มนุษย์ต่างดาว! พันธุ์ต่างๆ
มนุษย์ต่างดาว (Alien) หรือ สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่อยู่นอกโลก เป็นปริศนามานมนานแล้ว และเป็นสิ่งที่เชื่อกันว่ามีอยู่จริง ด้วยมีคำร่ำลือและมีผู้ยืนยันการพบเห็นมากมายนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่กระนั้นทุกวันนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์แบบจะๆ ชัดๆ 100% แต่ประการใด ซึ่งในความคิดของคนส่วนใหญ่ มักจะวาดภาพ มนุษย์ต่างดาว ลักษณะคล้ายคนแต่ ตัวเขียว หัวโต ตาโต มาเยือนโลกโดย จานบิน(UFO)...ลองมาดูทฤษฎีการแบ่งประเภทมนุษย์ต่างดาวเท่าที่เคยร่ำรือ-พบเห็นกัน (
*ไม่ใช่ที่แต่งขึ้นในภาพยนตร์ไซ-ไฟ แฟนตาซีทั่วไป ซึ่งทราบกันดีว่า มีจินตนาการออกมามากมายร้อยแปดพันเก้า)
- 1. เกรย์ (Grey หรือ Gray alien) - พวกเกรย์ มีลักษณะหัวโต ตาโตสีดำ รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขนแต่มักจะตัวเล็กคล้ายเด็ก นิ้วทุกนิ้วเรียวยาว ผิวหนังสีเทา จึงเป็นที่มาของชื่อ เกรย์ (Grey= สีเทา *แต่ก็มีผิวสีอื่นๆด้วยบ้างเช่นกัน) พวกมันสามารถสื่อสารทางโทรจิตได้...และยังรู้จักกันในนามว่า "มนุษย์ต่างดาวแห่งรอสเวลล์" (Roswell) ด้วยพบมีร่องรอยยูเอฟโอตก ณ บริเวณสถานที่แห่งนั้น สันนิษฐานว่าเป็นของพวกเกรย์...มีสถิติรายงานการพบมนุษย์ต่างดาวว่า 75% เกิดขึ้นในสหรัฐฯ, 20% เกิดที่ใจกลางยุโรป ส่วน 12% เกิดบนเกาะอังกฤษ และที่เหลือจากที่อื่นๆทั่วโลก ซึ่งพวกสปีชีย์เกรย์นี้เองที่เป็นพันธุ์ที่โด่งดัง มนุษย์คุ้นเคย และเป็นที่จดจำมากที่สุด...ทั้งยังกลายเป็นสัญลักษณ์ Logo มาตรฐานประจำตัวของมนุษย์ต่าวดาวไปแล้ว...*และยังมีอีกพวกที่มีลักษณะคล้ายพวกเกรย์ปกติมาก เรียกว่าพวก "ฟูรอน" (Furon) (อาจเป็นเกรย์อีกพันธุ์) มีความก้าวหน้ามากกว่า ว่ากันว่าพวกนี้ยังเป็นอมตะ เพราะสามารถโคลนนิ่งตัวเองได้เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์
* เกรย์เป็นปฏิปักษ์กับมนุษย์อย่างชัดแจ้ง และว่ากันว่า มนุษย์ต่างดาวพวกที่ลักพาตัวมนุษย์มากที่สุดคือพวกเกรย์นี่เอง พวกมันสนุกสนานกับการนำมนุษย์ไปทดลอง และชอบศึกษาระบบการสืบพันธุ์ของมนุษย์ ทั้งยังมีข่าวเป็นพวกที่ชอบชำแหละสัตว์ โดยเฉพาะวัวเพื่อนำอวัยวะไปศึกษาด้วย
* ล่างนี้ กรณีศึกษา :) บทสนทนาจาก ภาพยนตร์ Paul (2011)
วิลลี่ : " นายเป็นเอ...เอเลี่ยน ! นายจะลักพาตัวเราไหม! "
เอเลี่ยนพอล (พันธุ์เกรย์) : " แกคิดอย่างนั้นได้ยังไงว่ะ คิดว่าฉันจะเอาตัวแกไปทำ.ห่ า อะไร ... และตลอดเวลา 60 ปีที่ผ่านมาเนี่ย มนุษย์ก็เอาหน้าของฉันไปพิมพ์บนกล่องข้าว บนเสื้อยืด อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ แกก็น่าจะคุ้นเคยดีอยู่แล้ว มาเจอตัวจริงก็ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นขนาดนั้น"
* บางทีที่มนุษย์เราจินตนาการต่างๆนานาว่า มนุษย์ต่างดาว ต้องร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ ลักพาตัว ยึดโลก ฯลฯ ... เราอาจใช้ความร้ายของตัวเรา ไปเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินมากไป เลยคิดว่าสิ่งอื่นๆ(แม้แต่กับมนุษย์ด้วยกันเอง) ต้องคิดร้ายเหมือนเราด้วยไว้ก่อน (* ไม่แน่มนุษย์เราอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสันดานร้ายสุด/คบไม่ได้ที่สุดในจักรวาล ... ด้วยเหตุนี้สิ่งทรงภูมิปัญญาอื่นๆที่ล้ำกว่ามีอารยธรรมสูงกว่า แวะผ่านเยือนโลก รู้ธาตุแท้เข้า ก็เลยไม่อยากเผยตัว +ไม่อยากสุงสิงด้วย จวบจนปัจจุบัน ^__^ )
-
2. นอร์ดิก (Nordics) - นอร์ดิกมีรูปร่างหน้าตาคล้ายมนุษย์มาก ว่ากันว่าถ้าเจอพวกนอร์ดิกในท้องถนนจะไม่รู้เลยว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว...นักวิจัยการลักพาตัวนาม "โดนัลด์ วอร์ลีย์" เล่าว่า จากประสบการณ์ 38 ปี ในศึกษาการลักพาตัว จำนวน 150 เคส พบว่าเป็นการลักพาตัวโดยพวกนอร์ดิกถึง 50 เคส วอร์ลีย์บอกว่านอร์ดิกคล้ายมนุษย์ มีใบหน้าสวยงามรูปทรงเป็นเหลี่ยม สูงมากกว่า 7 ฟุต ผมยาวสีบลอนซ์ ตาสีน้ำเงิน สวมชุดรัดรูปและมีเสื้อคลุม ส่วนใหญ่พบเห็นแต่เพียงเพศชาย ไม่ค่อยพบเพศหญิงและเด็กๆ...วอร์ลีย์ยังบอกว่า พวกนอร์ดิกเตือนผู้ถูกลักพาตัวหลายรายว่า จะเกิดมหาภัยพิบัติกับโลกใน ปี 2012
* ผู้ถูกลักพาตัวหลายคนเล่าว่า เคยเห็น พวกเกรย์ทำงานร่วมกับพวกนอร์ดิก อย่างกรณี การลักพาตัว "ทราวิส วอลตัน" (Travis Walton ) เหตุเกิดที่รัฐแอริโซนา ค.ศ. 1975 เขาเห็นทั้งพวกเกรย์และนอร์ดิกอยู่ในยานลำเดียวกัน เรื่องราวของวอลตันเป็นที่สนใจของคนอเมริกันจำนวนมาก จนกระทั่งบริษัทพาราเมาต์พิคเจอร์ต้องนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ.1993 เรื่อง "Fire in the Sky"...
*ภาพ Poster และ Screen Shot บางส่วนจากภาพยนตร์ Fire in the sky (1993)
-
3. เรพทิเลียน (Reptilian humanoid) - ตัวสีเขียว รูปร่างคล้ายมนุษย์มี 2 ขา สูงประมาณ 6-8 ฟุตมีเกล็ดสีเขียว ดวงตาขนาดใหญ่สีเหลืองหรือสีทอง แต่มีผิวหนังและลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน มีชื่อเรียกหลากหลายตามตำนานแต่ละทวีป แต่เราอาจคุ้นเคยในนาม "กัปปะ" (Kappa) ตามตำนานญี่ปุ่น หรือคล้ายตัวเอกในภาพยนตร์เรื่องเฮลล์บอย (Hell Boy) ผู้พบเห็นหลายคนรายงานว่าเรพทิเลียนมักสวมหมวกครอบ(Hood) ทำนองหมวกอวกาศ...
*ในรูป ด้านขวาเป็นโบราณวัตถุประหลาด อายุราว 5000-4500 BC พบที่ประเทศอีรัก รูปลักษณ์เข้าเค้าทำนองพวก เรพทิเลียน
* "แอนโธนี ดอดด์" นักวิจัยการลักพาตัวผู้มีชื่อเสียงของสหราชอาณาจักร และอดีตนายตำรวจเผยผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การลักพาตัวมนุษย์เป็นฝีมือของพวกเกรย์ประมาณ 75-80% และอีก 20-25% เป็นฝีมือของพวกนอร์ดิกและเรพทิเลียน
- 4. ดรอป้า (Dropa) - พวกนี้เหมือนคนแคระ เคยเล่าลือว่านำยานลงจอดบริเวณพรมแดนจีน-ทิเบตเมื่อราว 1 หมื่นกว่าปีก่อน กระทั่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่าเป็นความจริง
- 5. พวกหน้าเหมือนแมว (Cat-like aliens) - หรือเฟลินอยดส์ (Felinoids) ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงในนิยายวิทยาศาสตร์มากมาย แรกเริ่มพัฒนามาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างแมวกับมนุษย์!
* ตัวอย่าง Cat-like alien จากภาพยนตร์ Star Trek V: The Final Frontier เป็นสาวนักเต้นรำประจำบาร์ (เธอมี 3 เต้า)
-
6. อเลสเฮนกา (Aleshenka) - ตั้งตามชื่อหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัสเซีย ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยหญิงสติไม่สมประกอบผู้หนึ่ง มีการบันทึกการพบเจอไว้ด้วยเทปของตำรวจ แต่ภายหลังพบว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงตัวอ่อนของมนุษย์เท่านั้น
- ฯลฯ
* นอกจากนี้ ยังมีเอเลียนจากดาวต่างๆสปีชีย์ปลีกย่อยอื่นๆอีกมากมาย อาทิ พวกดาวพฤหัส เรียก โจเวียน (Jovian), ดาวอังคาร เรียก มาร์เชียน (Martian), ชาวดาวศุกร์ คือ วีนัสเซียน (Venusian)
*ทฤษฎีการเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว(Close Encounters)
"Close Encounters" เริ่มต้นบัญญัติเป็นครั้งแรกๆ โดย J. Allen Hynek ในหนังสือชื่อ The UFO Experience: A Scientific Inquiry ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2515...และต่อมาก็การต่อยอดจำแนกการเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว ออกได้ถึง 5 ระดับด้วยกัน คือ
1. Close Encounters of the First Kind (การเผชิญหน้าระดับที่หนึ่ง) หมายถึง การได้พบปะหรือเจอะเจอกับจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวในระยะที่ไกลห่างออกไป เช่น จานบินลอยอยู่บนท้องฟ้า หรืออยู่ห่างจากผู้ที่พบเจอในระยะ 50 หลา เป็นต้น
2. Close Encounters of the Second Kind (การเผชิญหน้าระดับที่สอง) หมายถึง การพบปะกับจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวคล้ายกับการเผชิญหน้าระดับที่หนึ่ง แต่อยู่ในระยะที่ใกล้ขึ้น เช่น อาจพบจานบินที่จอดอยู่บนพื้น เป็นต้น
3. Close Encounters of the Third Kind (การเผชิญหน้าระดับที่สาม) หมายถึง การได้เข้าไปในจานบินจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ ทั้งสามารถจดจำประสบการณ์และสามารถออกมาจากจานบินได้...
(* "Close Encounters of the Third Kind" ยังได้ถูกนำมาใช้เป็นชื่อภาพยนตร์ไซไฟ ปี พ.ศ. 2520 กำกับโดย "สปีลเบิร์ก" หนังกล่าวถึงการติดต่อสื่อสาร และมีปฏิสัมพันธ์เป็นครั้งแรก ระหว่างมนุษย์ กับมนุษย์ต่างดาว)
4. Close Encounters of the Fourth Kind (การเผชิญหน้าระดับที่สี่) หมายถึง การที่ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป อาจจะถูกทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา แต่สามารถจดจำประสบการณ์ได้และออกมาได้
5. Close Encounters of the Fifth Kind (การเผชิญหน้าระดับที่ห้า) หมายถึง การที่มีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในระดับที่ เป็นกิจจะลักษณะ สามารถสื่อสารเข้าใจกันได้
ส่งท้าย : "สตีเฟน ฮอว์คิง" นักวิทยาศาสตร์ เจ้าของหนังสือชื่อดัง "ประวัติย่อของกาลเวลา" (A Brief History of Time) กล่าวกรณี มนุษย์ต่างดาว... สตีเฟน ฮอว์กิง เตือนว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ทรงภูมิปัญญา อาจกำลังร่อนเร่พเนจรอยู่ในอวกาศเพื่อแสวงหาอาณานิคมบนดาวดวงใหม่อยู่ก็เป็นได้
ฮอว์กิง เชื่อมนุษย์ต่างดาวทรงภูมิปัญญามีอยู่จริง ทั้งเตือนมนุษย์โลกให้ระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตนอกโลก เพราะอาจจบไม่สวย เหมือนชนพื้นเมืองอเมริกันเมื่อครั้งโคลัมบัสขึ้นฝั่งที่อเมริกา...สารคดี "ท่องจักรวาล กับ สตีเฟน ฮอว์กิง" (Into the Universe with Stephen Hawking) เริ่มออกอากาศตอนแรกในอังกฤษ(เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2553) ทางช่องดิสคัฟเวอรี ชาแนล ซึ่งมีสตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษมาถ่ายทอดความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาล...
*สตีเฟน ฮอว์คิง - ส่วนในรูปขวาสุด สิ่งมีชีวิตต่างดาวรูปแบบหนึ่งตามจินตนาการ ภาพจาก discovery.com
"หากเอเลียนมาหาเรา ผลที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับเมื่อครั้งโคลัมบัส (Christopher Columbus) ขึ้นฝั่งที่อเมริกา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชาวอเมริกันพื้นเมืองเลย"..."สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีวิวัฒนาการก้าวล้ำ บางทีอาจเป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่กำลังแสวงหาอาณานิคมบนดาวดวงใหม่และพร้อมที่จะทำสงครามเพื่อแย่งชิงให้ได้มา" ฮอว์กิง กล่าว
ฮอว์กิงได้กล่าวเตือนอีกว่า แทนที่มนุษย์จะพยายามติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก มนุษย์เราควรหันมาทำอะไรก็ได้เพื่อหลีกเลี่ยงจากการติดต่อกับเหล่าเอเลียนจะดีกว่า...ฮอว์กิงยอมรับว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่ใดก็ตามนอกโลก ส่วนใหญ่แล้วน่าจะมีลักษณะคล้ายกับจุลชีพเล็กๆ หรือสัตว์ขนาดเล็ก และส่วนน้อยที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มนุษยชาติมีความพยายามที่จะติดต่อสื่อสารกับอารยธรรมนอกโลกมาแล้วหลายครั้ง
- เมื่อปี 2008 องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ได้ส่งสัญญาคลื่นวิทยุของบทเพลง "อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส" (Across the Universe) ของวง เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) ออกไปในอวกาศ เพื่อเป็นการส่งข้อความที่สื่อถึงสันติภาพให้กับสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามที่อาจอาศัยอยู่บนดาวที่อยู่ห่างจากโลก 431 ปีแสง
- ปี 1972 และ 1973 สหรัฐฯ ได้ส่งยานไพโอเนีย 10 และ 11 (Pioneer 10 and 11) ซึ่งมีแผ่นโลหะภาพชายและหญิงเปลือยกาย และสัญลักษณ์ที่แสดงดำแหน่งของโลกและดวงอาทิตย์
- ต่อมาในปี 1977 สหรัฐฯ ได้ส่งยานวอยเอเจอร์ 1 และ 2 (Voyager 1 and 2) ออกไปสู่จักรวาลพร้อมแผ่นซีดีที่บันทึกเสียงต่างๆ และภาพภูมิทัศน์บนโลก
* ยานอวกาศ Pioneer กับ รูปสัญลักษณ์ต่างๆบนแผ่นโลหะ ภาพมนุษย์ชาย-หญิงเปลือยกาย
* แล้วยานอวกาศ Pioneer ไปถึงไหน ? ...คำตอบคือ ระหว่างที่ล่องลอยในอวกาศ ถูกทำลายโดยพวกคลิงกอน มนุษย์ต่างดาวเผ่านักรบ หน้าตาดุร้าย ในภาพยนตร์ Star Trek V (ภาค 5) : The Final Frontier :)
CR http://www.scifi.siligon.com/