5 บทเพลงของควีน ที่มีความเป็น Progressive Rock
Queen หนึ่งในตำนานสุดยอดวงร๊อกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและตอนนี้ก็มีหนังชีวประวัติของ
Fredy Mercury ฟรอนต์แมนผู้ล่วงลับที่เป็นอันที่รักของนักดนตรีทั้งหลายและแฟนๆจากทั่วทุกสารทิศโดยเข้าฉายไปแล้ว สามารถชมได้ในโรงภาพยนตร์ครับ
หลายคนคงคุ้นเคยกับเพลงดังของวงอย่าง
Bohemian Rhapsody,
We Will Rock You,
We Are the Champions,
Under Pressure และอีกหลายๆเพลงซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอัลบั้มประมาณยุคกลาง 70 จนไปถึง 80 ปลายๆ แต่หารู้ไม่ว่าในปีแรกๆ วงควีนสร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็น Progressive rock อยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น 2 อัลบั้มแรกของวง
Queen (1973) และ
Queen II (1974) นอกจากนี้วงควีนยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆวงด้วยอย่างเช่น
Dream Theater, Between The Buried and Me, Native Construct หรือ
Radiohead ซึ่งการทดลองผสมผสานดนตรีหลายรูปแบบที่มีความบาโรกหรือความสวยงามในยุคแรกๆนั้นมีผลพวงทำให้พวกเค้าสร้างสรรค์ผลงานในยุคต่อๆมาได้อย่างยอดเยี่ยมและโด่งดังเป็นอย่างมาก และด้วยความอัจฉริยะของวงทำให้มีหลายบทเพลงที่มีความเป็น Progressive rock ผสานกันอยู่ด้วย มาเชิญเสพย์กันได้เลยครับ
ปล.จะไม่ขอพูดถึงเพลง Bohemian Rhapsody คือเพลงนี้มีความเป็น Progressive อยู่แล้วนะครับ แต่อยากจะให้ลองฟังเพลงอื่นๆดูมั้ง เพลงถือว่าเป็นเพลงชาติของวงควีนอยู่แล้ว คงจะไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน
1. My Fairy King – Queen (1973)
เป็นแทร๊กลำดับที่สี่จากอัลบั้ม debut ของวง เพลงนี้เป็นเพลงที่
Fredy Mercury ได้โชว์ฝีมือการเล่นเปียโนครั้งแรกของตนเอง มีการใช้เทคนิคการร้องประสานเสียง(Vocal harmony) โดยที่เทคนิคนี้ทางวงควีนจะชอบมากแล้วได้นำไปใช้ในเพลงต่อๆมาด้วยอย่างเช่น
Bohemian Rhapsody อีกทั้ง
Taylor(มือกลอง) ได้โชว์สกิลการร้องของเค้าในคีย์ที่สูงด้วย เนื้อหาของเพลงก็จะเกี่ยวข้องกับโลกแฟนตาซี ทางวงควีนไม่เคยแสดงสดเล่นเพลงนี้เลยแต่ในช่วงปี 1984-1985’s ซึ่งเป็นทัวร์ของอัลบั้ม
The works ในบางครั้ง
Fredy Mercury จะเล่นอินโทรของนี้เป็นอินโทรของเพลง
Killers Queen อีกที
2. The March of the Black Queen – Queen II (1974)
คงไม่แปลกอะไรที่จะบอกว่า ถ้าไม่มี
The March of the Black Queen ก็คงไม่มี
Bohemian Rhapsody มาให้พวกเราฟังจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันเลยก็ว่าได้ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มที่สองของวง ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความ Progressive มากที่สุดเมื่อเทียบกับอัลบั้มอื่นๆของวง เพลงนี้เป็น 1 ใน 2 เพลงของวงควีนที่ใช้เทคนิค
Polyrhythm (อีกเพลงก็
Bohemian Rhapsody เนี่ยแหละ) ซึ่งเป็นของแปลกสำหรับเพลง popular รวมทั้งความยาวเพลง 6 นาทีกว่า อาจจะยาวไปสำหรับคนที่ไม่ฟังแนวนี้ แต่คนฟังแนวนี้บอกเลยว่าปกติมาก ยาวกว่านี้ก็ฟังมาแล้ว ด้วยความยาวขนาดนี้ เราอาจจะเรียกมันว่าเพลง “Suite” ก็ได้ คือเป็นเพลงที่ประกอบไปด้วย section ของหลายๆ Instrumetals มารวมกันในเพลงเดียว จะนำมาเล่นสดก็ยากเพราะเป็นเพลงที่ความซับซ้อนอยู่พอสมควร ส่วนตัวชอบท่อน Intro ฟังแล้วรู้สึกขนลุก ยิ่งจังหวะ Ah Ah Ah เนี่ยก็ทรงพลังมาก ส่วน section สุดท้ายของเพลง ถ้าลองฟังดูมันจะเป็น Intro ของเพลง
Funny How Love Is ซึ่งเป็นเพลงลำดับต่อไปนั้นเอง
3. The Fairy Feller’s Master-Stroke – Queen II (1974)
ขอนำเสนออีก 1 เพลงจากอัลบั้มสอง ถ้าได้ฟังเพลงนี้ก็คงจะจินตนาการไปได้ว่าตัวเองหลุดไปอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายแฟนตาซี เพราะเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดเพียงหนึ่งภาพ ซึ่งก็คือ
“The Fairy Feller’s Master-Stroke” ของศิลปินผู้มีนามว่า
Richard Dadd ถึงเพลงนี้จะมีความยาวเพียง 2 นาทีกว่า แต่เพียงพอที่จะใส่องค์กระกอบและเทคนิคที่ซับซ้อนในเพลงนี้ได้ออกมาอย่างดีเยี่ยม ถ้าลองฟังดูดีๆเพลงนี้เหมือนจะไม่จบในตัว เพราะในส่วนสุดท้ายจะเป็นการ introduce เพลง
Nevermore ซึ่งสามารถฟังต่อกันเป็นเพลงเดียวกันก็ยังได้
4. The Prophet’s Song – A Night at the Opera (1975)
ความซวยของเพลงนี้คือมันดันไปอยู่ในอัลบั้มเดียวกันกับเพลง
Bohemian Rhapsody อาจจะถูกหลายๆคนมองข้ามไป แต่จริงๆแล้วเพลงนี้ underrated และไม่ควรถูกมองข้าม เนื่องจากการจัดองค์ประกอบของเพลงที่มีความวิจิตรงดงามผสมกับออร์เคสตรา เทคนิคการร้องที่ท้าทาย(Canon) รวมทั้งความยาวของเพลงถึง 8 นาทีกว่า แตกต่างจากในยุค 60’s ครึ่งหลังที่หลายๆวงอย่าง
Gentle Giant, Emerson Lake And Palmer หรือ
King Crimson ได้นำเพลงคลาสสิคหรือออร์เคสตรามาผสมผสานกลั่นออกมาเป็นบทเพลงที่มีความแปลกประหลาดและความยาว 10 นาทีขึ้นไป กลับกันวงควีนได้ทำสิ่งนี้ในแนวทางของตัวเองแล้วตกผลึกมาซึ่งมีความยาวไม่ถึง 10 นาทีและยังง่ายต่อการฟังอีกด้วย Mood หรือ Theme ของเพลงนี้ก็มีความหนักและดาร์ก ซึ่ง
Brian May กล่าว่าได้แรงบันดาลใจมาจากความฝันของเค้าเองและจากหนังสือ
“Book of Genesis” เกี่ยวกับการกำเนิดของมนุษย์และการปรากฏการณ์เรือโนอาห์ในเหตุการณ์น้ำท่วมโลก ดังนั้นเนื้อเพลงก็จะมีความเป็นปรัชญาและศาสนา
5. Innuendo – Innuendo (1991)
เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มสุดท้ายของวง ก่อนที่
Freddie Murcury จะเสียชีวิต ซึ่งเป็น 1 ในซิงเกิ้ลของวงที่มีความยาวมากที่สุดและแปลกเมื่อเทียบกับซิงเกิ้ลอื่นๆ เช่น
Radio Ga Ga, Under Pressure หรือ
We Are the Champions แต่ก็สามารถยังติดชาร์ตอันดับ 1 ของ UK ได้อยู่ดี หลังจากฟังเพลงนี้อาจจะทำให้หลายๆคนนึกถึงเพลง
Bohemian Rhapsody เพราะพวกเค้าได้กลับไปสู่ความเป็น Progressive Rock หลังจากห่างหายไปกว่า 10 อัลบั้ม เพลง Innuendo มีเมโลดี้ที่สนุก ความซับซ้อนในหลากหลาย sections และยังมีการใช้
Time signature แปลกๆด้วยเช่น 5/4, 3/4 ส่วน section ที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ก็คือส่วน Spanish guitar ที่เล่นในสไตล์
Flamenco ซึ่งถูกบรรเลงโดย
Steve Howe มือกีต้าร์ของวง
Yes สุดยอดวง Progressive Rock ในตำนานนั้นเอง จากการชักชวนโดยสมาชิกวงควีน เป็นใครจะกล้าปฏิเสธละ ซึ่งสตีฟเองก็ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์บทเพลงอันสุดยอดออกมา
โฉมหน้าปู่
Steve Howe
Source:
Prog Surround
ฝากกด like กด Share เพจ Facebook ผมด้วยนะครับ เป็นเพจที่รวบรวมข่าวสาร, เพลงใหม่หรือบทความเกี่ยวข้องกับดนตรีแนว Progressive Rock/Metal หรือแนวอื่นๆที่เกี่ยวข้องครับ
https://www.facebook.com/progsurround/