เห็นต่างได้ คุยกันแบบคนรักฟุตบอล จังหวะคาเซ
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ผมมาชวนถกเถียงสำหรับคนที่แค่เห็นต่างกัน ไม่ได้ลอยตัวมาป่วน คือเราแค่เห็นต่างกันและถกเถียงกันในคนละมุมนะครับ
ผมจะอธิบายไปตามสถานการณ์จริงก่อนแล้วค่อยต่อด้วย"ถ้า"นะครับ
อย่างแรกเลยผมขอพูดเรื่องเปิดปุ่มเข้าบอลก่อนเลย อันตรายจริงครับ ไม่งุ้มเหยียดเท้าลงพื้นมันเสี่ยงฟาวล์อยู่แล้ว แต่โดยทั่วไปมันไม่แดงครับ มันคือจังหวะที่ต่างคนต่างเข้าหาบอล (ออกแรงไปที่บอลทั้งคู่)
แต่คาเซถึงบอลก่อน พอแรงปะทะลูกบอลของทั้งสองคนมาที่บอล ทำให้เท้าปลิ้นขึ้นไปโดนแข้ง ตามธรรมชาติของคนถึงบอลก่อน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เราดูบอลมา มีให้เห็นเยอะเลยครับ ผลที่เราเห็นมาตลอดไม่ฟาวล์เลยก็มี ถ้านอนยาวค่อยกลับมาดู เป่าฟาวล์แล้วเตือนก็มี หรือให้ใบเหลืองก็ได้ เล่นอันตรายคาดโทษไว้เลย
ซึ่งตามกฏที่ผู้หวังดีเอามาลง มันคือการ
พุ่งหาบอลโดยใช้แรงเกินไป เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย แต่สถานการณ์มันคือแรงจากทั้งสองฝั่งครับ ไม่ไช่คาเซออกแรงเข้าหาคนเดียว ต่างคนต่างออกแรงเข้าหาไปที่บอล คาเซถึงบอลก่อนจนปลิ้นไปถึงแข้ง

มันเลยไปเข้า "ดุลพินิจ" ของกรรมการ
ซึ่งจุดนี้แหละ ที่มันไม่ถูกต้อง และแฟนแมนฯยูฯติดใจ
เพราะคำว่า ดุลพินิจ
/ดุนละ-/
คำนาม แปลว่า
การวินิจฉัยตามเหตุผล, การวินิจฉัยที่เห็นสมควร ซึ่งไอดุลพินิจนี่แหละ มันไม่สอดคล้องกับใบแดงเลย
มาถึง"ถ้า" ถ้าอัลการาซมาถึงบอลก่อน ปั้มกันแบบนี้ แล้วเท้าคาเซ follow up ไป แดงได้ไม่เถียงเลย ทั้งช้ากว่าและอันตราย แต่สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น สำหรับกฏและมาตรฐานที่ผ่านมา มันหนักสุดคือเหลืองครับ แฟนๆถึงบ่นเรื่องมุมภาพการดู VAR และคำว่า ดุลพินิจครับ
.
.
.
.
อันนี้รูปในมุมว่ามันแรงจริงๆ

.
.
.
.
ส่วนนี่คือจังหวะที่คาเซเข้าถึงบอลครับ

.
.
.
องศาการเข้าบอลมันควรแดงไดเรคจริงๆหรอครับ
สุดท้ายแล้วถ้าอ่านในมุมนี้แล้วยังมองว่าควรแดงก็ไม่ว่ากันครับ แค่จังหวะฟุตบอล เรามองต่างกันได้ครับ ผมแค่อยากอธิบายในมุมผมเฉยๆ ผมให้เกียรติการเห็นต่างอยู่แล้วครับ ไม่อยากให้เรื่องคาเซเป็นแค่เครื่องมือให้พวกลอยตัวแขวะอย่างเดียวมาปั่นประสาทอย่างเดียว
ให้คุยเรื่องกรรมการเป็นกรณีศึกษายังดีซะกว่า