ผมเกริ่นเลยนะครับว่าผมจบคณะวิทย์-วิทยาการคอมพิวเตอร์ และก็ศึกษาศาสตร์-การศึกษา แต่พอได้ทำงานจริงๆกับคอมพิวเตอร์ และกับการสอน ผมค้นพบว่าผมเดินทางที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไรเลย

ผมไม่ชอบในแนวทางเขียนโปรแกรมเลย เราต้องนั่งจ้องอยู่กับตัวโค๊ด อยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เข้างาน 8.30 เลิก 16.00 ทุกวัน (หยุดเสาร์อาทิตย์)

และผมก็ไม่ชอบแนวทางราชการแล้ว (แต่แม่อยากให้เป็นครูมาก) เพราะครูมีแต่จะอิจฉากัน วันๆไม่ได้ตั้งอกตั้งใจสอน มัวมานินทากัน (ตอนนี้กำลังปรึกษากันเรื่องไปประท้วงรัฐบาล) พอสอนเสร็จก็นินทากันต่อ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น อีกอย่าง ระบบราชการตอนนี้มันเอิ่ม :( ล่าช้า ไม่ได้ดั่งใจ

การสอนก็มีการจำกัดแนวทางการสอน เป็นผู้น้อยต้องตามผู้ใหญ่ตลอด ห้ามออกนอกลู่นอกทาง ไร้ซึ่งอิสระจริงๆ เพราะมีคนมาคอยบอกตลอดว่าต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ ทั้งๆที่เราเรียนมามีแต่ความรู้ หลักการสอนสมัยใหม่ทั้งนั้น พอได้มาสอนจริงกลับต้องฟังผู้อาวุโสที่หัวค่อนข้างโบราณ

ถ้าให้ผมเลือกได้ระหว่างโปรแกรมเมอร์กับครูผมยังคงเลือกครู เพราะผมชอบมากกว่า และผมอยากให้แม่ได้ภูมิใจ และอยากจะทำนาเป็นอาชีพเสริม

อาชีพการทำนาผมว่าเป็นอาชีพที่เลี้ยงคนทั้งโลกนะ มีศักดิ์ศรีเท่ากับอาชีพอื่นๆทุกประการ

จุดเริ่มต้นของการทำนาคือการไปช่วยแม่ยายทำนา บอกตรงๆว่าเหนื่อยมากแต่พอเหนื่อยเราก็พัก ทำตอนเช้าๆ พอแดดแก่หน่อยก็กลับบ้าน ตอนเย็นค่อยมาทำใหม่ นอนอยู่บ้านสบาย

และอีกอย่างการทำนามันสบายใจดี ได้เห็นอะไรเขียวๆ แล้วดูสดชื่น ไม่เหมือนอยู่ในห้องสี่เหลียมทึบ แม้จะเป็นห้องแอร์ แต่บรรยากาศภายในใจมันร้อนรุ่ม มันเก็บกด (ไม่รู้จะแตกออกเมื่อไร)

แล้วพี่ๆน้องๆเพื่อนๆล่ะครับ เห็นว่าอย่างไร ยอมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ เพราะเราอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน หลายคนหลายความคิดครับ

ผมตอนนี้ก็ทำนาอยู่นะ เป็นนาของแม่ กับนาของพ่อตา

เหนืื่อยครับ ผมก็อยากเป็น


ปรัชญาเศรษฐกินพอเพียงคือความฝันอันสูงสุด


เก็บตังก่อน ทำทุนก่อน

ผมเรียนใกล้จบละ อีกเทอมนึง จะกลับไปทำสวนยางที่บ้านครับ

หากคุณได้งานในสิ่งที่คุณชอบแล้วละก็ ชีวิตที่เหลือจากนี้คุณก็ไม่ต้องทำงานแล้ว

-ใครก็ไม่รู้ได้กล่าวไว้

ถ้ามีที่นา มีทุน มีเครื่องมือพร้อม ก็ลุยเลยครับ
เพื่อนผมลาออกจากซีพี มาทำนา เพื่อนๆ ยังงงเลย
แต่พอรู้รายได้จากการทำนา ปีละล้าน ก็เข้าใจเลย

ที่นา 70 ไร่ ทำนาปีละ 2 รอบ

แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ผลผลิตดีหรือเปล่าครับ

ผมว่าจะทำพันธ์ไรซ์เบอรี่ ตอนนี้กำลังสั่งพันธ์ข้าวอยู่ว่าจะทดลองสักไร่สองไร่ เป็นเกษตรอินทรีย์ไร้สารเคมี ไร้ปุ๋ย ตอนนี้หมักฮอร์โมนหน่อกล้วยย่อยฟาง และก็ฮอร์โมนนมสดกับฮอร์โมนไข่ไก่ไว้ฉีดพ่นแล้วครับ

โห สุดยอดเลยครับ คมกริบบาดใจ แต่ชาวบ้านน่ะสิครับ เค้าคงดูถูกว่าไหมครับ ว่าทำไมจบมาแล้วต้องทำนา ขนาดเพื่อนด้วยกันยังดูถูกเลยว่าจบไปแล้วจะทำนา แล้วเรียนไปเพื่ออะไร?

ผมนี่แหละ เรียนศิลปะ แต่อยากจบมาเป็นเกษตรกร ไม่ก็เจ้าของร้านกระจอกๆ
ความฝันคือได้อยู่กับครอบครัวตลอดๆ

ปล. ผมรักเมียครับ

ผมความจริงก็ไม่มีที่นาครับ มีแต่ที่นาแม่ยายกับพ่อตาเค้าแบ่งให้ทำ 10 ไร่
(เค้ามีประมาณ 70 ไร่เหมือนกัน (ความจริง 110 ไร่ แต่ขายตอนเพลี้ยกระโดดอาละวาดไป 40 ไร่ใช้หนี้)

จะว่าไปแล้วผมเป็นคนจนมากๆ ที่นาของพ่อแม่รวมกันได้ประมาณ 5 ไร่ (ตอนนี้ทำอ้อยหมดแล้ว) แต่พอได้คบกับแฟนคนนี้ทำให้ผมได้ทดลองทำนาจริง เลยดูสนุกขึ้นมา เหนื่อย ร้อน แต่สบายใจโคตรๆ

เรื่องอุปกรณ์ไม่มีอะไรเลยครับ มีแต่ของพ่อตาแม่ยายเช่นกัน (อันนี้มีครบ รถปั่น และเครื่องมือทุกอย่างพร้อมมาก)

ปริญญาไม่ได้กำหนดเส้นทางชีวิตของเราเสมอไป

เอาสูตรมาจากไหน พด.2สินะ ทำเสร็จย่อยตอฟางให้เป็นปุ๋ยด้วยนะ เจ้านี่ตัวเสริมธาตอาหารในดินเลย ตอนพักนาอย่าลืมโรยปุ๋ยมูลสัตว์ ช่วยได้เยอะมาก ถ้าให้ดี หาปอเทืองหรือสโนอัฟริกันมาปลูกเเล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดด้วยหละ อินทรีย์ทั้งนั้น สงสัย เข้าเว็บกรมพัฒนาที่ดินโลด ถ้าไปสำนักงานเเจกพด.ฟรีอีกต่างหาก

ผมครับ ผมอยากเป็นชาวนา จบมา จะสองปีล่ะ ปีที่แล้ว สอบเรียนต่อไม่ติด ปีหนี้ว่าจะสอบอีกครั้ง ถ้าไม่ได้ซักที ก็คงหางานทำ

ผมเริ่มอยากเป็นชาวนา ตั้งแต่ช่วงใกล้จบใหม่ๆแล้วล่ะครับ แต่ยังลังเลอยู่ เกรงใจพ่อแม่ ท่านส่งเรามาตั้งนาน ค่าเทอมก็แพง เสียเวลาไปอีก ๒ ปี (ผมซิ่ลน่ะ) ดันจบมาทำนา ช่วงนั้นผมเลย เว้นๆ เบรคไว้ก่อน ตั้งหน้าตั้งตาสอบให้ติด

แต่แล้วก็ไม่ติด ว่างไป ๑ปีเต็มๆ ไม่มีหลักแหล่ง เวลาไปเที่ยวกับเพื่อน ก็รู้สึกตัวเองแปลกจากคนอื่น ไม่มีห่าอะไรเลย คนรอบตัวเรา เพื่อนๆ ทำงานกันหมดล่ะ มีเงินใช้ บางคนมีรถแล้ว บางคนแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่พอมองมาที่ตัวเรา ยังไม่มีห่าอะไรเลย ได้แต่แบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ไปวัน ๆ รู้สึกรังเกียจตัวเองมากๆเลย ช่วงนั้น อยากมีเงินเก็บ อยากมีเงินให้พ่อแม่ใช้ แต่ยังไม่ปรับปรุ่งตัวเอง.....

หลังจากนั้นมา ก็เริ่มเกริ่นๆ กับพ่อแม่เรื่องทำนาบ้างแล้ว แบบถามท่านว่ามีที่ทางบ้างไหม ? ฯลฯ ปรากฏว่า มี ให้เขาเช่าทำนาอยู่ เข้าทางเราเลย เราเลยไปค้นคว้าหาข้อมูล พวกหนังสือ โซเซียลมีเดีย ฯลฯ ท่านก็เหมือนจะรู้กลายๆ แต่เงียบ เหมือนกับว่ารอ เราเข้าไปบอก

พอเราบอกท่านไป ท่านก็ไม่ได้ห้ามหรืออะไร ถามเราอีกว่าจะทำแบบไหน ยังไง ? ฯลฯ ผมก็บอกไปว่า จะทำนาอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี (แต่ผมแค่เกริ่นๆ ไว้ก่อนนะครับ ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติจรืงๆ ได้แค่หาข้อมูลค้นคว้าไปพลางๆก่อน

ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวสอบเรียนตต่ออีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่ได้คราวนี้จริงๆ ก็คงหางานทำ แต่เรื่องทำนา ผมก็จะยังไม่ทิ้ง รอดูอนาคต ที่ก็มี ส่วนทุน พี่กับแม่ยินดีหุ้นด้วย

เรื่องทำนา ถ้าคิดจะทำรวยจริงจัง ผมคิดว่า ถ้าที่ทางไม่ค่อยมีแถมยังมือใหม่ ผมว่าจำลำบากมาก ชาวนารวยๆ ที่เขาทำนากัน มีที่กันเป็นร้อยไร่ ผมคงยังไม่มีถึงขนาดนั้น ผมกะว่า ทำนา เอาไว้เป็นกินเอง ไม่อยากซื้อ ที่ที่มีแบ่งทำนาส่วนหนึ่ง ปลูกอยางอื่นบ้างอย่างหนึ่ง ผสมผสานเข้ากัน

ไม่รู้สิครับ เวลาเราอยู่กับธรรมชาติ ผมคิดว่ามันมีความสุขที่สุดเลยนะ

เหมือนกันเลยครับ ผมอยากเป็นเกษตรกร และก็รักเมียเหมือนกัน รักพ่อแม่ อยากอยู่กับพ่อแม่ ทั้งพ่อแม่เมียและพ่อแม่ผมเอง ไม่อยากไปทำงานกรุงเทพ ไม่อยากไปต่างประเทศ ไม่อยากไปไหนไกลเลย