ตอนแรกว่าจะแปลแค่บางส่วนแต่มันต่อเนื่องกันเลยแปลเกือบหมดเลย ยาวมาก
ตัดออกไปแค่ไม่กี่อัน เครดิทด้านล่างน่ะ รอบนี้นักข่าวถามได้ดีมาก ลองอ่านแล้วทำความเข้าใจกับฟุตบอลสไตล์ชาบีดูครับ มีพูดถึงนักเตะของ บาร์ซ่า(อันนี้แน่นอน) มาดริด(นอนแน่เหมือนกัน55) ซิตี้ ปารีสและบาเยิร์น
นักข่าว: คุณคิดว่าบาร์ซ่าภายใต้การคุมทีมของเป๊บเป็นตัวการที่ทำให้สิ่งต่างๆมันยากขึ้นไปหรือเปล่าโดยเพราะเรื่องพื้นที่ๆมันเล็กลงไปเรื่อยๆ
ชาบี: ใช่เลย คือแทคติคนะใครๆก็รู้กันหมดแหละ แต่เป๊บใส่ใจกับรายละเอียดมากเป็นพิเศษ เขาควบคุมแทบทุกอย่าง ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยต้องมาฝึกป้องกันลูกทุ่มเลยนะ แต่กับเป๊บ เขาจะคอยบอกคอยสอนให้หมดเลย เราจะยืนป้องกันได้ดีจนฝั่งตรงข้ามคงคิดในใจ"เห้ย อะไรว่ะ ที่จะทุ่มเข้าไปยังไม่มีที่เลย" เห็นมั้ยเป๊บควบคุมได้ทุกอย่างแหละ แล้วเกิดอะไรขึ้นน่ะหรอ ก็มีคนศึกษาและลองทำตามดูไง ตัวอย่างก็เลิฟที่ศึกษาและวิจัยแทคติคจากเราแล้วเอาไปใช้ แต่ก็มีบางคนที่ทำตรงข้ามกันน่ะ ซิเมโอเน่ไง เขามีนักเตะเก่งๆอย่างโกเก้ไงที่ถอยต่ำลงมาป้องกัน ปิดช่องว่าง ไม่ให้คู่ต่อสู้ช่วงชิงความได้เปรียบ
ฟุตบอลมันมาไกลมากแล้วทั้งในด้านร่างกายและแทคติค อย่างเดียวที่ยังไปได้ไม่ไกลก็คือเรื่องของเทคนิคและความเข้าใจ เข้าใจสิ่งต่างๆว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น จะบุกยังไงรับยังไง นั่นแหละเขาเรียกความสามารถ!! ซึ่งตรงนี้เนี่ยยังไม่ได้พัฒนากันมากมาย เพราะในวงการเนี่ย มันค่อนไปทางโชโล่มากกว่าแบบเป๊บ
คุณลองดูในพรีเมียร์ลีคสิ มีกี่ทีมที่เล่นแบบเป๊บ? 3หรือ4ได้มั้ง ส่วนที่เหลือกว่า70% เล่นแบบโชโล่กัน เหมือนในลาลีก้าเด็ะเลย แล้วก็มาอ้างว่า"เห้ยจะให้ไปบุกใส่บาร์ซ่าได้ไง ไม่ไหวหรอก" แต่พอเจอเลกาเนสเอ็งก็ทำแบบเดิมอยู่ดี!!
นักข่าว: ทีมที่เน้นการครองบอลมักจะเจอปัญหาคอขวดกันทั้งนั้น ผู้เล่น22คนในพื้นที่ 50เมตร คุณจะแก้ปัญหาซ้ำๆซากๆแบบนี้ยังไง?
ชาบี: เราฝึกเรื่องนั้นมาตั้งแต่2008แล้วน่ะ หรือแม้แต่ในยุคเอ็นริเก้ ซ้อมกันในระยะ2ไลน์(ราวๆ15-20เมตร)แล้วให้4คนเล่น มีคนนึงไปประกบตัวขึ้นบอลไว้(pivot) ทีี่ห้ามทำก็คือจ่ายขวางสนามแบบปกติ(ขยายความ - เป็นกฎที่ตั้งไว้ตอนซ้อม) แต่ให้เปลี่ยนไปจ่ายไลน์ที่ี2หรือ3แทน(ขยายความ - มันคือการจ่ายตัดไลน์นั่นแหละ) เราซ้อมกันเยอะเลยเรื่องยืนตำแหน่ง เจอ9คนลงไปรับเราก็ต้องให้เซ็นเตอร์ฝั่งเราขึ้นมาด้วย แล้วก็มีการซ้อมก็บบอลไว้กับตัวในพื้นที่แคบๆ อีกอย่างที่สำคัญก็คือการฝึกจับบอลแรก ถ้าจับบอลแรกดีคุณจะมีช่องให้หนีตัวประกบ สัก2-3เมตรก็ช่วยได้เยอะแล้ว
นักข่าว: มาพูดถึงซิตี้กันหน่อยดีกว่า มันแปลกมากเลยนะ พวกเขากำลังไล่ทำลายสถิติกันอย่างเมามันทั้งๆที่ไม่มีกองหน้าตัวเป้าหรือกองกลางแบบทั่วไป เดอบรอยเป็นปีก(ขยายความ - เดาว่าน่าจะหมายความว่าเป็นกลางตัวริมเส้นมากกว่า) ส่วนซิลบาก็เป็น"mediapunta"(มันคือ amหรือกลางตัวรุกนั่นแหละ ซึ่งเป็นตำแหน่งธรรมชาติของซิลบา) เป๊บทำยังไงถึงเปลี่ยน2คนนี้เป็นcmได้ล่ะ?
ชาบี: พวกเขาปรับตัวได้น่ะสิ 2คนนี้เป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพอยู่แล้ว พวกเขารับบอลได้ทุกทิศทางแล้วยังสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งสนาม แล้วด้วยสไตล์ของกวาร์ดิโอล่าจะมีปีกธรรมชาติอย่างซาเน่ แต่ซาเน่เล่นด้านในไม่ได้หรอกเขาทำตัวไม่ถูกเวลาไม่มีพื้นที่ให้เล่น แต่เมสซี่ อิเนียสต้า เดอบรอย ซิลบา หรือกุนโดกาน แม้กระทั่งสเตอริ่ง(ในกรณีที่จำเป็นต้องทำจริงๆ) พวกนี้เนี่ยสามารถเข้าไปเล่นตรงกลางได้ แต่ซาเน่ทำไม่ได้ ยังไงเขาก็ต้องมีพื้นที่ให้เล่น เหมือนเบลหรือ cr7นั่นแหละ พวกนี้ถ้าเข้าไปยืนกลางก็คงทำได้ไม่ดี, เดอบรอยและซิลบาทำได้ดีมาก
โดยเฉพาะซิลบา มันเหมือนเราได้ค้นพบซิลบาคนใหม่เชียวล่ะ
นักข่าว: คุณพูดเรื่องการจำลองการสร้างสรรค์โอกาสไป จริงๆแล้วมันทำยังไงล่ะ?
ชาบี: ใช้Rondoสิ(ลิงชิงบอล) คุณอาจจะมองว่ามันเอาไว้เล่นสนุกๆ แต่จริงๆแล้วมันเป็นการฝึกที่ดีมากเลยล่ะ คุณล่อให้ลิงเข้ามาแล้วก็จ่ายไปอีกฝั่งหรือจ่ายตัดไปเลย มีวิธีมากมายเต็มไปหมด มันสร้างความเป็นไปได้แบบไม่รู้จบเชียวล่ะ มันบังคังให้คุณต้องมองไปรอบๆ หาตัวที่ว่างอยู่ให้เจอ ที่บาร์ซ่าเราเข้าใจคอนเซ็ปเรื่องช่องว่างและจังหวะเวลาเป็นอย่างดี พวกที่เก่งมากๆน่ะหรอ? มี3คน เมสซี่ อิเนียสต้า บุสเก็ต ไอ้พวกนี้มันบรรลุแล้ว(ฮา) พวกเขารู้ว่าต้องทำยังไงเวลาโดนล้อม แล้วก็มีกองกลางแบบคาเซมิโร่ที่คงไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้เหมือนบุสเก็ต แต่ในขณะเดียวกันบุสเก็ตก็ทำแบบที่คาเซมิโร่ทำไม่ได้เหมือนกัน มันเหมือนเหรียญสองด้านอะไรประมาณนั้น
คาเซมิโร่ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะเขาไม่เคยฝึก ถ้าเขาได้ฝึกตั้งแต่เด็กเขาอาจจะทำได้
ทำไมโครสทำได้? เพราะที่เยอรมันเขาก็ฝึกเหมือนกันน่ะสิ เช่นเดียวกับติอาโก้ที่ฝึกกับบาร์ซ่ามา อ่ามีเรื่องเซอร์ไพรส์อย่างนึงตอนผมเจอซานติ กาซอล่า ผมถามเขาว่า"ไปเรียนมาจากไหนเนี่ย"เขาบอกว่าเรียนจากหลายที่เลยทั้งAviles,Oviedoแล้วก็Recre - อีแบบนี้ไม่ใช่ล่ะ แบบนี้เขาเรียกพรสววรค์ตั้งแต่เกิด
ผมถามตัวเองทำไมบาร์ซ่าไม่ไปซื้อเขามาซะ เขาเข้าใจสไตล์ของบาร์ซ่าอยู่แล้ว เหมือนพวกซิลบา โครส โมดริช ทำไมบาร์ซ่าไม่ไปซื้อมาว่ะ? ไอ้พวกนี้แหละตรงสเปคเลยล่ะ ผมดูๆแล้วมีหลายคนเลยนะที่มาเล่นให้บาร์ซ่าได้สบายๆ อย่างฟิลิป ลาห์มเงี้ย หมอนี่มองเห็นทุกอย่างเลย!!!
นักข่าว: เป๊บเป็นคนนำเทรนด์เลยนะเรื่องการจับเอาฟูลแบ็คเข้ามายืนด้านในเสมือนกองกลางเนี่ย เช่น อลาบา ลาห์ม
ชาบี: มันก็เป็นเหตุผลทางฟุตบอลนั่นแหละ เป๊บมักจะหาพื้นที่ว่างเจอเสมอแหละ สมมุติว่าต้องแข่งกับเลบานเต้ ง่ายๆเลยนะ แบ็คของเขาจะเป็นคนประกบปีกของคุณ เหมือนที่เบรสซาเคยทำประจำแหละ อะทีนี้คุณก็ให้แบ็คของคุณตัดในเข้าไปเลย ถ้าปีกเขายังตามมาก็จะทำให้เกิดพื้นที่ว่างไง ทีนี้เซ็นเตอร์คุณก็จะมีช่องให้จ่ายบอลไปให้ปีกคุณได้ ปกติจะทำแบบนี้ไม่ได้เพราะฟูลแบ็คคุณจะอยู่ใกล้ๆกับปีกของคุณ(ซึ่งแปลว่า ปีกของเขาที่ตามประกบแบ็คของคุณก็จะอยู่แถวนั้นด้วย/ขยายความ)
ถ้าคุณเอาแบ็คคุณเข้าใน จะมี1หรือ2อย่างเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างแรกถ้าปีกของเขายังตามประกบแบ็คอยู่ คุณก็จะมีช่องให้จ่ายออกข้างได้ แต่ถ้าปีกเขาไม่ตามประกบ ก็แปลว่าคุณมีตัวฟรีอยู่ด้านในตัวนึงให้เลือกใช้
เห็นมั้ย พื้นที่และจังหวะเวลาไง คุณจะปิดหมดไม่ได้หรอก คุณตามประกบ ก็จะเกิดเหตุการณ์นึง แต่ถ้าไม่ประกบก็เกิดอีกเหตุการณ์นึงแทน นี่ไงคุณสร้างความได้เปรียบขึ้นมาแล้ว
นักข่าว: จริงๆแล้วเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะเพื่อสร้างความสับสนให้ฝั่งตรงข้ามเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นกวาร์ดิโอล่ากับบาเยิร์นหรือทูเคิ่ลกับดอร์ทมุนด์ แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่ว่ามันเพิ่มภาระทั้งในด้านร่างกายและทางจิตใจให้ฝั่งตัวเองไปด้วยหรอ? คุณจะหลีกเลี่ยงมันยังไงล่ะ?
ชาบี: ผมไม่ได้มองแบบนั้นแหะ มันไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนตำแหน่ง มันเป็นเรื่องของความเข้าใจ
คุณไม่ได้สอนให้นักเตะเปลี่ยนตำแหน่ง คุณสอนให้เขาเข้าใจเกมต่างหาก สมมุติให้เปเล่กับมาราโดน่ายืนติดกันเลยตอนเล่น ห่างกันไม่ถึงเมตร แบบนี้ถ้าผมเป็นกองหลัง ผมคงเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกเลย แต่ถ้าพวกเขายืนห่างกันนัก15เมตร คุณจะทำยังไง จะปิดใคร พวกเขาสามารถจะจ่ายบอลให้กันชนิดที่ผมหาบอลไม่เจอไป3วันเลยก็ยังได้ ครัฟฟ์มักจจะพูดเรื่องนี้เสมอ มองไปที่สนามดีๆ ทำความเข้าใจซะว่าพื้นที่ว่างมันคืออะไร ถ้าอิเนียสต้าอยู่ตรงนี้ ก็แปลว่าผมจะอยู่ที่เดียวกันไม่ได้ ถ้าเขาโดนเพรสอยู่ผมก็สามารถจะช่วยรับบอลไปทำต่อได้ บาร์ซ่าได้เปรียบตรงนี้แหละ เราฝึกเรื่องแบบนี้กันมานานแล้ว
นักข่าว: สไตล์ของบาร์ซ่าเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการฟุตบอลไปเยอะเลย แล้วยังไงต่อล่ะ คลื่นลูกใหญ่ต่อไปจะเป็นอะไรล่ะ?
ชาบี: ........สติปัญญามักจะชนะพละกำลังเสมอ วันที่มันไม่เป็นจริงคงเป็นวันที่เกมส์ฟุตบอลน่าเบื่อและไม่สนุกอีกต่อไป เราต้องทำให้ผู้เล่นเข้าใจ คุณกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมต้องเข้าไปหาบอลให้ถูกจังหวะ? ทำไมเพื่อนร่วมทีมของคุณต้องยืนใกล้กับcbฝั่งตรงข้ามเพื่อให้คุณมีพื้นที่?
มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ1มันก็เกิด จำตอน2-6ไว้ด้วย(ขยายความ 2-6เป็นตัวแทนของเหตุการณ์ก่อนหน้า1) ทำไมเมสซี่สามารถโผล่มารับบอลระหว่างไลน์กองหลังได้? ก็เพราะอองรีกับเอโต้ยืนใกล้ๆกับcbและแบ็คฝั่งตรงข้ามไว้ แล้วพวกกองหลังก็ไม่สามารถจะวิ่งตามขึ้นมาประกบเลโอได้ ทั้งนี้ก็เพราะพวกเขากลัวไง กลัวว่าถ้าตามขึ้นมาประกบเลโอพวกเขาก็จะเปิดพื้นที่ด้านหลัง(บริเวณหัวกะโหลก) นี่ไงการสร้างความได้เปรียบ นี่คือสิ่งที่กวาร์ดิโอล่าและผู้ช่วยของเขาเคยวิเคราะห์ไว้เป็นอย่างดี เอ็นริเก้เองก็ด้วย คุณพยามจะช่วงชิงความได้เปรียบ หาช่องที่คุณจะจ่ายบอลได้...
นักข่าว: ตอนนี้คำว่าทางเลือก(option) ดูจะฮิตจนเป็นแฟชั่นซะเหลือเกิน โค้ชบางคนสามารถทำทีมให้ครองบอลได้ แต่พอพวกเขาทำได้ก็มักจะลองเพิ่มนู่นนั่นนี่ดู เหมือนอย่างที่หลุยส์ เอ็นริเก้หรือโลเปเตกีทำหลังจากที่พวกเขานำอยู่ ใช้ความได้เปรียบจากตรงนั้นแล้วหันไปครองบอลในแดนตัวเองเสีย ทิ้งพื้นที่ฝั่งตรงข้ามไปโดยใช้การโยนยาวแทน มันเหมือนจะปลอดภัยน่ะ แต่ไอ้แบบนี้มันจะไม่อันตรายหรอ เอา2อย่างมาผสมรวมกันแบบนี้("languages")
ชาบี: ............
เรื่องนั้น เอ็นริเก้ทำได้ดีมากเลยนะ ลงตัวดี ...แต่ผมไม่ชอบ สมมุติว่าเป็นสเปนเจอกับโปรตุเกสนะ สเปนนำอยู่ลูกนึง แทนที่สเปนจะเพรสหนักๆเข้าไว้ สเปนกลับเลือกถอยลงมาหน่อยเหมือนที่หลุยส์ อราโกเนสเคยทำ ทีนี้โปรตุเกสก็ต้องเข้ามาไล่บอล แบบนี้คุณก็เล่นไดเร็คได้เลยนะ จ่ายยาวไปให้คอสต้าหรือซัวเรซ/เนย์มาร์ถ้าเป็นเวอร์ชั่นบาร์ซ่า เราเคยเล่นเคาน์เตอร์กันแบบนี้, เอ็นริเก้จะล่อให้คู่แข่งเพรสเข้ามาเลยแล้วเราก็สวนไป เราเคยทำแบบนี้ตอนเจอกับแอตในบอลถ้วย ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ในแดนตัวเองน่ะ ไอ้เรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปพูดถึงเลยน่ะถ้าเป็นบาร์ซ่ายุคเป๊บ ทั้งหมดนี่ก็ขึ้นอยู่กับโค้ชแต่ละคนแหละ ผมไม่ชอบหรอกอะไรแบบนั้น ต่อให้เรานำอยู่ลูกนึงในนาทีนี่89 ผมอยากได้บอล เอาบอลมาครองไว้ในแดนตรงข้าม มันอุ่นใจกว่าแบบนั้น เราเป็นคนคุมเกมส์ เราบุกได้
นักข่าว: ถ้าตัดความรู้สึกส่วนตัวออกไปล่ะ ถ้าคุณมี อิเนียสต้า ซิลบา อิสโก้อยู่ในสนาม จะดีกว่ามั้ยถ้าเน้นครองบอล เน้นเพลสไว้ ถ้าผ่อนเกมถอยไปแดนตัวเองแบบนี้สเปนจะเสียการคุมเกมไปหรือเปล่า?
ชาบี: ผมถามตัวเองอยู่เหมือนกันนะ เราจะทำยังไงให้เกมรับดีกว่าเดิม ก่อนอื่นต้องได้บอลมาก่อน ถ้าผมครองบอลอยู่ คุณก็จะบุกไม่ได้ เพราะคุณต้องมาแย่งบอลไปจากผมก่อน แล้วเวลาคุณได้บอลไป มันก็ยังห่างจากหน้าปากประตูฝั่งผมร่วมๆ70-80เมตร สรุปง่ายๆเลย วิธีที่ปลอดภัยที่สุดยังไงก็ต้องเป็นการครองบอลในแดนฝั่งตรงข้าม เพราะงี้แหละผมถึงไม่เคยเข้าใจพวกโค้ชที่ชอบบอกให้ครองบอลในแดนตัวเองสักกะที
ตอนนี้มีแค่ทีมเดียวที่พยามจะครองเกมส์จนนาทีสุดท้ายโดยไม่สนว่าสกอร์จะเป็นยังไงซึ่งก็คือซิตี้
นักข่าว: ทีมที่ถอยไปเล่นในแดนตัวเองต้องวิ่งไกลกว่าเดิมเวลาจะเติมเกมส์บุกหรือถอยไปรับ แบบนี้มันจะมีผลกระทบกับนักเตะอย่าง บุสเก็ต อิเนียสต้าหรืออิสโก้ด้วยมั้ย?
ชาบี: มันแน่นอนอยู่แล้วแหละ แต่โค้ชที่ใช้แทคติคแบบนั้นจะเตรียมมิดฟิลด์และผู้เล่นริมเส้นเอาไว้แล้วสำหรับการวิ่งระยะไกล
กับเอ็นริเก้เรามีการฝึกร่างกายที่ต่างออกไป เราเน้นผลระยะยาว กับPaco Seirul-lo(ฟิตเนสโค้ช) เราฝึกสปรินท์ในระยะ 10-15เมตรซึ่งอันนี้สำหรับพวกกองกลางโดยเฉพาะเลยน่ะ พวกกองหลังจะมีการฝึกวิ่งอีกแบบนึง
อย่างซิเมโอเน่ก็จะฝึกอีกแบบนึง พวกเขาจะถอยต่ำไปรับ พวกเขามีการฝึกก่อนเปิดฤดูกาลที่หนักมากเชียวล่ะ เพราะต้องป้องกันพื้นที่และปิดช่องตลอดเวลา รวมทั้งการซ้อนตำแหน่งอีก โค้ชแต่ละคนก็จะโฟกัสกันตามแต่ที่พวกเขาอยากให้ทีมเล่น ทั้งในแง่ของร่างกาย จิตใจหรือแม้กระทั่งจิตวิทยา โชโล่จะสอนและถ่ายทอดให้โกเก้เข้าใจในเรื่องที่...ผมมองว่าโคตรยากเลยสำหรับผมน่ะ.....แล้วยังทำให้เขาสนุกไปกับมันได้ด้วย
ผมเคยเห็นด้วยนะ โชโล่ดูจะแฮปปี้ดีตอนที่ทีมของเขาไม่ได้บอล แต่อย่างเป๊บจะใส่ใจกับบอล การวิ่งระยะสั้นๆ การเคลื่อนที่แบบฉับพลัน บลาๆๆ แต่โชโล่จะเตรียมลูกทีมให้พร้อมสำหรับเกมสวนกลับ
นักข่าว: คิดว่าเป๊บทำอะไรที่แตกต่างออกไปมั้ยกับซิตี้ตอนนี้
ชาบี: ก็มีอยู่เหมือนกันนะ เช่นเขาจะซ้อมป้องกันลูกครอสจากด้านข้าง เขาจะมองหาว่าใครจะครอสแล้วไปจัดการบล็อคคนที่รอรับบอล
นักข่าว : ดูเหมือนว่าโค้ชจะยิ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆเลยใช่มั้ย เพราะเกมส์ทุกวันนี้มันซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ชาบี: ใช่ๆ ตอนนี้ฟุตบอลมันคล้ายๆอเมริกันฟุตบอลเลยนะ ไม่ค่อยเหลืออะไรให้เปลี่ยนแล้ว สมมุติเป๊บลาพักร้อนน่ะ เวลาผ่านไปสักพักผมว่าทีมจะรู้เองน่ะว่าต้องทำอะไร อย่างเดียวที่ปกติเราไม่ทำ(ขยายความ เรา=นักเตะ)คือการวิเคราะห์คู่แข่ง... แต่ปกติผมทำตลอดน่ะ อ่าลองดูบีญารีลสิ
พวกเขาเล่นกันยังไง? พวกเขาใช้แผงกลางแบบไดมอนด์ มักจะมีตัวยืนตรงกลางเพิ่มอีกคนเสมอแหละ เพราะแผงหน้าใช้ระบบกองหน้า2ตัวยืนคู่กัน เป็นผมน่ะจะบอกอัลเวสให้ไปยืนตรงกลางเลย เหลือหลังไว้สามตัวก็พอแล้วสำหรับการประกบบัคค่ากับบากัมบู จะเอาหลังสี่ไปทำไม? อย่างน้อยเราก็มีตัวยืนกลางไม่น้อยกว่าฝั่งเขาล่ะ แล้วเดี้ยวผมจะบอกให้เมสซี่ถอยมายืนกลางด้วยอีกตัวเลยเอ้า
นักข่าว: มีผู้เล่นคนอื่นๆอีกมั้ยที่เล่นในแบบที่คุณอยากได้หรือ แบบของซิเมโอเน่อยากใช้งาน
ชาบี: มันแล้วแต่คนน่ะ แต่ผมว่านักเตะส่วนใหญ่เวลาลงสนามไปไม่ใช่เพื่อไปวิ่งหรอก
เราอยากเอาบอลมาเล่น บอลมันก็เหมือนยาเสพติด เราเล่นฟุตบอลเพราะเราเสพติดบอลไปแล้วไง
นักข่าว: พูดถึงเมสซี่ เขาอ่านเกมส์ยังไงล่ะ?
ชาบี: ในทางแทคติคเขาเข้าใจทุกอย่างแหละ เอาเขาไปเทียบกับคนอื่นมันน่าอายน่ะ เขาคุมได้หมด ทั้งพื้นที่ จังหวะเวลา เพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงไหน ฝั่งตรงข้ามอยู่ตรงไหน เขาเคยทำลายสมดุลของเกมส์ด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งล้วนๆเลย ดูตอนนี้เขาเลี้ยงผ่านคุณได้ยังกับคุณเป็นไอ้เบื้อกเลย
เขาจะล่อคุณเข้ามา พอเขาเห็นคุณมันเหมือนเขามาร์คคุณไว้แล้วในหัว เขารู้ด้วยน่ะว่าคุณกลัวเขา เลโอจะรออีกหน่อย สัก3คนเงี้ย เสร็จล่ะ แล้วเขาก็จ่ายบอลเลย ผมเคยเห็นเลบรอน เจมส์ทำแบบนี้ด้วยนะ
ตอนนั้นเป็นรอบชิงคาวาเลียร์กับไมอามี่ในปี2014 เลบรอนไม่ใช่พวกชอบโซโล่ ถ้าเขาเจอผู้เล่น2คนประกบเขาจะจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่ว่างอยู่เพื่อชู็ตบอล เหมือนอิเนียสต้าหรือเมสซี่นี่แหละ ล่อเข้ามาจนกว่าจะมีช่องแล้วค่อยจ่าย แต่ถ้าไม่เข้ามาก็เลี้ยงลุยเลย
หาช่องว่าง มองหาเพื่อนร่วมทีม ง่ายๆ เราฝึกแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว ขนาดสเตเก้นยังรู้เลย เขาฝึกเรื่องพวกนี้ด้วยน่ะ
เวลาสเตเก้นโยนบอลยาวคุณอาจจะคิดว่าก็แค่เตะทิ้งล่ะว่ะ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ตอนบาเยิร์นมาเยือนคัมป์นูว์ พวกเขาประกบแนวรับเราไว้หมดเหลือแค่สเตเก้น สเตเก้นก็จะโยนยาวไปให้ซัวเรซ ทีนี้มันก็จะเป็น3ต่อ3แล้ว
นักข่าว: คุณมองเรื่องฟุตบอลโลกไว้ยังไงบ้าง
ชาบี: ดูเหมือนบราซิลจะกลับมาแล้วน่ะ พขกเขามียอดทีมอยู่ ไม่ว่าจะมองในแง่พรสวรรค์หรือร่างกาย เพราะงี้แหละความสำเร็จของสเปนถึงน่ายกย่อง ถ้าเทียบกับทีมอื่นสเปนไม่ค่อยมีพวกแกร่งๆมากเท่าไหร่หรอก มีใครบ้างล่ะ อ่า รามอส อาเบลัว ปูโบลก็นิดหน่อย มันก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละความฉลาดต้องมาก่อน
ไม่มีทีมไหนจะมีกลางแข็งๆเท่าสเปนแล้วน่ะ อิเนียสต้า ซิลบา บุสเก็ต หาดีกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ พวกนี้มันตัวแบกเลยน่ะ(ฮา) แล้วบวกแนวรับเก๋าๆไปอีก อัลบา ปิเก้ รามอส คาบาฆาล จริงๆในด้านร่างกาย สเปนก็ดีขึ้นมาเยอะแล้วน่ะ แต่ยังไงก็สู้เยอรมันไม่ได้
นักข่าว: มีผู้เล่นหน้าใหม่คนไหนที่คุณจับตาดูเป็นพิเศษมั้ย(ทีมชาติ)
ชาบี: ผมชอบบิโตโล่น่ะ ผมว่าความเข้าใจเกมส์ของเขายังทำได้มากกว่านี้อีก บางครั้งเขาก็ยังไม่เข้าใจเรื่องต่างๆรอบๆตัวเขา หรือจะเลี้ยงตอนไหนยังไง แต่ผมว่าเขาเยี่ยมมากเลย ซาอูลอีกคน
หมอนี่ยังไปได้อีกไกลเลยน่ะพรสวรรค์ของเขาน่ะ ลองนึกภาพเขาอยู่กับบาร์ซ่าน่ะ อุ๊ตะ! พวกเขาจะเด่นมากแล้วก็จะพัฒนาได้อีกเยอะเลยล่ะ คาบาฆาลอีกคนถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บคอยรบกวนน่ะ ติอาโก้ก็ยอดเยี่ยมมาก
นักข่าว: ฝรั่งเศสล่ะ พวกเขามีขุมกำลังที่ดีที่สุดเลยมั้ย?
ชาบี: ใช่ๆเหมือนกับบราซิลและเยอรมันนั่นแหละ อ่ะอย่าลืมนับอาเจนติน่าไปด้วยล่ะ จริงๆพวกเขาอยู่ระดับเดียวกับสเปนเลยนะ แต่ปัญหาคือพวกเขาโดนกดดันหนักมากจนโชว์ฟอร์มไม่ออก มันไม่จริงเลยถ้าบอกว่าพวกเขาไม่มีกองกลาง ผมว่าบาเนก้าก็เล่นให้บาร์ซ่าไหวอยู่น่ะ
มาสเคราโน่เล่นเป็นตัวpivotได้มั้ย(dmแบบบบุสเก็ต) เขาไม่มีเทคนิคแบบที่บุสเก็ตมี แต่ผมว่าเขาก็พัฒนาขึ้นมาเยอะแล้วน่ะ ตอนแรกๆที่เขามาบาร์ซ่า เขามีปัญหาเรื่องการยืนตำแหน่ง อาจจะเพราะเขาไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อน ถ้าไม่โยนยาวก็ฝากบอลให้เจอร์ราร์ดก็พอแล้ว แต่ที่บาร์ซ่าคุณต้องทำมากกว่านั้น คุณต้องคิดไตร่ตรองให้ดีๆ มีผู้เล่นคนไหนที่ว่างอยู่แล้วมีพื้นที่พอจะรับบอลไปเล่นต่อได้
บาร์ซ่าก็เหมือนการสอบไฟน่อลของนักเตะนั่นแหละ สโมสรนี้ทั้งความต้องการและความคาดหวังมันสูงลิบ อย่างมาดริดจะไม่ได้เด้ะๆเท่าเรา
นักข่าว: คุณมองว่ามาดริดไม่เรียกร้องมากเท่าบาร์ซ่าหรอ?
ชาบี: แฟนๆทั้งสองทีมก็มีความต้องการสูงแหละ แต่ที่ต่างกันคือ ในเบร์นาเบว เขาอยากเห็นนักเตะทุ่มเทเต็มที่ก็พอ พวกเขาจะไม่ทนกับพวกขี้เกียจ พวกเขายึดติดกับจิตวิญญาณของฆวนนิโต(ตำนานนักเตะของมาดริดยุคก่อนโน้น), อ่าช่ายวัฒนธรรมของมาดริดก็คือจิตวิญญาณของฆวนนิโตหรือคามาโช่นั่นแหละ ส่วนวัฒนธรรมของบาร์ซ่าก็คือวัฒนธรรมของครัฟฟ์ มองไปให้ทั่ว ทำความเข้าใจกับเกมส์และไม่เสียบอล
นักข่าว : ตอนนี้ปารีสก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับแนวหน้า แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีประวัติศาสตร์อะไรมากมาย คุณจะสร้างทีมยังไงเวลาผู้เล่นสำคัญกว่าสโมสร
ชาบี: นักเตะก็ยังเคารพโค้ชไง คือแบบ ต่อให้โค้ชทำเงินได้5ล้าน นักเตะได้20ล้าน นักเตะก็ยังต้องฟังโค้ชอยู่ดีแหละ เราอาจจะไปถึงจุดที่นักเตะคิดว่า"โค้ชพูดบ้าอะไรของมันว่ะ?" แต่เรื่องที่สำคัญกว่าการฝึกร่างกายหรือแทคติคของโค้ชก็คือการบริหารจัดการ
คุณต้องคุยกับนักเตะแต่ละคน ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างและจัดการกับมัน ต้องบอกไปตรงๆเลย"ฟังนะ ผมไม่สนว่าคุณจะดังเป็นสตาร์มาจากไหนหรอก แต่ถ้าตอนซ้อมคุณทำได้ไม่ดีก็อย่าหวังจะได้ลงเล่น" "มี2อย่างที่ผมจะไม่ประณีประณอมคือ การให้ความเคารพและทัศนคติ"โค้ชต้องรู้เรื่องพวกนี้
ผู้เล่นมันล้มเหลวพลาดพลั้งกันได้ แต่ถ้าจะพลาดก็ให้พลาดในแบบหรือในไอเดียของคุณ อีคิวเนี่ยเป็นพื้นฐานที่โค้ชต้องมี ห้ามไปตีกับนักเตะ คุณต้องชักจูงพวกเขา
ชงเข็มๆเลยคำถามนี้(ฮา) นักข่าว: นักเตะของปารีสดูมืออาชีพดีน่ะ คุณคิดว่ายังไงกับเนย์มาร์ล่ะ อย่างเรื่องที่เขาต้องไปวันเกิดน้องสาวเขาระหว่างซีซั่นด้วยเนี่ย???
ชาบี: (ยิ้มอ่อน) เนย์มาร์เป็นเด็กดีแต่เขาแค่รักสนุก เหมือนอัลเวสแหละ คนชอบคิดว่าอัลเวสปาร์ตี้อยู่ตลอดเพราะเขาชอบโพสวิดีโอบนอินสตาแกรม แต่จริงๆแล้วเขามืออาชีพมาก มันก็แค่ไลฟ์สไตล์ของเขา
ยังไม่เลิกชง นักข่าว: แต่อัลเวสไม่เคยทิ้งทีมเพื่อไปวันเกิดน้องสาวน่ะ
ชาบี: ..แหม(ไอ้นี่) มันก็ขึ้นอยู่กับโค้ชแหละน่า ครัฟฟ์ก็เคยต้องจัดการกับโรมาริโอซึ่งมันก็ไม่ง่ายเหมือนกันแหละ
นักข่าว: คิดว่าเนย์มาร์เป็นผู้นำมั้ย?
ชาบี: เขาเป็นผู้นำที่ดีเลยน่ะ ฝีเท้าก็ดี ใจแกร่ง ไม่กลัวอะไรง่ายๆนั่นแหละคุณภาพล้วนๆเลย พวกนี้แหละที่ทำให้พวกยอดนักเตะเป็นยอดนักเตะ(That's what makes great players great.)
โมเมนต์ที่ยากที่สุดเลยคือตอนเขาขอบอลจากคุณนั่นแหละ คือที่บาร์ซ่าพอเกมส์มันไม่เป็นอย่างที่คิด ทุกคนก็อยากจะได้บอลกันทั้งนั้นแหละ จริงๆแล้วมันก็เป็นกันเกือบหมดแหละเรื่องแบบนี้
ปัญหาในปีหลังๆของปารีสกับซิตี้ก็คือนักเตะบางคนไม่เคยต้องมารับความกดดันแบบนี้มาก่อน คุณดูปารีสิ คาวานี่เอย ดิมาเรีย เนย์มาร์ แวรัตติ พวกเขาชนะมามากมาย. แต่แบบ..เนย์โมโหตอนที่พวกเขาไม่ส่งบอลให้ มันก็อีกเรื่องนึงล่ะน่ะ....
คำถามสุดท้าย
เอ็มบัปเป้มีศักยภาพมากกว่าคนอื่นๆมั้ย ถ้าเรานับตั้งแต่เมสซี่มาเนี่ย?
ชาบี: อ่าช่าย บับเป้จะได้แบบ คือมันมีช่วงเวลาของโด้กับเมสหลังจากนั้นก็คงเป็นของเนย์มาร์สัก3-4ปีได้มั้ง หลังจากนั้นมันจะเป็นของเป้ ศักยภาพของเขามันสุดยอดเชียวล่ะ แล้วอายุพึ่งจะ19เองเนี่ย เขายังกับสัตว์ประหลาดเลยล่ะ..แต่ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่.....
อย่างที่ผมบอกเสมอ สติปัญญามาก่อนร่างกาย เนย์มาร์เหมือนกับเมสซี่ มีทั้งความฉลาดและความแข็งแกร่ง(ของร่างกาย) ถ้าเอาแค่ตอนนี้บัปเป้โดดเด่นด้านร่างกายมากกว่า แต่ตามที่ผมเข้าใจน่ะ พวกผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างมักจะมาจากสติปัญญาและความสามารถ
อย่างผมหรืออิเนียสต้าเนี่ยเราไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแรงอะไรนักหรอกเรามีแค่ความสามารถ พวกที่ได้รับมาทั้ง2อย่างก็มี เปเล่ มาราโดน่า r9 เมสซี่ เนย์มาร์ บัปเป้ก็มีน่ะ แต่ผมมองแล้วเขาเหมือนกับอองรีน่ะ แต่พอได้ไปอยู่กับเอเมรี่เขาคงพัฒนาขึ้นอีกเยอะ เอเมรี่เป็นโค้ชที่ดีเลย
แต่ถ้าเขามาเล่นให้บาร์ซ่านะ เขาจะเข้าใจทุกอย่างเลยล่ะ ถ้าเป๊บได้คุมเขาน่ะคุณเอ้ย เขาจะอัพเวลแบบจาก 8.5ไป9.5ได้สบายๆเลย อย่างเนย์มัน9.5อยู่แล้ว พัฒนาต่อยากล่ะ แต่บัปเป้ยังพัฒนาได้อีกเยอะ โดยเฉพาะในแง่ของความเข้าใจเกมส์
ถ้าดูจากที่เขาเคยเล่นให้ u16-17 เขาใช้แค่พรสวรรค์อย่างเดียวก็พอแล้วในระดับนั้นน่ะ ไม่ต้องคิดอะไรมากมายให้ปวดหัว ผมอยากเห็นเขาเจอกับทีมที่รับกันเป็นระบบระเบียบอย่างแอตมาดริดมากกว่า ถ้าเอาตอนนี้น่ะ เนย์มาร์เหนือกว่าแน่นอน
-------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------
ขยายความ นิดนึงตรงเรื่องไลน์เดี้ยวเผื่ออ่านแล้วงง
รู้จักคำว่าไฟน้อลเติร์ดกันมั้ยครับ?(final third) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าพื้นที่สุดท้าย มันคือ 3ไลน์สุดท้ายนั้นแหละ ที่ชาบีบอกเวลาเล่นกัน2ไลน์ มันก็คือ 2จากใน3ไลน์สุดท้ายนั่นแหละ
เครดิท [url]
https://www.reddit.com/r/soccer/comments/7p00f4/xavi_interview_with_el_pa%C3%ADs_january_8th_2018/[/url
แถม Rondo ของบาร์ซ่า
VIDEO
ปล.ขอบคุณยูสคุณเด็กหญิงด้วยครับที่เอามาให้ดู+หาข้อมูลให้บางส่วน
ติชมได้เหมือนเดิม ตรงไหนอ่านแล้วงงๆสอบถามได้ พอดีรอบนี้ชาบีแกพูดเป็นภาษาแทคติคเลย จะอธิบายยากหน่อย