เหตุการณ์รูนี่ย์โรนัลโด้บอลโลก2006
ณ Old Trafford วันที่ 20 สิงหาคม ปี 2006 วันแรกของฤดูกาล มีกระจกอยู่ใบหนึ่งวางอยู่บนที่นั่งของ Ronaldo ในห้องแต่งตัว ในช่วงเวลาที่ผมได้เล่นร่วมกับ Ronnie สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นได้จากตัวเขาก็คือ เขาไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นเวลาที่เขาเห็นตัวเองสะท้อนผ่านกระจกกลับมา แม้กระทั่งเวลาที่พวกเราใกล้จะลงเตะก็ตาม ทุกๆแมตช์ก่อนที่ทีมจะออกไปวอร์มอัพ เขาจะทำเหมือนเดิมอยู่เสมอ เขาจะสวมชุด ใส่รองเท้า จากนั้น Ronnie จะมองไปที่ภาพสะท้อนของเขา หยุดอยู่นิ่ง และปลุกไฟให้กับตัวเองก่อนจะลงเตะ
ถ้าจะมีใครซักคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากไปกว่า Ronaldo ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันนะ เขาไม่ใช่คนขี้อาย เขารักในเสื้อผ้าของเขา และทุกชุดที่เขาใส่นั้นมักจะราคาแพงมากๆ เห็นได้เลยจากโลโก้ที่มันวาวของ Dolce & Gabbana และ Armani แบรนด์ที่พวกคุณต่างก็รู้จัก เขาจะลงไปซ้อมโดยใส่ชุดพวกนั้น ดูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาต้องใช้เงินมากมายของเขาไปกับของในตู้เสื้อผ้าแน่ๆ
แต่สิ่งที่โรนัลโด้รักมากที่สุดก็คือฟุตบอล
ที่สนามซ้อม เขาบอกพวกเราว่าเขาต้องการจะเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่กับตัวเองเพื่อที่จะทำให้มันเกิดขึ้น ผมชอบทัศนคตินั้นนะ แต่เขานั้นไม่เหมือนกับผม เพราะผมอยากจะช่วยให้ทีมชนะมากกว่าจะได้รางวัลส่วนตัว แต่ถ้าการที่ Ronnie ต้องการจะเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก และมันช่วยให้ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคครั้งแรกตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ละก็ ผมก็โอเคกับมัน
ความทะเยอทะยานของ Ronnie นั้น ไม่ใช่แค่การคุยโว ในห้องแต่งตัวที่แคร์ริงตัน ก่อนฤดูกาล 2006/07 ผมสังเกตได้ถึงบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากตัวเขาในอดีต เขาตัวใหญ่ขึ้น เขากลับมาจากฟุตบอลโลกที่เยอรมันด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆและดูแข็งแรงมาก เหมือนกับว่าเขาใช้เวลาไปการเล่นเวทตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ในสนามตอนปรีซีซั่น เขาเริ่มที่จะลดทริคและลวดลายของเขาลง และหาทางทำให้เกิดผลลัพธ์มากขึ้น Gary Nev ก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกโรนัลโด้ทำลายโดยสิ้นเชิง ในช่วงที่เขาต้องมาร์คโรนัลโด้ระหว่างการฝึกซ้อม เขาบ่นพึมพำกับตัวเองทุกเช้าว่า เขาคงต้องเลิกเล่นเร็วกว่าเดิมแน่ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ต้องกังวลกับการประกบ Ruud ในการซ้อมแล้วก็ตาม เพราะ Real Madrid เซ็นเขาไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์แล้วนั่นเอง
ผมรู้อยู่หนึ่งสิ่ง การเปลี่ยนแปลงของโรนัลโด้นั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เขาทำงานอย่างบ้าคลั่งตลอดสัปดาห์ ต่างจากผู้เล่นหลายคนที่กลับบ้านทันทีหลังจากซ้อมเสร็จ แต่เขากลับอยู่ซ้อมต่อพร้อมกับถุงที่ใส่ลูกฟุตบอล เขาทำงานไปกับการฝึกฝนหลายอย่าง ทั้งฟรีคิก ลูกโหม่ง และลูกยิงไกล ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายไม่ได้รู้เกี่ยวกับเขา แฟนๆมักจะคิดว่าโรนัลโด้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่มากมาย ทุกๆอย่างมันดูง่ายสำหรับเขา ทุกคนคิดว่าเขาจะไม่ต้องฝึก อาจจะมีบางส่วนที่ถูก แต่การฝึกฝนอย่างหนักของเขานั้นก็ยิ่งช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเขาจริงๆ เมื่อผมดูเขาซ้อมหรือเห็นเขายิงประตูสวยๆในช่วงปรีซีซั่น ผมคิดนะว่า เขาจะสามารถกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกได้จริงๆ
ในตอนนั้น ก่อนจะเริ่มเกมแรกของฤดูกาลที่ Old Trafford เขายังคงทำเหมือนเดิมก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่ม เขาส่องกระจกและเตรียมพร้อมตัวเอง
เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะเขาระหว่างยืดเส้นยืดสาย จากนั้นเขาออกไปและยิงประตูที่สุดยอดในนัดที่พวกเราถล่มฟูแล่มไป 5-1 โดยนัดนั้นผมก็ยิงไป 2 ประตูด้วยเช่นกัน มันเป็นนัดเปิดสนามที่ดีที่สุดของยูไนเต็ดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และพวกเราก็ไม่ปล่อยให้ซีซั่นนี้หลุดมือไป
สิ่งที่บ้าก็คือ โรนัลโด้และผมไม่ได้ถูกคาดหมายว่าจะเล่นด้วยกันได้ หนังสือพิมพ์คิดว่าพวกเราจะเล่นด้วยกันไม่ได้เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างฟุตบอลโลกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่อังกฤษเจอกับโปรตุเกส โปรตุเกสของโรนัลโด้ ผมถูกเล่นงานจากกองหลังของพวกเขา ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และเผลอย่ำลงไปที่เท้าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันดูแย่ แต่จริงๆแล้วมันเป็นอุบัติเหตุทั้งหมด ในขณะที่ผมกำลังประท้วงว่าผมไม่ได้ทำอะไร Ronnie ก็ทำท่าโบกไม้โบกมือไปมาเพื่อบอกให้กรรมการแจกใบกับผม จากนั้นกรรมการก็ควักใบแดงออกมา ผมถูกไล่ออก
ไปอาบน้ำก่อนเพื่อน
และทัวร์นาเมนต์ก็จบลง
ตอนที่ผมเดินไปที่อุโมงค์ ผมรู้ว่าผมไม่สามารถโทษโรนัลโด้ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาพยายามทำให้ประเทศของเขาชนะ นอกจากนี้ในครึ่งแรกผมก็พยายามทำให้เขาโดนใบด้วยเช่นกันจากการพุ่งล้ม ดังนั้นผมเองก็แย่พอๆกับเขา แต่เพราะหลังจากผมโดนใบแดง โรนัลโด้ขยิบตาให้กับผม มันทำให้คนที่กำลังดูเกมนี้อยู่บนหน้าจอทีวีรู้สึกแย่มากๆ เหมือนกับเขาภาคภูมิใจสุดๆที่ทำมันได้สำเร็จ
และเพราะเหลือ 10 คน อังกฤษจึงตกรอบ ทุกอย่างดูพังไปหมด และทุกคนก็ตัดสินว่ามันเป็นเพราะโรนัลโด้ และผมก็เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขา การขยิบตาของเขานั้นจะทำให้เกิดอุปสรรคกับยูไนเต็ดในเดือนข้างหน้าแน่ๆ ผมรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นผมจึงเดินเข้าไปคุยกับเขาหลังจบเกม
“แฟนๆจะต้องเป็นบ้ากับเรื่องนี้แน่ๆ” ผมพูด “พวกเขาจะต้องพยายามโย่งนู่นโยงนี่ ดังนั้นพวกเราแค่ต้องทำตัวตามปกติต่อไป เพราะทุกคนคงจะพูดถึงมันตลอดซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน”
เขาเข้าใจดี เขาเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก แต่ไม่นานหลังจากนั้น หนังสือพิมพ์ก็โยงเขาเข้ากับรีลมาดริด ซึ่งชัดเจนว่าผมไม่ได้คุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ความจริงแล้ว ผมชอบโรนัลโด้นะ เขาเป็นเพื่อนที่ดี การมีเขาอยู่ในห้องแต่งตัวนั้นเยี่ยมมากๆ และผู้จัดการทีมก็รู้ดีว่า พวกเราทั้งคู่ต่างก็โอเค เขาไม่ได้ให้พวกเรานั่งปรับความเข้าใจกันเมื่อพวกเรากลับมาถึงในวันแรกของปรีซีซั่น มันไม่มีความจำเป็นเลย เขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งสองคนต่างก็แยกแยะได้