## เกาะน่าเที่ยวมากที่สุดในโลก ปี 2013 ##
10. เกาะโนซีบี (Nosy Be, Antsiranana Province) โนซีบีหรือ พิมพ์ผิดหรือเปล่า จะพิมพ์ว่า นอยซี่ บี ล่ะสิ ไม่หรอก โนซี บีหมายความว่า เกาะ ใหญ่ และก็เป็นตามนั้นจริงๆ
เกาะขนาดใหญ่นี้อยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์ ที่นี่มีทั้งทะเลสาบริมภูเขาไฟ ลิงลีเมอร์ที่เกียจคร้าน โรงก ลั่นรัม พื้นที่เพาะปลูกกระดังงา และแนวปะการังที่สวยงามเหมาะแก่การออกสำรวจอย่างยิ่ง
ศูนย์รักษาพันธุ์ธรรมชาติโลโคเบที่สวยงามของที่นี่คือสวรรค์ ของผู้ที่ชื่นชอบพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ส่วนคอดนตรีต้องมาที่นี่ในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อสนุกสนานไปกับเทศกาลดนตรีโดเนียที่จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน
9. เกาะอีสเตอร์ , ชิลี (Easter Island,Chile) เป็นสถานที่อันโดดเดี่ยวแห่งหนึ่งของโลก ลักษณะของเกาะมีขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียง 160 ตาราง กิโลเมตร มีความยาว 25 กิโลเมตร
ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ห่างจากชายฝั่งของชิลีไปกว่า 2000 ไมล์ จึงทำให้การเดินทางไปที่นี่ทำได้ไม่สะดวกนัก (แต่ถ้าคุณสนใจ วิธีที่ง่ายที่สุดคือทางเครื่องบินจากสายการบินซานติเอโกหรือตาฮิติ)
แต่การแยกตัวอย่างสันโดษก็ช่วยในการรักษาสภาพของรูปแกะสลัก หินภูเขาไฟเมาอิ (Maoi) ลึกลับอายุกว่า 1,500 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะนี้ หลังจากสำรวจภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครแล้ว
เชิญพักผ่อนบนชาย หาดที่เงียบสงบและครุ่นคิดถึงสถานที่ที่ลึกลับที่สุดในโลกแห่งนี้
8. เกาะเต่า, จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะที่มีพื้นที่อยู่ในฝั่งของทะเลอ่าวไทย และอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของเกาะ เต่า จะมีลักษณะที่โค้งเว้า เหมือนกับเมล็ดถั่ว
ซึ่งเกาะเต่า จะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี
7. เกาะมูเรียหรือเกาะโมโอราอา , หมู่เกาะโซไซตี้ (Moorea,Society Islands) เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโซไซเอตี อยู่ห่างจากเกาะตาฮิติทางทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ 17 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีระบบนิเวศของแนวปะการังชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีแนวประการังถึง 3,000 สาย
เป็นจุดตั้งแคมป์สำหรับ นักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึกที่ต้องการสัมผัสความหลายหลายของชีวิตใต้ทะเลที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการังอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่ไม่ชอบว่ายน้ำก็สามารถ เพลิดเพลินกับขบวนสิ่งมีชีวิตที่น่าประหลาดใจได้จากที่นั่งบนเรือท้องกระจก มูเรียเกิดขึ้นเมื่อครึ่งหนึ่งของภูเขาไฟขนาดใหญ่ยุบตัวลงในทะเลสีคราม
เกาะนี้ มีรูปร่างเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงามและมีภูมิประเทศที่เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน
6. เกาะอิสลา มูเจร์เรส,เม็กซิโก (Isla Mujeres,Mexico) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่มีสิ่งน่าดึงดูดใจผู้ที่รักการเที่ยวชายหาดมากมายในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำชมความงามของปลาเขตร้อนท่ามกลางแนวปะการัง ท่องไปตามลำน้ำทะเลสีฟ้าครามด้วยเรือคายัคหรือเรือพาย หรือเล่นกระดานโต้คลื่น ตามชายฝั่งของหาดทรายเม็ดละเอียด
หรือคุณอาจจะเลือกนอนอาบแดด รับประทานอาหารทะเล เต้นรำจังหวะละติน ทัวร์บนรถม็อบหรือตรงดิ่งไปที่บาร์เพื่อ จิบเครื่องดื่มรสอร่อยสดชื่น
5. เกาะซานโตรีนี, คิคลาดีส (Santorini, Cyclades) เป็นหมู่เกาะในประเทศกรีซอยู่ทางตอนใต้ของทะเลอีเจียน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง ที่งดงาม คือความแตกต่างอย่างน่าลิ้มลอง ส่วนหนึ่งคงต้องขอบคุณลักษณะทางธรณีวิทยาที่ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา ชายหาดเพอริสซา (Perissa ) และคามารี (Kamari )
ซึ่งเป็นชายหาดหินภูเขาไฟสีดำเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับเรดบีชที่มีชื่อเสียงที่สุดใบริเวณอโครตีรี (Akrotiri ซึ่ง เป็นที่สำหรับการเที่ยวชมด้านโบราณคดี) ซานโตรินีจะโค้งโอบทะเลสาบขนาดยักษ์ในหมู่เกาะคิคลาดีส (Cyclades)
ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าทึ่งเมื่อ มองลงมาจากตัวเมืองที่สูงอยู่ขึ้นไป ร่วมด้วยอาหารรสเลิศ แกลเกอรีที่น่าหลงใหล สถานที่เที่ยวกลางคืนที่คึกคัก และไวน์ชั้นเยี่ยม
4. เกาะซานฮวน, วอชิงตัน ( San Juan Island,Washington) เป็นพื้นที่ที่สวยงามที่เต็มไปด้วยชายหาด ฝูงวาฬเพชรฆาต และทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่ สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สวนสาธารณะไลม์คิล์นพอยท์เสตดเหมาะสำหรับการชมปลาวาฬ
ส่วนทุ่งลาเวนเดอร์เพลินดาบาจะทำให้ชีวิตของคุณเบิกบานด้วย ดอกไม้สีม่วงที่หอมสดชื่นตลอดไป ท่าเรือฟรายเดย์ที่คึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากมาย เช่น สวน ประติมากรรมขนาด 19 เอเคอร์ที่อุทยานเวสต์คอทเบย์
3. หมู่เกาะโบราโบรา, หมู่เกาะโซไซเอตี (Bora Bora,Society Islands) เป็นเกาะที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อน มีซากภูเขาไฟหลายลูก พื้นทะเลนิ่งเพราะมี ปะการังล้อมรอบเกาะ และมีหาดทรายที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย
นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ท่องป่าซาฟารีบนรถขับ เคลื่อนสี่ล้อ อาบแดดและว่ายน้ำบนหาดทรายขาวสะอาด ดำน้ำในสวนน้ำใต้ทะเลท่ามกลางฝูงปลาและปะการัง ระทึกใจไปกับการให้อาหารปลาฉลาม
หรือ พายเรือล่องอ่าวสีเขียวเข้ม โบรา โบรายังเป็นสถานที่ที่แสนจะโรแมนติกอีกด้วย ปล่อยใจไปกับอัญมณีแห่งเกาะโพลินีเชียนด้วยการทานอาหารมื้อเที่ยงคืน บนชายหาด เที่ยวชมลากูนาเรี่ยม (Lagoonarium) ศูนย์ดำน้ำ สวนปะการัง หรือ Leopard Rays Trench หรือขึ้นไปบนเมาท์ โอเตมานู (Mount Otemanu) ที่มีความสูงถึง 2,300 ฟุต
2. เลิฟซิตี(เซนต์จอห์น), หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา ( Saint John,United States Virgin Islands) เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่อง เที่ยวเชิงนิเวศ รวมไปถึงกิจกรรมท่องเที่ยวที่แสนคึกคักและตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ที่นี่มีอะไรให้ทำมากมายจนคุณทำไม่ไหว ตั้งแต่การชมชีวิตสัตว์ป่าใน อุทยานแห่งชาติ ไปจนถึงเส้นทางเดินทางไกลที่ยาวหลายไมล์ หรือการเดินเล่นตามชายหาดที่ขาวสะอาด หรือจะลงน้ำเพื่อดำน้ำตื้น ว่ายน้ำ หรือถ่ายรูปใต้ น้ำก็ย่อมได้ เพราะนี่คือทะเลแคริบเบียน
1. เกาะแอมเบอร์กริสเก, เบลีซ เก (Ambergris Caye,Belize) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเบลีซ โดยเกาะนั้นตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนอยู่ตะวันออกเฉียง เหนือของประเทศ เป็นแหล่งที่พักตากอากาศที่ดีเยี่ยม พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อทริปที่น่าตื่นเต้น แต่ไม่มากจนพลุกพล่านไปด้วยนักท่อง เที่ยวที่เดินกันขวักไขว่
ป่าชายเลนถือเป็นสวรรค์ชั้นยอดของเกาะหาดทรายขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเบลีซ ที่นี่จะใช้รถกอล์ฟเป็นบริการการเดินทางหลักบน ชายหาดทรายขาว นักดำน้ำชมปะการังชื่นชอบแนวปะการังของเบลีซและบลูโฮล ซึ่งเป็นผาหินปูนโค้งกลมลึก 400 ฟุต รายล้อมไปด้วยปลาผีเสื้อ ปะการัง เขากวาง กุ้ง และหินย้อยที่สะอาดบริสุทธิ์
credit :
http://www.ที่สุดในโลก.com