กระทู้นี้ยาว ขี้เกียจอ่านกดออกได้เลย
อ่านแล้วก็ชอบอีก ท่านนี้เขียนดีมาก
[BVB] เมื่อเคยมีความสุขตอนชูช่อดอกไม้ คุณก็ต้องพร้อมยิ้มรับก้อนหินได้เหมือนกัน ...
ครึ่งซีซั่นแรกแฟนดอร์ทมุนด์ปลอบใจตัวเองว่า แค่ดวงไม่ดี
เพราะ 70% ของเกมที่แพ้ก็ทำเกมได้ดี แค่โอกาสจบประตูเฉียดไปเฉียดมา และพลาดง่ายๆท้ายเกมเท่านั้น
ปิดเบรคฤดูหนาว นักเตะไปซ้อมกันที่ลามังก้า ทุกคนหวังว่ากลับมามันจะต้องดีขึ้น
บรรยากาศการซ้อมเป็นไปได้ด้วยดี เควิน แคมเปิ้ล นักเตะใหม่ก็เข้ามาสร้างสีสันให้ทีม ประสานกับรอยส์ได้ดี
เกมอุ่นเครื่อง แม้จะไม่ได้เล่นฟอร์มโหด แต่ก็เล่นกับเข้าขาได้ดีจริงๆ
ทุกคนรอวันเปิดฤดูกาล อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า เรากลับมาได้แน่ๆนะ ครึ่งฤดูกาลแรกมันแค่พลาดไปเท่านั้น
นัดแรกเจอ เลเวอร์คูเซ่น ...
เลเวอร์ฯเล่นดีมาตลอดไม่มีตก ขณะที่ดอร์ทมุนด์ตกมาตลอด แต่เพราะเป็นทีมใหญ่ที่เคี้ยวกันมานาน
ก็เป็นเกมที่เอากันไม่ลงทั้ง 2 ทีมจบเกมเสมอนัดแรกของครึ่งซีซั่นหลัง เก็บ 1 แต้ม
แถมลูกฮีโร่ของกัปตันที่สกัดลูกยิงที่ปากประตูด้วยการโหม่งทิ้งแบบหล่อโคตร
ดูดีนะ... แต่แค่ "เหมือน"จะดีจริงๆ
นัดสองเปิดบ้านเจอเอาก์สบวร์ก เกมในบ้าน ไม่น่ามีปัญหา ขั้นต่ำมันต้อง 1 แต้มไม่ใช่ 0
แต่สุดท้ายก็ 0 จนได้ รายงานจากฝั่งเยอรมันบอกว่า เป็นเกมที่แฟนๆผิดหวังมาก ถึงกับพร้อมใจโห่เลยทีเดียว
ขนาดเป็น ULTRA กันมาแค่ไหน แต่เกมนี้ พวกเขาก็ผิดหวังกับทีมมากๆ
เดิมทีใน เฟซบุคสโมสร จะมีแฟนๆไปถล่มอยู่ตลอดเวลาทีมแพ้ ส่วนใหญ่เป็นแฟน International
ซึ่งหลายคนก็ปลอบใจตัวเอง (รวมทั้งเรา) ว่าก็แค่แฟนต่างชาติเท่านั้นแหละที่ไม่พอใจ
จนวันที่แพ้ เอาก์สบวร์ก เมื่อวานนี้ มันเป็นภาพที่นักเตะทุกคนเองก็อึ้งจริงๆ
พวกเขาอาจไม่เคยเจอแฟนๆกราดเกรี้ยวแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ดอร์ทมุนด์มีนักเตะใหม่ มากกว่านักเตะเก่า
แม้แต่คล็อปเอง ก็แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่า มันหนักขนาดนี้แล้วจริงๆ
แฟนๆหลายส่วนโห่พวกเขาตอนจบเกม และแสดงท่าทีโมโหอย่างมากกับนักเตะ
ตามธรรมเนียมดอร์ทมุนด์ ไม่ว่าแพ้หรือชนะพวกเขาจะเดินไปขอบคุณแฟนๆรอบสนาม
แต่วันนี้ทุกคนกำลังอึ้ง และ คงเสียใจที่สกอร์เป็นแบบนี้ และส่วนหนึ่งเขาคงรู้สึกผิดกับแฟนๆมากๆ
Mats Hummels กัปตันทีมเขาเป็นนักเตะของดอร์ทมุนด์มา 7 ปี
อยู่กับทีมมาตั้งแต่ยังไม่เคยมีลุ้นว่า ดอร์ทมุนด์จำเป็นจะต้องได้ไปชปล.ทุกปี
เขาเป็นคนแรก ที่เดินไปหาแฟนๆที่กำลังโกรธเกรี้ยว
Roman Weidenfeller ในฐานะซีเนียร์ เขาอยู่กับทีมมา 14 ปี
ผ่านช่วงเวลายากลำบากมามากมาย เป็นคนที่สองที่เดินไปหาแฟนๆที่กำลังโมโหพร้อมกับมัทส์
แฟนๆสาดอารมณ์ดันดุเดือดใส่โรมันอย่างเผ็ดร้อน เราเห็นโรมันทำท่าบอกให้เขาใจเย็นๆ
แต่โรมันไม่ได้เดินหนี แม้รู้ว่าแฟนๆจำนวนมากกำลังออกปากตำหนิเขา
เขากลับปีนรั้วขึ้นไปหาแฟนๆคนอื่นอีก
2 นักเตะเก่าของทีมกำลังพยายามรับฟังความเห็นจากแฟนๆโดยตรง
พวกเขาจำเป็นต้องสัมผัสมันโดยตรง ..
ปกติทุกครั้งเวลาที่ทีมแพ้ นักเตะและคล็อป มักจะออกมาปลอบใจแฟนๆท้ายเกม
ซึ่งหลายครั้งมันทำให้แฟนๆรู้สึกดีขึ้น
แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ ..
เพราะพวกเขาเห็นด้วยตาแล้วว่า
เกมกับ เอาก์สบวร์ก มันเป็นเกมที่แย่มากจริงๆ
คำปลอบใจหรือคำยอมรับความผิดพลาดของนักเตะไม่ได้ช่วยให้แฟนๆรู้สึกดีขึ้นเลย
อาจมีห้วงอารมณ์แห่งความซาบซึ้งอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่การทำให้รู้สึกดีขึ้นแน่นอน
สิ่งที่แฟนๆหวาดกลัวมากกว่า คือ ทีมอาจตกชั้นได้จริงๆ
เพราะในเกมกับเอาก์สบวร์ก หลายคนจะได้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่นักเตะไม่มีใจเล่น
แต่มันเหมือนกับนักเตะไม่มีแรงเล่น ไม่ใช่เพราะเหนื่อย
แต่ดูเหมือนพวกเขาถอดใจกับเกมบุกที่ไม่ไปไหน ไม่เป็นผล ไม่มีประตู
เกมบุกตื้อ เกมรับแย่ หน้าที่ของเกมรับหนักหนาสาหัส เกมรุกก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นได้เลย
นักเตะใหม่เล่นไม่เข้ากับสไตล์การเล่นของทีม ในตอนแรกพวกเขาอาจมีข้ออ้างเรื่องความไม่เข้าขา
มาจากฟุตบอลคนละสไตล์ แต่ใช้ไม่ได้อีกต่อไปหากมันผ่านไปแล้วหลายเดือน
มรสุมของดอร์ทมุนด์ มันถูกกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
หลายคนอาจคิดว่า การเสียเกิธเซ และ เลวาน คือต้นเหตุของสิ่งที่ดอร์ทมุนด์เจอในตอนนี้
มันอาจะใช่ แต่ไม่ทั้งหมด
ปัญหาที่พวกเขาเจอคือ การซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมเป็นจำนวนมาก
เพื่อป้องกันปัญหาเดิมๆที่เคยเจอคือ การที่นักเตะทยอยเข้าโรงพยาบาลไปเป็นแก๊ง
และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่คราวนี้ เป็นการเจ็บซ้ำ เจ็บซ้อน ตัวหลักพัก 1 เดือน กลับมาเล่น 1 เกมพักอีก 2 เดือน
ทั้งรอยส์ และฮุมเมลส์ ได้ลงเล่นจริงๆแบบนับเกมได้ ยังไม่รวมพวกที่เจ็บเล็กๆน้อยๆ แบบรายสัปดาห์ที่มีเกือบทุกเกม
กองหลังที่กลับมาพร้อมแล้ว ก็ต้องเสีย อีริกดวร์มไปแบบพักยาว
ผู้รักษาประตู สลับกันระหว่าง โรมัน และ มิตช์ ฟอร์มไม่น่าวางใจทั้งคู่ แต่ไม่รู้ควรให้มันเป็นยังไง
พลาดง่ายๆ จนเกินไปในหลายลูก
กองกลาง และกองหน้าปัญหาหนักมีคนเล่นดีจริงๆไม่กี่คน นอกนั้นคือหลุดฟอร์มแม้แต่มาร์โก รอยส์
ตั้งแต่หายเจ็บกลับมา ก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มระดับท็อปเลย
รามอส, เอบาเมยอง, อิมโมบิเล่ เรายังไม่สามารถชมพวกเขาได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า โชว์ฟอร์มได้ดี
เหนืออื่นใดนั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ฟอร์มทีมย่ำแย่ จนไปกองท้ายตาราง
ดอร์ทมุนด์มีนักเตะที่ดีกว่าทีมอื่นมากมาย มีประสบการณ์เยอะกว่ามากมาย
แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถเอาชนะทีมที่มีนักเตะอ่อนชั้นกว่าได้
ความผิดพลาดอาจอยู่ที่ เจอร์เกน คล็อป เขาคงมาถึงทางตันแล้วจริงๆ
เห็นได้จากการแก้เกม ที่ดูมืดแปดด้าน หมดหนทาง และไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
แต่โทษคล็อปคนเดียวจะถูกหรือ?
อาถรรพ์ที่น่าประหลาดของดอร์ทมุนด์ในฤดูกาลนี้คือ
"1 ลูกที่ไม่เคยเอาคืนได้ และ 1 ลูกที่ไม่สามารถป้องกันได้"
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆและไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้
แต่คุณก็รู้ นี่คือฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
เกิดอะไรขึ้นกับดอร์ทมุนด์?
คำถามนี้ ไม่ว่าใครก็ตอบไม่ได้ ต่อให้คุณมาดูเกมเล่นทุกนัดก็อาจจะตอบไม่ได้
เราเล่นดี แต่ก็เล่นไม่ดี เรามีโอกาส แต่ก็ไม่มีโอกาส
เราจะตกชั้นใช่ไหม? หลายคนอาจคิดว่า หากตกชั้นจะไม่เชียร์ต่อหรือ?
คุณไม่ใช่แฟนตัวจริงหรือ?
คำตอบคือ มันไม่ใช่เรื่องตกชั้นแล้วไม่เชียร์ หรือ รักจริงต้องไม่ตำหนิคนพลาด
แต่มันเป็นเรื่องของการให้ใจ
แฟนๆให้ใจไปแล้ว ก็อยากจะได้มันกลับมาเช่นกัน
พวกเขาอยากให้คุณแสดงให้เห็นว่า "พวกคุณควรมีใจกว่านี้ ทำเพื่อเขา(แฟน)มากกว่านี้"
คนเดียวกับที่โยนก้อนหินให้คุณวันนี้ เพื่อให้คุณรู้สึกตัว
อาจเป็นคนเดียวกับที่เคยมอบดอกไม้ให้คุณ ตอนที่คุณประสบความสำเร็จนั่นแหละ
สุดท้ายแล้วมันก็จะเหลือแค่คนที่รักคุณที่สุดเท่านั้น ที่ยังอยู่กับคุณ
ไม่ว่าเขาจะด่าว่าคุณแค่ไหน แต่เขาก็พร้อมสู้ไปกับคุณจนจบทางนั่นเช่นกัน
พวกเขาคือ "ผู้เล่นคนที่ 12" จำได้ใช่มั้ย?
มีอยู่คำพูดหนึ่ง มันเป็นคำพูดที่อาจทำให้เราร้องไห้หนักที่สุด ตอนที่เรากำลังเสียใจที่สุด
คำนั้นมันคือคำว่า
"ไม่เป็นไร"
อย่างที่เราบอกคุณไปตั้งแต่ต้น สุดท้ายคนที่รักคุณที่สุดก็จะอยู่กับคุณไปจนทุกอย่างจบสิ้น
และเราอาจเรียกสิ่งนั้นว่า "รักแท้" ก็ได้
และนี่ก็คือสโมสรแห่งรักแท้
Echte liebe Borussia Dortmund
เครดิต
http://m.pantip.com/topic/33200417