มาลดน้ำหนักกัน ผมทำได้ คุณก็ทำได้
ผ่านปีใหม่มาก็หลายวันแล้ว เพื่อนๆหลายคน คงคิดที่จะทำอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิตดีขึ้นแน่นอนใช่มั้ยครับ วันนี้สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอคือ " การลดน้ำหนัก " ซึ่งผมจะมาเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม และแนะนำการลดน้ำหนัก กับเพื่อนๆ ที่เจอปัญหาเดียวกับผมนะครับ การลดน้ำหนักของผม ไม่ต้องไปฟิตเนส ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องไปออกกำลังกาย2-3 ชั่วโมงเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่ต้องกินยาดักไขมัน ดักแป้ง ดักปาก ให้มันเสียเงิน คุณก็สามารถลดน้ำหนักตัวเองได้ กว่า30 กิโล ในเวลาไม่เกิน 3 เดือน
เมื่อก่อนน้ำหนักของผมอยู่ที่ 80-85 กิโล แต่ผมใช้เวลาเพียง 2 ปี
น้ำหนักของผมขึ้นมาที่ 120-125 กิโล
(แล้วมันมาจากไหนละนั้นตั้ง 40 กิโล)
เมื่อมานั่งนึกไตร่ตองดูแล้ว
ผมก็รู้แล้วว่าอะไรคือสาเหตุ
นั่นก็มาจากการที่ผมเอาแต่กิน นั่งเล่นคอม กิน แล้วก็นอน ตื่นมา ต่อด้วยหมูกะทะ
ผมกินหมูกะทะ ประมาณ อาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย จากคนหุ่นนักกีฬา(เมื่อก่อนเล่นบาส)
กลายเป็นเป็น ไอ่อ้วนอ้วนแบบว่าตัวแตกอ่ะครับ หน้าท้องแตกลาย ท้องแขนแตก อุบาทว์มากนี่พูดเลย ส่องกระจกทีนี่แบบว่า ตัวเชี่ยไรวะเนี่ย ทำอะไรก็ลำบาก เดินก็เหนื่อยง่าย ขี่มอไซอย่างกับขี่จักรยาน
นั่งรถยนต์รถแมร่งก็เอียงเชียว จะจีบสาวก็ขาดความมั่นใจ จะสมัครงาน
บุคลิคก็สู้เขาไม่ได้ คืออะไรๆ มันก็ดูแย่ไปหมด
ผมจึงติดสิน " กูทนกับตัวเองไม่ไหวละ กูต้องลดน้ำหนักละ "
สิ่งแรกที่เริ่มทำคือ ลองอดข้าวดู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ " อดไม่ไหว "
เพราะหลังจากอดไป 1-2มื้อ มื้อต่อมา จัดหนักเลยทีเดียว ผ่านไป 1 เดือนกว่าๆ หนักเท่าเดิม
จึงเปลี่ยนวิธี การลดน้ำหนักใหม่ ศึกษาจากอินเตอร์เน็ต จากหนังสือ จากทีวี
แล้วก็ได้รับคำแนะนำว่า การที่จะลดน้ำหนักได้ ต้องเริ่มจากการที่เราต้องรู้ว่า ชีวิตประจำวันของเราทำอะไรบ้าง เช่น ตื่นกี่โมง นอนกี่โมง มีเวลาว่างช่วงไหน เพื่อจะได้จัดสรรการ กิน พักผ่อน ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเวลาของตัวเองและหาจุดบกพร่องที่ทำให้น้ำหนักของเรา " เพิ่มขึ้น " แล้วผมก็เริ่มจัดสรรเวลาเพื่อเข้าสู่การลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
ผมเป็นคนนอนดึกครับ ทำงานตอนเย็น ถึง ดึก ผมจะตื่นนอนประมาณ 10-11 โมง กินอาหารมื้อแรก ประมาณเที่ยง มื้อที่สองประมาณ บ่าย3 แล้วจะไปทำงานประมาณ 5 โมง เสร็จงาน ประมาณ ตี1 กลับบ้านนอนประมาณ ตี2-ตี3 แล้วผมก็เจอจุดที่ทำให้ผมเปลี่ยนเป็นไอ่อ้วน นั่นคือ ช่วงระหว่างที่ทำงาน ผมมีของกินอยู่ตลอดเวลา หลังเสร็จงาน ก็จัดมือใหญ่อีกก่อนนอน แถมมีบุฟเฟ่หรือหมูกะทะเป็นประจำ
สิ่งที่ผมจัดการอย่างแรกคือ การกิน มนุษย์เราหลายคนมีลักษณะกินที่ผิดวิธี คนส่วนใหญ่คิดว่า ไปทำงาน ออกกำลังกาย ใช้แรงมาเหนื่อยๆเสร็จแล้วค่อยไปกินข้าว อาบน้ำพักผ่อน แบบนี้ผิดครับ ทำแบบนี้ น้ำหนักคุณไม่ลดแน่นอน เราต้องมาปรับความเข้าใจกันใหม่นะครับ โดยเปลี่ยนเป็น กินก่อน แล้วค่อยไปใช้พลังงานกัน เพื่อให้ร่างกายนำเอาสิ่งที่นำเข้าไปใช้ให้หมด เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนักคือ มื้อเช้าครับ กินเลยครับมื้อเช้าเนี่ย เอาให้อิ่ม แค่อิ่มนะครับ ไม่ใช้ จัดหนักเอาท้องแตก หลังจากเสร็จมื้อเช้า มื้อเที่ยง ให้กินประมาณ 50-60 % ที่เรากินไปเมื่อเช้า เพราะไอ่สิ่งที่เรากินไปเมื่อเช้าจนอิ่ม มันยังย่อยไม่หมดหรอกครับ ส่วนมื้อเย็น ไม่กินอาหารหนักอะไรเลยจะดีมากครับ แล้วถ้าหิวล่ะ เราจะทำยังไง ผลไม้ช่วยท่านได้ครับ
แนะนำเป็นพวก มะละกอ แอปเปิ้ล หรือผลไม้อะไรก็ได้ แต่กินแค่พอแก้หิวนะครับ อย่าจัดหนักเป็นกิโลๆ แล้วพวกเครื่องดื่มนะครับ ดีที่สุด แนะนำเลยครับ " น้ำเปล่า " เอาแบบอุณหภูมิห้องเลยครับ ไม่ต้องเย็น ไม่ต้องน้ำแข็ง ลดเลยครับ กาแฟ ชา เครื่องดื่มมีน้ำตาลต่างๆ ผมใช้คำว่า " ลด" นะครับ ไม่ใช่งด กินได้บ้าง เวลาอยาก แต่ก็ขอให้กินแค่หายอยากนะครับ แล้วงดได้งดเลยครับพวก บุฟเฟห์ หมูกะทะ น้ำอัดลม ของมันๆ และขนมของกินต่างๆ ระหว่า่งวัน อดทนหน่อยนะครับ เพื่อตัวเอง
สิ่งที่สองที่ต้องจัดการคือ การออกกำลังกาย ผมสรรหาวิธีออกกำลังกายมาหลายวิธีครับ เริ่มมาตั้งแต่ วิ่งจ้อกกิ่ง ซิทอัพ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ก็รู้สึกว่า มันยังไม่ค่อยได้ผล แต่ก็มาสะดุดกับวิธีนึง ซึ่งจำได้เลยว่า มียูสนึงมาโพสวิธีออกกำลังกายไว้ เป็นคลิปนี้ครับ
ซึ่งตอนแรก ผมก็ไม่ค่อยเชื่อว่ามันได้จริงหรอกครับ แต่ผมลองไปได้ซัก2-3วัน รู้สึกว่าวิธีนี้ เรียกเหงื่อใช้ได้เลย ไม่ต้องไปวิ่งตากแดด ให้ร้อน ผมเลยเอาวิธีนี้มาใช้ แต่ เพิ่มรอบเข้าไปครับ โดยผมทำตามคลิปนี้ แต่เพิ่มเป็น 3 รอบครับ โดยทำแบบในคลิปนี้นะครับ เสร็จ 1 รอบ พัก 30วินาที แล้วทำต่อ แล้วพอเสร็จก็พัก 30 วิแล้วทำต่อ ผมใช้เวลาในการออกกำลังกายวันนึง ไม่ถึง 20 นาที รับรองว่าได้เหงื่อแน่นอนครับ ผมอยู่ทางภาคเหนือครับ ขนาดผมใช้วิธีนี้ช่วง ธ.ค - ม.ค มันยังเรียกเหงื่อได้เลย (เวลาแค่ 20 นาที เพื่อออกกำลังกาย และสุขภาพที่ดี คงไม่มากไปนะครับ )
ผมใช้เวลาทำแบบนี้ ( ทั้งวิธีกิน+ออกกำลังกาย) อยู่ประมาณ 2 เดือนครับ โดยระหว่างนั้นผมไม่ได้ ชั่งน้ำหนักตัวเองเลย หลังจากที่ชั่งครั้งสุดท้าย 120 กิโล ที่ชั่งน้ำหนัก กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่กล้าเหยียบอีกเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก 2เดือน คือ มีคนในหมู่บ้าน มาคุยกับป้าที่อยู่ข้างๆบ้านผม แกมาคุยกับป้าผมว่า น้องคนนี้กินยาลดน้ำหนักมาเหรอ หรือไปทำอะไรมา หุ่นดีขึ้นเยอะเลย แล้วป้าเขาก็มาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่า "ก็ใช่นะผอมลงจริงๆ ไม่ลองไปชั่งน้ำหนักดูล่ะ " ผมก็เลยลองไปชั่งน้ำหนักดู แม่เจ้า เมื่อสองเดือนก่อน ผมหนัก 120 กิโล แต่ตอนนี้ มันเหลือ 90 กิโล
ผมช็อคเลย สิ่งที่ผมทำคือ ไปชั่งเครื่องอื่นดู หน้าเซเว่นบ้าง ที่โรงพยาบาลบ้าง มันเท่ากัน ผมทำแบบนี้ต่อไปอีก 1 เดือน น้ำหนักของผม ลงมาอยู่ 80 กิโลได้ อย่างที่ผมตั้งใจไว้
ผมลืมบอกไปอีกอย่างครับช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เหมาะกับการออกกำลังผมแนะนำเป็นช่วงเย็นนะครับ หลังมื้ออาหารที่สอง เพราะการออกกำลังกายช่วงนี้ ถือเป็นการใช้พลังงานที่ยังเหลืออยู่ให้หมดครับ แล้วอย่าเผลอตัวไปจัดหนัก หมูทะ หลังออกกำลังกายนะครับ
ก็ไม่คิดหรอกนะครับว่าผมจะลดน้ำหนักได้จริงๆ แต่ในเมื่อผมทำได้ ผมก็อยากจะเอามาบอกต่อในสิ่งดีๆ ที่ผมลองทำแล้วมันได้ผลกับเพื่อนๆ นะครับ ผมใช้อยู่หลายวิธีกว่าจะได้ผล และเมื่อได้วิธีที่ดีแล้วก็อยากลองเอามาแบ่งปัน เผื่อใครจะลองแล้วได้ผลที่ดีแบบผมบ้าง ผมเป็นกำลังใจ ให้คนลดน้ำหนักทุกคนนะครับ
สุดท้ายนะครับ สิ่งที่ยากที่สุดในการลดน้ำหนัก มันมีอยู่ 3 อย่างครับ(ที่จริงมันก็ใช้ได้กับทุกอย่างแหละครับ)
1. การเริ่มต้น อย่ามัวแต่คิดว่าพรุ่งนี้ทำก็ได้ เราต้องทำวันนี้เลยครับ การเริ่มต้นสำคัญที่สุด เริ่มต้นก่อน ได้ผลก่อนครับ
2. ความสม่ำเสมอ บางทีเราก็เหนื่อยบ้าง ติดงานบ้าง ขี้เกียจบ้าง ไม่เป็นไรครับ อาจจะหยุดไปซัก วันสองวัน แต่อย่าเลิกครับ กลับมาทำต่อ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของเราให้ได้ครับ
3. ผลลัพธ์ มันอาจจะมาช้าบ้าง ยังไม่ได้ผลบ้าง อย่าท้อครับ ช่วงรอผลลัพธ์ มันเหนื่อยที่สุดครับ แต่เมื่อมันมาถึง เราจะรู้ว่ามันคุ้มค่าครับ
ปล ตอนนี้ผมก็ยังทำแบบในคลิปบอกไปอยู่นะครับ แต่ผมเพิ่มมาอีกคลิปครับ อันนี้ก็รับรองว่าได้ผลแน่นอน เอาไปลองทำกันดูนะครับ หรือใครต้องการคำแนะนำ กำลังใจ PM มาได้เสมอนะครับ
ปล.2 ผมขอไม่เอารูปตัวเอง ทั้งก่อน และหลัง ลงนะครับ ด้วยเหตุผลบางประการ แต่รับรองว่าที่บอกไปได้ผลแน่นอน