สานต่อสัญญาจากปีที่แล้วที่น้องทิ้งท้ายในแฟนมีตที่กรุงเทพว่าจะกลับมาอีกในปีนี้ แบบคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบไปเลย

วันนี้น้องกลับมาจริง ขนเพลงบั้มใหม่มาเต็มที่ จัดเต็มแบบโคตรอิ่มเอม โคตรดี โคตรคุ้ม ขนาดว่าเจอผู้จัดไม่มืออาชีพ น้องยังทำให้คนดูอิ่มเอมแบบลืมเรื่องแย่ๆไปทั้งหมดได้
เแต่ขอบ่นผู้จัดหน่อย บัตรแข็งก็ไม่มี หน้างานไม่มีแบ็คดรอปให้แฟนๆมาถ่ายรูปอ่ะ เพิ่งเคยเจอหนแรกคอนที่ไม่มีแบ็คกราวด์หน้างาน ไม่มีตกแต่ง ไม่มีป้ายอะไรเลย มีแต่เสาร์ติดโปสเตอร์3อัน ในงานไม่มีจอให้ด้วย ใครนั่งหลังๆนี่อาจจะมองเห็นไม่ชัดได้ จัดการได้ค่อนข้างไม่โปร ไหนจะการโปรโมตแบบกากๆจนขายบัตรได้น้อย ต้องมาลดแลกแจกแถมก่อนวันงาน ทำคนDay1แบบผมหลังหักจัด (แต่สุดท้ายน้องทำให้ผมไม่เสียดายค่าบัตรเลย) ที่นั่งนี่เอาออกโคตรเยอะ7แถวตอนลึกได้ สถานที่คราวที่แล้วดูใกล้ชิดกว่าหน่อย ในแง่ระยะห่างเวทีกับที่นั่งคนดู อีกอย่างคือระบบเสียงเหมือนแอบมีปัญหาด้วย เพราะเซจองต้องปรับซาวด์,ปรับอินเอียร์บ่อยมาก

แต่แบ็คกราวบนเวทีสวยดี น่าจะเป็นทีมงานที่ทำมาทุกประเทศ บทคอนเสิร์ตทำออกมาได้ปราณีตมาก คนเขียนสคริปต์หรือบทคอนเสิร์ตทำออกมาได้ดีมีความเป็นเซจองสูงมาก ลำดับเพลงที่เล่นสมูธมาก ช่วงน้องไปเปลี่ยนชุดก็มีทำคลิปเซจองมาเปิดซึ่งดูเพลินมาก แทบไม่มีเดดแอร์เลย

ก่อนงาน2ชั่วโมงฝนตกหนัก น้องก็เป็นห่วงแฟนๆ ส่งข้อความในbubblesว่าขอให้แฟนที่ไทยเดินทางมาอย่างปลอดภัยด้วยเพราะฝนตกหนัก

คอนเสิร์ตจะแบ่งเป็น3โทน
โทนแรกคือโทนร้อง เพลงสบายๆ



เริ่มคอนเสิร์ตมาด้วยเพลงWhale ที่เป็นsignatureของน้องไปแล้ว ตามด้วย Destiny จากอัลบั้มใหม่ Teddy Bear, Indigo Promise, Plant, Sent a Letter

ก่อนจะเปลี่ยนโหมดไปโทนเต้น
เริ่มจาก Jenga มาไฮไลท์อย่างTop or Cliff ที่น้องถึงกับหอบแฮ่กออกไมค์ หลังเต้นต่อเนื่อง ก่อนจะไปเปลี่ยนชุดออกมาเต้นต่อ





กับ Warning, Dodumchit แล้วก็อีก1ไฮไลท์คือ Voyage ที่น้องสอนแฟนๆร้องท่อนคลอรัสก่อนอีกด้วย หลังจากเต้นอย่างหนักหน่วงก็มาชิวๆกับ if we do แล้วเมดเลย์รวมOstประกอบซีรี่ย์ที่น้องเคยร้อง บวกLove Maybe แบบเต็มเพลง ตามด้วย Flower Way, Sea of Hope ที่แฟนๆนัดกันเปิดไฟสีฟ้า จนตอนจบเพลงน้องต้องถามว่ามันคืออะไรแหวนไฟเหรอสวยจัง 555

มีช่วงโพสต์ท่าให้แฟนๆถ่ายรูปหลากหลายท่าทาง






ก่อนถึงเพลงสุดท้ายน้องทำเอกโย้โชว์ไป1กรุบ แล้วร้องin the rain ปิดท้ายเป็นเพลงสุดท้าย

ก่อนจะดับไฟแล้วทิ้งช่วงสักพักหนึ่ง กลับมาโทนที่3 แบบชุดลำลอง



ในช่วงEncore กับเพลงSkyline และเมดเลย์ที่แฟนๆข้างล่างขอมา แล้วค่อยปิดท้ายจริงๆด้วย Let’s Go Home ที่ไฮไลท์คือน้องลงมาร้องเพลงล่างเวที เดินไปแทบทุกโซนโยนบอลลายเซ็นแจกให้แฟนๆ





ทำให้ผมโชคดีได้บอลลายเซ็นจากมือเซจองยื่นให้เอง จากตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้ทัชมือแบบปีที่แล้ว น้องใกล้ชิดกับแฟนๆสุด ช็อตนี้คือโคตรคุ้มเลยที่เลือกที่นั่งริมๆ


สุดท้ายคือช่วงhigh byeกับgroup photo ที่ทำให้ได้มีช่วงสบตากันนานกว่าปีที่แล้วซะอีก

ปล. น้องน่าจะชอบประเทศไทยมาก เพราะคราวนี้ก็จะอยู่เที่ยวกับครอบครัวต่อด้วย

น้องก็ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าจะพักยาวๆหลังจบทัวร์คอนเสิร์ตกับละครเวที (ร่ายยาวมาเมื่อวันก่อนในbubblesแล้วทีนึง)





เพิ่มเติม บรรยากาศจากแฟนๆที่ลงไนทวิต

นักร้องที่แสดงก็ทำได้ดีไม่แพ้กันคนหนึ่ง

เห็นเล่าบรรยากาศแสดงว่าทีมงานเตรียมตัวมาดี ขนาดเจอผู้จัดระดับส่ายหน้านะครับ

งานคอนรอบนี้คนไปดูเยอะพอๆกับงานแฟนมีตครั้งก่อนที่เดอะมอลปะครับ

คิดว่าค่ายของเซจองคงได้บทเรียนครั้งสำคัญเลยละครับ การที่ไม่ละเอียดในการเลือกผู้ที่จัดคอนทั้งที่เจ้านี้ประวัติเสียอย่างเยอะแต่ดันยังจะไปให้จัดการงานคอน มันส่งผลเสียต่อศิลปินมากแค่ไหน

แต่ยังดีที่งานคอนเซจองในอาเซียนได้จัดตามที่ตั้งใจไว้ทั้งใน มาเล ฟิลลิปินส์ อินโด ไทย สารภาพตอนแรกกลัวว่าอาจยกเลิกหมดเลยแล้วไปแค่ในเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ประมาณนี้ หลังคอนรอบนี้ผมว่น่าจะอีกซัก 2-3 ปี เซจองอาจจะจัดงานทัวส์ประเทศต่างๆอีกรอบ

ถ้าขายบัตรล้วนๆผมว่าน้อยกว่านะ เพราะผมดูจนอาทิตย์-2อาทิตย์ก่อนหน้าคอนบัตรยังขายไปค่อนข้างน้อย แต่พอก่อนคอนมันหมดไปเปนโซนๆ น่าจะเอาไปแจกหรือลดหลังบ้าน

ได้ลายเซ็นด้วยคุ้มจัดๆ แต่ไม่มีจอให้นี้น่าเกลียดจริงนะผู้จัดอะไร

ผมเสียดายเหมือนกันพลาดไป แต่รอบนี้หากมาอีกไม่พลาดแน่ๆครับ