[RE: การขับรถขึ้นเขา-ลงเขา]
Myth พิมพ์ว่า:
Neovile พิมพ์ว่า:
Myth พิมพ์ว่า:
sitea พิมพ์ว่า:
สบายๆครับ เอาเกียร์ 3 เป็นหลักทั้งขึ้นทั้งลง อย่าลากเกิน 2500 รอบ
ขาขึ้นถ้าพุ่งได้ค่อยไล่ขึ้น ขาลงถ้ารถพุ่งต้องดึงไปเกียร์ 2 แค่นี้ก็ใช้เบรคน้อยแล้วครับ
ส่วนเทคนิคการใช้เบรค ผมไม่เลีย อาศัยกดลึกจนมั่นใจว่าเอารถอยู่แล้วปล่อยยาวหน่อยให้เบรคระบายอากาศ
ถ้ารอบเกินจะเกิดไรขึ้นคับ ผมใช้แพทเดิบชิฟไม่ค่อยเป็นด้วย
เมื่อวานลองใช้ครั้ง วิ่ง 120 กด pds มันขึ้น D6 ผมลองตบลงมา D2,d3 รอบเครื่องขึ้นไป 3-4 พันรอบ
รอบเกียร์มันผกผันตามความเร็วครับ
เกียร์ 1 แรงบิดสูง ความเร็วไม่มาก
เกียร์ 2 แรงบิดน้อยลงมาหน่อยแต่ความเร็วมากขึ้น
ถ้าท่านขับที่ความเร็วสูงพอตบเกียร์ลงมา รอบของเกียร์ที่ต่ำกว่าจะดีดขึ้นไปอยู่แล้ว
มีผลทำให้อายุการใช้งานของเกียร์สั้นลง
แต่ที่เขาบอกให้ใช้เกียร์ต่ำเวลาลงเขา เพราะความเร็วรถมันจะถูกควบคุมจากรอบเครื่องของเกียร์นั้นๆ
ทำให้ไม่ต้องแต่เบรคบ่อยๆ ครับ
แล้วกรณีรถติดตรงทางลาด หรือ ทางชัน ทำยังไงดีคับ
ต้องดูว่าทางลัดชันที่ท่านว่ากี่% ครับ แล้วติดนานมั้ย
ถ้าติดจริงๆ ผมใช้วิธีใส่เบรคมือก่อน แล้วเอาเท้าอยู่ที่เบรคกันไหลอีกทีนึงครับ แต่ไม่เหยียบ
เคยติดอยู่ที่ทางขึ้นเกาะช้างเกือบ 10 นาที ใจสั่นอยู่ครับ
ปกติถ้าทางชันมากๆจะติดไม่นาน ยกเว้นพวกสะพานมิตรสัมพันธ์แยกอโศกงี้
แต่มันชันไม่มากเท่าโซนภูเขาหรือเกาะ ถ้ามีออโต้เบรคโฮลด์ก็ใช้ได้แล้วครับรถไม่ไหล
ผมขับรถเกียร์ธรรมดามาก่อน ตอนติดทางชันก็ใส่เบรคมือครับ
แล้วพอจะออกตัวให้เข้าเกียร์แล้วมั่นใจว่ารถมีกำลังพอก่อน ค่อยปลดเบรคมือครับ
(การทำงานของเบรคมือมันจะเหมือนเป็นการห้ามล้อครับ ถ้าทางชันอาจจะมีถอยหลังนิดนึงให้ระวังไว้ก่อน
ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วยว่ามันจะรับไหวแค่ไหน เช่น ความชัน ความลื่นของถนน น้ำหนักรถ เป็นต้น)
ห้ามเหยียบเบรคเท้าค้างไว้เด็ดขาดครับ ผ้าเบรคจะไหม้เอาครับ
ถ้าท่านรู้สึกว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ โปรดตรวจเช็ครถดูเสมอครับโดยเฉพาะเบรคครับ
หวังว่าคำตอบของผมจะช่วยท่านได้ครับ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker