ความพยายามของแมนยูในการกีดกันเชลซี [ตอนที่ 1]
ผมแปลบทความนี้จาก
http://www.theguardian.com/football/blog/2014/jan/26/chelsea-manchester-united-juan-mata-transfer นะครับ เห็นว่า Daniel Taylor เค้าเขียนไว้ได้น่าสนใจดี เป็นเบื้องหลังที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจริงรึเปล่า แต่เมื่อเทียบกับข่าวหลายๆข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูค่อนข้างเป็นเหตุเป็นผลกันกับบทความนี้มากเลยทีเดียว
--------------------
บางทีแล้ว ดีลที่กินพื้นที่บนสื่อต่างๆเป็นเวลาหลายต่อหลายวัน การซื้อขายอันซับซ้อนที่ได้พามาต้านั่งเฮลิคอปเตอร์มาที่สนามซ้อมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของสัญญาซื้อขายครั้งนี้ คือการที่มันจบลงโดยที่ไม่ได้มีการยกหูโทรศัพท์คุยกันระหว่างทั้งสองสโมสรมากเท่าที่ควรจะเป็นกับดีลแบบนี้
ในหลายๆเดือนที่ผ่านมา เหมือนว่าทั้งสองทีมจะไม่ไว้วางใจกันและกันมากนัก มีเกมการเมืองเกิดขึ้นมากมาย และทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงโดยที่ไม่ได้มีการติดต่อกันด้วยการพบปะพูดคุยกันแม้แต่คำเดียว
แน่นอนว่าทางเชลซีเป็นฝ่ายพยายามติดต่อมาตลอด หลายครั้งที่ CEO ของทางฝั่งแมนยู Ed Woodward น่าจะได้รับการติดต่อจากสแตมฟอร์ดบริดจ์ ว่าทางนั้นพร้อมที่จะเปิดโต๊ะเจรจา แต่ว่าเอ็ดก็ปฏิเสธอย่างสุภาพในแต่ละครั้ง
ทุกๆคนในวงการฟุตบอลรู้ดีว่าเชลซีต้องการเวย์น รูนี่ย์ และ Woodward ก็คิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้หรอก ในการที่จะติดต่อเรื่องมาต้า ในขณะที่ต้องบอกให้อีกฝ่ายลืมเรื่องรูนี่ย์ไปซะ
แต่แทนที่จะเป็นแบบนั้น เบื้องหลังในดีลของมาต้า น่าจะเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับว่า การซื้อขายด้วยเงินมหาศาลสามารถเกิดความซับซ้อนและเปราะบางได้มากขนาดไหน รวมถึงความสำคัญของอิทธิพลจากเอเย่นต์ในธุรกิจสมัยใหม่ด้วย
ถ้าไม่มีพวกเอเย่นต์เหล่านั้นแล้ว โอกาสที่ทั้งสองสโมสรจะตกลงกันได้นั้นแทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยทีเดียว มีเอเย่นต์ถึง 7 คนด้วยกันที่ติดต่อเข้ามาที่ยูไนเต็ดตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อที่จะแจ้งว่าพวกเขาสามารถทำให้การดึงตัวมาต้ามาร่วมทีมเกิดขึ้นได้ มีการเปิดเผยว่าพวกเขาใช้วิธีติดต่อผ่านคุณพ่อของมาต้า และ Colin Pomford เอเย่นต์ที่อาศัยอยู่ในเมืองมาดริด ซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้เล่นในวงการฟุตบอลสเปน
สิ่งที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนคือการที่ยูไนเต็ดเป็นทีมแรกที่ได้ยินเรื่องมาต้าต้องการย้ายออกจากเชลซี และเขายังพร้อมที่จะย้ายมาแมนเชสเตอร์อีกด้วย ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายๆของตลาดซื้อขายเดือนสิงหาคม
มาต้าต้องการย้ายเพราะเขาได้รับแจ้งจากโชเซ่ มูรินโญ๋ ว่าเขาจะได้ลงเล่นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่ Woodward ก็ไม่ได้สนใจจะติดตามมากนัก เนื่องจากสถานการณ์เรื่องรูนี่ย์ กลัวว่าเชลซีจะดึงเอาศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษมาเป็น 1 ในข้อตกลง อย่างไรก็ตาม เขาเผยว่าเดวิด มอยส์ รู้สึกชื่นชอบมาต้าตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากตลาดนักเตะรอบนั้นปิดลง ข้อมูลต่อมาก็คือมาต้ารู้สึกไม่แฮปปี้อย่างมาก เขาได้ไปพบกับผู้บริหารของเชลซี หนึ่งในนั้นคือโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรด้วย เขาได้รับสัญญาปากเปล่าว่าถ้าเขายอมรับการถูกเมินเฉยในทีมได้ รวมถึงรักษาความเป็นมืออาชีพเอาไว้ เขาจะได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมในช่วงเดือนมกราคม
เชลซีได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นในภายหลัง โดยกำหนดค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 45 ล้านปอนด์ โดยที่คงคิดเรื่องของการดึงตัวรูนี่ย์เข้ามาเหมือนกัน เพราะด้วยเงินจำนวนนั้น ยูไนเต็ดคงไม่กล้าที่จะทุ่ม
นั่นอาจจะเป็นจุดจบง่ายๆของดีลนี้ เว้นแต่ว่ามาต้าและพ่อของเขาได้ไปที่สแตมฟอร์ดบริดจ์อีกรอบเมื่อแน่ชัดแล้วว่ามีความสนใจจากฝั่งโอลแทรฟฟอร์ดจริง เขาได้ขอให้เงื่อนไขการฉีกสัญญานั้นถูกถอดออก หนึ่งในผู้ที่เกี่ยวข้องกับการต่อรองครั้งนี้ได้บอกกับหนังสือพิมพ์เราว่า มาต้าและอบราโมวิช เป็นเหมือนเพื่อนกันเลยทีเดียว และเมื่อมาต้าแสดงความไม่พอใจเมื่อโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม อบราโมวิชก็เคารพมาต้าในเรื่องนี้
เชลซีให้สัญญากับเขาด้วยคำพูด แต่ยังไม่มีการเขียนอะไรลงไปในสัญญาทั้งสิ้น และส่งสารผ่านทาง Pomford ว่านี่อาจจะถึงเวลาที่ทั้ง 2 สโมสรมาเจอหน้าและพูดคุยกันแล้วล่ะ
แต่ทาง Woodward ก็ตอบปฏิเสธอีกครั้ง เขาแค่ไม่อยากจะเสี่ยงในการที่จะได้ยินเชลซีเอ่ยปากเรื่องรูนี่ย์ และเนื่องจากไม่มีอะไรยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เขาไม่อยากจะเสี่ยงโดนโก่งราคาด้วยเช่นกัน
ตอนที่ 2
http://www.soccersuck.com/boards/topic/986380