึงแม้จะเหมือนสัตว์ธรรมดาทั่วไป แต่ยอดอาชาไนยของมิดเดิลเอิร์ทนั้นก็มีชื่อเสียง และมีความพิเศษเฉพาะตัว ดังเช่นม้าที่เป็นพาหนะในกษัตริย์สมัยโบราณของมิดเดิลเอิร์ท ปลายยุคที่ 3 มีม้าที่โด่งดังอยู่บ้าง อาทิ


ม้าวิเศษ : แชโดว์ แฟ็กซ์


เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ ทั้งผิวกาย และแผงคอ สืบเชื้อสายมาจากยอดอัสดรในปฐมยุคแห่งเทพโอเรเม สามารถควบวิ่งได้รวดเร็วดุจลมหอบ ฝีเท้าเบาจนวิ่งบนผิวน้ำได้ นับเป็นม้าคู่ใจที่พ่อมดเทา กานดาล์ฟ ใช้เป็นพาหนะในการทำภารกิจต่างๆ ในมิดเดิลเอิร์ทมานับไม่ถ้วนแล้ว


ม้าศึก : สโนว์ เมน

ยอดอาชาพาหนะของกษัตริย์ เธโอเดน กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว แต่ทว่าด้วยอุบัติเหตุทำให้เป็นยมทูตแห่งนายตนเอง


ม้าโพนี่

ส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การรบ จึงใช้ในการเดินทาง แบกสัมภาระ หรือเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง


ม้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ปรากฏในเรื่อง


อัลฟารอธ


พาหนะที่สวยงาม รวดเร็ว ที่ กลอฟินเดล(ในฉบับภาพยนต์ เป็น อาร์เวน) ใช้ควบบึ่งพา โฟรโด้ ข้าม ฟอร์ด บรุยเนน หนีพวกภูตแหวน


เอลรอธ

ม้าคู่ใจของ เลโกลัส ที่ได้รับมอบมากจาก เอโอแมร์ โรวเฮียริม


ม้าภูต


เป็นม้าสีดำสนิท ที่มีนิสัยดุร้าย และมีความเป็นภูตสิงสู่ เรียกว่าสภาวะสมิงพราย เป็นพาหนะของพวก นาซกูล


นอกจากนี้ยังมีม้าอื่นๆ อีก ที่ไม่ได้เอ่ยถึงเป็นการเจาะจง เช่น บิล ของ แซม เป็นม้าโพนี่(ม้าแคระ) ที่ไว้ใช้แบกสัมภาระของฮอบบิท , บรีโก้ ม้าคู่ใจกษัตริย์อารากอน , เฟลารอว์ฟ แห่ง โรฮัน ฯลฯ




ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก

หนังสือ - The lord of the rings : the fellowship of the ring
The lord of the ring : the two towers
The lord of the ring : the return of the king
The Hobbit

คลังข้อมูล จาก Wikipedia , Onering , tengwar ฯลฯ


จบแล้วครับ สำหรับบรรดาสรรพชีวิต ใน มิดเดิลเอิร์ท ใครมีข้อมูลอะไร ติติง แก้ไข เพิ่มเติม ก็ร่วมกันโพสต์ ร่วมกันแชร์ นะครับ ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม และ อ่าน กระทู้นะครับ

เครดิต
http://pantip.com/topic/31839624

รูปไม่ขึ้นเข้าไปดูเองในเล่นในมือถือแก้ลำบาก
แก้ไขล่าสุดโดย บุญคำ เมื่อ Tue Apr 01, 2014 09:09, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:31
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]



เฟลล์ บีสต์

สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ คือสัตว์โบราณจำพวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่(ฉบับหนังสือว่าเป็นจำพวกนกยักษ์ไร้ขน) ที่มีปีกเป็นพังผืดยึดกับลำตัว ทำให้สามารถบินไปบนท้องฟ้าได้ เฟลล์ บีสต์ มีลักษณะคล้ายไวเวิร์น คอยาว มีลำตัวสีเทาดำ หางยาว ความกว้างปีกประมาณ 15 เมตรเห็นจะได้ และอาวุธที่สำคัญของพวกมัน คือกรงเล็บที่แหลมคมและใหญ่โต ที่สามารถจะโฉบเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตติดไปกับอุ้งเท้ามันได้จำนวนมาก นอกจากนี้เสียงกรีดร้องแหลมเล็กของมัน ก็ทำลายโสดประสาทของผู้ที่ได้รับฟังให้เสียสูญได้




เฟลล์ บีสต์ จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

เฟลล์ บีสต์ ปรากฏอยู่ในภาพยนต์ชุด ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โดยเป็นพาหนะของพวกภูตแหวน นาซกูล ที่หลังจากได้สูญเสียพวกม้าดำไป แต่ดูเหมือนว่า เฟลล์ บีสต์ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งการรบ และการลาดตระเวณ เมื่อครั้งที่พวกโฟรโด้ผ่านทางบึงมรณะไปยังมอดอร์ ก็เกือบถูกภูตแหวนจับได้ ครั้งนั้นเราจึงได้เห็นว่า พาหนะตัวใหม่ของพวกนาซกูล คือ เฟลล์ บีสต์ นั่นเอง เฟลล์ บีสต์ ยังมีส่วนสำคัญในการรบช่วงสวงครามแหวนอย่างมาก ทั้งสมรภูมิทุ่ง เพเลนนอร์ ไปจนสงครามที่ประตูดำ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ และล้มตายไปพร้อมกับการล่มสลายของเซารอน


............



บัลร็อก

บัลร็อก คือ อสุรกายผู้มีดวงจิตแห่ง ไมอาร์ เป็นเทพแห่งไฟทั้งมวล แต่เดิม บัลร็อกมีจำนวนมากมาย และถูกจัดเป็นพลรบทีมีส่วนช่วยในสงครามอัญมณียุคที่ 1(สงครามซิลมาริลฯ) อย่างมาก และเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายเทพมาร มอร์ก็อธ บาวเกลียร์ ในสมัยนั้น ก็อธม็อก แม่ทัพ บัลร็อก ก็ยังถือเป็นสมุนฝ่ายขวาของ มอร์ก็อธ อีกด้วย(ในขณะที่ เซารอน เป็นสมุนฝ่ายซ้าย) แต่เมื่อครั้ง อังก์บันด์ พ่ายสงคราม พวก บัลร็อก ก็เสียจำนวนประชากรไปแทบสิ้น เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่รอดมายังยุคที่ 3 ดังเช่นตัวที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนไปเจอเข้าที่ คาซาดดูม ในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

ในช่วงที่คนแคระพยายามฟื้นฟูอณานิคมมอเรีย ได้ขุดลึกลงไปยังก้นเหวแห่งความมืด และที่นั่น ต้นตระกูลดูรินแห่งคนแคระ ก็ได้ปลุกอสุรกายตนนี้ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และเข้าจัดการผู้นำตระกูลดูรินจนสิ้น หลังจากนั้นมา พวกคนแคระไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้าไปยังใจกลางของ คาซาดดูม อีกเลย


บัลร็อก จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์

บัลร็อก ไม่มีร่างกายหยาบที่แน่นอน บางครั้งมันจึงปรากฏกายออกมาในลักษณะอสุรกายที่ลุกโชติไปด้วยเปลวไฟ บัลร็อกมีแซ่ไฟที่มีอานุภาพร้ายแรงเป็นอาวุธ และมีพลังที่สามารถจะทำให้ทุกอย่างลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟร้อนแรงได้ ครั้งที่พันธมิตรแห่งแหวนเดินทางผ่านเหมืองมอเรีย บัลร็อกก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา และเข้าต่อสู้กับ กานดาล์ฟ จนทำให้ กานดาล์ฟ เดอะ เกรย์ สิ้นชื่อไปในวันนั้น เพราะนอกจาก กานดาล์ฟ(ที่เป็นไมอาร์ด้วยกันแล้ว) แล้ว ยากที่จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถกำจัดบัลร็อกลงได้

.............



นท์

อายุของ เอนท์ เก่าแก่พอๆ กับอายุของโลก เพราะเอนท์เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตไม่กี่ชนิดที่กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ของอาดาร์(โลก) เทพี ยาวันนาร์ ทรงสร้างสรรพสิ่งที่งดงาม และงอกเงยได้ อาทิ ต้นไม้ ดอกไม้ และ พฤกษชาติต่างๆ ดังนั้น เอนท์จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุอานามนานพอที่จะเคยเห็นแสงแห่งทวิพฤกษาได้

เอนท์ อย่าง ทรีเบียร์ด อาศัยอยู่ป่า ฟังกอร์น รูปลักษณ์โดยทั่วไปของเอนท์นั้น คล้ายคลึงกับต้นไม้เป็นอย่างมาก จนยากที่แยกออกได้ว่าในป่านี้มีต้นไม้หรือเอนท์จำนวนเท่าไหร่กันแน่ เพียงแต่เอนท์นั้นสามารถที่จะพูดได้ในทุกๆ ภาษา แต่พวกเขาให้เวลาในการพูดแตละประโยคนานมากๆ จนผู้ฟังอาจจะไม่อดทนรอฟังได้จบ ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ค่อยได้เห็นเอนท์พูดกันเท่าไหร่นัก



ทรีเบียร์ด จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์


ใน เดอะ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ ฮอบบิทน้อยสองคน เมอร์รี่ และ ปิปปิ้น หนีการตามล่าของพวก อุรุก ไฮค์ เข้าไปในป่า ฟังกอร์น ที่นั่นเขาได้พบ ทรีเบียร์ด เอนท์แก่ใจดี ทรีเบียร์ด เล่าให้ฮอบบิทฟังว่า ในสมัยที่นานมาแล้ว(ยุคที่ 1) พวกเอนท์มีอยู่เป็นจำนวนมาก และแตกแขนงออกเป็นหลายสายพันธุ์ แต่กาลเวลาผ่านไปนับหมื่นปี เวลา ทำให้พวกเขาลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย จนในยุคที่ 3 มีเอนท์ เหลืออยู่เพียงสองจำพวกเท่านั้น คือที่ป่าโบราณ( โอลด์ ฟอเรส) และ ป่าฟังกอร์น เท่านั้น


............



วาร์ก

พวก วาร์ก เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายหมาล่าเนื้อขนาดใหญ่ พบได้ทัวไปในมิดเดิลเอิร์ท อุปนิสัยของพวกนี้ดุร้าย และหวงอณาเขต บ่อยครั้งจึงเข้าร่วมกับพวก ก็อบลิน(หรือถูกนำไปเป็นพาหนะ) ในการออกล่า ปล้นสดมถ์ และเผาทำลายหมู่บ้านชาวป่า วาร์กมีขากรรไกรใหญ่ และเขี้ยวแหลมคม แผลที่ถูกจัดจากขากรรไกรนี้จะมีสภาพเป็นแผลฉกรรจ์ เหยื่อจะเสียเลือดจนอ่อนแรง ฝีเท้าของวาร์กนั้นแข็งแรงมาก พวกมันสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง และชำนาญการล่าเหยื่อในพื้นที่ทุ่งโล่ง

วาร์ก ในมิดเดิลเอิร์ทสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ คือ วาร์กจากเหนือ หรือวาร์กที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขามิสตี้ พวกนี้รูปร่างคล้ายหมาป่าขนาดใหญ่ วิ่งเร็ว ดวงตาโตสามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด สมรรถภาพเหมาะแก่การใช้ชีวิตแถบเทือกเขาแบบเขามิสตี้ บางพวกหากินเป็นกลุ่ม ออกล่าเหยื่อเป็นอาหารในเวลากลางคืน บางพวกก็เข้าสวามิภักดิ์ กับ ก็อบลินภูเขา เพื่อช่วยกันในการล่าเหยื่อ และ ออกปล้น วาร์กพวกนี้ปรากฏให้เห็นใน ภาพยนต์ ชุด เดอะ ฮอบบิท




วาร์ก จาก เดอะ ฮอบบิท


ส่วนอีกพวก คือ วาร์ก ทางใต้ ที่หากินอยู่แถบทุ่งหญ้าราบโล่งในแถบดันแลนด์ ชายแดนโรฮาน และ ไอเซนการ์ด พวกนี้มีขนสีน้ำตาลอ่อน มีลายแซมเป็นจุด และ ดวงตาเล็ก น่าตาคล้ายไฮยีน่า มีส่วนสำคัญในการรบของทัพไอเซนการ์ด ในช่วงสงครามแหวน ซารูมานก็มีคำสั่งในก็อบลิน นำทหารขี่วาร์กพวกนี้ออกไปซุ่มโจมตีชาว โรฮาน ที่กำลังอพยพไปยังปราการ เฮล์ม ดีฟ อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น วาร์กชนิดนี้ปรากฏตัวในภาพยนต์ ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์





ไอเซนการ์ด วาร์ก


...............



เกรท บีสต์

สัตว์จำพวกนี้หากินอยู่ทุ่งราบโล่ง แถบทะเลสาบ รูนห์ ฟากตะวันออกของเทือกเขา มอดอร์ ทางใต้ของดินแดน โรวห์วานิออน เกรท บีสต์ มีเขาใหญ่งอกมากลางกระโหลกศีรษะคล้ายนอแรด ลำตัวอ้วนสั้น น้ำหนักมหาศาล ขนาดลำตัวยาวประมาณ 6 เมตร อาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม และกินพืชหญ้าเป็นอาหาร เติมเป็นสัตว์รักสงบ แต่ในช่วงสงครามแหวน ถูกพวกมอดอร์ไล่ต้อนมาเป็นสัตว์พาหนะ ใช้แรงงานให้แบกสัมภาระ ตลอดจนยุทธโธปกรณ์ในการรบต่างๆ ให้กับมอดอร์ เกรท บีสต์ นับเป็นสัตว์หายาก และเสี่ยงต่อภาวะใกล้สูญพันธุ์ แต่หลังจากมอดอร์พ่ายสงครามแล้ว ยังพอมีชาวกอนดอร์พบเห็นพวกมันกลับมาแพร่พันธุ์ และหากินอยู่แถบทุ่งหญ้าอยู่บ้าง


มูมักคิล

มูมักคิล เป็นชื่อเรียกในภาษามนุษย์ชาว กอนดอร์ ในขณะที่พวก ฮอบบิท เรียกว่า โอลิฟอนท์ มีลักษณะคล้ายช้างแอฟริกา แต่มีขนาดยักษ์ ร่างกายสูงใหญ่ ความสูงราวๆ ตึก 8 ชั้น ขายาวใหญ่ แข็งแรง ลักษณะเด่นที่แปลกประหลาดของ มูมักคิล คือมันมีกะโหลกศีรษะที่เรียวยาวกว่าช้างปกติทั่วไป ใบหูเล็ก และมีงาใหญ่ 6 งา (งอกเหนือมุมปากบนช่วงจมูก 2 งา ใต้คางอีก 2 งา และสีข้างแก้ม อีก 2 งาเล็กๆ) มูมักคิลมีน้ำหนักตัวมหาศาล สามารถเหยียบมนุษย์ให้แบนจมดินได้

ถิ่นฐานของ มูมักคิล คือทุ่งหญ้าห่างไกลออกไป ทางใต้สุดของแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ท เรียกว่า ฮารัด ไล่เรี่ยไปจนถึงรอบๆ ทะเลสาป อัลมาเรน มูมักคิล เป็นสัตว์ป่าทีรักความสงบ กินพื่ชหญ้าเป็นอาหาร หากินเป็นฝูง และมีหัวหน้าเป็นจ่าฝูง ในช่วงสงครามแหวน เซารอน มีคำสั่งให้พวกมนุษย์ชาวป่า ฮาราดริม เข้าร่วมกับทัพ มอดอร์ พวก ฮาราดริม จึงไล่ต้อนเอาฝูง มูมักคิล มาเป็นพาหนะในการรบ และในศึกทุ่ง เพเลนนอร์ ปิดล้อม มินัส ทิริธ พวกฮาราดริม ก็ขี่บนหลังตัวมูมักคิลมาออกรบด้วย โดยสร้างกระโจมไม้ขึ้นไปบนหลังของมัน และบรรจุพลรบได้ราว 50 คน



มักคิล จาก ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์



แมงมุมยักษ์ จากภาพยนต์ The hobbit


แมงมุมยักษ์ (เกรท สไปเดอร์)

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามถิ่นที่อยู่ และรูปลักษณ์ จริงๆ แล้วพวกแมงมุมมีถิ่นกำเนิดที่มาจากสถานที่อันไกลโพ้น ต้นกำเนิดพวกมันมาจากตำนานแห่งการสร้างอาดาร์(โลก) เลยก็ว่าได้ กล่าวคือ อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษของพวกนี้ เคยคิดที่จะกลืนกินอัญมณีซิลมาริลฯ อันเป็นบ่อเกิดแห่งแสงสว่างทั้งมวลก่อนที่จะมีดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ ปรากฏขึ้นบนโลก



ปัจจุบันในยุคที่ 3 ลูกหลานแมงมุมยักษ์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่าอันมืดมิดไร้แสงตะวันของ เมิร์กวู๊ด ในแผ่นดิน โรวห์วานิออน และพวกมันสร้างรังอยู่ที่นั้น ก่อนหน้านี้ที่ความมืดยังไม่มาสิงสู่อยู่ที่ โดลกุลดูร์ ป่าแห่งนี้ชื่อว่า กรีนวู๊ด และเป็นที่ที่จะสรรหาความสงบ ร่มเย็น และธรรมชาติอันเขียวชอุ่มได้ไม่กี่ที่บนมิดเดิลเอิร์ท แต่ตั้งแต่จอมมารหวนกลับมา โดยเริ่มจากทิศตะวันออก ทุกอย่างที่เคยเขียวก็กลับแห้งแล้ง มืดทึบ และเย็นยะเยือก จำนวนของแมงมุมยักษ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณด้วย แมงมุมประเภทแรกที่อาศัยอยู่ในเมิร์กวู๊ด คือพวกที่มีขายาว ที่ขามีลายสลับ ร่างเบา และปราดเปรียว พวกนี้มีขนาดความกว้างของลำตัวไม่เกิน 2 เมตร แต่ที่น่าปวดหัวคือมันมีจำนวนเยอะมาก และเป็นปัญหาที่เอล์ฟป่าชาวซิลวันต้องจักการบ่อยๆ ถึงยังไงจำนวนมันก็ไม่ลดลงซักที แมงมุมพวกนี้ปรากฏในภาพยนต์ชุด The Hobbit




ชีล็อบ จากภาพยนต์ The Lord of the rings


ชีล็อบ

ชีล็อบ คือมารดาของเหล่าบรรดาแมงมุมที่กระจัดกระจายอยู่ในป่าเมิร์กวู๊ด ฉายาว่านางพญาแมงมุมแห่งคิริธอุงโกล ในขณะที่ลูกหลานของนางอาศัยอยู่ในป่าไม้อันมืดทึบ แต่นางกลับยึดเอาช่องเขา คิริธอุงโกล เป็นรัง ชีล็อบจะทำกับดัก จับเอาบรรดาสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ผ่านช่องเขามา โดยปกติแล้วนางจะได้กินแต่บรรดาพวก ออร์ค ที่ชะตาขาดพลัดเข้ามา แต่นานๆ ทีก็จะมีเนื้ออร่อยของนกที่แล่นมาทำรังบ้าง วิธีการสร้างกับดักของนางคือนางจะขึงใยเส้นบางๆ แต่เหนียวมากเอาไว้ รอสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นเข้ามาติดกับ ใยที่ขึงก็จะสั่นสะเทือน และจากใจกลางของรังที่ลึกเข้าไปในถ้ำ นางก็จะรับรู้ได้ ชีล็อบสืบเชื้อสายโดยตรงมาจาก อุงโกลิอันท์ บรรพบุรุษ แต่ความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ของนางก็ไม่ได้ย่อหย่อนลงไป พวกออร์คเอง หากไม่จำเป็นก็จะไม่เดินทางผ่านช่องเขาคิริธอุงโกล เป็นอันขาด



ลักษณะเด่น ที่ ชีล็อบ ต่างจากพวกที่อยู่ใน เมิร์กวู๊ด คือนางมีลำตัวที่ใหญ่กว่า 2 - 3 เท่า(ประมาณ 6 เมตร) ตัวอวบอ้วน ลักษณะคล้ายจำพวกแมงมุมดิน ขาสั้นแต่ใหญ่ และมีพิษร้ายที่เหล็กในปลายก้น

ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ โฟรโด้ หลงกลเชื่อคำพูดของ กอลลั่ม จนพลัดจาก แซม หลงเข้าไปในรังชีล็อบ ที่นั้นเขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็รอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของแซม ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เรารู้ว่า ชีล็อบเกลียดและกลัวแสงสว่าง และดาบของเอล์ฟ

.............



วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย

เจ้าตัวนี้คือสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์ ที่เซารอนจับมาเลี้ยงไว้ในบึงน้ำหน้าประตูทางเขาเหมืองมอเรีย เพื่อเป็นเสมือนยามเฝ้าระวัง ไม่ให้สิ่งมีชีวิตใดๆ เล็ดรอดเข้ามา หรือ ออกไปได้ ฉายา วอชเชอร์ คือผู้เฝ้าระวัง ดังนั้นสิ่งมีชิวิตที่หลงเข้ามาในถิ่นของมัน ก็จะถูกหนวดยาวๆ ของมันจับไว้ แล้วกินจนหมดสิ้น การรับรู้ความสั่นไหวของสิ่งมีชีวิตจาก วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย นั้นเสถียรมาก คือมันรับรู้การเคลื่อนไหวจากสิ่งต่างๆ ผ่านทางการสั่นกระเพื่อมของน้ำ ใน ลอดส์ ออฟ เดอะ ริงส์ เมอรี่แอนดอค แบรนดิงบั๊กส์ ฮอบบิทน้อยขว้างก้อนหินลงน้ำ ในขณะที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนหลงหาทางเข้าอยู่หน้าประตูเหมือง มอเรีย อารากอน ได้มาปรามเขาไว้ เพราะรับรู้มาว่าใต้หนองน้ำนี้มีสิ่งอันตรายแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าที่แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไร จนกระทั่งมันปรากฏตัวออกมา



วอชเชอร์ ออฟ มอเรีย หน้าประตู "ทวารแห่งดูริน"


ยักษ์ศิลา

ยักษ์ศิลา ปรากฏตัวออกมาท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ และสภาวะอากาศที่ปรวนแปรของเทือกเขามิสตี้ พวกมันขว้างหินก้อนใหญ่ใส่กันอย่างสนุกสนาน นับเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูยาก แต่ถ้าเราเป็นหนึ่งในคณะเดินทางของบิลโบ้ เราเองก็คงไม่อยากเจอเหตการณ์ไม่คาดฝันอย่างนั้น นี่คือฉากที่ปรากฏในภาพยนต์ the Hobbit ยักษ์ศิลา จัดเป็นดวงจิตธรรมชาติของหินผา(สโตนท์) จำพวกหนึ่ง เป็นไมอาร์แห่งธรรมชาติ ในภาพยนต์ดีไซน์ออกมาให้คล้ายๆ โกเลม ของตำนาน นอร์ส แต่แท้จริงแล้ว ในฮอบบิท ฉบับหนังสือ เจ้าตัวที่โยนหินใส่กันนี้มีรูปลักษณ์ออกไปทาง โทรล์ภูเขาเสียมากกว่า

ปีเตอร์ แจ๊คสัน ผู้กำกับภาพยนต์ชุดนี้ เคยให้สัมภาษน์ไว้ว่า " ยักษ์ศิลา ที่ขว้างหินใส่กัน เราเสริมไว้ในบทของ แบทเทิล ออฟ ธันเดอร์ "สงครามอสุนีบาท" จัดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นบนมิดเดิลเอิร์ท แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อมิดเดิลเอิร์ท คำทำนายเคยว่าไว้ว่า ทุกๆ 300 ปี ยักษ์ศิลาจะตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วเขวี้ยงหินใส่กันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ..."


ยักษ์ศิลา จากภาพยนต์ เดอะ ฮอบบิท


กวาง ของกษัตริย์ ธรันดูอิล

กษัตริย์พราย ธรัลดูอิล แห่ง วู๊ดแลนด์ ทรงประทับบนหลังกวางขนาดใหญ่ ที่มีเขาแผ่กว้างออกมาคล้ายกิ่งไม้ เราพบเห็นกวางชนิดนี้ครั้งแรก ในภาพยนต์ The Hobbit I แต่ในฉบับนิยายมีเรื่องเล่าว่า คณะของธอรินได้เดินทางผ่านป่าเมิร์กวู๊ด ระหว่างทางที่สะพานในถนนสายป่าขาดไปโดยมีแม่น้ำกว้างขวางทางอยู่ คิลีหนึ่งในคณะครแคระได้แลเห็นกวางสีขาวตัวใหญ่ ยืนทอดตัวอยู่บนถนนอีกฝั่ง กวางตัวนั้นมีลำแสงเรืองออกจากตัว และมีเขาแผ่กว้าง ดังนั้นเราจึงสันนิษฐานได้ว่า ธรันดูอิล ทรงเป็นเอล์ฟจ้าวที่มีกวางเป็นพาหนะ และกวางชนิดนี้มีที่วู๊ดแลนด์ที่เดียวในมิดเดิลเอิร์ท ดูเหมือนว่าจะคล้ายคลึงกับกวางดึกดำบรรพ์ชื่อ เมกาโลเซรอส ของยุคน้ำแข็งจนน่าจะเป็นพันธุ์เดียวกัน





กระต่ายป่า ของ ราดากัสต์

ราดากัสต์ พ่อมดสีน้ำตาล เป็นหนึ่ง ไมอาร์(เทวดา) ที่อวตารเป็น อิสตาริ(พ่อมด) ทั้ง 5* ของมิดเดิลเอิร์ท แต่ดูเหมือนว่าด้วยนิสัยขี้เล่น และเปิ่นๆ ของเขา ทำให้ไม่เป็นที่นับหน้าถือตาในหมู่ผู้วิเศษด้วยกันเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไร "เขาก็มีความยิ่งใหญ่ในแบบของเขา" นี่คือคำพูดของ กานดาล์ฟ ที่เอ่ยถึงราดากัสต์ ให้ บิลโบ้ ฟัง ในเรื่อง The Hobbit

ราดากัสต์ สามารถสื่อสารกับบรรดาสรรพสัตว์ได้ทุกชนิด นั่นคือความพิเศษของเขา และเขามีกระต่ายป่าตัวใหญ่เป็นเสมือนพาหนะในการลากเลื่อน ทำให้สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยความเร็วสูง กระต่ายนั้นไม่ธรรมดา! เพราะเป็นกระต่าย รอสโกเบล ที่มีขนาดเท่าสุนัขตัวย่อมๆ และวิ่งเร็วประดุจสายป่าน ราดากัสต์เลี้ยงกระต่ายป่าเป็นเพื่อน พวกมันมีสีน้ำตาล และมีนิสัยน่ารัก ที่มาของชื่อรอสโกเบลทีราดากัสต์ตั้งให้ คือสถานที่ ซึ่งเป็นบ้านของเขาเอง



รอสโกเบล บ้านต้นไม้ของ ราดากัสต์

* 5 พ่อมด แห่ง มิดเดิลเอิร์ท ได้แก่ ซารูมาน พ่อมดขาว , กานดาล์ฟ พ่อมดเทา , ราดากัสต์ พ่อมดน้ำตาล และ พ่อมดน้ำเงินสองคน อลาทาร์ และ พันลันโด



เครไบรน์ แห่ง ดันแลนด์

แต่เดิมมันคือสัตว์จำพวกอีกาที่อยู่ในอาณัตของ ราดากัสต์ แต่ครั้งหนึ่งช่วงสงครามแหวน ซารูมาน หยิบยืมราดากัสต์ไป เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่า ซารูมานเอาพวกมันไปเป็นสายสืบ คอยสอดแนมพันธมิตรแห่งแหวน เครไบรน์ คืออีกาสีดำขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในดินแดนป่าเปิดโล่งที่เรียกว่า ดันแลนด์ ทางตะวันตกของ ไอเซนการ์ด ไปจนถึงป่าโบราณ ฟังกอร์น นกพวกนี้ฉลาด สายตาดี รอบรู้ และเข้าใจทุกๆ ภาษา ใน ลอดส์ ออฟ เดอะริงส์ คณะพันธมิตรแห่งแหวนถูกพวกมันพบเข้าขณะเดินทางผ่าน เอเรกิออน ได้ไม่ไกล จึงรายงานไปยังซารูมานเข้า



ออร์น

บีออร์น คือ มนุษย์ ที่สามารถกลายร่างเป็น สัตว์ ได้(เชล์ฟ์ ชิฟเตอร์) เขาเป็นเผ่าโบราณเก่าแก่ที่มีมานานในมิดเดิลเอิร์ท แต่มาถึงยุคที่สามก็เหลือไม่มากแล้ว เพราะพวก ออร์ค คร่าชีวิตพวกเขาดุจเกมส์กีฬา จนมาในเรื่อง The Hobbit คณะธอรินมาพบเข้าก็เป็นคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์แล้ว เวลาปกติเขาก็ดูเป็นผู้ชายร่างยักษ์ หนวดเครารุงรัง มักจะพกขวานขนาดใหญ่ไปไหนมาไหนด้วยตลอด แต่พอลองโกรธเข้าจนเลือดขึ้นหน้า เขาสามารถที่จะกลายร่างเป็นหมีตัวใหญ่ได้ และเมื่อเวลานั้นเขายิ่งน่ากลัว เพราะไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลยนอกจากสัญชาติญาณสัตว์ แต่บิออร์นเองก็เป็นคนที่อ่อนโยน รักสัตว์ รักธรรมชาติ ในบ้านชายป่าเมิร์กวู๊ดของเขาเต็มไปด้วยบรรดาสรรพสัตว์ สวนดอกไม้ และรังผึ้ง เพราะเขาชอบกินน้ำผึ้งมากๆ นั่นเอง นอกจากนี้บิออร์นยังเป็นผู้สร้างแก่งหิน คาร็อก อีกด้วย เมื่อยามที่เขาเหงา หรือ ว้าเหว่ เขาก็จะมานั่งเหม่อลอยไปยังคาร็อก และหวนคิดถึงเผ่าพันธุ์เพื่อนพ้องที่เคยรุ่งโรจน์ของเขาในอดีต



ม้า (มิดเดิลเอิร์ท)


ม้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถหาพบได้ทั่วไปในมิดเดิลเอิร์ท พอๆ กับโลกแห่งความเป็นจริงของเรา ม้าในมิดเดิลเอิร์ทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ม้าวิเศษ เป็นม้าที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เช่น แชโดว์ แฟ็กซ์ , ม้าศึก ที่ใช้ในการบของเหล่าอัศวิน เช่น สโนว์ เมน ของ เธโอเดน และ ม้าโพนี่ ซึ่งเป็นม้าแคระ ถึงแม้จะเหมือนสัตว์ธรรมดาทั่วไป แต่ยอดอาชาไนยของมิดเดิลเอิร์ทนั้นก็มีชื่อเสียง และมีความพิเศษเฉพาะตัว ดังเช่นม้าที่เป็นพาหนะในกษัตริย์สมัยโบราณของมิดเดิลเอิร์ท ปลายยุคที่ 3 มีม้าที่โด่งดังอยู่บ้าง อาทิ


ม้าวิเศษ : แชโดว์ แฟ็กซ์


เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ ทั้งผิวกาย และแผงคอ สืบเชื้อสายมาจากยอดอัสดรในปฐมยุคแห่งเทพโอเรเม สามารถควบวิ่งได้รวดเร็วดุจลมหอบ ฝีเท้าเบาจนวิ่งบนผิวน้ำได้ นับเป็นม้าคู่ใจที่พ่อมดเทา กานดาล์ฟ ใช้เป็นพาหนะในการทำภารกิจต่างๆ ในมิดเดิลเอิร์ทมานับไม่ถ้วนแล้ว


ม้าศึก : สโนว์ เมน

ยอดอาชาพาหนะของกษัตริย์ เธโอเดน กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว แต่ทว่าด้วยอุบัติเหตุทำให้เป็นยมทูตแห่งนายตนเอง


ม้าโพนี่

ส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การรบ จึงใช้ในการเดินทาง แบกสัมภาระ หรือเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง


ม้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ปรากฏในเรื่อง


อัลฟารอธ


พาหนะที่สวยงาม รวดเร็ว ที่ กลอฟินเดล(ในฉบับภาพยนต์ เป็น อาร์เวน) ใช้ควบบึ่งพา โฟรโด้ ข้าม ฟอร์ด บรุยเนน หนีพวกภูตแหวน


เอลรอธ

ม้าคู่ใจของ เลโกลัส ที่ได้รับมอบมากจาก เอโอแมร์ โรวเฮียริม


ม้าภูต


เป็นม้าสีดำสนิท ที่มีนิสัยดุร้าย และมีความเป็นภูตสิงสู่ เรียกว่าสภาวะสมิงพราย เป็นพาหนะของพวก นาซกูล


นอกจากนี้ยังมีม้าอื่นๆ อีก ที่ไม่ได้เอ่ยถึงเป็นการเจาะจง เช่น บิล ของ แซม เป็นม้าโพนี่(ม้าแคระ) ที่ไว้ใช้แบกสัมภาระของฮอบบิท , บรีโก้ ม้าคู่ใจกษัตริย์อารากอน , เฟลารอว์ฟ แห่ง โรฮัน ฯลฯ




ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก

หนังสือ - The lord of the rings : the fellowship of the ring
The lord of the ring : the two towers
The lord of the ring : the return of the king
The Hobbit

คลังข้อมูล จาก Wikipedia , Onering , tengwar ฯลฯ


จบแล้วครับ สำหรับบรรดาสรรพชีวิต ใน มิดเดิลเอิร์ท ใครมีข้อมูลอะไร ติติง แก้ไข เพิ่มเติม ก็ร่วมกันโพสต์ ร่วมกันแชร์ นะครับ ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม และ อ่าน กระทู้นะครับ

เครดิต
http://pantip.com/topic/31839624

รูปไม่ขึ้นเข้าไปดูเองในเล่นในมือถือแก้ลำบาก
แก้ไขล่าสุดโดย บุญคำ เมื่อ Tue Apr 01, 2014 09:09, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: Chelsea & Madrid
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 5490
ที่อยู่: Runningman
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:36
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
ผมชอบไอวิญญาณที่ต้องเอาดาบของอะไรไม่รู้ไปคุมมันอะครับ
โครตโกงเลยตีก็ไม่ได้ ไม่ตายด้วยเอาไปบุกไหนนี้ชนะหมดเลย


3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4874
ที่อยู่: เหมืองทองทั่วไป
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:43
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
สุดยอดครับ อ่านเพลินจนจบเลยทีเดียว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Sep 2009
ตอบ: 6203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:50
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
Lee Kwang Soo พิมพ์ว่า:
ผมชอบไอวิญญาณที่ต้องเอาดาบของอะไรไม่รู้ไปคุมมันอะครับ
โครตโกงเลยตีก็ไม่ได้ ไม่ตายด้วยเอาไปบุกไหนนี้ชนะหมดเลย


 


จริง

ตอนได้พวกนี้มาช่วย ภาค 3 จบศึกอย่างไว

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Hungry For Glory
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 21776
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 08:59
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
ชอบมาก









ปล.ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Sep 2009
ตอบ: 4207
ที่อยู่: เสือใหญ่
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:07
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
เยี่ยมเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไม่ว่างกำลังว้าว
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 23633
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:13
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
อ่านได้แป๊บเดียวหัวหน้ามองหน้า ไว้ไปอ่านต่อที่ห้องดีกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: !!!PINK PANDA!!!! !!!JUNG EUNJI!!!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Oct 2010
ตอบ: 7330
ที่อยู่: กลับไทยแว้ว
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:14
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
นับถือคนเขียนบทความนี้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Pink me Pink me Pink me UP!
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ถ้าเธอพบกับรักใหม่..ดวงใจของฉันปวดร้าว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jun 2007
ตอบ: 8665
ที่อยู่: ชายละเบื่อไม่อยากจะพูด
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:19
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
Lee Kwang Soo พิมพ์ว่า:
ผมชอบไอวิญญาณที่ต้องเอาดาบของอะไรไม่รู้ไปคุมมันอะครับ
โครตโกงเลยตีก็ไม่ได้ ไม่ตายด้วยเอาไปบุกไหนนี้ชนะหมดเลย


 



ในเกมส์นี่โคตรโกง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 932
ที่อยู่: ข้างถนน
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:39
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
บุญคำ พิมพ์ว่า:




มังกร สเม๊าก์

สเม๊าก์ เป็นตัวร้ายตัวสำคัญในไตรภาค ชุด The Hobbit มันเป็นมังกรไฟสีแดงทอง ที่มีขนาดใหญ่โตมโฟราฬ ปีกกว้างกว่า 30 เมตร หางยาวทรงพลัง กรงเล็บแหลมคม และมีความดุร้าย เจ้าเล่ห์ เป็นยิ่งยวด นอกจากนี้ สเม๊าก์ ยังสามารถพูด และ เข้าใจ ในทุกๆ ภาษาได้ ไฟของมังกรร้อนแรงมาก ขนาดเผาทำลายแหวนวิเศษได้(แต่ไม่สามารถเผาแหวนเอกได้) มังกร สเม๊าก์ จัดเป็นมังกรตัวสุดท้ายในมิดเดิลเอิร์ท หลังจากที่บรรพบุรุษของพวกมังกรเคยรุ่งเรืองมาในยุคที่ 1

 


เด่วนะครับ ผมจำได้ว่าอ่านในหนังสือฮอบบิท มันบอกไว้ว่า ไม่ใช่ตัวสุดท้ายนิฮะ
รู้สึกยังมีอีกหลายตัว แย่งชิงทองคำและอยู่ในแถบเทือกเขาสีเทานิฮะ ถ้าจำไม่ผิด

แก้ไขล่าสุดโดย Akashi1 เมื่อ Tue Apr 01, 2014 09:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40454
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:48
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
Lee Kwang Soo พิมพ์ว่า:
ผมชอบไอวิญญาณที่ต้องเอาดาบของอะไรไม่รู้ไปคุมมันอะครับ
โครตโกงเลยตีก็ไม่ได้ ไม่ตายด้วยเอาไปบุกไหนนี้ชนะหมดเลย


 


วิญญาณโจรสลัดที่ผิดคำสัญญากับกษัตริย์องค์ก่อน อารากอนเลยถือดาบกลับไปทวงสัญญาให้มาช่วยรบ แลกกับการได้ไปผุดไปเกิด

ผมว่าภาคสามหนังกำลังรบกันมันๆ ไอ้พวกนี้มาปุ๊บ วงแตกทันที โคตรขี้โกง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: "ความพ่ายแพ้ไม่ใช่สุดปลายทาง"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jul 2009
ตอบ: 997
ที่อยู่: Allianz Goodison Boonyachinda Stadium
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 09:52
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
เพิ่มเติมครับ ผมเคยอ่านบทวิเคราะห์ เชื่อกันว่า การที่โทลคีนให้เมลคอร์(ต่อมาเรียกกันว่ามอร์กอธ)สร้างสิ่งมีชีวิตอย่างออร์คขึ้นมาโดยใช้เอลฟ์เป็นต้นแบบนั้น โทลคีนต้องการจะแฝงแนวความคิดที่ว่า "พระเจ้าคือผู้สูงสุดหนึ่งเดียว" การที่เมลคอร์(ผู้เป็นอาจารย์ของเซารอน)พยายามสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาให้มีความงามเทียบเท่าเอลฟ์นั้น ท้ายที่สุดแล้ว ผลของการพยายามทำตัวขึ้นไปเทียบพระเจ้า ก็ได้แค่ออร์คหน้าตาน่าเกลียดมา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


... MIA SAN MIA (2003)
..... NIL SATIS NISI OPTIMUM (2014)
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Sep 2009
ตอบ: 20594
ที่อยู่: Anfield Road. & Miyoung Heart & Korean Idol Republic
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 10:01
ถูกแบนแล้ว
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
สวดยอดเลยคับ..บุ๊คมาร์คไว้ลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2014 10:07
[RE: รวมสิ่งมีชีวิตใน The lord & Hobbit]
โหลด เดอะหลอด มาดูอีดรอบพอดี

ไปเจอทู้นี้ในพันทิปเลยเอามาฝาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel