อรุณสวัสดิ์พวกลื้อทั้งหลาย ตื่นรึยังแจะ?
เช้านี้สาระสาระในแบบซามูไรๆซักหน่อยน่อ
ถ้าหากพูดถึงซามูไร,ไดเมียว หรือ โชกุนของญี่ปุ่นที่ดังๆพวกลื้อก็จะรู้จัก
โอดะ โนบุนากะ,โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ,อาเคจิ มิซึฮิเดะ,โทคุงาว่า อิเอยาสุ หรือ ทาเคดะ ชินเง็น เป็นต้น บลาๆ
แต่ว่าซามูไรท่านนี้พวกลื้ออาจจะรู้จักหรือไม่ก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนก็ได้
และเป็น1ในวีรบุรุษซามูไรของโทโฮคุซึ่งเป็นภูมิภาคบ้านแฟนอั๊วด้วย
สำหรับซามูไรที่ว่าคือ"นาโอเอะ คาเนซึกุ"
---------------------------------------------------------------
นาโอเอะ คาเนซึกุ(直江兼続)ซามูไรแห่งแคว้นเอจิโกะ เป็น1ในซามูไรคนสำคัญแห่งแคว้นเอจิโกะและของตระกูลอุเอซึกิอีกด้วย
เค้าเป็นทั้งซามูไรและกุนซือของทัพอุเอซึกิไปในตัวด้วย ฉายแววความอัจฉริยะนั้นตั้งแต่อายุ5ขวบด้วย
คาเงซึกุนั้นเกิดที่เมืองโยเนะซาว่าในจังหวัดยามาาตะ
จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้และข้าวเลยล่ะนะตัวเธอ
ชื่อตอนเด็กของเค้าคือฮิงุจิ โยโรคุ เป็นลูกของฮิงุจิ คาเนโทโยะซามูไรผู้รับใช้ของนากาโอะ มาซาคาเงะแห่งปราสาทซาคาโมโตะ
โยโรคุนั้นฉายแววความอัจฉริยะและความหัวลั้นตั้งแต่งอายุ5ขวบ
ด้วยความหัวลั้นและฉายแววอัจฉริยะนั้นทำให้คาเนซึกุซึ่งตอนนั้นคือโยโรคุ
ได้เป็นข้ารับใช้ในตระกูลอุเอซึกิแห่งเอจิโกะ ซึ่งในเวลานั้นผู้นำตระกูลอุเอซึกิคือ
"อุเอซึกิ เคนชิน"(上杉謙信)นั้นเอง เคนชินนั้นได้รับตัวโยโรคุพร้อมลูกๆของซามูไรทั้งหมดมาเลี้ยงดูและให้ศึกษาเล่าเรียนในวัด
พร้อมกับคอยรับใช้บุตรบุญธรรมของตนนั้นคือ "อุเอซึกิ คาเงคัตซึ"(上杉景勝)
จริงๆเป็นลูกของน้องสาวเคนชินนะ
หลังจากการตายของเคนชินนั้นก็เกิดศึกสายเลือดบุญธรรมขึ้นระหว่าง
คาเงะโทร่า และ คาเงคัตซึ ในเวลานั้นจากเด็กชายโยโรคุก็กลายเป็นคาเนซึกุแล้ว
คาเงซึกุก็ได้รับใช้นายของตนอย่างซื่อสัตย์และคอยวางแผนต่างๆนา่ๆและสุดท้ายก็ชนะกลุ่มผู้สนับสนุนคาเงะโทระและตัวคาเงโทระเองด้วย
(คาเงโทร่าหลังจากแพ้ก็ทำการขว้านท้อง)
จากนั้นตนก็ขึ้นเป็นเจ้าเมืองเอจิโกะต่อจากเคนชิน และได้แต่งงานกับน้องสาวของทาเคดะ ชินเง็น หลังจากศึกสายเลือด
คาเงคัตซึได้ยอมเข้าร่วม1ในพันธมิตรของ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
ทำให้คาเงคัตซึได้เป็นผู้ปกครองเอจิโกะเหมือนเดิมแถมยังได้ไอซุมาเป็นของตนอีกด้วย
ในตอนนี้คาเนซึกุนั้นก็เป็นทั้งผู้ติดตามและกุนซือของตัวคาเนคัตซึเหมือนเดิม
ว่ากันว่าช่วงที่คาเงคัตซึไปพบโทโยโทมิ ฮิเดโยชินั้น ตัวฮิเดโยชิถูกคนสนิทอย่างอิชิดะ มิซึนาริกล่อมให้ชวนนาโอเอะ คาเงซึกุมาเป็นพวกซะ
เพราะความฉลาดของเค้านั้นไม่ธรรมดา
เมื่อฮิเดโยชิได้ยินอย่างนั้นก็อยากได้ตัวเข้าไปใหญ่ จึงพบคาเงคัตซึกับคาเนซึกุไปด้วย
พร้อมกล่อมคาเงซึกุทันทีพร้อมให้เงินเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น
แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะตนนั้นอุทิศการรับใช้แด่ตระกูลอุเอซึกิและคาเงคัตซึเท่านั้น
แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับฮิเดโยชิ แต่เค้ามีขุนนางที่จงรักอยู่ในตัวตลอดไป
ภายหลังถึงแก่กรรมของฮิเดโยชิ.โทคุงาว่า อิเอยาสุก็เข้ามามีบทบาททางการเมืองแทนตระกูลโทโยโทมิ
ในช่วงเวลานี้มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายไปฝั่งโทคุงาวะก็เยอะเช่นกัน
ทำให้ ณ.เวลานี้มีขั้วอำนาจ2ฝั่งคือ โทโยโทมิ และ โทคุงาว่า
ทางด้านตระกูลอุเอซึกินั้นตัดสินใจไม่เปลี่ยนฝั่ง และจะอยู่โทโยโทมิต่อ
เมื่อมาถึงสงครามทุ่งเซคิฮางาระ ด้านโทโยโทมินั้นมีแม่ทัพคืออิชิดะ มิซึนาริ
ในตอนนั้นคาเงซึกุที่เป็นเจ้าเมืองของโยเนะซาว่าก็เข้ามาช่วยในสงครามครั้งนี้
ซึ่งเกราะและหมวกของคาเงซึกุนั้นจะมีสัญลักษณ์ว่า"愛"ที่แปลว่าความรักอยู่บนหัว
เมื่อเห็นหมวกแบบนี้นั้นก็แปลว่าเค้าคือ นาโอเอะ คาเงซึกุนั้นเอง.
แต่ผลสงครามครั้งนี้จบลงที่ชัยชนะของโทคุงาว่า และทำให้โทโยโทมิถึงจุดสิ้นสุด
ด้านอุเอซึกิก็โยกฝั่งมาทางโทคุงาว่าในภายหลัง
หลังจากชัยชนะของฝั่งโทคุงาว่า อิเอยาสุเป็นโชกุนแบบเต็มตัวโดยไม่ต้องกลัวโทโยโทมิอีกต่อไป
ด้านคาเงคัตซึนั้นได้ยกพื้นที่บางส่วนของตนให้กับโทคุงาว่า ส่วนด้านคาเงซึกุนั้นไม่ต้องหาตนในฐานะบ่าวและนายต่อไปให้ไปเฝ้าโทคุงาว่าแทน
คาเงซึกุนั้นก็ได้รับการไหว้วานจากทางอิเอยาสุให้เป็นอาจารย์ให้กับทาเคจิโยะบุตรของตน
(ทาเคจิโยะผู้นี้ในอนาคตคือ โทคุงาว่า ฮิเดทาดะ โชกุนรุ่นสอง)
หลังจากที่อิเอยาสุถึงแก่กรรม คาเงซึกุนั้นก็ของเกษียนราชการและขอไปทำไร่ทำนาในบ้านเกิดตนโยเนะซาว่าต่อ
ในวันที่23 มกราคม ปี1620 นาโอเอะถึงแก่กรรม ก่อนที่เค้าเกษียนคาเงซึกุนั้นมีรายได้ของตนอยู่ที่6แสนโคคุ
หลังการตายคาเงซึกุ เงินนั้นได้ถูกแจกจ่ายให้คนในโยเนะซาว่าส่วนโอเซ็นภรรยาของคาเงซึกุก็ได้บวชเป็นชีตลอดชีวิต
คาเงซึกุผู้ที่ถือหลักแห่งความยุติธรรมเพื่อปกป้องประเทศให้
พ้นจากภัยสงคราม ผู้ยึดถือหลักความรัก ความเมตตาเพื่อผ่านอุปสรรคนานานัปการเพื่อประโยชน์สุข แก่ส่วนรวมแม้ต้องเสียสละส่วนตน
วีรกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบ้านเมือง การศึกษา การสงครามเพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่รอด
"แม้ชีพวายแต่ชื่อนั้นคงเป็นอมตะ"
สำหรับวันนี้แค่นี้ สวัสดี