ผลสำรวจในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าคนจ้างงานส่วนใหญ่ ไม่อยากรับคนวัย Gen Z เข้าทำงาน หรือหากรับเข้าทำงานแล้วก็ถูกไล่ออกหลังจากทำงานได้แค่ไม่กี่เดือน โดยให้เหตุผลว่า Gen Z ทำงานไม่เป็น ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่ตั้งใจทำงาน คิดอะไรเองไม่เป็น มีปัญหาด้านการสื่อสาร และไร้มารยาทในที่ทำงาน
บริษัทในสหรัฐฯ 1 ใน 7 เปิดเผยว่าอาจจะต้องหยุดรับนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงานตั้งแต่ปีหน้า ขณะที่บางบริษัทบอกว่านักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานควรเข้าคอร์สอบรมเรื่องมารยาทในออฟฟิศและการพูดคุยกับผู้อื่นก่อนที่จะเริ่มงาน


New York Post ลงบทความเรื่อง Gen Z can’t cope with life or hold down a job ซึ่งแปลว่า Gen Z รับมือกับชีวิตหรือทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ เผยสาเหตุหลักที่ทำให้ คน Gen Z ทั่วโลกกลายเป็นแบบนี้ เป็นเพราะสภาพสังคมและการเลี้ยงดูที่แตกต่างจากคนยุคก่อน เราจะเห็นว่าพ่อแม่ยุคใหม่เลี้ยงดูลูกแบบประคบประหงม ไม่เคยสอนลูกให้รู้จักความลำบาก หรือความรับผิดชอบใดๆ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ เด็กไม่เคยถูกสอนให้รับมือกับความผิดหวัง เราจะเห็นว่าการแข่งขันกีฬา หรือการแข่งขันดนตรีสำหรับเด็กๆ สมัยนี้ จะต้องมีรางวัลให้เด็กทุกคนที่เข้าร่วม เพื่อไม่ให้เด็กที่แพ้การแข่งขันต้องเสียใจ แต่การทำแบบนี้ ทำให้เด็กไม่ได้เรียนรู้เรื่องแพ้ชนะ และไม่เคยเรียนรู้เรื่องความผิดหวัง และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของความเป็นจริง ที่ซึ่งบางครั้งเราก็เป็นผู้ชนะ บางครั้งเราก็เป็นผู้แพ้ เด็กทุกคนควรจะเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ชนะที่ดีและเป็นผู้แพ้ที่ดี ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆ เรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็ก หากไม่เคยเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน พอโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เจอกับความผิดหวัง ก็จะรับมือทางอารมณ์ไม่ทัน


การที่ Gen Z เติบโตมากับโลกดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย ที่ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นผ่านหน้าจอด้วยการส่งข้อความตลอดเวลา ทำให้คนรุ่นนี้ไม่มีทักษะการพูดคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้า หลายคนไม่กล้าหรืออึดอัดที่จะต้องพูดคุยกับคนอื่น เลือกคำพูดไม่ถูก จับใจความไม่ได้ ใช้คำพูดห้วนๆ สีหน้านิ่งเฉย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไร้มารยาทในการพูดคุยกับผู้อื่น เรื่องนี้ทำให่คน Gen Z จำนวนมาก มีปัญหาในการทำงานร่วมกับคนอื่นในที่ทำงาน
ตอกย้ำด้วยค่านิยมของ Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับความสบายใจของตัวเองเป็นอันดับแรก ถ้าหากพวกเขาเจอกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ พวกเขาก็จะไม่ทนทำงานต่อ หรือหากเจอกับคำพูดที่ฟังแล้วไม่สบายใจเพียงนิดเดียว ก็จะปิดหูไม่ทนฟังอีกต่อไป ตรงนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวเอง และทำให้คน Gen Z ทำงานที่ไหนก็ไม่ได้


ตรงนี้ ก็ไม่ใช่เพราะคน Gen Z เป็นคนอุปนิสัยแบบนี้โดยสายเลือด แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมให้เด็กรุ่นใหม่ได้เจอกับโลกของการทำงาน ไม่เคยสอนให้เด็กรู้จักเรื่องความผิดหวัง ความรับผิดชอบ และความไม่แน่นอนของชีวิต ในบางครั้งเราต้องย้ำเตือนให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้คุณค่าของความพยายาม การทำงานหนัก และชีวิตนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและความผิดหวังที่ทุกคนต้องฟันฝ่าเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่เราตั้งเอาไว้



ตอน 11 โมงก็เจอกระทู้เจนแซด เปิดเฟสก็เจอเพื่อนแชร์
จริงแท้ประการใด อยากรู้ว่าใน SS เม้นมาทางไหน ลองดิสคัสดูครับ

เบื่อเรื่อง Gen Z ไม่อดทน ทำงานได้ไม่นานเลย ฯลฯ

เพราะถ้าเอาจริงๆ Gen Z มันคือเด็กที่เกิดราวๆปี 1998-99 ดังนั้นมันก็อายุประมาณ 22-25 ปี เพิ่งเริ่มทำงานทั้งนั้น
ถามพวก Gen X-Y ดูว่าก่อนจะอายุ 30 ปีเปลี่ยนงานไปกี่รอบ มีกี่คนที่ทำงานตั้งแต่ที่แรกที่เดียวไปจนรีไทร์



แทนที่จะสงสัยว่าทำไมเด็กไม่อดทนทำงานที่ห่วยแตก ควรสงสัยตัวเองดีกว่าว่าทนทำงานห่วยแตกไปได้ยังไง

ที่เคยเจอมากับตัว
สั้นๆคือเก่ง แต่ต้องรู้วิธีใช้งานเค้า

เรื่องปกติครับ เดี๋ยวอีก 20 ปี คนเจน Gen Z มันก็จะไปบ่น Gen Alpha แบบนี้แหละ

สังคมโลกมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ หมดยุคขยันอดทน ทุ่มเทกับงาน เข้าสังคมไร้สาระแล้ว

จริงครับ แนวคิด วิธีพูดมันมีความแตกต่างกันอยู่

แต่ผมละชอบทำงานกับGen Z มากกว่า

ผมรับราชการ อายุ37ละ ไม่รู้ตัวเอง Gen ไหน รู้แต่ว่าพ่อแม่สอนตลอด เจอใครให้ยกมือไหว้ ไม่เสียหาย เจอใครมีเรื่องให้ช่วย ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ไม่เสียหายต่อตัวเราและครอบครัวให้ช่วยเขา วันหน้า วันดีคืนดี เรามีเรื่องให้เขาช่วยจะได้รบกวนขอความกรุณาจากเขาได้ ผมทำแบบนี้มาตลอด ยกมือไหว้ยันรปภ.

มีเคสล่าสุดตัวเองเลย มีเด็กที่ทำงานใหม่มาอายุ 22 จบใหม่ๆเลย ไม่เคยยกมือไหว้ ไม่เคยทักทาย เดินผ่านแบบเราเป็นอากาศธาตุ ผมไม่เคยสนใจใส่ใจเลยนะ แต่วันนึงหัวหน้าเขาให้เด็กคนนั้นมาขอเอกสาร มาขอความช่วยเหลือจากผม มาขอให้ผมเซ็นเอกสารให้ จากที่ไม่เคยไหว้ ไหว้ผมแค่วันนั้นวันเดียวแหละ วันอื่นแม่มเหมือนเดิม เห็นเราเป็นอากาศธาตุเช่นเคย 5555+ คือเราก็ทำความเข้าใจเด็กมันนะ แต่ทำไงได้มันเป็นที่ต้นตอครับ สาเหตุมาจากครอบครัว เลี้ยงมาแบบไหนก็เป็นแบบนั้น

คงไม่ใช่ gen z ทุกคน
แต่ที่เจอปีนี้ บ.ผมรับจูเนียยร์เข้ามา 2 คนจบใหม่ gen z ไม่มีใครผ่านโปรเลย เป็นเหมือนตามบทความเป๊ะ

เบื่อเรื่อง Gen Z ไม่อดทน ทำงานได้ไม่นานเลย ฯลฯ

เพราะถ้าเอาจริงๆ Gen Z มันคือเด็กที่เกิดราวๆปี 1998-99 ดังนั้นมันก็อายุประมาณ 22-25 ปี เพิ่งเริ่มทำงานทั้งนั้น
ถามพวก Gen X-Y ดูว่าก่อนจะอายุ 30 ปีเปลี่ยนงานไปกี่รอบ มีกี่คนที่ทำงานตั้งแต่ที่แรกที่เดียวไปจนรีไทร์



แทนที่จะสงสัยว่าทำไมเด็กไม่อดทนทำงานที่ห่วยแตก ควรสงสัยตัวเองดีกว่าว่าทนทำงานห่วยแตกไปได้ยังไง

รุ่น Z มันเสพโซเชียลเยอะ บางทีมันคิดว่าหลายๆอย่างเปนแบบไลฟ์โค้ชบอก ผมว่าเดวพอมันโตขึ้นมันก็คิดได้

มีให้เห็นทุกเจน แต่บังเอิญว่าทุกวันนี้ มันมีแพลตฟอร์มโซเชียล ให้หาที่ลง เด็ก GEN ใหม่ๆมันเลยโดนเละ

สมัยก่อน คนมันดูเหมือนจะทนกว่าเพราะแค่ การเข้าถึงข้อมูลมันน้อย ทุกวันนี้ บริษัท เรทเงินเดือน JD มันหาดูได้แค่ปลายนิ้ว

สมัยก่อนคนนั่งรถ เข้ามาทำงานใน กรุงเทพ ทำอะไรไม่เป็นยิ่งกว่านี้อีก ไม่เป็นไม่พอ โดนสอนแบบผิดก็ไม่รู้ด้วย

ว่าถูกไม๊ คำถามก็ตั้งไม่ได้ เพราะไม่รู้จะหาข้อมูลที่ถูกจากไหน ไหนจะโดนเอาเปรียบอีก กลายเป็นสวรรค์ผู้ประกอบการ

แต่ไปไหนไม่ได้เพราะ ข้อมูลต่างๆมันไม่ได้หาง่ายเหมือนทุกวันนี้ เรื่องมารยาทก็เหมือนกัน

บางอย่างก็เอามาเป็นประเด็นเพียงเพราะไม่ถูกใจ


"แต่บทความก็อาจจะจริงในบริบท อเมริกาเพราะสังคมและสภาพแวดล้อมเค้าไม่เหมือนเรา"

แต่ถ้าไทยผมว่า เด็ก GEN Z ดีกว่า Gen เก่าๆเยอะ

ผมโตมาในสภาพเด็กเจนผม ฆ่า รันฟันแทง ในเมือง กันแทบทุกอาทิตย์ รถเมย์สมัยก่อนไม่ปลอดภัยเหมือนสมัยนี้

แสดงว่าการมองลักษณะงานอาจจะต่างกัน Gen Z มองว่าห่วยแตก แต่ Gen X,Y มองว่าธรรมดา

แผนกผมมีแต่ Y กับ X

งานผมมันรับ Z มาปั้นยากด้วยแหละ

แต่แผนกอื่นมี Z อยู่นะ งานดีอยู่คนสองคนเหมือนกัน จบนอก ขับรถคันละ 4-5 ล้านมาทำงาน

ผมเห็นด้วยเรื่องการแข่งขันที่ต้องมีรางวัลทุกอันดับอะที่มันไม่น่าจะ work

ปรากฏการณ์ที่ผมสังเกตได้คือตอนที่มีซีรีย์เรื่องนึง เนื้อเรื่องประมาณว่ามีฉากลูกสอบได้ที่ 2 แต่พ่อแม่ก็จัดงานเลี้ยงให้ถึงจะได้ที่ 2 เพราะเห็นกับความพยายามของลูก (จำได้ประมาณนี้ ผิดก็ขออภัย) แล้วก็เป็นกระแสในโซเชียลอยู่พักนึก แต่ผมดูแล้วขัดอารมณ์จัด เลยนั่งถกกับแฟนว่าแบบนี้มัน Ok จริงๆหรอ

ในความคิดผมคือ สัญญาเป็นสัญญา ถ้าทำได้ก็ต้องให้ตามที่พูด กลับกันถ้าทำไม่ได้ก็ไม่มีรางวัลปลอบใจ เพราะโลกไม่เคยปลอบใจเรา ทำธุรกิจคู่แข่งหรือลูกค้าก็พร้อมหวดเราแบบไม่ปราณี แล้วเราก็ไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยตอนสำเร็จ แต่เราจะเรียนรู้ทุกอย่าง ถ้าเวลาที่เราล้มเหลวแล้วทนความเสียใจได้ กลับไปสำรวจได้ว่าเราพลาดอะไร

ฟังดูผมเป็นพ่อใจร้ายนะที่จะเลี้ยงลูกแบบนี้ แต่ถ้าจะให้ลูกผมโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ผมยอมโดนด่าว่าใจร้ายแหละ

อันนี้ผมขอแย้งนะครับ ผมกลับไม่ชอบอะไรแนวนี้เลย ผมมองว่าต่างคนก็ต่างวาระ มีความรับผิดชอบในแต่ละส่วน แต่อย่างคุณก็ถือว่ามืออาชีพนะ เพราะเด็กมันอาจจะไม่ได้ทำตามธรรมเนียมที่คุณถูกสอนมา แต่คุณก็ยังทำตามหน้าที่ได้ดี ผมเคารพในส่วนนั้น แต่ผมจะเจอแนวๆ พอเด็กมันไม่ไหว้ ไม่ได้สนใจ ถึงเวลา ไปแกล้งมันซะงั้น โคตรไม่มืออาชีพเลย กลายเป็นระบบลูกรักลูกชัง เพราะไหว้กับไม่ไหว้ โคตรไม่มืออาชีพอะ ที่ทำงานผมเป็น บ.ตปท มีข้อห้ามคือ ห้ามเรียกพี่ เรียกน้อง ไม่ต้องยกมือไหว้ ให้เคารพทุกคนเท่ากัน ผมโคตรแฮปปี้ แต่มีไม่ชินบ้าง เวลาต้องเรียกคนอายุเยอะกว่ามากๆ ในเคสของคุณ ผมว่าน้องมันอาจจะขาดสกิลการสื่อสาร การพูดคุยซะมากกว่า

ยังมีคนคิดเรื่องเด็กรุ่นใหม่ไม่ยกมือไหว้ไม่ทักทายอีกแฮะ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นน่าจะเอามาใส่ใจ ขอแค่ทำงานได้ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรือทำตัวไม่น่าเคารพผมก็ไม่ไหว้นะ