[RE: "รัฐบุรุษ" ที่เมืองไทยไม่ต้องการ]
...ในคืนวันที่ 5 นั้นก็มีข่าวว่านักศึกษาเข้าไปชุมนุมกันอยู่ในธรรมศาสตร์อีกแล้ว เป็นจำนวนกว่า 3,000 ส่วนทางภายนอกนั้นก็มีผู้คนไปคอยกันอยู่หนาแน่นที่ท้องสนามหลวงแถบบริเวณถนนหน้ามหาวิทยาลัย และมีจำนวนเพิ่มมากมายขึ้นทุกที พร้อมกับแสดงอาการกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเข้าไปดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์หมิ่นองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชด้วยตนเอง
แต่คนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่เวลานั้น ยังไม่กล้าตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้
แน่ละซีครับเรื่องพรรค์อย่างนี้ต้องถามพรรคพวกที่เขาติดต่อกับนักศึกษาดูก่อนว่าเขาจะให้เอายังไง
กว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้คำสั่งมาจากคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารบ้านเมือง ก็เป็นเวลาดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว
คำสั่งนั้นเขาอนุมัติให้ตำรวจดำเนินการเอานักศึกษาออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ และหากตำรวจถูกทำร้าย ให้ตำรวจยิงป้องกันตัวได้
แต่สถานการณ์ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตอนด้านท้องสนามหลวงนั้นมันสายเกินแก้เสียแล้ว
ตอนนั้นทุกอย่างมันกดดันอยู่รอบด้าน มีอยู่พร้อมกันทั้งความชั่วช้าและการท้าทาย
ใครที่เป็นตำรวจและต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงนั้น ก็เท่ากับคนกลางที่เข้าไปยืนอยู่ระหว่างนักเลงที่กำลังยกพวกจะเข้าตีกัน และหากทางฝ่ายตำรวจไม่รีบตัดสินใจดำเนินการ เหตุการณ์ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น เพราะคลื่นของผู้คนจำนวนนับหมื่นที่รอกันอยู่ด้านนอกมหาวิทยาลัยนั้น ตำรวจก็ไม่มีทางรู้ว่าใครเป็นใครกันมั่ง
จนกระทั่งเช้ามืด ทางตำรวจจึงตัดสินใจบุกเข้าไป เอาตัวผู้คนที่อยู่ข้างในออกมา
แต่พอบุกเข้าไปก็เจอปัญหาการตอบโต้
แล้วจากนั้นต่างฝ่ายก็ต่างยิงเข้าหากันเป็นอุตลุต ไม่มีใครจะมาพูดกันได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด
เพราะที่นั้นมันกลายเป็นสนามรบ
คนที่มีใจเป็นธรรมที่เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยเท่านั้นที่เขาจะวิจารณ์ว่า
ฝ่ายหนึ่งก่อปัญหาแล้ว ก็เข้าไปตั้งป้อมสู้อยู่ข้างใน
ฝ่ายหนึ่งก็แสดงอาการเคียดแค้นชิงชังจะพังเข้าไปจัดการกันเอง
อีกฝ่ายที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จึงต้องพรวดพราดเข้าไปอยู่ตรงกลาง เพื่อกวาดเอาคนที่อยู่ข้างในเอาไปควบคุมไว้ในที่ปลอดภัยเสียก่อน... (สมัคร สุนทรเวช, การเมืองเรื่องตัณหา, น.315-317, กุมภาพันธ์ 2521)
เอ่ออออออออออ