ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
BALLON D'OR
Status: ♥Irene ♥Tzuyu ♥JiSoo ♥Rosé ♥Karina ♥Pharita
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Jun 2008
ตอบ: 22683
ที่อยู่: ____________________ _________________________ _________________________ เข้าร่วม: 31 Feb 1994
โพสเมื่อ: Fri Jul 03, 2015 14:12
► 6 สุดยอดทีมไร้พ่าย ในประวัติศาสตร์บอลยุโรป ►
หากจะกล่าวถึงสโมสรฟุตบอล แน่นอนว่าแฟนบอลแต่ละคน ย่อมต้องมีสโมสรในดวงใจ ที่ตัวเองพร้อมที่จะคอยติดตาม ร่วมลุ้นร่วมเชียร์อยู่ตลอด ซึ่งอาจจะมีชนะบ้าง แพ้บ้าง มีทั้งสมหวังและผิดหวัง แต่นั่นก็คือ เสน่ห์ของฟุตบอล ที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์กับสโมสรเหล่านั้น และในวันนี้ เรากำลังจะพูดถึง สุดยอดทีมไร้พ่าย ในประวัติศาสตร์บอลยุโรป (4 ลีกใหญ่) ซึ่งจะมีทีมใดกันบ้าง เรามาชมกันเลย
อันดับที่ 6 เชลซี (พรีเมียร์ ลีก, อังกฤษ) ไร้พ่าย 40 นัด
เมื่อชายที่มีชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส เข้ามารับหน้าที่ในการคุมทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในฤดูกาล 2004-05 "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" ก็สร้างความฮือฮาได้ทันที ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 50 ปี ของสโมสร พร้อมทั้งทำแต้มได้สูงถึง 95 คะแนน ด้วยความแข็งแกร่งในเกมรับ และฟอร์มในบ้านอันยอดเยี่ยม ซึ่งผู้เล่นที่สำคัญๆ ได้แก่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, โคลด มาเกเลเล่, จอห์น เทอร์รี่, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และปีเตอร์ เช็ค ขณะที่ในฤดูกาลต่อมา พวกเขาก็สามารถป้องกันแชมป์นี้ได้อีกครั้ง แต่สถิติที่สำคัญคือ พวกเขาไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใดในลีกเลย ถึง 40 นัด นับตั้งแต่ 23 ตุลาคม 2004 ถึง 6 พฤศจิกายน 2005 เป็นเวลา 1 ปี เศษๆ ก่อนที่จะมาพ่ายให้กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในที่สุด
อันดับที่ 5 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสท์ (ดิวิชั่น 1, อังกฤษ) ไร้พ่าย 42 นัด
จากทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 แทบไม่มีใครอยากเชื่อว่าฤดูกาลต่อมา ทีม "เจ้าป่า" น็อตติ้งแฮม ฟอเรสท์ จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้โดยทันที แต่มันก็เป็นไปแล้ว แถมยังได้ 2 สมัย ติดต่อกันซะด้วย ลูกทีมของกุนซือ ไบรอัน คลัฟ ซึ่งนำโดย ปีเตอร์ วิธ, โทนี่ วู๊ดค็อก, มาร์ติน โอนีล, จอห์น โรเบิร์ตสัน และปีเตอร์ ชิลตัน ทำสิ่งที่เหลือเชื่อให้เป็นจริงได้ นอกจากนั้น พวกเขายังก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (แชมเปี้ยนส์ ลีก) ได้ 2 สมัย ติดต่อกันอีกด้วย ในปี 1978 และ 1979 ซึ่งสถิติไร้พ่ายในลีกติดต่อกัน 42 นัด ของฟอเรสท์ นับตั้งแต่ 26 พฤศจิกายน 1977 ถึง 9 ธันวาคม 1978 ได้ถูกทำลายโดย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แชมป์ในฤดูกาลนั้น
อันดับที่ 4 ยูเวนตุส (กัลโช่ เซเรีย อา, อิตาลี่) ไร้พ่าย 49 นัด
หลังจากต้องตกระกำลำบาก จากคดีล็อคสเป๊คผู้ตัดสิน ในเหตุการณ์กัลโช่โปลี จนต้องถูกปรับตกชั้นลงไปเล่นเซเรีย บี ในปี 2006 แต่ในที่สุด อดีตลูกหม้ออย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ พร้อมกับตัวผู้เล่นหลักในทีมอย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, อันเดรีย ปีร์โล่, อาร์ตูโร่ วิดัล, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ และจานลุยจิ บุฟฟ่อน ก็พาทีม "ม้าลาย" ยูเวนตุส กลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ด้วยการพาทีมคว้าถ้วยสคูเดตโต้ ได้ในฤดูกาล 2011-12 ด้วยสถิติไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใดเลย ทั้ง 38 นัด ตลอดฤดูกาล ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2011 ถึง 3 พฤศจิกายน 2012 ซึ่งทีมที่หยุดสถิติไร้พ่ายของพวกเขาไว้ที่ 49 นัด คือ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน นั่นเอง
อันดับที่ 3 อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ ลีก, อังกฤษ) ไร้พ่าย 49 นัด
ในฤดูกาล 2003-04 ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของอาร์เซน เวนเกอร์ ได้ทำการจารึกประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ด้วยการเป็นสโมสรแรก ที่ทำสถิติไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล 38 นัด ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงาม ผ่านบอลกันอย่างแม่นยำ ผสมผสานด้วยเทคนิคและความแข็งแกร่งของนักเตะ อันได้แก่ เธียร์รี่ อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์, โรแบร์ ปิแรส, เฟดริค ลุงเบิร์ก, ปาทริค วิเอร่า, โซล แคมพ์เบลล์, แอชลี่ย์ โคล และเยนส์ เลห์มันน์ ทำให้ทีมปืนใหญ่โชว์ฟอร์มกันอย่างยอดเยี่ยม โดยสถิตินี้ เริ่มตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2003 ถึง 24 ตุลาคม 2004 แต่สุดท้าย ก็ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับตัวฉกาจอย่างทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หยุดสถิติไร้พ่ายเอาไว้ที่ 49 นัด
อันดับที่ 2 บาเยิร์น มิวนิค (บุนเดสลีกา, เยอรมัน) ไร้พ่าย 53 นัด
ทีม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งบอลเยอรมัน ในยุคของเทรนเนอร์ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส พร้อมด้วยตัวผู้เล่นระดับท็อปของโลกอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน, ฟรองค์ ริเบรี่, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โธมัส มุลเลอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม และมานูเอล นอยเออร์ ได้ประกาศศักดา คว้าทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ในฤดูกาล 2012-13 อีกทั้งยังทำสถิติไร้พ่ายในลีก ต่อเนื่องกันยาวนานกว่า 17 เดือน เริ่มตั้งแต่ 3 พฤศจิกายน 2012 ถึง 5 เมษายน 2014 จากยุคของปู่จุ๊ปป์ ต่อเนื่องมาจนถึงยุคของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก่อนที่จะมาเสียสถิติ พ่ายให้กับทีมรองบ่อนอย่าง เอาก์บวร์ก เพราะเป๊ปนั้นพักตัวผู้เล่นหลักเกือบทั้งหมด เพื่อเก็บไว้ลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อคเอาท์
อันดับที่ 1 เอซี มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา, อิตาลี่) ไร้พ่าย 58 นัด
ถือเป็นทีมในตำนานทีมหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับทีม "ปีศาจแดง-ดำ" ภายใต้การคุมทีมของฟาบิโอ คาเปลโล่ ที่รับช่วงต่อความยิ่งใหญ่มาจากปรมาจารย์เพรสซิ่ง อาร์ริโก้ ซาคคี่ โดยตัวผู้เล่นที่สำคัญในยุคนี้ นำโดยผู้เล่นระดับพระกาฬ อย่าง 3 ทหารเสือดัตช์ มาร์โก้ ฟาน บาสเท่น-รุด กุลลิต-แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ร่วมด้วย ฟรังโก้ บาเรซี่, เปาโล มัลดินี่, อเลสซานโดร คอสตาคูร์ต้า, เมาโร่ ตัสซ็อตติ, เดเมตริโอ้ อัลแบร์ตินี่ และเซบาสเตียโน่ รอสซี่ ทำให้มิลานยุคนั้นได้ประกาศศักดา คว้าถ้วยสคูเดตโต้มาครองได้ 3 สมัย ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1992-1994 ซึ่งช่วงนี้เอง ที่พลพรรครอสโซเนรี่ ทำสถิติไม่แพ้ให้กับทีมใดในลีก ติดต่อกันถึง 58 นัด เริ่มตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 1991 ถึง 21 มีนาคม 1993 รวมระยะเวลายาวนานถึงเกือบ 2 ปี ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ดจาก ฟาอุสติโน่ อัสปริลญ่า ของปาร์ม่า หยุดสถิติได้ในที่สุด
แต่หากจะนับสถิติไร้พ่ายยาวนานที่สุดตลอดกาล ในฟุตบอลยุโรปแล้วล่ะก็ ต้องยกให้ทีมนี้เลย....
สเตอัว บูคาเรสต์ (ดิวิชั่น 1, โรมาเนีย) ไร้พ่าย 104 นัด!!!
ทีมมหาอำนาจลูกหนังของโรมาเนีย ภายใต้การคุมทีมของ อังเคล ยอร์ดาเนสคู ทีมนี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ สุดยอดสถิติไร้พ่ายในลีก ยาวนาน 3 ปี!!! 104 นัด นับตั้งแต่ 17 สิงหาคม 1986 ถึง 9 กันยายน 1989 คว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน ก่อนที่ในที่สุด ดีนาโม บูคาเรสต์ ทีมคู่ปรับร่วมเมือง จะทำการหยุดสถิติมหัศจรรย์นี้ลงได้สำเร็จ นอกจากนี้ สเตอัวยังสร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะบาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (แชมเปี้ยนส์ ลีก) ในนัดชิงชนะเลิศ ปี 1986 อีกด้วย แถมยังได้เข้าชิงอีกครั้ง ในปี 1989 แต่พ่ายให้กับเอซี มิลาน ไป 0-4 ซึ่งผู้เล่นที่ดังที่สุดของสเตอัว คือ จอร์จี้ ฮาจี้ ซึ่งต่อมาย้ายมาอยู่กับบาร์เซโลน่า และแดน เปเตรสคู อดีตกองหลังเชลซีนั่นเอง
แหล่งข้อมูล : sport.mthai.com, wikipedia, google, youtube
เนื่องจากผมเรียบเรียงเอง หากมีข้อมูลใดที่ผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยครับ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
♥♥♥ WonYoung ♥♥♥