ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Sep 2009
ตอบ: 2561
ที่อยู่: บ่ฮู้นำแล่ว
โพสเมื่อ: Fri Dec 05, 2014 14:14
ถูกแบนแล้ว
เรียงความวันพ่อ เรื่องที่ 1
พ่อของฉัน
หากจะกล่าวถึงผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายที่ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนแต่อ้อมแขนของเขาก็อบอุ่นเสมอ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่บุคคลในฝันที่พร่ำเพ้อแต่ก็เป็นยอดมนุษย์ในดวงใจใครหลายๆคน ยามใดที่ทุกข์ท้อกำลังใจมากมายเขามีให้ ผู้ชายที่รักเราด้วยหัวใจ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใคร เขาคือผู้ชายที่เราเรียกว่า “พ่อ”
ครอบครัวของฉันประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่สาวสองคนและฉัน เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของฉันมีมาก จึงทำให้พ่อต้องทำงานอย่างหนัก ในตอนแรกพ่อของฉันปั่นจักรยานขายไอศกรีมแต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจทำให้เงินไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัว ในบ้านของฉันตอนนั้นเรียกได้ว่าข้าวสารแทบไม่มีกรอกหม้อ พ่อจึงอดอาหารเพื่อให้ฉันและพี่ๆได้อิ่ม พ่อของฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพไปทำงานที่โรงฆ่าสัตว์ เพราะรายได้ที่จะได้รับมากกว่า พ่อของฉันไม่ชอบฆ่าสัตว์ ฉันคิดว่าพ่อคงไม่อยากทำอาชีพนี้เท่าไรนัก พ่อฉันกล่าวว่า “พ่อรู้ว่างานนี้เป็นงานที่บาปแต่พ่อก็พร้อมที่จะทำเพื่อครอบครัวของพ่อ ขอให้เป็นอาชีพที่สุจริต คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าพ่อเลือกเกิดได้พ่อก็อยากมีฐานะการเงินที่ดี ลูกๆของพ่อจะได้สบายแต่พ่อก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกๆของพ่อสบายและมีความสุข” หลังจากนั้นครอบครัวของฉันมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พ่อจึงส่งฉันเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีๆ เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก พ่อตัดสินในเลิกทำอาชีพนี้และนำเงินเก็บที่มีอยู่ดัดแปลงบ้านเปลี่ยนเป็นอู่ซ่อมรถเล็กๆ ร้านของพ่อไม่เคยมีวันหยุด แต่เมื่อใดที่พ่อมีเวลาว่าง พ่อมักจะสอนข้อคิดดีๆเสมอ โดยยกตัวอย่างความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับพ่อ ยกตัวอย่างเช่น พ่อสอนให้ฉันมองคนอย่างเท่าเทียมกันไม่เขาจะพิการ จน หรือ รวย แต่เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นในแบบที่เราต้องการได้ ชีวิตเราเราเป็นคนกำหนดเอง” ฉันยึดประโยคนี้เป็นคติประจำใจฉัน มันทำให้ฉันต้องปฏิบัติตนให้ดี 5 ปีผ่านไป ร้านซ่อมรถของพ่อขยายกิจการใหญ่ขึ้น แต่พ่อก็สอนฉันว่า อย่าลืมว่าเราเคยมาจากจุดๆไหน เมื่อเรามีมากขึ้นเราต้องรู้จักการให้คนที่มีน้อยกว่าเรา อย่าเบียดเบียนผู้อื่น ซื่อสัตย์ และที่สำคัญที่สุดคือ “พอเพียง” ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยให้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตนเช่นไร รู้จักประมาณตนและมีเหตุผล ตอนฉันเด็กๆ พ่อมักจะเล่าพระราชกรณียกิจต่างๆที่พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนชาวไทย พ่อบอกว่าเราไม่มีอะไรจะตอบแทนพระองค์ท่านได้นอกจากประพฤติตนเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ ฉันตระหนักในทุกสิ่งที่พ่อทั้งสองได้ทำเพื่อฉัน เพื่อปวงชนชาวไทย ดังนั้นฉันจะนำคำสอนที่พ่อของฉันทั้งสองคนได้สอนฉันไว้ไปปฏิบัติ เพราะคงไม่ใครหวังดีกับฉันเท่ากับบุคคลสองท่านนี้อีกแล้ว
เปรียบพ่อดั่งผู้ถือหางเสือนาวาชีวิตให้หันเหไปตามกระแสน้ำแห่งความเมตตา ดั่งหัวรถจักรนำขบวนผู้โดยสารที่ร่วมชีวิตไปตามเส้นทางศีลธรรมที่ถูกต้องสู่สถานีแห่งความสำเร็จอย่างปลอดภัยและสง่างาม จะมีใครเล่าที่คอยอุ้มชูเลี้ยงดูเราตั้งแต่เรายังเด็ก คอยป้อนอาหารป้อนน้ำ ทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข คอยอยู่ข้างเรายามที่เราทุกข์หรือร้องไห้ ทำอย่างได้เพื่อเรา หยาดเหงื่อแรงกายของพ่อที่ทำเพื่อฉัน ฉันไม่สามารถหาอะไรตอบแทนคือพ่อได้ นอกจากตั้งใจเรียนหนังสือ ประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อของฉันมีความสุข ฉันจะทำให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าความการกระทำของฉันจะเป็นหนึ่งในล้านการกระทำทั้งหมดที่พ่อทำเพื่อฉันก็ตาม และคงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่เท่ากับรักของพ่อตราบชั่วนิรันดร์
“บุญคุณพ่อเปรียบพ่อมหาสมุทร เป็นที่สุดแห่งรักอันยิ่งใหญ่
ยกคุณพ่อบูชาไว้ในหัวใจ สัญญาไว้ลูกจะกตเวที"
โดย นางสาวธัญลักษณ์ แสงสุวรรณ อายุ 16 ปี
เด็กดีวีสาตร์ โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
เรียงความวันพ่อ เรื่องที่ 2
คำว่า "พ่อ"
คำว่า”พ่อ” คนส่วนมากคงคิดถึงเพศที่เข้มแข็งและปกป้อง แต่สำหรับฉัน”พ่อ” หมายถึง ผู้ ที่มีเมตตา กรุณา และสอนฉันด้วยเหตุผลไม่ใช้กำลังเป็นเครื่องตัดสิน สอนให้ พ คือ พอเพียง พึ่งพา และพิจารณา ฉันเชื่อว่าคำสอนทั้ง “ 3 พ.” นี้เพียงพอสำหรับการสร้างเด็กน้อย 2 คนนี้ ที่ได้ชื่อว่า เป็นลูกพ่อให้เป็นคนดีในอนาคตได้
พ.แรก ที่พ่อสอนคือ “พอเพียง “ ซึ่งไปสอดคล้องกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวฯ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คือ สอนให้ฉัน รู้จักประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้ม กันตนเอง รู้จักประมาณฐานะของตนเอง ว่าควรปฏิบัติตน และใช้จ่ายอย่างไรจึงจะเหมาะสม (ถ้ายังทำตัวไม่เหมาะสม ก็ควรปฏิวัติเสีย ชีวิตจะดีขึ้น) รู้จัก ใช้เหตุผลในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวัน เพราะถ้าเราขาดการ ตัดสินใจที่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ และพ่อยังคอยดูและสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกๆ รู้จักป้องกันตัวเองจากสิ่ง แวดล้อมที่เย้ายวน หรือ ล่อแหลมให้หลงผิดได้
พ.ตัวที่สองคือ “พึ่งพา” บางคนอาจเข้าใจผิดว่า พ่อสอนให้ฉันพึ่งพาคนอื่น แต่มันกลับ
ผิด กันโดยสิ้นเชิง เพราะพ่อสอนให้ฉัน พึ่งพาตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำสอนของพ่อ พ.นี้ ทำให้ฉันรู้จักทำงานด้วยตัวเอง คิดเอง ทำเอง และพึ่งตนเองเป็นอันดับแรก เพราะในสังคมปัจจุบันมีการแข่งขันสูง เราจึงต้องพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด(นี่เป็นการที่พ่อมองการณ์ไกล)และฝึก ให้ลูกทำตั้งแต่เล็กจนโต
พ.ตัวที่สาม คือ “พิจารณา” คำว่าพิจารณาคงไม่ได้เกี่ยวกับความผิดเพียงอย่างเดียว
หรือ การให้ผู้อื่นมาตัดสินตัวฉันก็คงไม่ใช่ เพราะพ่อสอนให้ฉันพิจารณาตนเองอยู่เสมอ ความหมายของข้อนี้ก็คงจะไปสอดคล้องกับ พ.ตัว ที่สอง คือ พ่อสอนให้พึ่งพาตนแล้วก็มักมีเรื่องผิดพลาดบ้าง พ่อก็จะสอนให้พิจารณาความ ผิดนั้น และหาข้อแก้ไข หรือปรับปรุงด้วยตัวฉันเอง
การสอนพ่อนั้นคงไม่มีกฎหรือทฤษฎีที่ตายตัว แต่พ่อมักยกตัวอย่างข้อผิดพลาดที่เกิดจาก ตัวท่านเอง หรือเกิดจากผู้อื่นมาสอนฉันและความผิดของฉันด้วย ทำให้ฉันต้องทำงานมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด พ่อ คือ ผู้สอนวิชาดำเนินชีวิต แต่ท่านก็ไม่เคยทิ้งการเรียนในห้องเรียน เพราะท่านพูดเสมอว่า”ความรู้เท่านั้นที่ใช้ในการอยู่รอดในสังคมที่วุ่นวาย นี้ได้ “ ท่าน ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ลูกเรียนรู้ในสิ่งที่ดี แม้ต้องทำงานหนักเพียงใด ท่านก็ต้องดูแลต้นไม้สองต้นนี้ คือ ลูกๆของท่านให้เติบโตเป็นต้นไม้พันธุ์ดีต่อไปในอนาคต สุดท้ายนี้ลูกคงไม่มีคำหวานคำใดที่ลูกจะมอบให้พ่อ นอกจากคำว่า “ลูกรักพ่อ”และพ่อคงไม่ใช่ผู้ชายในฝันของฉัน เพราะฉันเกิดมาก็เห็นหน้าพ่อที่แสนดีของฉันแล้ว
วันพ่อ...อย่าลืมทำความดีเพื่อพ่อกันนะครับ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ