[RE: เพิ่งเข้าใจว่าการทำงานกับคนมันเหนื่อยกว่างานที่หนักอีกนะครับ]
Noel Wong พิมพ์ว่า:
ผมมองว่า ตัวท่านก็มีปัญหานะ ไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าท่านทำงานในลักษณะลูกแหง่มากเลยนะ
จากที่อ่านๆมา ท่านไม่ได้พูดถึงเนื้องานเลยนะ ชี้ประเด็นว่า เขา"ไม่ตอบ"ท่านซะส่วนใหญ่
ผมกลับมองว่า ท่านทำงานมาเกือบ 1 ปีแล้ว ระยะเวลาขนาดนี้ ความคาดหวังจากบริษัทคงไม่ใช่แค่ลูกแหง่ที่ต้องมีคนคอยตอบ คอยประคองตลอดเวลาแล้ว
ส่วนตัว ถ้าผมมีลูกน้องทำงานมานานขนาดนี้ ผมคงคาดหวังที่จะมอบหมายงานไปและได้งานที่มีประสิทธิภาพกลับมาล่ะ
ซึ่งงานที่มีประสิทธิภาพ คงมาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความกล้าแสดงความเห็น กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ซึ่งในจุดนี้ ท่านไม่ได้กล่าวถึงนะ ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ชี้ประเด็นไปที่ ท่านถามหัวหน้า(รุ่นพี่)แล้ว เขาไม่ตอบ
โดยส่วนตัว ถ้าผมต้องมีลูกน้องที่เป็นลูกแหง่ ไม่มีความคิดริเริ่ม ไม่มีความกล้า ไม่มีความมั่นใจในการตัดสินใจ ต้องคอยประคบประหงม เป็นเด็กเล็กๆแบบนี้ ทั้งๆที่ทำงานมานาน ผมก็ไม่ตอบครับ กลับกันคือปล่อยตามยถากรรมเลย เพราะเหนื่อยแน่ๆในการจะพัฒนาคนให้ก้าวหน้าต่อไป ซึ่งคนในลักษณะนี้ต้องเรียนตามตรงว่าพัฒนายาก
วิธีแก้สำหรับเรื่องนี้ในมุมมองของผมคือ พัฒนาตัวท่านเองก่อน ท่านมีศักยภาพ มีความคิด มีความกล้าตัดสินใจ มีความเป็นผู้นำ ผู้ริเริ่มแค่ไหน แสดงออกมาให้เห็นก่อน
ขออภัยนะ...ถ้าเป็นผู้ชาย แต่ยังต้องเป็นลูกแหง่ ถามทุกอย่าง โดยไม่หันกลับไปมองตัวเองก่อน ก็อย่าไปโทษเขาเลยครับ เขาเป็นแค่รุ่นพี่/หัวหน้า ท่านเป็นแค่ลูกน้อง ไม่ใช่ลูกเขาครับ ท่านจำเป็นจะต้องยืนบนขาตัวเองให้ทุกคนเห็นก่อน ไม่ใช่มองปัญหาจากรอบข้างก่อน
ขออภัยที่อาจจะคอมเม้นท์แรงไปครับ
จุกแต่จริงครับ มันน่าจะเริ่มที่ตัวผมเองด้วย ผมก็มองตัวเองนะครับที่โดนเรียกไปตักเตือนผมไม่ดีหรือเพื่อนร่วมงานแย่ ผมพยามแอคทีฟทำหน้าที่ของตัวเองครับยืนด้วยลำแข้งตัวเองผมอาจจะเป็นลูกแหง่ไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ท่านว่าจริงๆก็ได้ ผมจะพัฒนาตัวเองครับโดยไม่ถามเขาในเรื่องง่ายๆที่เราก็ต้องกล้าคิดกล้าตัดสินใจ ขอบคุณท่านมากครับทำให้ผมเห็นแนวคิด ไม่ใช่โทษนั่นโทษนี่เราต้องดูตัวเองด้วยว่าไม่ดีจริงหรือเปล่า ทรรศนะคติดีมากครับ