BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 6165
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 13:28
[LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร
จริงๆ หาข้อมูลและพิมพ์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ก็คิดว่ามันเป็นข้อมูลที่ไม่ครบทุกด้าน ก็เลยว่าจะไม่โพสต์

แต่เมื่อวานอ่านการถกเถียงของแฟนหงส์ทั้งฝั่งเห็นด้วยกับค่าเหนื่อยโม ส่วนอีกฝั่งก็เข้าใจว่า FSG ต้องมองภาพรวมสโมสร ก็เลยรู้สึกว่าอยากหาข้อมูลเพิ่มอีกสักหน่อย ตกผลึกความคิดอีกซักนิด

ก็เลยกลายมาเป็นบทความนี้






ออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ ความเห็นผมคือ คิดว่า Salah เหมาะสมกับค่าเหนื่อยระดับ £400k/w และเป็นสิทธิ์ของนักเตะที่จะเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองสมควรได้รับ

แต่ในอีกทางนึง LFC โดย FSG ก็มีเหตุผลที่จะต้องคิดคำนวณยอดตัวเลขที่จะเสนอให้ Salah เหมือนกัน ก็เลยจะมาชวนคุยกันว่า อะไรทำให้หงส์หยุดชะงักกับตัวเลขระดับ 400k และพอจะมีทางเป็นไปได้มั้ยที่จะจ่ายนักเตะระดับนี้แล้วสโมสรไม่พังครืนลงมา

ข้อมูลทั้งหมดเป็นความเข้าใจของผมผ่านรูปแบบค่าจ้างขององค์กรที่ผมเคยรับรู้ ผ่านการเห็นตัวเลขต่างๆ รวมถึงข้อมูลจาก football manager นะครับ ถ้าตรงไหนคลาดเคลื่อนก็พูดคุยกันได้ครับ







โครงสร้างค่าเหนื่อยคืออะไร?

ก่อนจะเข้าใจคำนี้ คงต้องมองเรื่องการแบ่งสัดส่วนงบในการบริหารทีมซะก่อน ซึ่งก็น่าจะมีหลายส่วนมาก ทั้งด้านการพัฒนาสนามและ facilities ต่างๆ / งบที่เกี่ยวกับนักเตะ / งบการตลาดและส่งเสริมภาพลักษณ์สโมสร บลาๆๆ

จากในรูปที่เอามาจาก FM จะเห็นว่างบด้านนักเตะมีส่วนใหญ่ๆ 3 ส่วน คือ งบซื้อขายนักเตะ ค่าเหนื่อยนักเตะ และงบทีมแมวมอง




จะเห็นว่าวิธีบริหารของทีมคือ ตั้งงบประมาณสำหรับค่าเหนื่อยไว้ก้อนนึง หลังจากนั้นบอร์ดและผจก.ทีมก็ไปบริหารเอา
ซึ่งฤดูกาลปัจจุบัน ลิเวอร์พูลมีรายจ่ายตรงนี้อยู่ที่ £139,178,000/ปี หรือ £2,676,500/สัปดาห์

ตัวเลขส่วนนี้ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ตามมาตรฐานองค์กรทั่วไป โดยย้อนกลับไป 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตัวเลขจะเป็น £132,854,000 (20/21), £128,400,000 (19/20) และ £122,980,000 (18/19)

และถ้าจะเปรียบเทียบกับอีก 3 ทีมหัวตาราง epl สำหรับฤดูกาลนี้ ก็จะได้ตามนี้
1. Manchester United £226,646,000/ปี
2. Chelsea £162,642,000/ปี
3. Manchester City £143,156,000/ปี
ที่มา :
https://www.spotrac.com/epl/liverpool-fc/payroll/
https://www.si.com/soccer/liverpool/articles/reported-liverpool-player-salaries-2021-22-season
https://lfcglobe.co.uk/liverpool-fc-players-wages-contract-details/



ซึ่งตรงนี้คือยอดใช้จ่ายในปัจจุบัน แต่ผมไม่แน่ใจว่าทีมได้ใช้จ่ายเต็มวงเงินงบประมาณส่วนที่เป็นค่าเหนื่อยแล้วหรือยัง หรือเหลือเท่าไหร่







กลับมาดูรายละเอียดของค่าเหนื่อยกันต่อ ตามความเข้าใจที่ผมได้มาจาก football manager เวลาที่เราจะเสนอสัญญาให้นักเตะเซ็น ในสัญญาจะต้องระบุบทบาทความสำคัญของนักเตะไปด้วย ซึ่งจะมีตั้งแต่ระดับ
- นักเตะสำคัญประจำทีม (key player)
- ตัวจริง (first team)
- ตัวหมุนเวียน (rotation)
- สำรอง (backup)
- ดาวรุ่งพุ่งแรง (hot prospect)
- นักเตะเยาวชน (youngster)

ตรงนี้แหละครับที่จะมาพร้อมกับ range ของค่าเหนื่อยที่นักเตะจะได้รับตามความสำคัญต่อทีม ดูจากตัวเลขปัจจุบัน นักเตะที่น่าจะอยู่ในระดับ key player ของลิเวอร์พูล น่าจะมี 3 คน คือ VVD, Thiago และ Salah ซึ่งค่าเหนื่อยน่าจะอยู่ในช่วง 200-250k/w (อันนี้เดาเอานะครับ อาจจะเป็น 200-220k/w ก็ได้)

First team กับ rotation คงอยู่ในช่วง 100-200k/w ส่วนพวกสำรองก็คงระดับหลักหมื่น (เดาอีกเหมือนกัน แต่วิธีคิดน่าจะประมาณนี้)









สิ่งที่กำลังเป็นคำถามว่าถ้าหงส์อัพค่าเหนื่อยให้ Salah ที่ 400k/w จะเกิดอะไรตามมา?

อย่างแรก เพดานค่าเหนื่อยของกลุ่ม key player จะขยับจาก 250k (หรือ 220k) กลายเป็น 400k ซึ่งตอนนี้เรามีนักเตะ key player อยู่ 3 คน

โอเคว่าในเคส VVD สัญญาอยู่ถึงปี 2025 การต่อฉบับถัดไปค่าเหนื่อยอาจจะไม่ทะลุหลัก 200k แล้วเพราะถึงตอนนั้นเจ้าตัวจะอายุ 34 ปี

เช่นเดียวกับ Thiago ที่สัญญาหมดปี 2024 ในตอนที่เจ้าตัวอายุ 33 ปี

แต่คนที่สัญญากำลังจะหมดพร้อม Salah คือ Sadio Mane และก็อาจจะมีข้อถกเถียงเรื่องความสำคัญต่อทีม ว่า Mane อยู่ในระดับเดียวกับโมมั้ย หรือเป็นแค่ First team ซึ่งตรงนี้ก็มีช่องว่างให้เอเยนต์ของณเดชน์ได้ต่อรองอยู่พอสมควร ถ้าหากว่าเพดานถูกเขยิบขึ้นไป

ในเคสนี้เราอาจจะไม่ได้กังวลมาก ด้วยฟอร์มปัจจุบัน หากนักเตะเรียกค่าเหนื่อยที่สูงเกินผลงาน ก็สามารถจะขายทำกำไรกลับเข้าสโมสรได้



อย่างที่สอง ถ้ามีการขยับเพดานค่าเหนื่อยของ key player ขึ้นไปสูงขนาดนั้น มีความเป็นไปได้ที่เพดานค่าเหนื่อยของนักเตะกลุ่มรองๆ ลงมาอาจจะต้องขยับตามขึ้นไปไม่มากก็น้อย

มาลองคิดกันเล่นๆ ว่าเพดานของแต่ละระดับจะขยับขึ้นไปขนาดไหน
Key player 250k —> 400k
First team 200k —> 220k มั้ย?
Rotation 150k —> 180k มั้ย?
Backup 100k —> 120k มั้ย?

ตีกลมๆ ถ้าปรับขึ้นระดับนี้ งบส่วนนี้จะเพิ่มขึ้น 10-20% โดยจะไม่เพิ่มขึ้นทันทีในตอนนี้ แต่จะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีการเสนอสัญญาใหม่ให้นักเตะ คาดการณ์คร่าวๆ ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 10-20% ภายใน 4 ฤดูกาล (ในขณะที่อัตราเพิ่มปกติอยู่ที่ 4% ในแต่ละปี)

ตรงนี้ถึง "อัตราการเพิ่มค่าเหนื่อย" จะกระโดดขึ้นไป 3-4 เท่าตัว ถ้าตีเป็นตัวเลข (แบบกลมๆ อีกรอบ) โดยเทียบจากตัวเลข £139M ค่าเหนื่อยก็น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ £25M/ปี

£25M.. ดูแล้วก็ไม่น่าเกินความสามารถของบอร์ดบริหารที่จะหาเงินส่วนนี้มาเพิ่มได้

แต่..... อย่างที่บอกแหละครับ เราไม่รู้รายละเอียดว่างบประมาณส่วนนี้มันสามารถจะปรับเปลี่ยนได้มากน้อยแค่ไหน และสามารถทำได้ทันทีเลยมั้ยเพื่อรองรับสัญญาใหม่โม



อย่างที่สาม เมื่อเพดานขยับแล้ว ขยับเลย คงไม่สามารถปรับลงมาใหม่ได้ ไม่งั้นคงมีปัญหาในการบริหารจัดการทีมอย่างหนัก

ถ้ามองจากด้าน FSG (หรือมองจากติ่ง FSG แบบที่แฟนบอลอีกฝั่งถูกค่อนขอด) ผมยังให้เครดิตกับทีมงานชุดนี้อยู่มาก เปรียบเทียบการลงทุนกับผลลัพธ์ที่ได้ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการบริหารของลิเวอร์พูลก็ถูกพูดถึงเยอะนะครับ ในแง่การใช้เงินที่สมเหตุสมผล แถมยังต่อกรกับทีมมหาเศรษฐีหลายๆ ทีมได้อย่างสูสี

กรณีต่อสัญญาโมที่ยังไม่มีบทสรุป ผมก็ยังเชื่อมั่นว่า FSG ฉลาดพอที่จะรู้ข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก เพราะแม้แต่แฟนบอลชาวบ้านอย่างเราๆ ก็ยังคุยกันได้เป็นตุเป็นตะเลย

แต่จะมองแบบแฟนบอลอีกหลายๆ ท่านก็ได้ว่า หรือนี่จะถึงเวลาแล้วที่หงส์ควรปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยเพื่อต่อยอดให้ทีมอยู่ในระดับบนสุดต่อไปได้ กว่าที่เราจะกลับขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ เราลงทุนไปไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าไม่รักษาระดับการบินสูงต่อไป เงินที่ลงทุนไปก็ดูจะเสียเปล่า





แล้วทีมอื่นเค้าบริหารค่าเหนื่อยนักเตะยังไง ทำไมถึงจ่ายค่าเหนื่อยแพงๆ ดึงนักเตะดังๆ มาเข้าทีมได้?

ลองมาดูกัน

Man City
https://www.spotrac.com/epl/manchester-city-fc/payroll/

Chelsea
https://www.spotrac.com/epl/chelsea-fc/payroll/

Man UTD
https://www.spotrac.com/epl/manchester-united-fc/payroll/

ทีนี้ลองมาดูว่าในแต่ละทีมมีจำนวนนักเตะที่รับค่าเหนื่อยใน range ต่างๆ เป็นยังไง






เราเห็นอะไรจากตัวเลขนี้

ทีมที่ยอดค่าเหนื่อยใกล้เคียงกับหงส์ที่สุดคือ city

แต่ทีมที่มีรูปแบบค่าเหนื่อยใกล้เคียงกับเราที่สุดคือ chelsea

city มีโครงสร้างค่าเหนื่อยแบบมี superstar คือ มีนักเตะ 1-2 คนที่ค่าเหนื่อยสูงปรี๊ดออกมาจากเพื่อนร่วมทีม

ในขณะที่ chelsea จ่ายค่าเหนื่อยแบบค่อยๆ ลดหลั่นกันลงไป โดยยกเว้นลูกากู ที่ได้ค่าเหนื่อยระดับ 300k อันนี้เข้าใจได้ เพราะซื้อตัวเข้ามาหลังจากโชว์ฟอร์มกระฉูดกับงูใหญ่

หงส์แดงอาจจะมองว่านักเตะภายในทีมทุกคนมีความสำคัญ อาจมีคนที่โดดเด่นกว่าเพื่อนบ้าง แต่ก็เล่นกันเป็นทีม ทำให้ค่าเหนื่อยค่อยๆ ลดหลั่นลงมา หรือนี่จะเป็นจุดที่เป็นกับดักทางความคิดของบอร์ดบริหาร




ถ้าเราเข้าไปดูพัฒนาการค่าเหนื่อยของ key player ที่อยู่กับแต่ละทีมมานาน จะเห็นสิ่งนึงที่น่าสนใจ



นักเตะกลุ่มนี้มีลักษณะที่เหมือนกันคือ เป็นตัวแบกทีม และอยู่กับทีมมายาวนานเกิน 5 ปี ทำให้เห็นพัฒนาการของค่าเหนื่อยได้อย่างดี

ทุกคนเข้ามาด้วยค่าเหนื่อยเริ่มต้นที่ไม่มากนัก และจะมีฤดูกาลนึงที่ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นทีเดียวเท่าตัว เพราะในปีนั้นฟอร์มในสนามเบ่งบานจนต้องอัพค่าเหนื่อยเพื่อกันทีมอื่นมาดึงตัวไป

หงส์แดงกำลังเผชิญสถานการณ์แบบเดียวกับที่ผีแดง สิงห์ เรือใบเคยผ่านมา และจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบได้ด้วยการอัพค่าเหนื่อยแบบเท่าตัว

ตรงนี้ทำให้เราพอจะมองเห็นได้ว่า ถ้าเงื่อนไขที่เอเยนต์ของโมเสนอกับสโมสรที่ 400k ก็เป็นตัวเลขที่ไม่เกินเลยกับความเป็นจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าบอร์ดบริหารไม่สามารถคิดนวัตกรรมในการแก้ปัญหานี้ได้ วิธีการเพิ่มค่าเหนื่อยแบบที่ทีมอื่นทำกันมาแต่ไหนแต่ไร ก็คงเป็นทางที่ไม่ควรปฏิเสธ เพราะมันอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

ถ้าอย่างนั้น ก็อาจจะยังพอเป็นไปได้ที่ตัวเลขสุดท้ายจะจบระหว่าง 350-400k


สุดท้ายแล้ว การมีวินัยการเงินที่รัดกุมเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่หวังว่าบอร์ดจะมองการขยับเพดานค่าเหนื่อยครั้งนี้ ในแง่ของการปรับเพื่อให้ทีมโตขึ้น ไม่ใช่การทำลายให้เกิดความวุ่นวายเกินควบคุมในอนาคต

ก็ลุ้นกันต่อไปครับ




โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: You'll never Walk Alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 28012
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 13:35
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ถ้าจะจบจริงๆคง 350-400 + โบนัสนอกนั้นน่าจะได้ย้าย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Oct 2021
ตอบ: 89
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 13:48
ถูกแบนแล้ว
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
เข้าใจเรื่องรายจ่ายนักเตะนะครับ แต่รายชายหลักปีนี้ เท่าที่เห็น การซื้อขา่ย ทำให้รายจ่าย หนัก ๆ ประจำฤดูกาลเรื่องซื้อนักเตะใหม่ เสียเงินไม่มาก แล้วมาเน้นเรื่องต่อสัญญานักเตะเก่า ส่วนเรื่องพอไหม ให้ ซาร่า อันนี้ไม่แน่ใจแต่คิดว่าน่า พอมี ลุ้นว่าถึงไหม
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status: You only Live once
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 27488
ที่อยู่: Spion Kop
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 13:50
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ขอบคุณ จขกท.ครับ เมื่อวานผมอยากทำกระทู้แบบนี้เลย

แต่ไม่มีปัญญาครับ ตามตรง

ผมทราบแค่ซิตี้จ่ายต่อปีไม่ได้มากกว่าลิเวอร์พูลเท่าไร ส่วนเชลซีค่าเหนื่อยแต่ละคนคือสูง แต่ไม่มีใครกระโดดจากใครนัก

จริงๆอีกพอยท์นึงคือ ค่าเหนื่อยต่อปี / รายรับต่อปี ครับ คุ้นๆว่าลิเวอร์พูลอยู่ที่ 60% มั้ง อย่างยูไนเต็ดจ่ายขนาดยังแม่ง 40% กว่าๆ อย่างโหด

พอมาเทียบงี้ก็เห็นช่องการบริหาร อยู่ที่ทีมงานอย่างจขกท.สรุปครับ

เยี่ยมยอดมากครับ ขออนุญาตชื่นชมจากใจ
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
I choose to live, not just exist.


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 6165
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 13:59
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
Radiant พิมพ์ว่า:
ขอบคุณ จขกท.ครับ เมื่อวานผมอยากทำกระทู้แบบนี้เลย

แต่ไม่มีปัญญาครับ ตามตรง

ผมทราบแค่ซิตี้จ่ายต่อปีไม่ได้มากกว่าลิเวอร์พูลเท่าไร ส่วนเชลซีค่าเหนื่อยแต่ละคนคือสูง แต่ไม่มีใครกระโดดจากใครนัก

จริงๆอีกพอยท์นึงคือ ค่าเหนื่อยต่อปี / รายรับต่อปี ครับ คุ้นๆว่าลิเวอร์พูลอยู่ที่ 60% มั้ง อย่างยูไนเต็ดจ่ายขนาดยังแม่ง 40% กว่าๆ อย่างโหด

พอมาเทียบงี้ก็เห็นช่องการบริหาร อยู่ที่ทีมงานอย่างจขกท.สรุปครับ

เยี่ยมยอดมากครับ ขออนุญาตชื่นชมจากใจ  




ตรงนี้แหละครับที่ผมว่าแฟนบอลก็อาจจะไม่รู้รายละเอียดการบริหารอีกเยอะมากกกก

เรื่อง gap รายจ่ายที่เหลืออยู่ ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเฉพาะส่วนค่าเหนื่อยอย่างเดียวมั้ย หรือรวมทั้งก้อนของสโมสร ที่ต้องเอาไปบริหารด้านอื่นด้วย

ผมลองพยายามไปโหลดงบรายรับรายจ่ายประจำปีมาดู

สรุป ดูไม่รู้เรื่อง


ก่อนหน้านี้ผมก็ค่อนข้างจะกังวลเรื่องผลกระทบเรื่องเพดานค่าเหนื่อย เพราะจำบรรยากาศตอนที่ทีมจะโดนฟ้องล้มละลายได้

แต่พอมาคิดเรื่องค่าเหนื่อยที่จะเพิ่มขึ้น ก็คิดว่ามันไม่ได้เพิ่มเป็น 100M

ปรับทั้งหมดแล้วเพิ่ม 20-30M ก็รู้สึกว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้

ตอนนี้ก็ลุ้นว่าประตูยังไม่ปิด ทีมงานน่าจะยังหาทางออกกันอยู่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 2182
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:04
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
บอร์ดควรวางแผรปรับขยายเพดานค่าเหนื่อยและปรับจำนวนเงินในการเสริมทีมได้แล้ว ถ้าอยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมหัวแถวของโลก มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้ตัวคีย์แมนของทีมมารับค่าเหนื่อยเท่ากับตัวเฟิสทีมของทีมอื่น หรือการซื้อดินมาปั้นให้เป็นดาวทุกตัว ทั้งๆที่ทีมระดับเดียวกันเขาก้าวข้ามไปหมดแล้ว

สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือ ทำอย่างไรให้ทีมหารายได้เพิ่มจากเดิม ซึ่งบางทีการที่เราดึงสตาร์มาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาดอย่างตอนแมนยูเซ็นโด้กลับมา หรือการดึงสตาร์มาเพื่อการันตีแชมป์ มันก็เป็นหนทางหนึ่งในการสร้างรายได้ในระยะยาวนะ เช่น การที่แมนยูมีรายได้มากมายทั้งที่ช่วงหลังผลงานอาจจะไม่ได้ดีสักเท่าไร ก็เพราะผลงานระดับเทพและการตลาดที่ดีในอดีตที่ผ่านมาไม่ใช่หรอ หรืออย่างการที่เชลซี แมนซิก้าวขึ้นมาแซงเราในช่วงหลังๆมานี้ก็เพราะทีมเขาลงทุนในนักเตะอย่างมากจนทีมประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ลองลงทุนในนักเตะแบบนี้บ้างหล่ะ


2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Sep 2013
ตอบ: 5474
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:13
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
แผลบให้สำหรับข้อมูลที่นำมาเสนอเลย

ขึ้นอยู่กับสโมสรจริงๆว่าจะบริหาร การจัดการ เรื่องแบบนี้ยังไง

บางที FSG ต้องมีการปรับแผนธุรกิจบางอย่าง เพื่อรองรับในส่วนตรงนี้ด้วย

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Nobody knows...

ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2009
ตอบ: 6515
ที่อยู่: ค่ายเบียนเดียนฟู
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:13
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
สำหรับผมมองว่า ถ้าเทียบกะทีมแบบเชลซีที่เพดานค่าเหนื่อยอยู่ที่ 320,000 ผมมองว่าซาล่าก็น่าจะเหมาะสมอยู่ราวๆ 350,000 - 380,000 ละหลังจากนี้บรรดาตัวที่เราจะซื้อมาใหม่ หรือดาวรุ่งบางคนที่จะต่อสัญญากะทีม จะว่าด้วยค่าเหนื่อย100,000-150,000 ขึ้นไปแน่นอน ก็ต้องคำนวนดูว่าทีมพร้อมรึยัง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 18415
ที่อยู่: สิ่ง เหล้ าห นี
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:18
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
อยากเห็นการหาเงินของทีมจริงๆว่าได้จากไหนบ้าง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ได้

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: LFC and Relax moment
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 21990
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:19
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
เรื่อง Gap ตรงนั้นผมคิดเหมือนเดิมอ่ะ ถ้าสมมติไม่มีโควิดเข้ามา มันจะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วเข้าไปทันทีเลย

รายได้ที่หายไปมันก็ระดับปีละ 100 ล้านปอนด์เลยนะครับ ผมมองว่าถ้าคืนสภาพการเงินได้ 1-2 ปี การขยับเพดานค่าเหนื่อย

มันจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่านี้มากๆจริงๆ 300k หรือ 400k ต่อวีค มันก็ห่างกัน ปีละ 5 ล้านปอนด์ เอง

แต่ถ้ามองกันตรงที่โควิดคือ รายได้หายไปปีละ 100 ล้านปอนด์(ตีกลมๆ) 2 ปีที่ผ่านมาหายไป 200 ล้านปอนด์

เราไม่รู้เลยว่าจริงๆในแต่ละภาคส่วนมันต้องเอาเงินส่วนไหนมาโปะตัวเลขในบัญชีบ้าง ไม่ต้องลิเวอร์หรอก บริษัทในบ้านเรายังเจ๊ง

อย่าว่าแต่ทีมใน EPL เลยครับ ทีมจากบุนเดส เค้ายังมีปัญหาเลย(ขนาดที่ว่าการเงินแข็งนักแข็งหนาอ่ะ)

ผมว่ามันแค่อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เฉยๆ ส่วนตัวผมมองว่าต่อ 400k/w อันนี้ต่อๆไปเถอะ แต่คงไม่ใช่สัญญาระยะยาวอ่ะ

มันควรประมาณอายุซาลาห์ไม่เกิน 32 แล้วพอถึงตอนนั้นคุยกันใหม่ก็ได้ เพราะ การเงินต่างๆก็น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว

จะผลักให้สโมสรไปหาจุดต่างๆมาเสริมเรื่องเงิน เรื่องนี้ผมก็คิดว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่าธุรกิจไหนๆก็ส่งผลกันทั้งนั้นในช่วงนี้

แต่ถ้าไม่มีโควิด ผมว่ายังไงมันก็ไม่น่ามีปัญหา แต่พอเป็นโควิดตัวเลขที่เราไม่สามารถประเมิณได้มันมีอยู่เต็มไปหมด

ปล. ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ผมชอบกระทู้แบบนี้มากๆเลย

ปล2. เรื่องขยับเพดานค่าเหนื่อย ผมเชื่อว่ามันวางแผนมาตลอดนะ ไม่งั้นค่าเหนื่อยนักเตะในทีมมันจะขยับขึ้นมากันหรอ แต่ช่วงที่ผ่านมามันติดปัญหาไง >> โควิด << คำเดียวง่ายๆ รายได้หายไป 100 ล้านปอนด์ต่อปี หายไป 2 ปีก็ 200 ล้านปอนด์ มันคือ 9200 ล้านบาทนะครับ มันไม่ใช่ 100-200 ล้านบาทเด้อ
แก้ไขล่าสุดโดย MachineRedz เมื่อ Sun Oct 24, 2021 14:23, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฝากเพจด้วยครับ : https://www.facebook.com/mrroscn
ชาตินึงอัพทีนึง 55555
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status: YNWA#
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Nov 2007
ตอบ: 8829
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:22
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ถ้าไม่อยากให้เพดานมันดีดสูงเกินไป ผมว่าอัดค่าเหนื่อยไม่เกิน 350k
แล้วค่อยยัด Option ที่มันแจกโบนัสง่าย ๆ เข้าไป ก็น่าจะพอได้
เช่น โบนัสลงสนาม จ่ายไปแพง ๆ หน่อย
เวลาคนอื่นเห็นค่าเหนื่อย ก็ดูไม่ได้เยอะเกินไป (แต่ได้รวม ๆ เยอะจากโบนัสที่ง่าย ๆ)
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 21969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:25
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ของเชลซีค่าเหนื่อยภาครวมเยอะครับ
แต่ก็มีมาตรฐานในเงื่อนไขที่ไม่เหมือนทีมอื่นเช่นกัน​ยกตัวอย่างเคสรูดิเกอร์​ก็พยายามคุมค่าเหนื่อยอยู่
แต่ที่ให้ได้เพราะหาเงินได้เยอะ​ มันเลยพอเอาไปโปะหมุนเวียนได้เช่น​ ขายนักเตะดาวรุ่ง​+ ประสบความสำเร็จในโทรฟี่​+การตลาด​ บางครั้งก็แอบอึ้งนะว่านักเตะเก่งๆทำไมถึงมาเชลซีไม่ขาดระยะ​ ค่าเหนื่อยมีผลต่อการตัดสินใจนักเตะให้มาเล่นแต่ทำไงให้มันบาลานซ์กับการเติบโตของทีม

ต้องมองมุมนักเตะ​ กับบอร์ด​ควบคู่กัน
ขอให้หาทางออกที่ดีได้ครับสำหรับทีมหงส์

แก้ไขล่าสุดโดย Hell_Yeah เมื่อ Sun Oct 24, 2021 14:30, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 6165
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:26
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
MachineRedz พิมพ์ว่า:
เรื่อง Gap ตรงนั้นผมคิดเหมือนเดิมอ่ะ ถ้าสมมติไม่มีโควิดเข้ามา มันจะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วเข้าไปทันทีเลย

รายได้ที่หายไปมันก็ระดับปีละ 100 ล้านปอนด์เลยนะครับ ผมมองว่าถ้าคืนสภาพการเงินได้ 1-2 ปี การขยับเพดานค่าเหนื่อย

มันจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่านี้มากๆจริงๆ 300k หรือ 400k ต่อวีค มันก็ห่างกัน ปีละ 5 ล้านปอนด์ เอง

แต่ถ้ามองกันตรงที่โควิดคือ รายได้หายไปปีละ 100 ล้านปอนด์(ตีกลมๆ) 2 ปีที่ผ่านมาหายไป 200 ล้านปอนด์

เราไม่รู้เลยว่าจริงๆในแต่ละภาคส่วนมันต้องเอาเงินส่วนไหนมาโปะตัวเลขในบัญชีบ้าง ไม่ต้องลิเวอร์หรอก บริษัทในบ้านเรายังเจ๊ง

อย่าว่าแต่ทีมใน EPL เลยครับ ทีมจากบุนเดส เค้ายังมีปัญหาเลย(ขนาดที่ว่าการเงินแข็งนักแข็งหนาอ่ะ)

ผมว่ามันแค่อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เฉยๆ ส่วนตัวผมมองว่าต่อ 400k/w อันนี้ต่อๆไปเถอะ แต่คงไม่ใช่สัญญาระยะยาวอ่ะ

มันควรประมาณอายุซาลาห์ไม่เกิน 32 แล้วพอถึงตอนนั้นคุยกันใหม่ก็ได้ เพราะ การเงินต่างๆก็น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว

จะผลักให้สโมสรไปหาจุดต่างๆมาเสริมเรื่องเงิน เรื่องนี้ผมก็คิดว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่าธุรกิจไหนๆก็ส่งผลกันทั้งนั้นในช่วงนี้

แต่ถ้าไม่มีโควิด ผมว่ายังไงมันก็ไม่น่ามีปัญหา แต่พอเป็นโควิดตัวเลขที่เราไม่สามารถประเมิณได้มันมีอยู่เต็มไปหมด

ปล. ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ผมชอบกระทู้แบบนี้มากๆเลย

ปล2. เรื่องขยับเพดานค่าเหนื่อย ผมเชื่อว่ามันวางแผนมาตลอดนะ ไม่งั้นค่าเหนื่อยนักเตะในทีมมันจะขยับขึ้นมากันหรอ แต่ช่วงที่ผ่านมามันติดปัญหาไง >> โควิด << คำเดียวง่ายๆ รายได้หายไป 100 ล้านปอนด์ต่อปี หายไป 2 ปีก็ 200 ล้านปอนด์ มันคือ 9200 ล้านบาทนะครับ มันไม่ใช่ 100-200 ล้านบาทเด้อ  


อันนี้เห็นด้วยครับ ผมก็คิดเรื่องผลกระทบจากโควิดเหมือนกันครับ คิดว่าอาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ขยับตัวลำบาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 6165
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:29
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
sixhearts พิมพ์ว่า:
ถ้าไม่อยากให้เพดานมันดีดสูงเกินไป ผมว่าอัดค่าเหนื่อยไม่เกิน 350k
แล้วค่อยยัด Option ที่มันแจกโบนัสง่าย ๆ เข้าไป ก็น่าจะพอได้
เช่น โบนัสลงสนาม จ่ายไปแพง ๆ หน่อย
เวลาคนอื่นเห็นค่าเหนื่อย ก็ดูไม่ได้เยอะเกินไป (แต่ได้รวม ๆ เยอะจากโบนัสที่ง่าย ๆ)  


ก็คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่เป็นไปได้มากสุดละครับ ก็ต้องดูว่าเอเยนต์จะยอมรับมั้ย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เคารพคนอื่นเท่ากับเคารพตัวเอง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2007
ตอบ: 8280
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 14:30
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
-อยากให้คิดค่าเฉลี่ยการซื้อตัวตั้งแต่ คล็อปเข้ามาคุมทีมด้วย

(เท่าที่ผมคิดตกเฉลี่ยปีละ25-30ล้านเท่านั้นเอง)(ซื้อ-ขาย)
(ถ้าผมจำไม่ผิด netspend ที่คล็อปใช้ ใช้เงินน้อยกว่าทีมแอสตันวิลล่าซะอีก)

(ทำไมทีมใหญ่ทีมอื่นไม่ล้ม แต่ห่วงว่าลิเวอร์พูลจะล้มอยู่ทีมเดียว
ทั้งที่ทีมใช้เงินซื้อตัวน้อยกว่าบรรดาท็อป6ซะอีก)


(อย่าบอกว่าทีมอื่นรวยเกิน เพราะลิเวอร์พูล มีรายได้ติดท็อป6ของโลกมา5ปีติดแล้ว)
(ติดท็อป3ของพรีเมียร์ด้วย)
(อย่างแมนยูรายได้ 500 กว่าล้าน ของลิเวอร์พูล 490 ล้าน ของแมนซิ 480 ล้าน)
(อันนี้คือปีที่มีโควิดด้วยนะ)(ถ้าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นก้ไม่แปลก)


-พูดง่ายทีมเราใช้เงิน"ซื้อตัว"น้อยกว่าทีมใหญ่ทีมอื่นเยอะ

-อย่างซาล่าตอนนี้ได้ 2 แสน ก็ตกปีละ 10 ล้าน ถ้าต่อเป็น 4แสน ก็ตกปีละ 20 ล้าน

-หรือเพิ่มมาอีกปีละ 10ล้าน ราวๆ3-4ปี (ช่วงนี้ก็ปั้นเอลลียตขึ้นมาแทนได้พอดี)

-แล้วก็ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าเหนื่อยจะเกิน 70 % รายได้ เพราะในพรีเมียร์มีทีมใช้เงิน"เกิน70 % อยู่ถึง 15 ทีม"
(ถ้ามันห้ามใช้จริง อีก15ทีมก็โดนหมด)

-อย่างเลสเตอร์ ใช้เงิน 105 % ของรายได้ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วคิดว่าทีมเค้าจะล้มมั้ย

-ผมลองคำนวนเล่นๆ เรื่องค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ทีมใช้69%ของรายได้

-ถ้าเพิ่มให้ซาล่า และคิดส่วนที่ต่อสัญญาใหม่นักเตะในปีนี้

-ทีมจะใช้เงินเพิ่มขึ้นไปเป็น 74 % ของรายได้เท่านั้นเอง
(74นี่ คิดรายได้ในช่วงโควิดด้วยนะ ถ้าคิดปีนี้รายได้น่าจะสูงกว่านี้อีก)

-ยังห่างจากทีมอื่นอีกเยอะมาก

ปล.เอเวอร์ตันใช้เงิน 95 % จากรายได้จ่ายเงินนักเตะ วิลล่า 99 % เวสแฮม 95 %


8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel