วันมาสัมก็ถามแล้วว่าลองดูงานก่อนสักชั่วโมงมั้ย แต่น้องเค้ามีธุระแล้วตีมึนกลับ บวกกับเห็นจบตรงสายจากนิเทศมอเอกชนโลโก้อัญมนีชื่อดัง แถมเคยฝึกงานกับช่องดังด้วยเลยโอเค คงไม่แย่เท่าไหร่หรอก

เรียกมาคุยตัวต่อตัว สอบถามถึงปัญหา และให้ปรับปรุงตัว ถ้ายังไม่ดี เอาออกเลย เสียนาฬิกา

ตีมึนกลับแล้วได้งานแบบนี้ ผมว่าทีมท่านโดนน้องเหลี่ยมแล้วล่ะ

เก็บไว้เป็นบทเรียนละกันครับท่าน เหลี่ยมเล่นแง่แต่แรกอย่าเลี้ยงไว้ครับ เพราะคนที่ควรอยู่กับทีมไปยาวๆ ต้องมีความจริงใจระดับนึงนะครับ

เรื่องเงินล้วนๆครับ ถ้าคุณจ้างต่ำกว่า 15000 ยังไงก็ไม่เก่งครับ(เพราะคนเก่งมันจะไม่เอา) ถ้าจะเอาคนเก่งอย่างน้อยๆ 18000 ครับ จะได้พวกที่จบคณะนี้มาโดยตรงครับ

เรียกคุยตรงๆ ถ้าปรับไม่ได้คงให้ไม่ผ่าน มันมีจริงๆครับคนที่แบบไม่โดนกระตุ้นไม่พัฒนา

ผ่านมาไม่ถึงเดือนยังฤทธิ์เดชขนาดนี้ จะเอาไว้ทำไมล่ะคับ ยิ่งอยุ่ในช่วงโปรด้วย ก็บอกไม่ผ่านจบแยกย้าย

ช่วงทดลองงานนี่แหละที่จะให้ออกง่ายที่สุด ไม่ต้องรอ 3 เดือนหรอกมั้ง

ใครจะอยากจ้างว่ะ แบบนี้

พอถูกให้ออก ก็โพสต์โซเชียล ออกจากงานเพราะหัวหน้า toxic คนโอ๋เพียบ

ยังทดลองงานอยู่นี่แหละยิ่งให้ออกง่าย ถ้าดูแล้วไม่โอเคจริงๆก็รีบบอกเลิกจ้างเลย

เฮ้ยยย ผมก็เจอเหมือนกันปีที่แล้ว คัดออกเลยไม่ต้องเสียเวลา

ให้ 18 ถ้วนไป แต่ถ้าผ่านโปรปรับให้เป็น 25+ แล้วแต่ประเมิน เพราะผมก็เข้าใจว่าสายนี้มันค่อนข้างจับฉ่ายด้านโซเชียลมีเดีย แต่คือก็ไม่คิดว่าจะโบ๋ขนาดนี้

ใช่เลยครับ เลยอยากจะให้อยู่ครบ 3 เดือน ทดลองให้เต็มที่ เด็ก gen z เอาใจยากอยู่ด้วย กลัวจะมีชื่อไปโผล่ในติ้กต่อก

ปัญหาเรื่องคน เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ มีทุกที่ บางทีก็คิดว่ามันสมควรแล้วที่เอาโรบอทมาแทน

เห็นด้วยว่าน่าปวดหัวครับ แต่ผมจะลองเล่าอีกด้านละกัน

ผมเคยทำงานที่นึงตอนนั้นรับน้องคนใหม่เข้ามา ผมก็สัมภาษณ์เค้าด้วย ตัดสินใจรับเข้ามา

ตอนอาทิตย์แรกคือแปลกมาก ผมรู้สึกว่าน้องทำอะไรแปลกไปหมด เช่นน้องมาสาย สายแบบไม่ใช่ 15 นาทีนะ เข้างาน 8 ครึ่งน้องมา 9 โมง พอถามว่าทำไมสาย น้องบอกรถติดครับ ซึ่งถ้าวันเดียวมันก็คงไม่เป็นไร แต่น้องรถติด 1 อาทิตย์เต็มๆ ยังมีเรื่องงาน เรื่องอื่นๆที่ผมรู้สึกว่าน้องให้เหตุผลแปลกๆกับสิ่งที่ทำไป

จนผ่านไป สอง อาทิตย์ผมรู้สึกว่าไม่ได้ละ ถ้าเป็นแบบนี้น้องไม่รอดแน่ๆ คนระดับสูงกว่าผมน่าจะไม่เอาน้องแน่ๆ ผมเลยนัดทีมผมเปิดห้องคุยกับน้องเลยว่า ตอนนี้มีเรื่องอะไรที่น้องทำได้ดี และมีเรื่องอะไรที่น้องยังไปไม่ถึงจุดที่เราคาดหวัง ไล่เป็นข้อๆเลย ซึ่งก็บอกน้องไปตรงๆว่าน้องจำเป็นต้องไปให้ถึงจุดที่บริษัทคาดหวังให้ได้นะ ถ้าไม่ได้เราก็น่าจะร่วมงานกันต่อไม่ได้

หลังจากนั้นมาน้องปรับปรุงตัวครับ ดีขึ้นแบบเยอะมาก จนทุกวันนี้ผมออกจากบอนั้นไปแล้ว น้องยังอยู่ที่เดิม แต่กลายเป็นว่ายังนัดเจอกัน กินข้าวกันตลอด คือสนิทกันไปซะงั้น

ที่จะบอกก็คือ มันมีโอกาสที่เด็กจบใหม่จะแกล้งมึน กับมึนจริงๆ คุณต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน อย่างของผมเนี่ย มารู้ทีหลังว่าน้องเค้ามึนจริงๆ อารมณ์แบบยังเข้าสังคมไม่ค่อยเป็นตอนนั้น คิดอะไรพูดแบบนี้ เหตุผลที่น้องเค้าให้มาแบบแปลกๆ คือเค้าคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าเค้าตีมึน ซึ่งหลังๆมาเวลาทำงานด้วยกัน พอน้องให้เหตุผลแปลกๆ ผมก็จะพยามให้อีกมุมมองนึงให้เค้าไปลองคิดดู ซึ่งหลายๆครั้งก็เวิค เค้ากลับมาด้วยมุมมองที่ดีขึ้น บางครั้งกลายเป็นว่ามุมมองเค้าทำให้ผมฉุกคิดด้วยซ้ำว่าเออ ก็จริงของมัน

ผมคิดว่าท่านจะลองให้โอกาสด้วยการพูดคุยจริงจังก็ได้นะครับ ยังไงเราก็มีเวลา 3 เดือนอยู่ละ เราขีดเส้นให้ชัดเจนว่าในเวลาเท่านี้ๆ น้องควรจะไปถึงจุดนี้ ถ้าไม่ได้ เราก็ร่วมงานกันต่อไม่ได้ อะไรแบบนี้

แนวทางการจัดการปัญหาในที่ทำงาน
- เริ่มต้นด้วยการเรียกคุยเพื่อทำความเข้าใจ
- หากปัญหายังไม่ดีขึ้น ให้ออกใบเตือนเป็นสัญญาณเตือนความผิดพลาด
- แจ้ง warning อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้และปรับปรุงพฤติกรรม
- หากยังแก้ไขไม่ได้ ให้ดำเนินการ Terminate โดยจ่ายชดเชยตามข้อตกลง
- ค้นหาคนใหม่มาทดแทนในตำแหน่งนั้น ๆ

คำเน้นย้ำ
- เวลาเป็นทรพยากรที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ รวมทั้งบรรยากาศในที่ทำงานก็มีผลต่อความสำเร็จในภาพรวม
- เราเปรียบเสมือนกุนซือของทีมฟุตบอลทีมนี้ ต้องควบคุมดูแลบรรยากาสในห้องแต่งตัวและทำให้ทีมงานเดินหน้าไปอย่างราบรื่น
- หากใครไม่พร้อมก็ควรพิจารณาหาคนใหม่เข้ามา แต่ในขณะเดียวกัน ควรใส่ใจความเป็นมนุษยธรรมและความรู้สึกของบุคลากรเราด้วย กำจัด toxic
- การสับเปลี่ยนและเอาออก ควรทำด้วยความเคารพและความเข้าใจ เพื่อให้ทุกฝ่ายรู้สึกเป็นธรรมและมีความเป็นมิตรในทีม