กล้องโทรทัศน์ Euclid เผย 1% ของแผนที่จักรวาล


Zoom into the first page of ESA Euclid’s great cosmic atlas - Cr. ESA

ภารกิจอวกาศ Euclid ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้เปิดเผยส่วนแรกของแผนที่จักรวาลที่ยิ่งใหญ่ แสดงดวงดาวและกาแล็กซีหลายล้านดวง ภาพมอสเซกนี้มีขนาดถึง 208 กิกะพิกเซล และถูกเผยแพร่ครั้งแรกที่งานประชุมวิชาการการบินและอวกาศนานาชาติในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยผู้อำนวยการทั่วไปของ ESA Josef Aschbacher และผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ Carole Mundell


Euclid survey’s sneak preview - Cr. ESA

มอสเซกนี้ประกอบด้วยการสังเกตการณ์ 260 ครั้ง ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2024 ภายในระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์ กล้องโทรทรรศน์ Euclid สามารถเก็บข้อมูลได้ครอบคลุม 132 ตารางองศาบนท้องฟ้าซีกใต้ ซึ่งมีขนาดมากกว่าดวงจันทร์เต็มดวงกว่า 500 เท่า


Euclid’s mosaic explained - Cr. ESA

ภาพมอสเซกนี้ครอบคลุมเพียง 1% ของการสำรวจท้องฟ้าโดย Euclid ซึ่งวางแผนที่จะสำรวจทั้งหมดในช่วงหกปี Euclid จะศึกษารูปร่าง ระยะทาง และการเคลื่อนที่ของกาแล็กซีนับพันล้านแห่งที่อยู่ไกลออกไปถึง 10 พันล้านปีแสง ทำให้สามารถสร้างแผนที่สามมิติที่ใหญ่ที่สุดของจักรวาลได้


Euclid’s mosaic on Gaia and Planck sky map - Cr. ESA

ภาพแรกนี้มีแหล่งข้อมูลประมาณ 100 ล้านแห่ง รวมถึงดวงดาวในกาแล็กซีทางช้างเผือกและกาแล็กซีอื่นๆ มากกว่า 14 ล้านแห่งจากกาแล็กซีเหล่านี้สามารถใช้ศึกษาอิทธิพลของสสารมืดและพลังงานมืดในจักรวาลได้

ดร.วาเลเรีย เปตโตริโน นักวิทยาศาสตร์โครงการ Euclid จาก ESA กล่าวว่า “ภาพที่น่าทึ่งนี้เป็นส่วนแรกของแผนที่ที่ในอีกหกปีจะเปิดเผยมากกว่าหนึ่งในสามของท้องฟ้า นี่เป็นเพียง 1% ของแผนที่ทั้งหมด แต่เต็มไปด้วยแหล่งข้อมูลที่หลากหลายซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีใหม่ๆ ในการอธิบายจักรวาล”

กล้องที่มีความไวสูงของยานสามารถจับภาพวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดมาก การซูมเข้าไปลึก ๆ ในภาพมอสเซก (ซึ่งขยายถึง 600 เท่าเมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งหมด) ยังคงเห็นโครงสร้างที่ซับซ้อนของกาแล็กซีแบบกังหันได้อย่างชัดเจน


Euclid เป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศมุมกว้างที่ติดตั้งกล้องความละเอียด 600 ล้านพิกเซลสำหรับบันทึกแสงที่ตามองเห็น และมีสเปกโตรมิเตอร์และโฟโตมิเตอร์ในย่านอินฟราเรดใกล้ เพื่อวัดการเลื่อนไปทางแดง (redshift) ของกาแล็กซีที่ตรวจจับได้ อุปกรณ์นี้ถูกพัฒนาโดยองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ร่วมกับ Euclid Consortium และถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2023 จากศูนย์อวกาศเคปคานาเวอรัลในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา - Cr. ESA


Euclid beholds a distant swirling spiral galaxy (600x zoom) - Cr. ESA


Euclid spots interacting galaxies (150x zoom)Euclid spots interacting galaxies (150x zoom) - Cr. ESA


Euclid captures core of Abell 3381 galaxy cluster (36x zoom)Euclid captures core of Abell 3381 galaxy cluster (36x zoom) - Cr. ESA


Euclid sees spiral galaxy NGC 2188 and galaxy cluster Abell 3381 (12x zoom)Euclid sees spiral galaxy NGC 2188 and galaxy cluster Abell 3381 (12x zoom) - Cr. ESA


Euclid’s extragalactic view in Southern Sky patch (3x zoom)Euclid’s extragalactic view in Southern Sky patch (3x zoom) - Cr. ESA


Mosaic of Euclid observations in the Southern SkyMosaic of Euclid observations in the Southern Sky - Cr. ESA

ที่มา: https://www.esa.int/Science_Exploration/Space_Science/Euclid/Zoom_into_the_first_page_of_ESA_Euclid_s_great_cosmic_atlas, https://en.wikipedia.org/wiki/Euclid_(spacecraft)

################################################################

เปอร์เซนต์เดียวยังขนาดนี้ ถ้า100จะขนาดไหน จินตนาการไม่ออกเลย

จักรวาล น่าจะไม่มีจุดสิ้นสุดนะ

ทะเลบนโลกเราเค้าว่ายังศึกษาได้น้อยกว่าจักรวาลมาก หมายถึงพื้นที่นะครับ

รู้ได้ไง 1% ทั้งๆที่ยังหาขอบจักรวาลไม่ได้ รูปทรงจักรวาลก้ยังไม่รู้ เจอดาวฤกษ์ยุคแรกตามทฤษฎี พอคำนวณอายุกลับมีอายุมากกว่าจักวาล ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องใช้ความน่า+-เป้นมากลบแทบ

เห็นข่าวพวกนี้ แล้วรู้สึกท้อแทนเลยครับ เรื่องจักรวาลมันเป็นเรื่องไกลตัวสุดๆ การหาข้อมูลต่างๆก็ยากมาก ถ้าไม่ได้มนุษย์ต่างดาวช่วยนี่ดูแล้วยากจริง อย่างหนังเรื่อง interstella ที่ พระเอก จะหลุดออกนอกจักรวาลอยู่แล้ว แต่ได้มนุษย์ต่างดาว ช่วยให้ส่งข้อความถึงลูกสาวได้ ซึ่งถ้าตามหลักความจริง ผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ ที่จะมีวิธีส่งสารไปให้ลูกสาว ได้

กาแลกซี่เดียวยังสำรวจไม่ครบแล้วแม่งมี 14 ล้าน กาแลกซี่มันต้องกว้างใหญ่ขนาดไหนน้อ

ใช่ครับ ไม่ใช่ 1% ของทั้งหมด แต่เป็น 1% ที่สามารถสำรวจได้

การที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Euclid สามารถระบุได้ว่าแผนที่จักรวาลที่สร้างขึ้นในขณะนี้เป็นเพียง 1% ของทั้งหมดนั้นเกิดจากการคำนวณโดยอิงตามแนวคิดและแบบจำลองทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ เช่น แบบจำลอง Lambda Cold Dark Matter (ΛCDM) ซึ่งเป็นโมเดลมาตรฐานที่ใช้อธิบายการขยายตัวของเอกภพตามทฤษฎีบิกแบง

แม้ว่าเราจะยังไม่สามารถ "มองเห็น" ขอบเขตของเอกภพทั้งหมดได้ และยังมีคำถามเกี่ยวกับอายุและรูปทรงของเอกภพ แต่แบบจำลอง ΛCDM ที่อิงจากข้อมูลการขยายตัวของเอกภพและการวิเคราะห์แสงจากกาแล็กซีในอดีต สามารถช่วยประเมินว่า Euclid จะสำรวจพื้นที่ครอบคลุม 1 ใน 3 ของท้องฟ้าเมื่อสำรวจเสร็จ โดยพื้นที่ 1% ของแผนที่จักรวาลในขณะนี้หมายถึง 1% ของพื้นที่นี้ ไม่ใช่ขอบเขตทั้งหมดของเอกภพที่แท้จริง​

กรณีพบดาวฤกษ์ยุคแรก ๆ ที่มีอายุมากกว่าที่ทฤษฎีคาดไว้จากการสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เวบบ์ ทำให้นักดาราศาสตร์ตั้งคำถามถึงความถูกต้องของแบบจำลองปัจจุบัน ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับปรุงในอนาคต เช่น การปรับแบบจำลองเรื่อง "แสงเหนื่อยล้า" หรือพิจารณาความเปลี่ยนแปลงของค่าคงที่ทางฟิสิกส์บางประการ นอกจากนี้ การนำความน่าจะเป็นเข้ามาช่วยวิเคราะห์ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถประเมินข้อมูลที่มีความไม่แน่นอนได้ดียิ่งขึ้น เช่น การหาความน่าจะเป็นที่ดาวฤกษ์หรือกาแล็กซีก่อตัวขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ของเอกภพ​

*** จริงๆเรื่องอายุจักรวาลก็ด้วย ข้อมูลตอนนี้น่าจะคลาดเคลื่อนไปพอสมควร กำลังตามอนยู่เหมือนกันครับ เรื่องอายุของจักรวาลนี่ก็อาจจะเบิ้ลไปอีกเยอะเลยถ้ากล้องโทรทัศน์ GMP สร้างเสร็จ

ถ้าผมมีชีวิตอมตะ ก็อยากจะใช้เวลาในการสำรวจอวกาศให้กว้างไกลที่สุด (ต้องมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าด้วยนะ แบบวาร์ปได้ ไรงี้)

ถ้าต้องการแบบนั้นต้องว่าตามตำราพุทธครับ ในนั้นระบุว่าพรหมสามารถมีอายุได้ยาวนานมากน้อยขึ้นอยู่กับกำลังของสมาธิที่ทำได้ก่อนตาย ซึ่งจะทำให้มีอายุยืนยาวและสามารถเห็นโลกเกิดขึ้นและดับไปได้ระหว่างหลักร้อยถึงหลักหมื่นครั้ง ตามระดับชั้นสมาธิที่ทำได้ ผมว่าน่าสนใจเหมือนกันถ้าหัดทำสมาธิไว้ แล้วไปพบว่าตายแล้วไม่สูญ อันนี้ก็น่าจะได้ดูจักรวาลกันยาวๆ

อยู่นานเพื่อดูการเกิดดับของโลกได้100ครั้ง ตีสักครั้งละ9พันล้านปี

เท่ากับอยู่9แสนล้านปี โดยที่กินอะไรอร่อยๆไม่ได้ เยเย่ไม่ได้ มันจะเรียกว่าคำสาปหรือความสุขดีนะแบบนั้น

คนแก่ที่อายุ60ปลายกินอะไรลำบาก นกเขาไม่แข็ง ยังแสนเบื่อหน่ายชีวิต