เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปเจอไฟล์ notepad ที่พิมพ์ทิ้งไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่บอร์ดวาไรตี้ฮิตเรื่อง The Lord of the Rings แต่ไม่พิมพ์จนจบ ไหน ๆ ก็พิมพ์ไว้ตั้งเยอะแล้ว เอามาปัดฝุ่นพิมพ์ต่อให้จบแล้วกันนะ




ศึกเฮล์มดีฟ ในหนัง (หรือ ศึกป้อมฮอร์นเบิร์ก ในหนังสือ) เป็นส่วนหนึ่งในมหาสงครามแหวนในยุคที่สามของมิดเดิ้ลเอิร์ธ โดยเป็นสงครามระหว่างอาณาจักรโรฮันในรัชสมัยของกษัตริย์เธโอเดนกับปราการไอเซนการ์ดภายในการควบคุมของพ่อมดซารูมาน

ศึกป้อมฮอร์นเบิร์กเป็นการศึกต่อเนื่องที่เริ่มมาจากการรบที่บริเวณน้ำตื้นของแม่น้ำไอเซน (Fords of Isen) ซึ่งอยู่ในภูมิภาคมาร์กตะวันตก (โรฮันแบ่งเขตการปกครองเป็นมาร์กตะวันตก ภายใต้การดูแลของเธโอเดรต พระโอรสของกษัตริย์เธโอเดน และมาร์กตะวันออกภายใต้การดูแลของเอโอแมร์ พระราชนัดดาในกษัตริย์เธโอเดน)

ในการศึกที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซนครั้งที่หนึ่ง ไอเซนการ์ดส่งกองทัพออร์คลงใต้มุ่งหน้ามายังทางข้ามแม่น้ำไอเซนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของโรฮันเพราะเป็นจุดเดียวที่กองทัพใหญ่สามารถข้ามแม่น้ำไอเซนได้ ในขณะที่เธโอเดรตเมื่อทราบข่าวก็นำทัพโรฮันตะวันตกมาขัดขวาง



เธโอเดรต ทิ้งกองหลังสามกองร้อยไว้ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไอเซนและนำทัพโรฮันแปดกองร้อยข้ามแม่น้ำขึ้นเหนือเข้าปะทะกับกองทัพออร์ค โดนสามารถตีทัพหน้าของไอเซนการ์ดแตกพ่ายได้ แต่เมื่อเผชิญกับทัพหลักของไอเซนการ์ดที่ซุ่มรออยู่ ทัพโรฮันจึงล่าถอยลงใต้มาตั้งแนวป้องกันที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซน เพื่อใช้เป็นคอขวดในการต้านทัพไอเซนการ์ด

แต่ซารูมานรู้ล่วงหน้าว่าโรฮันจะต้องใช้ทางข้ามแม่น้ำไอเซนเป็นจุดตั้งรับจึงแอบสร้างสะพานข้ามแม่น้ำไอเซนทางเหนือ ทัพหลังของโรฮันคาดไม่ถึงว่าจะมีกองทัพโจมตีจากทางตะวันออกจึงถูกตีแตกพ่ายอย่างง่ายได้ ทำให้เธโอเดรตและทัพหลักของโรฮันถูกปิดล้อมสังหารอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำไอเซน

อย่างไรก็ตาม กองหนุนจากนครเอโดรัสที่ถูกส่งตามมาสามารถตีกองทัพของไอเซนการ์ดให้ล่าถอยไปได้ แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตของเธโอเดรตที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา

ส่วน ศึกที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซนครั้งที่สอง ในระหว่างที่โรฮันกำลังรวบรวมกำลังจากภาคตะวันตกของโรฮัน เพื่อเตรียมรับมือกองทัพใหญ่จากไอเซนการ์ด แต่ก็ไม่ทันการ เพราะซารูมานหลังรู้ข่าวเรื่องหน่วยอุรุคไฮที่ส่งไปลักพาตัวฮอบบิทถูกเอโอแมร์สังหารล่มสลายทั้งหน่วย จึงสั่งเร่งทัพใหญ่ของไอเซนการ์ดให้เดินทางลงใต้มาถึงทางข้ามแม่น้ำและเข้าโจมตีกองระวังภัยทั้งบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำและบนเกาะกลางแม่น้ำทันที

กองระวังภัยของโรฮัน แม้จะสามารถตั้งกระบวนยันการบุกของออร์คไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานทัพใหญ่ได้ จึงตีฝ่าวงล้อมแล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันออก



ในระหว่างการศึกที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซนครั้งที่สอง กษัตริย์เธโอเดนทรงกำลังระดมพลทัพหลวงมุ่งหน้าออกจากนครเอโดรัส เพื่อมุ่งหน้าไปหนุนทัพตะวันตกที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซน (ในหนังจะเหมือนโรฮันกำลังพาคนอพยพหนีภัยสงคราม แต่ในหนังสือทัพจากเอโดรัสเป็นทหารล้วน ๆ ส่วนประชาชนคือชาวโรฮันภาคตะวันตกที่มาหลบภัยที่ถ้ำผาเฮล์มหลังป้อมฮอร์นเบิร์กอยู่ก่อนแล้ว) แต่ทัพตะวันตกก็มาแตกพ่ายไปเสียก่อน

แกนดาร์ฟจึงแนะนำว่าไม่ให้นำทัพไปเผชิญหน้ากับซารูมานในสมรภูมิเปิดอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก (ในหนังเธโอเดนจะเป็นคนเสนอแผนให้พาประชาชนหนีไปป้อมฮอร์นเบิร์ก) แต่ให้ไปตั้งทัพรับศึกที่ป้อมฮอร์นเบิร์กแทน โดยแกนดาร์ฟจะแยกไปรวบรวมกองทัพภาคตะวันตกที่กระจัดกระจายกันไปหลังศึกที่ทางข้ามแม่น้ำไอเซนครั้งที่สอง เพื่อพากลับมาช่วยทัพหลัก

กษัตริย์เธโอเดนทิ้งกองระวังหลังไว้ที่แนวป้องกันรอบนอกของป้อมฮอร์นเบิร์กเล็กน้อย ก่อนจะนำทัพหลักทั้งหมดเข้าไปตั้งทัพเตรียมรับการโจมตีภายในป้อม (ไม่มีเอล์ฟมาช่วยแบบในหนังนะครับ)

กองระวังหลังสังหารอุรกไฮไปได้เป็นอันมากในการรบที่ปราการชั้นนอก แต่จากความแตกต่างของกำลังพล (ถึงขนาดว่าสังหารอุรุกไฮจนศพเต็มท้องคูที่ขุดไว้ก็ยังมีมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ) จึงไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของกองทัพไอเซนการ์ดได้ และต้องล่าถอยมารวมกันที่ป้อมฮอร์นเบิร์กในที่สุด



ระหว่างนั้นฝ่ายโรฮันวางกำลังป้องกันป้อมทั้งในปราการหลัก กำแพงรอบนอก และวางกำลังบางส่วนไว้แนวหลังเพื่อคุ้มกันทางเข้าถ้ำผาเฮล์มที่เป็นที่หลบภัยของชาวบ้าน เมื่อเวลาพลบค่ำท่ามกลางสายฝนที่โปรายปรายลงมา ฝ่ายผู้ป้องกันก็ต้องตกกะลึงกับกองทัพอุรุกไฮสุดลูกหูลูกตาเหมือนเกลียวคลื่นสีดำที่เคลื่อนมาประชิดกำแพงป้อม

กองทัพอุรุกไฮได้โหมเข้าโจมตีกำแพงโดยรอบของป้อมฮอร์นเบิร์กอย่างหนักและได้แบ่งกำลังบางส่วนมาโจมตีประตูของตัวป้อม บันไดนับร้อยพาดเข้าใส่แนวป้องกันแต่ก็ไม่สามารถหักเข้าสู่ปราการชั้นในได้ โดนอุรุกไฮบางส่วนได้เล็ดลอดผ่านทางระบายน้ำใต้แนวกำแพงเข้ามาได้ แต่ก็ถูกสังหารโดยกองรักษาการจนหมดสิ้นและด้วยคำชี้แนะจากกิมลี ทัพโรฮันก็สามารถนำก้อนหินโดยรอบมาอุดรูรั่วได้



การศึกดำเนินไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่สามารถชิงความได้เปรียบจากอีกฝ่ายได้ แต่แล้วอาวุธเพลิงที่ซารูมานตระเตรียมมาก็ปะทุขึ้น ส่วนหนึ่งของกำแพงชั้นนอกเหนือช่องลำธารจึงถล่มลงมา ประหนึ่งสัญลักษณ์เข้าจู่โจม กองทัพอุรุกไฮโถมเข้าโจมตีป้อมฮอร์นเบิร์กจากทุกด้านอย่างพร้อมเพียง ทำให้ฝ่ายตั้งรับต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่อง



ทัพโรฮันถูกบีบให้ต้องแยกกันล่าถอย เอโอแมร์และกิมลีพร้อมทหารโรฮันส่วนหนึ่งถอยไปตั้งรับในถ้ำผาเฮล์ม ส่วนอารากอร์นและเลโกลัสล่าถอยไปยังตามกำแพงที่เชื่อมกับป้อมฮอร์นเบิร์กชั้นใน แม้ทัพโรฮันจะต่อสู้อย่างเหี้ยมหาญ แต่ทัพอุรุกไฮก็สาดสัดเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด จนฝ่ายป้องกันต้องล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า จนเหลือแค่ปราการชั้นในที่ยังยืดหยัดอยู่ได้

เพื่อเร่งเผด็จศึกโรฮันให้ได้ก่อนรุ่งสางซารูมานจึงใช้อาวุธเพลิงทลายประตูหน้าของป้อมลง เปลวเพลิงแล่บเลียแผ่นหินเป็นสีแดงฉาน พร้อมกับที่เหล่าสมุนของพ่อมดขาวผู้แปรพักตร์เตรียมพร้อมจะฝ่าเข้าสู่ปราการชั้นใน แต่แล้วเสียงแตรแห่งเฮล์ม แฮมเมอร์แฮนก็ดังมาส่วนลึกของแผ่นภูผา พลันปรากฎอาชาสีขาวควบขี่เข้าใส่ทัพอุรุกไฮจนแตกฮือจากตัวป้อม

กษัตริย์เธโอเดนและอารากอร์น บุตรแห่งอาราธอร์น ได้นำทัพม้าโรเฮียริมตีโต้จนหน่วยทัพอุรุกไฮแตกพ่ายเสียกระบวนไปจนถึงที่ราบหน้าป้อมปราการ พร้อมกันนั้น เอโอแมร์และกิมลี ก็สังหารผู้รุกรานในถ้าผาได้สำเร็จและกำลังตีฝ่าออกมาสมทบ อีกทั้งเหนือยอดเนินก็ปรากฎยอดอาชาสีขาว เป็นแกนดาร์ฟที่นำทัพของภาคตะวันตกที่นำโดยเออร์เคนแบรนมาสมทบตามที่สัญญาไว้



กองทัพของพ่อมดขาว เมื่อถูกโต้กลับจนเสียหายอย่างหนัก หน่ำซ้ำยังถูกตีขนาบจากทัพโรฮันที่มาสมทบเพิ่ม จึงเริ่มล่าถอยกลับขึ้นเหนือ แต่กลับปรากฎมีป่าปริศนาขวางทางหนีเอาไว้จนหมด ป่าเหล่านี้คือ ฮูออร์นเผ่าพันธุ์จากยุคบรรพกาลที่เหมือนต้นไม้ แต่สามารถขยับได้ แต่ไม่ได้ชอบการเปิดเผยตัวเหมือนเหล่าเอนท์ ที่กำลังโกรธเกรี้ยวเพราะการทำลายป่าของซารูมาน ในเงามืดของป่าฮูออร์นนี้จึงไม่มีอุรุกไฮรอดชีวิตออกมาได้เลย

ดังนี้ จึงเป็นอันสิ้นสุดศึกป้อมฮอร์นเบิร์กที่ในหนังทำค่อนข้างต่างจากหนังสือมาก ๆ นั่นเอง

ประเมินว่าฝ่ายโรฮันมีทหารเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ราว 3,000 คน ในขณะที่ทัพอุรุกไฮมีมากถึงราว 10,000 ตน ชัยชนะในครั้งนี้จึงสำคัญอย่างมากในความอยู่รอดของเสรีชน เพราะกอนดอร์ไม่มีกำลังพอจะต้านการบุกจากสองทิศทางได้

สารบัญกระทู้มิดเดิ้ลเอิร์ธ

ลำดับการดูจักรวาลมิดเดิ้ลเอิร์ธ by ประชาคม Soccersuck

LOTR : ฉากสุดว้าว ตื่นเต้น น่าขนลุก by piyakun

[Middle Earth พางง] สมรภูมิทุ่งเพเลนนอร์ by RicardoKaka
[Middle Earth พางง] Battle of the Ford of Isen by RicardoKaka
[Middle Earth พางง] สงครามสะกิดติ่งเอลฟ์ตัวแม่ by RicardoKaka
[Middle Earth พางง] สมรภูมิเมืองเดล by RicardoKaka

[LotR] ฉากที่ชอบในภาค 1
[LotR] ยุทธภูมิทุ่งเพเลนนอร์

ยังไมไ่ด้ดูซีรี่ส์ The ring of power เลย

ดู HOTD อยู๋ เด่วเนื้อเรื่องจะตีกัน คนละจักรวาล

ยุค3 พวกเทพวาลาหายไปไหนครับ

เหล่าวาลาร์ แทบจะตัดขาดกับมิดเดิ้ลเอิร์ธไปตั้งแต่ตอนจบยุคที่หนึ่งแล้วครับ ตอนจบศึกกับมอร์กอธแผ่นดินพินาศไปหมด จริง ๆ ตอนศึกมอร์กอธก็ไม่อยากช่วยนะ แต่เออาร์เรนดิล ร่องเรือไปขอร้องให้มาจัดการจอมมาร

แต่มาตัดจริง ๆ ก็คือตอนนูเมนอร์ยกทัพเรือไปบุกตะวันตกสุดขอบฟ้านี่แหละครับ เทพเลยยกแผ่นดินหายไปเลย

ข้าจะกลับมาในเช้าตรู่ของวันที่ห้า เมื่อฟ้าสางจงมองทิศตะวันออก

ดูตอนในโรงสมัยนั้น ขนลุกซู่

แต่ตอนมาดูแบบ Extend นี่ สนุกกว่าเยอะ ฉากสำคัญๆทั้งนั้นที่โดนตัดไป

ก็ยังแอบช่วยอยู่ห่างๆ

ที่ชัดๆก็คือ ฟื้นคืนชีพ แกนดัล์ฟ นี้ละครับ

ที่หนังทำได้ดีขนาดนี้ เครดิตต้องให้ปู่โทลคีนเลย แกเขียนละเอียดเลย ไม่เหมือนกับเป็นนิยายหรือวรรณกรรมแฟนตาซีทั่วๆไป จริงๆอย่างที่จขกท.ยกมาก็เห็นชัด รวมถึงตอนอื่นๆด้วย ที่เห็นในหนังแป๊บๆ ในหนังสือกินเวลาอย่างนาน ตอนไปกอนดอร์ก็โคตรลำบาก อรากอนไปหาทัพคนตายก็ไม่ใช่ง่ายๆ กว่าจะรวบรวมพลอีก

มู้คุณภาพ

จริงๆไม่ใช่ว่าแอบช่วยรึไม่อยากช่วยรึเปล่าครับ เพียงแต่ วาลา ลงมาช่วยด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะจะสร้างความเสียหายต่อ อดา มากเกินไป เดี๋ยวคุณพ่อดุ ก็เลยส่ง ไมอาห์ ที่พลังน้อยกว่า ลงมาสู้แทน

ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ต้องชุบแกนดาล์ฟหรอก การที่ส่ง ไมอาห์ มานี่ก็ไม่น่ามีเหตุผลอื่นแล้ว นอกจากเอามาช่วยปราบไมอาห์ของจอมมาร ดาร์คลอร์ดทั้งหลาย ผมมองว่า ไม่น่าช่วยห่างๆนะ แต่มันคือออฟฟิศเชียลกันทั้งสองฝั่งแหล่ะ

ว่ากุยังไม่ยอมนะ แต่มาด้วยตัวเองไม่ได้ เดี๋ยวโลกพัง เจอลูกน้องกุแทนละกันน

ถ้าอ่านนิยาย + ดูหนัง บางทีมันจะงงๆ หน่อย 5 5อันไหนของ หนัง อันไหนของ นิยาย 555

แต่สนุกทั้งคู่เลยนะ

แต่บางทีผมก่ะงงเองนะแบบ อาซ๊อก อ่ะ ในนิยายนี่ โดน ดาอิน ฆ่าใช่ป่ะครับ ในหนังจะเป็น ธอร์ริน

ศึกนี้เป็นจุดหนึ่งที่ไม่ชอบหนัง The lord of the ring เลยครับ

ในหนังสือ เธโอเดน เป็นคนที่เก่ง กล้าหาร เรื่องคุมทหาร ผมให้เก่งกว่า อารากอน อีก

แต่ในหนังเหมือนจะให้เป็นคนที่รอบคอบจนขี้กลัว ต้องให้คณะแหวนมาปลุกใจ

จริง ๆ ก็ไม่ได้ ออฟฟิเชียลขนาดนั้น ดูอย่างซารูมานเปลี่ยนฝ่ายก็ไม่โดนอะไร ตรงเรื่องไมอาร์นี่ก็เถียงกันเยอะ เพราะเหล่าเทพชอบยกเว้นกฎของตัวเอง

อย่างตอนที่อารากอร์นบอกว่าอาร์เวนว่าจะเปลี่ยนใจมั้ยในภาคผนวก คนก็ตีความกันว่าหมายถึงเหล่าวาลาร์จะยอมใจอ่อนมั้ย ถ้าอาร์เวนขึ้นเรือไปตะวันตกสุดขอบฟ้า

หนังเนิร์ฟ เธโอเดน เยอะจริงครับ แต่ตอนป้อมฮอร์นเบิร์กราชาแห่งวังทองเพิ่งจะหลุดจากการควบคุมของ กริม่า แค่ 2-3 วันเอง

ไทม์ไลน์จะเป็นประมาณ

2 มีนาคม
แกนดาร์ฟขับไล่กริม่า ออกจากเอโดรัสและช่วยคืนสติให้เธโอเดน
ทัพหลักอุรุกไฮปะทะกับกองระวังป้องกันของโรฮัน
ที่ประชุมเอนท์มีมติเข้าร่วมสงครามและเดินทางไปถึงไอเซนการ์ดช่วงค่ำ

3 มีนาคม
รุ่งสาง เธโอเดนนำทัพหลวงออกจากเอโดรัส เพื่อมุ่งไปเสริมทัพทางตะวันตก
ย่ำค่ำ ศึกป้อมฮอร์นเบิร์ก

ในเรื่องอย่าเอาอารากอร์นมาเทียบครับ ถ้าเทียบกับมนุษย์ด้วยกันอารากอร์นคือตัว edit อย่างในโรฮันนี่อารากอร์นเคยมาช่วยรบตั้งแต่สมัยของกษัตริย์เธงเกล ที่เป็นพระราชชนกของเธโอเดนอีกที

แต่ตามความคิดผม สงครามยุค the lord of the rings อารากอน ตัดสินใจหลายอย่างพลาด นะ
อย่างการบุกไปมอร์ดอร์ในช่วงสุดท้าย รวมถึงการไม่ยอมนั่งบัล
ลัง จนคนมาทำหน้าที่แทนสติแตก (ตรงนี้ผมคิดว่าถ้า อารากอน ปกครองแต่แรก อาจจะไม่โดนลูกแก้วครอบงำ เหตุผมคือผมคิดว่า อารากอน มันตัว edit เหมือนกัน)
ประสบการณ์เยอะจริง แต่เหมือนมีปัจจัยหลายๆอย่างมาทำให้พลาด