[RE: 21 สิ่งที่ไม่มีใครเคยบอกคุณเกี่ยวกับ "โรคซึมเศร้า"]
Barcelonistu พิมพ์ว่า:
WhiteSakura พิมพ์ว่า:
เราเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง (Major depressive disoder)
จะบอกว่า บทความนี้มีความจริงไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ
แล้วที่เป็นจริงๆ จะมีลักษณะยังไงครับ ถ้าพอจะเล่าได้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
ปล.ชอบน้องหมาในซิกมากเลย
1) เกือบทุกอย่างที่คนรอบข้างพูด นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังทำให้แย่ลง
- ซึมเศร้ากับความเครียดมันต่างกัน คนส่วนใหญ่เห็นคนซึมเศร้าแล้วไม่เข้าใจ ก็จะพูดในเชิงของ "สู้สิวะ!" "ทำตัวให้มีความสุขดิวะ" "อย่ามาซึมเศร้า" ซึ่งคำพูดพวกนี้ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย ความจริงมันทำให้แย่ลงด้วย เพราะหลายคำเช่น "คนอื่นเจอหนักกว่านี้เค้ายังสู้ได้ ทำไมแค่นี้แกสู้ไม่ได้?" อันนี้เป็นสาเหตุตัวดีให้คนไปฆ่าตัวตายเลย เพราะจะทำให้ตัวเองรู้สึกไร้ค่า กระจอก ตอนคุณไปหาหมอซึมเศร้า สังเกตสิว่าหมอไม่เคยใช้คำพวกนี้เลย แต่ใช้วิธีให้เราเห็นค่าตัวเอง แทนที่จะเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น (downward comparison)
ไม่จริงทั้งหมด จิตแพทย์อาจใช้วิธีการเปรียบเทียบตัวคนไข้กับผู้ที่ด้อยกว่าได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรายังมีส่วนที่ดีกว่าคนอื่น แต่กรณีนี้จะใช้ในคนไข้เด็กไม่ได้ เพราะเด็กยังไม่มีความคิดที่ซับซ้อนเหมือนผู้ใหญ่
2) มันไม่ได้เจ็บแค่ทางใจ แต่เจ็บทางกายด้วย
- มันไม่ได้เป็นแค่ความเจ็บปวดทางใจ หลายครั้งมากที่มันส่งผลมาถึงทางกายด้วย ปวดกล้ามเนื้อเอย ปวดท้องเอย หายใจไม่ออกเอย
ไม่จริง ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าโรคซึมเศร้าทำให้เกิดอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น
3) ไม่อยากขอความช่วยเหลือคนอื่น
- ความเชื่อของคนเป็นโรคซึมเศร้าคือไม่มีใครต้องการเรา ส่งผลให้เค้าไม่อยากไปขอความช่วยเหลือคนอื่น เพราะกลัวจะไปทำให้เค้ารำคาญ หากคุณเป็นโรคซึมเศร้าและคิดอย่างงี้อยู่ จงฝ่ามันไปให้ได้แล้วไปขอความช่วยเหลือซะ! คุณต้องการความช่วยเหลือ ด่วนด้วย
ไม่จริงทั้งหมด บางคนอาจขอความช่วยเหลือมากจนเกินไปด้วยซ้ำ
4) พฤติกรรมการกินจะผิดเพี้ยนไป
- บางคนก็จะกินเยอะเกินไป บางคนก็จะกินน้อยเกินไปจนถึงขั้นไม่กินเลย ทุกอย่างดูผิดเพี้ยนไปหมด ส่งผลให้คนเป็นโรคซึมเศร้าร่างกายจะเปลี่ยนไปด้วย
จริง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเบื่ออาหารมากกว่า ในกรณีคนที่กินเยอะกว่าปกติ มักจะเป็นเพราะผลของยารักษามากกว่า
5) เพื่อนบางคนอาจจะทิ้งคุณไป (ซึ่งก็ดีนะ)
- เพื่อนบางคนอาจจะทนไม่ไหวและออกไปจากชีวิต ซึ่งเราจะได้รู้ว่าเพื่อนตายเป็นใครก็ตอนนี้เอง ไม่ต้องสนใจคนที่ทิ้งเราไป สนใจแค่คนที่เหลืออยู่ เพราะคนเหล่านั้นต่างหากที่จะช่วยให้เราหายได้
จริง หลายๆ ครั้งคนรอบตัวคนไข้จะไม่เข้าใจ
6) คุณอาจจะรู้สึกเสียสติโดยสมบูรณ์
- โรคซึมเศร้าจะทำให้การทำงานของสมองผิดเพี้ยนไป ทุกการกระทำจะดูเหมือนคนบ้า เข้าสังคมไม่ได้ ความคิดแปลกๆ ตื่นกลัว หดหู่ แต่ขอให้จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้บ้า คุณแค่ไม่สบาย และมันรักษาได้
ไม่จริงเลยแม้แต่เปอร์เซนต์เดียว โรคซึมเศร้าจะไม่มีการเสียสติ หรือประสาทหลอน ถ้ามี ให้พิจารณาวินิจฉัยเป็นโรคอื่น อันนี้เป็นสิ่งสำคัญของโรคซึมเศร้าเลย
7) ทุกอย่างจะทำให้คุณรำคาญ รวมถึงตัวคุณเองด้วย
- เวลาไม่ได้รับการสนใจจากคนรอบข้างอย่างเพียงพอ บางคนอาจจะมีอาการหงุดหงิดได้
จริง
8) ทุกอย่างในชีวิตประจำวันดูผิดพลาดไปหมด
- สิ่งง่ายๆที่เคยทำได้ดี ตอนนี้กลับยากมาก (เช่นตื่นไปเรียน/ทำงานในเวลาเดิมปรกติ แทบไม่ไหว)
จริง พฤติกรรมของผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลง เช่น ชอบอาบน้ำก็กลายเป็นไม่ชอบ ทำอะไรๆ ก็น่าเบื่อ เล่นเกมส์ที่สนุกก็ไม่อยากเล่น
9) การแยกความคิดจริงๆกับความคิดแง่ลบของการซึมเศร้าเป็นเรื่องยากสุดๆ
- เวลาพูดอะไรออกมา มันยากที่จะแยกเนื้อหาจริงๆกับสิ่งที่พูดเพราะซึมเศร้า(ซึ่งมักจะเป็นเรื่องแย่ๆแง่ลบ)ได้ ต้องพยายามแยกแยะออกให้ได้ จะช่วยรักษาได้ดีมาก
จริง มันกระทบต่อการคิด การตัดสินใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโรค อีกส่วนนึงเป็นผลข้างเคียงของยา
10) พฤติกรรมการนอนเละไม่เป็นท่า
- เริ่มนอนไม่หลับบ้างหรือนอนไม่พอบ้าง ไม่ก็ย้ายเวลานอนไปตอนกลางวันไรงี้ เพี้ยนพอๆกับพฤติกรรมการกินเลย
ไม่จริงทั้งหมด บางคนอาจนอนมากขึ้นด้วยซ้ำ
11) ซึมเศร้าอาจหมายถึงไร้ความรู้สึกนึกคิดโดยสมบูรณ์ก็ได้
- ซึมเศร้าอาจจะไม่ได้จำกัดแค่ความเศร้า แต่ความด้านชาทางความรู้สึกก็ถือเป็นอาการซึมเศร้าเหมือนกัน ประมาณว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ทุกคำพูดที่คนพูดออกมา คุณก็ยังซึมเศร้าเหมือนเดิม หากมีอาการนี้ บอกหมอด้วย
ข้อนี้แปลกๆ
12) มันน่าเบื่อมาก
- ล่องลอย ไม่สนใจกับอะไรเลย จมอยู่แต่กับตัวเอง เวลาผ่านไปช้ามาก เป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อมาก
จริง
13) รู้สึกผิดตลอดเวลา
- สิ่งร้ายแรงอันดับต้นๆของโรคซึมเศร้าคือ ความรู้สึกผิด (Guilty) คุณรู้สึกโง่ คุณรู้สึกเลว คุณรู้สึกไร้ค่า คุณรู้สึกเป็นตัวถ่วง และสุดท้ายความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้ฆ่าตัวตายได้ในที่สุด
จริง แต่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่คิดฆ่าตัวตายจะมีประมาณ 15-18% ไม่ใช่ทั้งหมด
14) ซึ่งก็อาจจะเพราะคำพูดของคนรอบข้าง
- ทำไมถึงรู้สึกผิดตลอดเวลา? ส่วนหนึ่งก็จะมาจากคำพูดของคนรอบข้าง อย่างที่บอกไว้ในข้อแรก "คนอื่นเจอปัญหาหนักกว่านี้อีก ทำไมสู้ได้ ทำไมแกสู้ไม่ได้?" นั่นแหละ เป็นการกระตุ้นความรู้สึกผิดในใจจนส่งผลให้กระทำเรื่องเลวร้ายได้ดีนักแล
ไม่จริงทั้งหมด บางคนสามารถใช้เป็นแรงผลักดันให้กับชีวิตได้
15) ฝันประหลาด
- ความฝันจะแปลกๆ ในเนื้อหา
บอกยากว่าประหลาดมั้ย? เพราะปกติความฝันมันก็ประหลาดอยู่แล้ว
16) กระจกกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ
- คนเป็นโรคซึมเศร้ามักจะมองเห็นตัวเองไร้ค่า พอส่องกระจกก็จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ไม่จริง การส่องกระจก ยิ้มให้ตัวเองในกระจก หรือการพูดคุยกับกระจก ทำให้ฉลาดมากขึ้นและอารมณ์ดีมากขึ้นด้วยซ้ำ
17) โรคซึมเศร้าเหมือนการสร้างโลกจากมุมมองที่บิดเบือน(ไปในทางที่แย่)แล้วเข้าไปอยู่ในนั้น
- มีคนเคยบอกว่าโลกนี้มันมีเป็นพันล้านใบซ้อนอยู่บนโลกใบเดียวกัน เพราะ ทุกคนมีโลกของตัวเองอันเกิดจากประสบการณ์และความคิดของตน และคนเป็นโรคซึมเศร้าจะสร้างโลกที่มีลอจิคที่ผิดเพี้ยน สร้าง Fact ที่ไม่จริงเช่นตัวเองอยู่คนเดียว ตัวเองไร้ค่า (แต่ถือว่าจริงในโลกของเค้า) และก็ย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้น การบำบัดจึงมีความจำเป็นในการทำลาย Fact อันบิดเบือนเหล่านั้นทิ้งและดึงเค้ากลับสู่โลกปกติ
จริง คนไข้จะสร้าง logic ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย และอาจไม่ยอมรับความจริงที่โหดร้ายในโลกเข้ามาขวาง logic ของตัวเอง จะให้เรียกง่ายๆ ก็คือ ชอบมโน ชอบคิดไปเอง
18) เห็นตัวเองไร้ค่าไม่ว่าจะมีคนมาชมว่าดีว่าเก่งยังไงก็ตาม
- ไม่ว่าจะมีใครชมอะไรคุณ คุณก็จะเครียดและบอกว่าตัวเองไม่ได้มีดีอะไรเลย ตัวเองเลว ตัวเองไร้ค่า ไม่ต้องมาสนใจ
ไม่จริงทั้งหมด คำชมเป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับคนไข้
19) การกลับเข้าสู่สังคมหลังจากซึมเศร้าเป็นเวลานานเป็นเรื่องที่ยากและน่าอึดอัด
- อึดอัดจริงอะไรจริง 555 ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ การกลับเข้าสังคมก็จะเป็นเรื่องที่คิดแล้วขนลุกซู่มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ต้องทำให้ได้ เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา
จริง
20) มองอนาคตของตัวเองไม่ออก
- คนปกติก็จะวาดฝันวางแผนไว้ว่าอนาคตเราจะทำอย่างโง้นอย่างงี้ แต่สำหรับคนกลุ่มนี้ จะมองอนาคตตัวเองไม่ออก ติดอยู่กับตัวเอง จมอยู่กับเวลา ผลเสียที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกสิ้นหวังจะประดังเข้ามาและรู้สึกว่ายังไงก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นและจมกับมันต่อไปต่อไปต่อไป ไปบำบัดซะ!
ไม่จริงทั้งหมด บางคนก็สามารถวางแผนชีวิตได้ตามปกติ
21) โรคซึมเศร้าทำให้คุณรู้สึกว่าคุณอยู่ลำพัง ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ใช่
- โลกนี้ไม่มีใครอยู่ลำพังหรอก แต่โรคนี้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณอยู่ลำพัง จงเข้าใจว่ามันไม่จริงและสู้กับมันให้ได้
ไม่จริงทั้งหมด มีบ้างที่บางครั้งอาจรู้สึกต่อสู้อยู่คนเดียว
เราว่าบทความนี้ไม่ได้เขียนโดยจิตแพทย์นะ
เราเป็นผู้ป่วย เคยเรียนจิตวิทยามาบ้าง ก็พอรู้บ้าง