เอา คห ผมนะ ที่บอกว่าปีก่อนๆ HR ไม่ได้ว่าแต่ปีนี้ทำไมว่า ผมเดาว่าผู้ใหญ่ข้างบนก็คงเพิ่งสังเกตุเเละคงกำชับมา นั่นหมายความว่าหน่วยคุรคงถูกข้างบนจับตามองบ้างแล้ว หรืออาจจะเป็นไปได้ว่ามีคนมาสายแล้วไปเหน็บว่าทำไมพวกคุณทำได้

ผมเข้าใจว่าคุณยอมให้มาสายได้ แต่มันไม่ใช่บริษัทคุณ และก็ไม่ได้มีแค่เด็กคุณที่ทำงานได้ดี คุณคุุมคนหยิบมือนึง คุมได้ แต่คนที่อยู่ข้างบนๆไปอีกเขาคุมคนอาจจะเป็นร้อยๆ หรือไม่ได้อยู่มอนิเตอร์ตลอด เขาไม่ได้คุมกันง่ายๆ แน่นอนเขาต้องการความเป็นระเบียบ ถ้าคุณยอมให้คนสองคนสายได้ อีกหน่อยคนที่อยู่แผนกอื่นก็ขอมาสายมั่ง แรกๆ15นาที ต่อไป ชั่วโมงนึง นานๆไปเวิร์คฟรอมโฮมเลย เขาจะต้องถอยเส้นของเขาไปเรื่อยๆ โดยทุกคนเอาหน่วยคุณเป็นโมเดล แล้วชี้มาว่าทำไมคุณทำได้ เราเอามั่ง ในเมื่องานเราก็ทำดีผลงานดี ก็สายมั่งได้

ถ้าจะมีมาตรฐานของตัวเองเลย คุณต้องไปบอกข้างบนอย่างเป็นทางการว่า ต่อไปนี้ยอมให่เด็กๆในหน่วยเข้าสายได้ ให้ข้างบนออกเป็นกฏเลย อย่าทำแบบไม่เป็นทางการ เพราะจะกลายเป็นว่าหน่วยคุณมีอภิสิทธิ์อยู่คนเดียว และแน่นอนคุณต้องอธิบายกับทุกคนให้ได้ว่าทำไมควรได้รับสิทธิพิเศษ

งานแรกของผมก็มีเรื่องประมาณนี้ แต่ก่อนผมจะเข้านะ คือปกติโรงงานที่ผมทำมันมีหลายที่ หน่วยงานแบบเดียวกัน ก็จะทำงาน 6 วัน เลิกงาน 5 โมงมั้ง แต่หัวหน้ารุ่นก่อนๆเขาไปขอข้างบน ก็มีเหตุผลแหละ ให้โรงผมเฉพาะหน่วยผมทำ 5 วัน แต่เลิกงาน 6 ครึ่ง ซึ่งก็ได้ คงเพราะตัวงานมีความต่างกับที่อื่นเล็กน้อยและหลายๆอย่าง ไม่งั้นคนก็จะหาว่าพวกผมฟันโอทีบ้าง ไรบ้าง แต่ก็แลกด้วยการได้หยุดซักผ้า 2 วัน / สัปดาห์ สรุปก็คือมีอำนาจในมือก็อย่าตัดสินเองโดยไม่ดูรอบๆข้าง ทำอะไรให้มันเป็นทางการ เราไม่ได้อยู่คนเดียวและเราก็ยังต้องเป็นตัวอย่างให้คนอื่นทั้งดีและไม่ดี

ผมเจอแบบเดียวกันเลย แต่ต่างกันตรงที่ผมมาทำงานเช้ามาก เคยไปสายอยู่วันเดียวเพราะรถติดเกินเหตุ ส่วนลูกน้องก็มีทั้งพวกมาเช้า และมาสายประจำ ซึ่งพอเรามาเช้า ลูกน้องก็จะเกรงใจส่วนนึง แต่ผมพูดตอนประชุมแผนกไปแล้วว่า ผมไม่ติดนะเรื่องเข้าสาย แต่ผมขอให้รับผิดชอบงานของตัวเอง ทำผลงานให้ดี แล้วช่วยทีมด้วย อย่างอื่นปลีกย่อยมาคุยกัน แต่การที่ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ มันคนละเรื่องกับกฎของบริษัทที่จำนวนครั้งของการเข้างานสายมีผลต่อโบนัสและการปรับเงินเดือน ไอ้พวกนั้นผมช่วยไม่ได้ เพราะมันเป็นกฎบริษัท สิ่งที่ผมทำได้ก็ทำเต็มที่ มี HR มาวอแว ผมก็ออกหน้าให้ บางเรื่องก็ให้มาจบที่ผมเอง ลูกน้องไม่รู้เรื่องหรอก

มันเป็นเรื่องของวัยอ่ะ จริงๆ นะ บางคนยังชอบไปสังสรรค์ ดื่มเหล้า รุ่งขึ้นก็มาทำงานสาย อันนี้ผมก็บอกไปบ้างว่าเบาๆ หน่อย แต่งานน้องมันไม่เสียก็โอเค ลูกน้องบางคนก็เป็นคุณแม่ลูกเล็ก ลูกไม่สบายมั่ง ไปงานโรงเรียนมั่ง ก็ต้องว่ากันไปตามเคส ผมไม่เหมารวมหรอก ดูความตั้งใจเป็นหลัก

กรณี HR แขวะท่านในเฟส ถ้าผมโดน ผมไม่สนใจนะ เพราะเขาก็ทำหน้าที่เขา เขาไปแขวะในเฟสก็เรื่องของเขา ก็แค่ไม่สนิทใจจะคุยเล่นด้วยแค่นั้น ต่างคนต่างอยู่ไปแค่นั้นเอง

ผมก็เคยเป็น hr ตอนทำงานที่บริษัท ที่บ้าน ส่วนตัวเปนผม ผมเชิญออกทั้งทีมแน่ๆ 170วัน

เป็นบริษัทผม คนแบบคุณผมคงเรียกคุยแน่ๆล่ะ ปีนึงมาสาย 170 วันนี่มันมากเกินไป ถ้าสายแล้วประเมินต่ำๆผมคงเฉยๆนี่ได้ประเมินระดับสูงด้วย ในฐานะผู้บริหารหรือ HR ผมจะไปตอบทีมอื่นว่าไงเวลาเขามาถามว่าทีมนี้มาสายทุกวันแต่ได้ประเมินดีๆตลอด คุณจะอ้างว่าเก่งอะไรฟังไม่ขึ้นหรอกครับ ระบบริษัทมันมีคนมาแทนได้เสมอ คุณควรปรับปรุงตัวนะอย่างที่ HR เขาด่าน่ะสมควรแล้ว แต่ HR ทำไม่ถูกตรงไม่พูดกับคุณตรงๆ

ส่วนตัวผมไม่สนใจนะ ตราบเท่าที่งานดี ลูกค้าโอเค ก็ควรได้รางวัลเล็กๆน้อยๆบ้าง สาย15-20 นาที ถ้าไม่กระทบอะไรใคร ผมไม่ซีเรียส การ้ดินทางไปทำงาน ในประเทศไทยเป็นยังไงก็รู้ๆกันอยู่ ยิ่งงานดีไซน์ เครียดเรื่องงานพอ ไม่ต้องมาเครียดเรื่องเดินทาง ว่าจะสายหรือมาทันมั้ย

บ.ผม คนที่ได้พนักงานดีเด่นปีล่าสุด ยังสายแทบทุกวันเลยแต่ในเวลางานพี่แกโหดจริง แต่เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยซีเรียสถ้าสายนิดๆหน่อยๆ

มันจะมีบางทีมที่งานไม่ค่อยมี value แต่เน้นการมาเช้า ไม่สาย เป็นตัวตั้งต้นในการโวยวายแหละครับ

แต่ถามว่า 170 วันมันก็มากไปแหละ

บริษัทท่านใจดีมากนะ สายระดับนี้บริษัทผมเอาออกไปละ เมื่อก่อนผมก็สายบ้างนะแต่เต็มที่ทั้งปีก็ไม่เกิน30วันเฉลี่ย 3-5นาที ก็ว่าเยอะมากแล้วนะโดนตัดคะแนนกระจาย

ผมเข้าในความคิดท่านนะ ตามที่ท่านอธิบายเลย
แล้วก็เข้าใจในมุมของ HR ด้วย
ตัวผมเองก็เป็น manager ต้องประเมินและออก KPI ให้ลูกน้องเหมือนกัน
แต่ต่อให้องค์กรท่าน จะมี policy ที่ไม่เหมือนองค์กรอื่นๆทั่วไปยังไงก็แล้วแต่นะครับ
สำหรับผมแล้ว มันดูไม่ดีเอามากๆในการที่ระดับ management จะมาสาย 170 วันเนี่ย ต่อให้จะผิดหรือไม่ผิดกฎบริษัทก็ตาม

ในส่วนเรื่องการประเมินให้ลูกน้องในทีม ผมเองก็ไม่เคยให้A กับลูกน้องคนเดิมๆแบบท่านหลายๆปีติดต่อกันเลย
คนนี้ความสามารถดี แต่มาสายประจำ หน้าที่เราก็ต้องคอยตักเตือน ให้เค้าดีขึ้น ไม่ควรปล่อยไว้ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
อีกคน performance ไม่ถึง แต่มีความรับผิดชอบในชีวิตหน้าที่การงานตัวเอง ก็เป็นหน้าที่เราเช่นกัน ที่จะอบรม training ให้เค้าเพิ่ม skill ขึ้นมาให้ได้
เพราะฉนั้นมันจะมีการ challenge กันในทีมอยู่ตลอดเวลา โดยที่ team work ไม่เสียด้วย

โปรดใช้วิจารณญานของท่านเองละกัน ว่าท่านจะดำเนินต่อไปอย่างไร

ปล.ผู้ใหญ่ไม่พูด ไม่ใช่ว่าเค้าไม่คิดไม่มองนะ เตือนด้วยความหวังดีครับ

บางที เขาอาจไม่พอใจ
ลูกน้องท่านเป็นการส่วนตัว

ซึ่งถึงแม้กับท่านไม่มีไรกัน
แต่คนที่เขาไม่ชอบ ดันได้
ดีกับท่าน เขาเลยอาจพาล
ไม่ชอบท่านไปด้วย...

อันนี้ คาดเดาจากคำพูด
ที่เขาโพสต์ในเฟสนะครับ
มันค่อนข้างแฝงความขุ่น
เคืองเป็นพิเศษ

ปีนึงมี 52 สัปดาห์ หยุดสัปดาห์ละ 2 วัน (เสา-อาทิตย์) = 104 วัน แสดงว่าวันทำงานจริงๆจะมี

365 - 104 = 261 วัน ไม่รวมนักขัตฤกษ์ คุณสายไป 170 วัน คิดเป็นประมาณ 60-70 % ของวันทำงานทั้งหมด

อาการหนักครับ ไอ้ที่ท่านคิดว่าไม่เป็นไร ประเทศที่เจริญแล้วเค้าซีเรียสเรื่องตรงต่อเวลา มากกว่าไทย

หลายเท่าครับ ไม่แปลกที่จะโดนด่า ส่วนเหตุผลที่สายคืออะไรครับ ถ้าลักษณะงานเป็นพวกสาย dev

ที่ต้องคอยแก้งานฉุกเฉิน ดึกดื่น ทำงานล่วงเวลา ทำให้นอนดึก แล้วมาสายอันนี้ผมว่าโอเคเข้าใจได้

แต่ถ้าสายเพราะ ทำจนเป็นความเคยชิน โนสน โนแคร์ ถ้าคิดจะมาทันก็ทำได้ไม่ลำบาก แต่ไม่อยากทำ

อันนี้ผมว่าใช้ไม่ได้ครับ

HR งานหลักของเขาคือแลดูบุคคลากรในองค์กร

มุมมองเข้า ก็ต้องตามกฎระเบียบที่ บ. ตั้ง จะนอกเหนือไปจากนี้ไม่ได้ เขาอยากให้ทุกคนอยู่ในเกณฑ์ที่เท่าเทียมกันไม่มีลำเอียง


เจ้าของกระทู้ = งานหลักคือขายของหรือผลิตของส่งให้ลูกค้า เป็นคนหาเงินเข้า บ.
คุณก็คงคิดแค่ว่างานหลักไม่เสีย ก็โอเคแล้วนิ เราจะเข้างานกี่โมง ทำงานนอกสถานที่ ก็เรื่องของเรา มีความรับผิดชอบงานออกมาดี หาเงินให้บริษัทได้ก็น่าจะเพียงพอ

ส่วนตัวผมเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ งานเป็นที่ 1 มีความรับผิดชอบในงานที่ดูแลก็เพียงพอแล้วมันคือ Work Life Balance แต่ต้องระวัง มันต้องมาตรฐานเดียวกันทั้งทีมอะ หรือถ้าจะทำก็อย่าให้คนนอกทีมรู้ ไม่งั้นคนอื่นจะมองไม่ดีได้