สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 15 : มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์
สวัสดีเพื่อนๆชาว ss นะครับ ช่วงนี้ว่างเลยมีเวลาเขียนและรวบรวมบทความบ่อย มาถึงตอนที่ 15 แล้วนะครับ บุคคลในวันนี้ที่จะนำมาให้อ่านคือ "มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์" ชื่อดูอ่านยากๆหน่อย หลายคนคงไม่รู้จักว่าเขาคนนี้คือใคร แต่ถ้าใครรู้จัก "นโปเลียน โบนาปาร์ต" มหาวีรบุรุษของฝรั่งเศษและได้ลองอ่านบทความนี้จนจบ ก็คงจะนึกได้ลางๆนะครับ
มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์
มักซีมีเลียง ฟร็องซัว มารี อีซีดอร์ เดอ รอแบ็สปีแยร์ (ทำไมชื่อมันยาวจังฟะ!!) 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2301 - 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2337 เป็นอดีตประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะที่ตั้งขึ้นเพื่อสอดส่องดูแลความมั่นคงปลอดภัยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 1 ช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งประธานของคณะนี้มีอำนาจจับกุมและสั่งประหารชีวิตผู้คนได้
มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค 1758 เมืองอารัส แคว้นนอร์ปาดกาแล ประเทศฝรั่งเศษ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะ ต่อมาก็ได้เข้าเป็นผู้นำของกลุ่มฌากอแบ็งและเป็นผู้ที่กล่าวหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส และพระนางมาลี อ็องตัวเนตว่า ได้ทรงกระทำการในสิ่งที่เป็นการขายชาติ ทั้งยังเรียกร้องให้ประหารชีวิตทั้งสองพระองค์อีกด้วย
เรื่องทั้งหมดเริ่มด้วยเพราะมีกระแสในเรื่องมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ไม่ใย่ดีประชาชนปล่อยให้อดตาย โดยในปี 1788 เกิดความแห้งแล้งขาดแคลนอาหารมากนับว่าเป็นอีกครั้งในรอบ 60 ปี ขนมปังจึงมีราคาสูงขึ้นทำให้เกิดการกักตุนอาหาร คนต้องใช้รายได้ทั้งเดือนมาหาซื้อขนมปังในวันเดียว ทำให้เกิดจลาจลขึ้นทั่วไปเพื่อปล้นขนมปัง มักซีมีเลียง ไม่พอใจที่พระเจ้าหลุยส์ไม่ยอมทำอะไรนอกจากจ้างรัฐมนตรีการคลัง ด้วยเงินหลายสิบล้าน เพื่อยื้อชีวิตประเทศต่อไปได้อีกวัน เป็นเวลาไม่นานนัก ฝรั่งเศสก็ถูกแทรกแทรงโดยประเทศใกล้เคียง คือ รัสเซียและสเปน
แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2332 (ค.ศ. 1789) มักซีมีเลียงได้นำฝูงชนฝรั่งเศษกลุ่มใหญ่ยกขบวนประมาณ 800 คนไปที่คุกบาสตีย์ (Bastille) ซึ่งใช้เป็นที่ขังนักโทษการเมืองเข้าฆ่าทหารในคุกด้วยมีดและหอก และนำหัวของผู้คุมคุกมาเสียบประจานบนหอก เขาจึงกลายเป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง ในวันต่อมา แมกซิมิลเลียน กับแนวร่วมได้ประกาศการปฏิวัติฝรั่งเศส การบุกคุกบาสตีย์ ทำให้การปฏิวัติไม่มีการหันหลังกลับ แต่เป็นการปลดปล่อยประชาชนออกจากอดีตและเป็นการโค่นล้มทรราช ประชาชนทำการพังคุกนี้ด้วยมือเปล่า ขนหินแต่ละก้อนออกมาเพื่อทำลายสัญลักษณ์แห่งการกดขี่ข่มเหงทั้งมวล ฝรั่งเศสเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ประเทศอื่น ๆ ต่างคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัตินี้และพยายามกดขี่ข่มเหงฝรั่งเศส
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้มีกฎหมายชื่อว่า คำประกาศแห่งสิทธิของมวลมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยหลักการสำคัญ 3 ข้อที่เป็นอุดการณ์ของการปฏิวัติฝรั่งเศส คือ เสรีภาพ (liberty) เสมอภาค (equality) และภราดรภาพ (fraternity) ในเวลาต่อมาพวกซองกูลอตถือว่าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตจำนวนมากของชาวฝรั่งเศสที่พระราชวังตุยเลอรี พระเจ้าหลุยส์สที่ 16 จึงถูกประหารด้วยกิโยตีนเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 1793 สมัยปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นเมื่อมีการออกกฎหมายเดือน มิ.ย. 1794 ระบุว่าศัตรูของประชาชนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลปฏิวัติแห่งกรุงปารีส และถูกพิพากษาตามความพอใจของคณะลูกขุนมากกว่าหลักฐานอื่นใด จำเลยจะไม่ได้รับสิทธิของคำปรึกษา แก้คดีและคำตัดสินก็มีเพียงให้ปล่อยตัวหรือให้ประหาร
ดังนั้น ต่อมาใน พ.ศ. 2336 รอแบ็สปีแยร์ก็ฉวยโอกาสตอนตนกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังและช่วงที่ฝรั่งเศสกำลังถูกคุกคาม เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะ เขาจึงได้กลายเป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง ในเวลาปีเดียว เขาจับกุมและประหารผู้คนนับพัน ๆ ตั้งแต่ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงความผิดอุกฉกรรจ์ หรือแม้แต่การใส่ร้ายใส่ความโดยรอแบ็สปีแยร์ ต้องถูกประหารโดยเครื่องประหารกิโยตีน เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม แต่คนอื่น ๆ เรียกช่วงเวลาที่รอแบ็สปีแยร์อยู่ในตำแหน่งว่า สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว ศัตรูจึงขนานนามเขาว่า ดิกตาเตอร์ซ็องกีแนร์ หรือเผด็จการกระหายเลือด
ภายใน 9 สัปดาห์ที่ใช้กฎหมายที่ชื่อว่า คำประกาศแห่งสิทธิของมวลมนุษย์นี้ จำนวนพลเมืองที่ถูกศาลปฏิวัติตัดสินประหารมีจำนวน 1,600 คนสตรีถูกข่มขืนอย่างทารุณ การกระทำนี้ถูกประณามไปทั่วยุโรป คณะปฏิวัตินำโดย นำโดยรอแบ็สปีแยร์ ได้มีการสังหารหมู่กบฏและพระนับร้อยนับพันคน ฝรั่งเศสจมลงสู่ก้นบึ้งความสิ้นหวัง แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดซะทีเดี่ยว เพราะในความมืดยังมีแสงสว่างอยู่ที่กำลังมาเพื่อปลดปล่อยผู้คนอยู่ และในที่สุดอัศวินขี่ม้าขาวก็ปรากฏตัวขึ้นนามนั่นคือ "นโปเลียน โบนาปาร์ต"
กองทัพฝรั่งเศสนำโดยนายทหารชื่อ นโปเลียน โบนาปาร์ต ขับไล่อังกฤษออกไปได้ และได้เขาทำศึกกับคณะปฏิวัติถึง 3 ครั้ง และในที่สุดเขาได้ทำให้สงครามสงบลง 5 กุมภาพันธ์ 1794 รอแบ็สปีแยร์ และคนสนิทผู้นำในการต่อสู้ป้องกันประเทศถูกจับกุมและถูกประหารเป็นพันคน
รอแบ็สปีแยร์พยายามฆ่าตัวตายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ถูกจับได้ก่อน ต่อมาจึงถูกประหารด้วยเครื่องกิโยตินในวันที่ 28 ก.ค. 1794 ก็นับเป็นการสิ้นสุดสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว หลังจากนั้นอีก 5 ปีอำนาจได้ตกมาสู่นโปเลียน โบนาปาร์ต การปฏิวัติจึงสิ้นสุดลง และทำให้ฝรั่งเศสเข้าสู่ยุคสมัยที่เข้มแข็งที่สุด
รอแบ็สปีแยร์ เป็นผู้นำ "ความเลวร้าย" มาทำให้คนกว่า 1,285 คน ถูกส่งไปที่กิโยตินในเวลาเพียงหกสัปดาห์ นั่นก็ราวๆ 1 คน ในทุก 20 นาที!!!
Credit : Wikipedia และ
http://warriorsl3740.blogspot.com/2014/05/blog-post_25.html
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 14 : เอ็ดเวิร์ด ทีช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1208107
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 13 : โอดะ โนบุนากะ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1206624
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 12 : ซาร์ อิวาน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1206143
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 11 : กิลส์ เดอ เรยส์
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1188908
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 10 : ฟรานซิสโก ปิซาร์โร
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1184080
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 9 : วลาด ดรากูล
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1183485
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 8 : คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1183322
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 7 : ติมูร์มหาราช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182902
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 6 : เจงกิสข่าน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182420
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 5 : พระเจ้าเบซิลที่ 2
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182304
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 4 : บูเช็กเทียน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182134/1
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 3 : อัตติลา เดอะ ฮั่น
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1153400
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 2 : พระเจ้าเฮโรดมหาราช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152716
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 1 : กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152578
แผล่บในมือท่าน ช่วยให้กำลังผมได้มากเลยนะครับ ชอบยังให้ช่วยแผล่บให้ผมด้วยนะครับ แล้วผมจะขยันเขียนนำมาลงให้ท่านทุกคนอ่านนะครับ