BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: หลิงหลิง คอง ยอดพีระเมะ แห่งจักรวาลเกิร์ลเลิฟ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2011
ตอบ: 18886
ที่อยู่: ที่ไหนก็ได้ที่มี หลิงหลิง คอง
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 15:54
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
มองมุมกลับ ถ้าสโมสร ระบาย

Oxlade , Keita , Milner , Origi เผลอๆ Mane ขายออกด้วย ค่าเหนื่อย ซื้อนักเตะใหม่มา
2-3 คน อาจ 80k-150k เราว่าจะพอช่วยไปเติมให้ Salah ระดับ 400k/w ได้

เชื่อเถอะดีกว่าปล่อยฟรี ขอสัญญา 5 ปีใช้อีก 2-3 ฤดูกาล ยังไงก็ขายได้ราคาดี
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
" i Love you , LingLing. " (เสียง ออมกรณ์)
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: 19 league champions
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 2090
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 16:00
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
Nicky007 พิมพ์ว่า:
JoOz พิมพ์ว่า:
สำหรับผม 300K มากพอสำหรับโมแล้ว

แต่ไม่ใช่สำหรับค่าเหนื่อยที่ผมประเมิณกับฟอร์มของซาล่า แต่เพราะตัวสโมสรมากกว่า คิดว่าให้มากพอแล้ว
สำหรับระดับนี้

ไม่ต้องเทียบทีมอื่นหรอกครับ ระดับฟานไดร์ เก่งกว่าทุกคนในลีค ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ก็ยังได้น้อยกว่าทีมอื่นๆครับ ไม่ใช่เพราะฟานไดร์ แต่เพราะเป็นลิเวอร์พูลครับ  


ถูกต้องครับ สามปีที่ผ่านมา ตัวที่แบกทีมจริงๆของหงส์คือ VVD บัฟแผงหลังทั้งแผงให้เล่นดีขึ้น ส่วนโมเพิ่งมาแบกจริงๆคือปีนี้ สองปีที่ผ่านมาเล่นดีก็เยอะ เล่นแย่ก็เยอะ หวงบอล ใช้โอกาสเปลืองก็มีเยอะ เราก็ยังด่ากันอยู่เลยเมือ่ปีที่แล้ว ส่วนพวก เฮนโด้ ฟาบินโย่ ก็ปิดทองหลังพระวิ่งแย่งไล่บอลให้เวลาแดนหน้าทำเสียบอล พวกนี้ก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าให้โมได้สี่แสน คนอื่นก็คงเรียกร้อง สองแสน สามแสนได้เหมือนกัน ดังนั้นถามว่าตอนนี้ควรให้โมสูงสุดก็ไม่เถียง แต่ไม่ควรห่างจากคนอื่นเป็น สอง สามเท่า เพราะคนอื่นก็สำคัญ ภึงจะน้อยกว่าก็เถอะ ถ้าบอกว่ารักลิเวอร์พูลจริง คงต่อไปแล้วแหละครับ ไม่ใช่มาบีบเรียกค่าเหนื่อยเยอะๆแบบนี้ ทั้ที่ก็รู้โครงสร้างค่าเหนื่อยของสโมสรเป็นยังไง คนรักสโมสรจริงเค้าไม่เรียกร้องขนาดนี้หรอกคับ อาจจะเป็นเพราะเอเย่นปั่นให้ ดูแบบเจอราด มีสโมสรอื่นพร้อมจ่ายให้เยอะกว่ายังไม่ไปเลย แบบนี้ถึงเรียกว่ารักสโมสรจริง อย่างโม สโมสรยื่นให้เยอะที่สุดกว่าคนอื่นแล้ว ถ้ารักสโมสรจริงก็ควรจะต่อสัญญาไปแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็คงไปที่เล่นสโมสรอื่นแล้วล่ะครับ วิน วิน ทั้ง สองฝ่าย สโมสรก็ได้เงินไปหาตัวแทน ปั้นเด็กใหม่ และผมยังเชื่ออีกอย่างว่าถ้าไปอยู่ที่อื่นก็คงไม่ฮอตขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ทีมที่มีระบบคล้ายลิเวอร์พูล ลองคิดว่าถ้าโมไป PSG ไปอยู่กับ เนย์ เมส แล้วตัวเองไม่ใช่เบอร์หนึ่งของทีม ยังไงฟอร์มก็แย่ลงครับ จุดโทษ ฟรีคิก มีคนเหมาสัมปทานอยู่แล้ว โม มาถึงจุดนี่ได้ไม่ใช่เพราะแบกลิเวอร์พูลอย่างเดียว ระบบของคลอปก็เอื้อให้กับโมด้วย  
ใจเย็นครับพี่ ออกตัวซะแรง จริงจังไปไหน หรือคุณไม่ชอบซาล่าส่วนตัวอยู่แล้ว ผมขอโทษด้วยละกัน
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2007
ตอบ: 42269
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 16:08
[LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร
ผมยังคิดว่ายังไงก็ต้องเทียบกับการเสียโม และการหาตัวแทนมานะ ต้องคิดความเสี่ยง ความคุ้มค่าตรงนี้ด้วย แต่ก็ยังยืนยันว่า ต้องดูที่ระยะสัญญาด้วยถ้าเหมาะสมโอเค ถ้ายาวเกินไป ก็จะลำบากในการหานักเตะเข้ามาทดแทน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 21969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 16:37
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
Indyvirus พิมพ์ว่า:
https://workpointtoday.com/ทำไมเชลซีถึงโดนแบนจากก/

ที่เชลชีมีรายได้จากการขายดาวรุ่งออกจากทีมเยอะๆก็เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า?  

เป็นการทำผิดกฎเองครับ​แต่ไม่ใช่โดยรวมแบบโดยรวม​เป็นเคสบายเคสครับ​ ส่วนเรื่องอะคาเดมี่​ เชลซีมีนโยบายกวาดดาวรุ่ง
ทั่วโลกมานานมากละครับ​ เป็นโครงการที่ถูกใส่โปรเจ็คมาตั้งแต่เริ่มซื้อสโมสรใหม่​ วางรากฐานเพื่อพัฒนาในระดับเยาวชน​ เพียงแต่การพัฒนาควบคู่กับระบบธุรกิจใน4-5ปีหลัง​ คือปล่อยขายด้วยครับถ้าได้ราคา​ กระบวนของวิธีการที่น่าสนใจโมเดลธุรกิจนี้คือ​ ปล่อยยืมทั่วยุโรป​ไม่ใช่เฉพาะแค่ปล่อยยืมในอังกฤษอย่างเดียว​ เพื่อสร้างประสบการณ์กับเด็ก+เครดิต​ความสัมพันธ์กับที่ปล่อยยืม แล้วเอาผลมาประเมิน&ความเสี่ยง​ ว่าควรขายเก็งกำไรหรือเก็บไว้ใช้งาน​ ผลประโยชน์จะตกที่สโมสรอยู่ดี​ มันก็เป็นดาบ2คมที่เขาบอกว่าเหมือนการค้ามนุษย์​ แต่ในแง่ธุรกิจคือการสร้างกำไรมหาศาลมาก​ เพื่อสโมสรมีเม็ดเงินป้อนอยู่ในระบบหมุนสโมสรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายครับ

จุดนี้แหละที่เป็นจุดแข็งทางการเงินอีกทางให้กับเชลซี
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 21969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 17:00
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
JoOz พิมพ์ว่า:
Spoil
zasd พิมพ์ว่า:
Spoil
Nicky007 พิมพ์ว่า:
zasd พิมพ์ว่า:
-อยากให้คิดค่าเฉลี่ยการซื้อตัวตั้งแต่ คล็อปเข้ามาคุมทีมด้วย

(เท่าที่ผมคิดตกเฉลี่ยปีละ25-30ล้านเท่านั้นเอง)(ซื้อ-ขาย)
(ถ้าผมจำไม่ผิด netspend ที่คล็อปใช้ ใช้เงินน้อยกว่าทีมแอสตันวิลล่าซะอีก)

(ทำไมทีมใหญ่ทีมอื่นไม่ล้ม แต่ห่วงว่าลิเวอร์พูลจะล้มอยู่ทีมเดียว
ทั้งที่ทีมใช้เงินซื้อตัวน้อยกว่าบรรดาท็อป6ซะอีก)


(อย่าบอกว่าทีมอื่นรวยเกิน เพราะลิเวอร์พูล มีรายได้ติดท็อป6ของโลกมา5ปีติดแล้ว)
(ติดท็อป3ของพรีเมียร์ด้วย)
(อย่างแมนยูรายได้ 500 กว่าล้าน ของลิเวอร์พูล 490 ล้าน ของแมนซิ 480 ล้าน)
(อันนี้คือปีที่มีโควิดด้วยนะ)(ถ้าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นก้ไม่แปลก)


-พูดง่ายทีมเราใช้เงิน"ซื้อตัว"น้อยกว่าทีมใหญ่ทีมอื่นเยอะ

-อย่างซาล่าตอนนี้ได้ 2 แสน ก็ตกปีละ 10 ล้าน ถ้าต่อเป็น 4แสน ก็ตกปีละ 20 ล้าน

-หรือเพิ่มมาอีกปีละ 10ล้าน ราวๆ3-4ปี (ช่วงนี้ก็ปั้นเอลลียตขึ้นมาแทนได้พอดี)

-แล้วก็ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าเหนื่อยจะเกิน 70 % รายได้ เพราะในพรีเมียร์มีทีมใช้เงิน"เกิน70 % อยู่ถึง 15 ทีม"
(ถ้ามันห้ามใช้จริง อีก15ทีมก็โดนหมด)

-อย่างเลสเตอร์ ใช้เงิน 105 % ของรายได้ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วคิดว่าทีมเค้าจะล้มมั้ย

-ผมลองคำนวนเล่นๆ เรื่องค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ทีมใช้69%ของรายได้

-ถ้าเพิ่มให้ซาล่า และคิดส่วนที่ต่อสัญญาใหม่นักเตะในปีนี้

-ทีมจะใช้เงินเพิ่มขึ้นไปเป็น 74 % ของรายได้เท่านั้นเอง
(74นี่ คิดรายได้ในช่วงโควิดด้วยนะ ถ้าคิดปีนี้รายได้น่าจะสูงกว่านี้อีก)

-ยังห่างจากทีมอื่นอีกเยอะมาก

ปล.เอเวอร์ตันใช้เงิน 95 % จากรายได้จ่ายเงินนักเตะ วิลล่า 99 % เวสแฮม 95 %


 
 


ผมว่าทีมรวยๆทีมอื่นเจ้าของทีมควักเนื้อตัวเองมาจ่ายครับ เช่น psg Man city รวมถึงเชลซี เสี่ยหมีควักเงินตัวเองมาจ่ายเยอะมาก แต่ลิเวอร์พูลบริหารแบบเอากำไรมาจ่ายจริงๆ ไม่ได้มีควักเนื้อตัวเองครับ ส่วนแมนยู รายได้ทางการตลาดและค่าเข้าสนามเยอะกว่าลิเวอร์พูลมากครับ  





-ไม่จริงครับ

-ตั้งแต่ มี ffp เชลซีเป็นทีมที่รักษากฎนี้ได้เคร่งครัดมาก (ไปถามแฟนเชลซีได้ครับ)

-เชลซีเป็นทีมที่ขายนักเตะได้ราคามาก (ลองหาข้อมูลดูได้)

-บรรดาดาวรุ่งของเชลซีเก่ง เอาไปขายทีมใหนก็ได้ราคา

-ทำให้เชลซีเหมือนใช้เงินซื้อนักเตะเยอะ แต่ทีมก็ขายได้เยอะเช่นกัน

-ส่วนคำพูดที่ว่า อากู๋ใช้เงินเยอะกับเชลซี ความจริงคือ "ใช้ในช่วงก่อนที่มี ffp" ครับ

-ดังนั้น ช่วงหลัง พูดได้ว่า เชลซีใช้เงินที่สโมรหาได้เองล้วนๆ

-ส่วนสโมสรอื่น ผมไม่ได้เห็นข้อมูล(ที่เป็นเอกสาร) เลยไม่ขอกล่าวถึง

-ส่วนแมนยู รายได้ไม่ได้เยอะกว่าลิเวอร์พูลมากขนาดนั้น 509 กับ 490 ต่างกันแค่ 19 ล้าน
(ข้อมูลปี 19-20)

 
 


แต่ข้อมูลที่ผมดูมา เสี่ยหมีก็ยังควักเงินตัวเองเยอะสุดนะครับในช่วงหลัง หรือข้อมูลที่ผมดูมาอาจจะนานหรือผิดก็ได้ครับ  

ผมแฟนเชลซีของตอบหน่อยนะครับ
ตอนนี้เสี่ยหมีไม่ได้อัดเงินเข้าระบบมาได้ซักพักละครับ เพราะตอนนี้สโมสรบริหารยืนได้ด้วยตนเองมาหลายปีละครับ แกมาลงทุนหนักมากๆในช่วงเข้ามาซื้อทีมใหม่ ทั้งเรื่องการซื้อนักเตะ หรือการวางโครงสร้างพัฒนาทีม
แกอาจจะมาลงทุนบ้างในเรื่องหลังบ้านอย่างเช่นโครงสร้างระบบอะคาเดมี่ และทีมฟุตบอลหญิงครับ
ตอนนี้เน้นการส่งออกขายดาวรุ่งให้กับทีมนอกลีคเป็นหลัก(อาจจะขายให้ในลีคฟุตบอลอังกฤษด้วย) แล้วเอาผลกำไรกลับมาป้อนในระบบเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายสโมสร ที่จริงเรื่องอะคาเดมี่ของเชลซีเริ่มเข้ามาชุดใหญ่ก็ยุคของแลมพาร์ดครับ แต่ก่อนหน้านี้ก็ส่งออกเป็นประจำอยู่แล้ว เจอเพชรบ้าง ไม่เจอบ้าง ก็แล้วแต่วาระเวลากันไป

แต่เห็นอย่างนี้ก็ไม่มีไรมาได้โดยง่ายครับ บอร์ดเชลซีลงทุนเรื่องการสเก้าเซอร์เด็กทั่วโลกปีนึงหลายไม่ต่ำ20ล้านปอนด์ ก็เพื่อจะหาเด็กมาปั้น เพื่อเก็งกำไร ถ้าเด็กมีแววก็เก็บไว้ ไม่ดีหรือกลางๆก็ขาย
สมมติลงทุน30M เพื่อหาเด็กซัก100คน เหลือแจ่มๆพอไปต่อได้ ซัก10คน 5 คนขาย คนละ10M ต่ำๆก็ได้50M
กำไร20M แต่ขึ้นอยู่การเจรจาและวิสัยทัศน์ของบอร์ดบริหารด้วยนะครับ อย่างการเร่ขายนอคลีคเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ

มันเป็นโมเดลที่บ้าเลือดนะครับ อย่างกับค้ามนุษย์ แต่มันสร้างกำไรมหาศาลมากๆ มากพอที่เชลซีจะเอากำไรตรงนั้นมาจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะเกือบครึ่งทีม

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 6993
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 17:15
[LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร
โมเหมาะสมกับค่าเหนื่อยระดับ 4-500000 แน่นอนไม่มีใครเถียง แต่ถ้าทีมมันให้ไม่ได้ แล้วจะยังไงต่อ

จากเคสนี้ทีมต้องขยับเพดานแน่ แต่จะให้ขยับพรวดเดียวเลย ในแง่บริหารทีมมันก็ไม่ได้ และที่สำคัญไอ้ที่เพิ่งไล่ต่อสัญญากับตัวหลักๆทั้งหลายไป นั่นก็ขยับมาแล้วทีนึง ถ้าขยับอีกก็จะต้องลดงบซื้อ ก็ด่ากันอีก ขี้เหนียวไม่ยอมซื้อ

ยกตัวอย่างนะ เคสอาร์ซากับเชลซี ไม่เหมือนแต่ก็ใกล้เคียง อาร์ซาแบกเชลซีมาตั้งกี่ปี ก่อนย้ายแฟนเชลซีกังวลกันมาก จะหาใครมาแทนได้ แต่พอย้ายจริงจนถึงตอนนี้เชลซีล่มสลายไหม ก็ไม่ และก็กลับมาได้อยู่ดี

เพราะงั้นเรื่องจะหาใครมาแทน ไม่ต้องไปคิดหรอก เพราะมันไม่มีใครแทนใครได้ ถึงตอนนั้นคล็อปป์หรือโค้ชใหม่ก็ต้องสร้างทีมใหม่ต่อไป วัฏจักรฟุตบอลมันก็แค่นี้

ท้ายสุดกับระดับทีมตอนนี้การสร้างทีมและใช้เงินอย่างรัดกุมก็จำเป็นและเหมาะสมที่สุด ถ้าไม่พอใจ ก็ต้องอดใจรอให้ fsg ขายทีมให้เศรษฐีตะวันออกกลางซักคน เรื่องการทุ่มไม่อั้นถึงจะเกิด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2013
ตอบ: 12512
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 17:17
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
Hell_Yeah พิมพ์ว่า:
JoOz พิมพ์ว่า:
Spoil
zasd พิมพ์ว่า:
Spoil
Nicky007 พิมพ์ว่า:
zasd พิมพ์ว่า:
-อยากให้คิดค่าเฉลี่ยการซื้อตัวตั้งแต่ คล็อปเข้ามาคุมทีมด้วย

(เท่าที่ผมคิดตกเฉลี่ยปีละ25-30ล้านเท่านั้นเอง)(ซื้อ-ขาย)
(ถ้าผมจำไม่ผิด netspend ที่คล็อปใช้ ใช้เงินน้อยกว่าทีมแอสตันวิลล่าซะอีก)

(ทำไมทีมใหญ่ทีมอื่นไม่ล้ม แต่ห่วงว่าลิเวอร์พูลจะล้มอยู่ทีมเดียว
ทั้งที่ทีมใช้เงินซื้อตัวน้อยกว่าบรรดาท็อป6ซะอีก)


(อย่าบอกว่าทีมอื่นรวยเกิน เพราะลิเวอร์พูล มีรายได้ติดท็อป6ของโลกมา5ปีติดแล้ว)
(ติดท็อป3ของพรีเมียร์ด้วย)
(อย่างแมนยูรายได้ 500 กว่าล้าน ของลิเวอร์พูล 490 ล้าน ของแมนซิ 480 ล้าน)
(อันนี้คือปีที่มีโควิดด้วยนะ)(ถ้าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นก้ไม่แปลก)


-พูดง่ายทีมเราใช้เงิน"ซื้อตัว"น้อยกว่าทีมใหญ่ทีมอื่นเยอะ

-อย่างซาล่าตอนนี้ได้ 2 แสน ก็ตกปีละ 10 ล้าน ถ้าต่อเป็น 4แสน ก็ตกปีละ 20 ล้าน

-หรือเพิ่มมาอีกปีละ 10ล้าน ราวๆ3-4ปี (ช่วงนี้ก็ปั้นเอลลียตขึ้นมาแทนได้พอดี)

-แล้วก็ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าเหนื่อยจะเกิน 70 % รายได้ เพราะในพรีเมียร์มีทีมใช้เงิน"เกิน70 % อยู่ถึง 15 ทีม"
(ถ้ามันห้ามใช้จริง อีก15ทีมก็โดนหมด)

-อย่างเลสเตอร์ ใช้เงิน 105 % ของรายได้ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วคิดว่าทีมเค้าจะล้มมั้ย

-ผมลองคำนวนเล่นๆ เรื่องค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ทีมใช้69%ของรายได้

-ถ้าเพิ่มให้ซาล่า และคิดส่วนที่ต่อสัญญาใหม่นักเตะในปีนี้

-ทีมจะใช้เงินเพิ่มขึ้นไปเป็น 74 % ของรายได้เท่านั้นเอง
(74นี่ คิดรายได้ในช่วงโควิดด้วยนะ ถ้าคิดปีนี้รายได้น่าจะสูงกว่านี้อีก)

-ยังห่างจากทีมอื่นอีกเยอะมาก

ปล.เอเวอร์ตันใช้เงิน 95 % จากรายได้จ่ายเงินนักเตะ วิลล่า 99 % เวสแฮม 95 %


 
 


ผมว่าทีมรวยๆทีมอื่นเจ้าของทีมควักเนื้อตัวเองมาจ่ายครับ เช่น psg Man city รวมถึงเชลซี เสี่ยหมีควักเงินตัวเองมาจ่ายเยอะมาก แต่ลิเวอร์พูลบริหารแบบเอากำไรมาจ่ายจริงๆ ไม่ได้มีควักเนื้อตัวเองครับ ส่วนแมนยู รายได้ทางการตลาดและค่าเข้าสนามเยอะกว่าลิเวอร์พูลมากครับ  





-ไม่จริงครับ

-ตั้งแต่ มี ffp เชลซีเป็นทีมที่รักษากฎนี้ได้เคร่งครัดมาก (ไปถามแฟนเชลซีได้ครับ)

-เชลซีเป็นทีมที่ขายนักเตะได้ราคามาก (ลองหาข้อมูลดูได้)

-บรรดาดาวรุ่งของเชลซีเก่ง เอาไปขายทีมใหนก็ได้ราคา

-ทำให้เชลซีเหมือนใช้เงินซื้อนักเตะเยอะ แต่ทีมก็ขายได้เยอะเช่นกัน

-ส่วนคำพูดที่ว่า อากู๋ใช้เงินเยอะกับเชลซี ความจริงคือ "ใช้ในช่วงก่อนที่มี ffp" ครับ

-ดังนั้น ช่วงหลัง พูดได้ว่า เชลซีใช้เงินที่สโมรหาได้เองล้วนๆ

-ส่วนสโมสรอื่น ผมไม่ได้เห็นข้อมูล(ที่เป็นเอกสาร) เลยไม่ขอกล่าวถึง

-ส่วนแมนยู รายได้ไม่ได้เยอะกว่าลิเวอร์พูลมากขนาดนั้น 509 กับ 490 ต่างกันแค่ 19 ล้าน
(ข้อมูลปี 19-20)

 
 


แต่ข้อมูลที่ผมดูมา เสี่ยหมีก็ยังควักเงินตัวเองเยอะสุดนะครับในช่วงหลัง หรือข้อมูลที่ผมดูมาอาจจะนานหรือผิดก็ได้ครับ  

ผมแฟนเชลซีของตอบหน่อยนะครับ
ตอนนี้เสี่ยหมีไม่ได้อัดเงินเข้าระบบมาได้ซักพักละครับ เพราะตอนนี้สโมสรบริหารยืนได้ด้วยตนเองมาหลายปีละครับ แกมาลงทุนหนักมากๆในช่วงเข้ามาซื้อทีมใหม่ ทั้งเรื่องการซื้อนักเตะ หรือการวางโครงสร้างพัฒนาทีม
แกอาจจะมาลงทุนบ้างในเรื่องหลังบ้านอย่างเช่นโครงสร้างระบบอะคาเดมี่ และทีมฟุตบอลหญิงครับ
ตอนนี้เน้นการส่งออกขายดาวรุ่งให้กับทีมนอกลีคเป็นหลัก(อาจจะขายให้ในลีคฟุตบอลอังกฤษด้วย) แล้วเอาผลกำไรกลับมาป้อนในระบบเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายสโมสร ที่จริงเรื่องอะคาเดมี่ของเชลซีเริ่มเข้ามาชุดใหญ่ก็ยุคของแลมพาร์ดครับ แต่ก่อนหน้านี้ก็ส่งออกเป็นประจำอยู่แล้ว เจอเพชรบ้าง ไม่เจอบ้าง ก็แล้วแต่วาระเวลากันไป

แต่เห็นอย่างนี้ก็ไม่มีไรมาได้โดยง่ายครับ บอร์ดเชลซีลงทุนเรื่องการสเก้าเซอร์เด็กทั่วโลกปีนึงหลายไม่ต่ำ20ล้านปอนด์ ก็เพื่อจะหาเด็กมาปั้น เพื่อเก็งกำไร ถ้าเด็กมีแววก็เก็บไว้ ไม่ดีหรือกลางๆก็ขาย
สมมติลงทุน30M เพื่อหาเด็กซัก100คน เหลือแจ่มๆพอไปต่อได้ ซัก10คน 5 คนขาย คนละ10M ต่ำๆก็ได้50M
กำไร20M แต่ขึ้นอยู่การเจรจาและวิสัยทัศน์ของบอร์ดบริหารด้วยนะครับ อย่างการเร่ขายนอคลีคเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ

มันเป็นโมเดลที่บ้าเลือดนะครับ อย่างกับค้ามนุษย์ แต่มันสร้างกำไรมหาศาลมากๆ มากพอที่เชลซีจะเอากำไรตรงนั้นมาจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะเกือบครึ่งทีม

 


https://twitter.com/swissramble/status/1305397885010403329

ลองอ่านดูครับ ผมก็ไม่ค่อยเก่งอังกฤษ งูๆปลาๆ ไม่รู้ถูกผิด เหมือนที่ผมเคยอ่านเจอ เสี่ยหมีก็ยังลงทุนให้สโมสรมากสุด บทความให้เชลซีจะมีเงินทุนจากเสี่ยมาตลอด ในรอบ10ปีหลัง ส่วนแมนยู นิว สเปอร์ เป็นสโมสรถอนเงินเข้ากระเป๋า ownerมากสุดครับ

หรือผมเข้าใจผิด รบกวนชี้แนะได้เลยครับ

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 21969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 17:31
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
JoOz พิมพ์ว่า:
Hell_Yeah พิมพ์ว่า:
JoOz พิมพ์ว่า:
Spoil
zasd พิมพ์ว่า:
Spoil
Nicky007 พิมพ์ว่า:
zasd พิมพ์ว่า:
-อยากให้คิดค่าเฉลี่ยการซื้อตัวตั้งแต่ คล็อปเข้ามาคุมทีมด้วย

(เท่าที่ผมคิดตกเฉลี่ยปีละ25-30ล้านเท่านั้นเอง)(ซื้อ-ขาย)
(ถ้าผมจำไม่ผิด netspend ที่คล็อปใช้ ใช้เงินน้อยกว่าทีมแอสตันวิลล่าซะอีก)

(ทำไมทีมใหญ่ทีมอื่นไม่ล้ม แต่ห่วงว่าลิเวอร์พูลจะล้มอยู่ทีมเดียว
ทั้งที่ทีมใช้เงินซื้อตัวน้อยกว่าบรรดาท็อป6ซะอีก)


(อย่าบอกว่าทีมอื่นรวยเกิน เพราะลิเวอร์พูล มีรายได้ติดท็อป6ของโลกมา5ปีติดแล้ว)
(ติดท็อป3ของพรีเมียร์ด้วย)
(อย่างแมนยูรายได้ 500 กว่าล้าน ของลิเวอร์พูล 490 ล้าน ของแมนซิ 480 ล้าน)
(อันนี้คือปีที่มีโควิดด้วยนะ)(ถ้าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้นก้ไม่แปลก)


-พูดง่ายทีมเราใช้เงิน"ซื้อตัว"น้อยกว่าทีมใหญ่ทีมอื่นเยอะ

-อย่างซาล่าตอนนี้ได้ 2 แสน ก็ตกปีละ 10 ล้าน ถ้าต่อเป็น 4แสน ก็ตกปีละ 20 ล้าน

-หรือเพิ่มมาอีกปีละ 10ล้าน ราวๆ3-4ปี (ช่วงนี้ก็ปั้นเอลลียตขึ้นมาแทนได้พอดี)

-แล้วก็ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าเหนื่อยจะเกิน 70 % รายได้ เพราะในพรีเมียร์มีทีมใช้เงิน"เกิน70 % อยู่ถึง 15 ทีม"
(ถ้ามันห้ามใช้จริง อีก15ทีมก็โดนหมด)

-อย่างเลสเตอร์ ใช้เงิน 105 % ของรายได้ จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ แล้วคิดว่าทีมเค้าจะล้มมั้ย

-ผมลองคำนวนเล่นๆ เรื่องค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ทีมใช้69%ของรายได้

-ถ้าเพิ่มให้ซาล่า และคิดส่วนที่ต่อสัญญาใหม่นักเตะในปีนี้

-ทีมจะใช้เงินเพิ่มขึ้นไปเป็น 74 % ของรายได้เท่านั้นเอง
(74นี่ คิดรายได้ในช่วงโควิดด้วยนะ ถ้าคิดปีนี้รายได้น่าจะสูงกว่านี้อีก)

-ยังห่างจากทีมอื่นอีกเยอะมาก

ปล.เอเวอร์ตันใช้เงิน 95 % จากรายได้จ่ายเงินนักเตะ วิลล่า 99 % เวสแฮม 95 %


 
 


ผมว่าทีมรวยๆทีมอื่นเจ้าของทีมควักเนื้อตัวเองมาจ่ายครับ เช่น psg Man city รวมถึงเชลซี เสี่ยหมีควักเงินตัวเองมาจ่ายเยอะมาก แต่ลิเวอร์พูลบริหารแบบเอากำไรมาจ่ายจริงๆ ไม่ได้มีควักเนื้อตัวเองครับ ส่วนแมนยู รายได้ทางการตลาดและค่าเข้าสนามเยอะกว่าลิเวอร์พูลมากครับ  





-ไม่จริงครับ

-ตั้งแต่ มี ffp เชลซีเป็นทีมที่รักษากฎนี้ได้เคร่งครัดมาก (ไปถามแฟนเชลซีได้ครับ)

-เชลซีเป็นทีมที่ขายนักเตะได้ราคามาก (ลองหาข้อมูลดูได้)

-บรรดาดาวรุ่งของเชลซีเก่ง เอาไปขายทีมใหนก็ได้ราคา

-ทำให้เชลซีเหมือนใช้เงินซื้อนักเตะเยอะ แต่ทีมก็ขายได้เยอะเช่นกัน

-ส่วนคำพูดที่ว่า อากู๋ใช้เงินเยอะกับเชลซี ความจริงคือ "ใช้ในช่วงก่อนที่มี ffp" ครับ

-ดังนั้น ช่วงหลัง พูดได้ว่า เชลซีใช้เงินที่สโมรหาได้เองล้วนๆ

-ส่วนสโมสรอื่น ผมไม่ได้เห็นข้อมูล(ที่เป็นเอกสาร) เลยไม่ขอกล่าวถึง

-ส่วนแมนยู รายได้ไม่ได้เยอะกว่าลิเวอร์พูลมากขนาดนั้น 509 กับ 490 ต่างกันแค่ 19 ล้าน
(ข้อมูลปี 19-20)

 
 


แต่ข้อมูลที่ผมดูมา เสี่ยหมีก็ยังควักเงินตัวเองเยอะสุดนะครับในช่วงหลัง หรือข้อมูลที่ผมดูมาอาจจะนานหรือผิดก็ได้ครับ  

ผมแฟนเชลซีของตอบหน่อยนะครับ
ตอนนี้เสี่ยหมีไม่ได้อัดเงินเข้าระบบมาได้ซักพักละครับ เพราะตอนนี้สโมสรบริหารยืนได้ด้วยตนเองมาหลายปีละครับ แกมาลงทุนหนักมากๆในช่วงเข้ามาซื้อทีมใหม่ ทั้งเรื่องการซื้อนักเตะ หรือการวางโครงสร้างพัฒนาทีม
แกอาจจะมาลงทุนบ้างในเรื่องหลังบ้านอย่างเช่นโครงสร้างระบบอะคาเดมี่ และทีมฟุตบอลหญิงครับ
ตอนนี้เน้นการส่งออกขายดาวรุ่งให้กับทีมนอกลีคเป็นหลัก(อาจจะขายให้ในลีคฟุตบอลอังกฤษด้วย) แล้วเอาผลกำไรกลับมาป้อนในระบบเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายสโมสร ที่จริงเรื่องอะคาเดมี่ของเชลซีเริ่มเข้ามาชุดใหญ่ก็ยุคของแลมพาร์ดครับ แต่ก่อนหน้านี้ก็ส่งออกเป็นประจำอยู่แล้ว เจอเพชรบ้าง ไม่เจอบ้าง ก็แล้วแต่วาระเวลากันไป

แต่เห็นอย่างนี้ก็ไม่มีไรมาได้โดยง่ายครับ บอร์ดเชลซีลงทุนเรื่องการสเก้าเซอร์เด็กทั่วโลกปีนึงหลายไม่ต่ำ20ล้านปอนด์ ก็เพื่อจะหาเด็กมาปั้น เพื่อเก็งกำไร ถ้าเด็กมีแววก็เก็บไว้ ไม่ดีหรือกลางๆก็ขาย
สมมติลงทุน30M เพื่อหาเด็กซัก100คน เหลือแจ่มๆพอไปต่อได้ ซัก10คน 5 คนขาย คนละ10M ต่ำๆก็ได้50M
กำไร20M แต่ขึ้นอยู่การเจรจาและวิสัยทัศน์ของบอร์ดบริหารด้วยนะครับ อย่างการเร่ขายนอคลีคเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ

มันเป็นโมเดลที่บ้าเลือดนะครับ อย่างกับค้ามนุษย์ แต่มันสร้างกำไรมหาศาลมากๆ มากพอที่เชลซีจะเอากำไรตรงนั้นมาจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะเกือบครึ่งทีม

 


https://twitter.com/swissramble/status/1305397885010403329

ลองอ่านดูครับ ผมก็ไม่ค่อยเก่งอังกฤษ งูๆปลาๆ ไม่รู้ถูกผิด เหมือนที่ผมเคยอ่านเจอ เสี่ยหมีก็ยังลงทุนให้สโมสรมากสุด บทความให้เชลซีจะมีเงินทุนจากเสี่ยมาตลอด ในรอบ10ปีหลัง ส่วนแมนยู นิว สเปอร์ เป็นสโมสรถอนเงินเข้ากระเป๋า ownerมากสุดครับ

หรือผมเข้าใจผิด รบกวนชี้แนะได้เลยครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เท่าที่ดูอัดฉีดลงในสโมสรครับ แต่ไม่ได้บอกแจงแจงอัดฉีดแบ่งสรรลงไปเรื่องอะไร อาจจะเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่หรือโครงสร้างพื้นฐานสโมสร แต่ที่แน่ๆมีอัดฉีดเรื่องอะคาเดมี่กับสโมสรหญิงแน่นอนครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Aug 2020
ตอบ: 1030
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 18:15
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
Empfinz พิมพ์ว่า:
Nicky007 พิมพ์ว่า:
JoOz พิมพ์ว่า:
สำหรับผม 300K มากพอสำหรับโมแล้ว

แต่ไม่ใช่สำหรับค่าเหนื่อยที่ผมประเมิณกับฟอร์มของซาล่า แต่เพราะตัวสโมสรมากกว่า คิดว่าให้มากพอแล้ว
สำหรับระดับนี้

ไม่ต้องเทียบทีมอื่นหรอกครับ ระดับฟานไดร์ เก่งกว่าทุกคนในลีค ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ก็ยังได้น้อยกว่าทีมอื่นๆครับ ไม่ใช่เพราะฟานไดร์ แต่เพราะเป็นลิเวอร์พูลครับ  


ถูกต้องครับ สามปีที่ผ่านมา ตัวที่แบกทีมจริงๆของหงส์คือ VVD บัฟแผงหลังทั้งแผงให้เล่นดีขึ้น ส่วนโมเพิ่งมาแบกจริงๆคือปีนี้ สองปีที่ผ่านมาเล่นดีก็เยอะ เล่นแย่ก็เยอะ หวงบอล ใช้โอกาสเปลืองก็มีเยอะ เราก็ยังด่ากันอยู่เลยเมือ่ปีที่แล้ว ส่วนพวก เฮนโด้ ฟาบินโย่ ก็ปิดทองหลังพระวิ่งแย่งไล่บอลให้เวลาแดนหน้าทำเสียบอล พวกนี้ก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าให้โมได้สี่แสน คนอื่นก็คงเรียกร้อง สองแสน สามแสนได้เหมือนกัน ดังนั้นถามว่าตอนนี้ควรให้โมสูงสุดก็ไม่เถียง แต่ไม่ควรห่างจากคนอื่นเป็น สอง สามเท่า เพราะคนอื่นก็สำคัญ ภึงจะน้อยกว่าก็เถอะ ถ้าบอกว่ารักลิเวอร์พูลจริง คงต่อไปแล้วแหละครับ ไม่ใช่มาบีบเรียกค่าเหนื่อยเยอะๆแบบนี้ ทั้ที่ก็รู้โครงสร้างค่าเหนื่อยของสโมสรเป็นยังไง คนรักสโมสรจริงเค้าไม่เรียกร้องขนาดนี้หรอกคับ อาจจะเป็นเพราะเอเย่นปั่นให้ ดูแบบเจอราด มีสโมสรอื่นพร้อมจ่ายให้เยอะกว่ายังไม่ไปเลย แบบนี้ถึงเรียกว่ารักสโมสรจริง อย่างโม สโมสรยื่นให้เยอะที่สุดกว่าคนอื่นแล้ว ถ้ารักสโมสรจริงก็ควรจะต่อสัญญาไปแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็คงไปที่เล่นสโมสรอื่นแล้วล่ะครับ วิน วิน ทั้ง สองฝ่าย สโมสรก็ได้เงินไปหาตัวแทน ปั้นเด็กใหม่ และผมยังเชื่ออีกอย่างว่าถ้าไปอยู่ที่อื่นก็คงไม่ฮอตขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ทีมที่มีระบบคล้ายลิเวอร์พูล ลองคิดว่าถ้าโมไป PSG ไปอยู่กับ เนย์ เมส แล้วตัวเองไม่ใช่เบอร์หนึ่งของทีม ยังไงฟอร์มก็แย่ลงครับ จุดโทษ ฟรีคิก มีคนเหมาสัมปทานอยู่แล้ว โม มาถึงจุดนี่ได้ไม่ใช่เพราะแบกลิเวอร์พูลอย่างเดียว ระบบของคลอปก็เอื้อให้กับโมด้วย  
ใจเย็นครับพี่ ออกตัวซะแรง จริงจังไปไหน หรือคุณไม่ชอบซาล่าส่วนตัวอยู่แล้ว ผมขอโทษด้วยละกัน  

ไม่ใช่ไม่ชอบครับ นักเตะหงส์ชอบทุกคน แต่เรียก 4-5 แสน ก็เวอร์ไปครับ สำหรับลิเวอร์พูลนะ ทีมอื่นอาจจะดูปกติ ผมว่าอาจจะเพราะเอเย่นปั่นด้วย เมื่อก่อนทีมเราเสียสตาร์ไปเพราะไม่ค่อยมีโอกาสลุ้นแชมป์ ไม่ค่อยมีความสำเร็จ แต่อันนี้เป็นเรื่องเงินล้วนๆเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2007
ตอบ: 2224
ที่อยู่: ChiangMai
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 20:17
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ผมก็ยังยืนยันว่า โมสมควรได้สัญญาใหม่ แต่ค่าเหนื่อยต้องไม่ใช่400+

ควรต่อและรับอยู่ในเร็ต 300-350 ผมว่าสโมสรก็ให้ใจสุดๆแล้ว

คิดดูฟานไดก์จาก180 ปรับมารับ 220 ก็ขยับให้เป็นสเต็ป

ถามว่าฟานไดก์สมควรได้รับระดับ300+ไหม สมควรแน่นอน

แล้วมาถึงซาล่าห์ จาก200โดดไป400+ไม่คิดเหรอว่าคนอื่นในทีมจะคิดยังไง

คราวนี้สโมสรได้รับสายเอเย่นนักเตะกันวุ่นวายแน่ มาเน่ขอบ้าง300

ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับหลายๆท่านนะครับอยากได้ปัปเป้ ฮาลันด์

เพดานค่าเหนื่อยจ่าย5-600ได้ แต่หลังจากนั้นมีผลกระทบตามมาแน่ๆ

ถ้าเอาคิดแบบขำๆนะยังเหลือเจ้าชาย/ท่านชีคประเทศไหนอีกมาซื้อทีมไปที
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: ชะละล่า...
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1392
ที่อยู่: สักที่ในแอนฟิลด์
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 21:24
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
อิสระ พิมพ์ว่า:
โมเหมาะสมกับค่าเหนื่อยระดับ 4-500000 แน่นอนไม่มีใครเถียง แต่ถ้าทีมมันให้ไม่ได้ แล้วจะยังไงต่อ

จากเคสนี้ทีมต้องขยับเพดานแน่ แต่จะให้ขยับพรวดเดียวเลย ในแง่บริหารทีมมันก็ไม่ได้ และที่สำคัญไอ้ที่เพิ่งไล่ต่อสัญญากับตัวหลักๆทั้งหลายไป นั่นก็ขยับมาแล้วทีนึง ถ้าขยับอีกก็จะต้องลดงบซื้อ ก็ด่ากันอีก ขี้เหนียวไม่ยอมซื้อ

ยกตัวอย่างนะ เคสอาร์ซากับเชลซี ไม่เหมือนแต่ก็ใกล้เคียง อาร์ซาแบกเชลซีมาตั้งกี่ปี ก่อนย้ายแฟนเชลซีกังวลกันมาก จะหาใครมาแทนได้ แต่พอย้ายจริงจนถึงตอนนี้เชลซีล่มสลายไหม ก็ไม่ และก็กลับมาได้อยู่ดี

เพราะงั้นเรื่องจะหาใครมาแทน ไม่ต้องไปคิดหรอก เพราะมันไม่มีใครแทนใครได้ ถึงตอนนั้นคล็อปป์หรือโค้ชใหม่ก็ต้องสร้างทีมใหม่ต่อไป วัฏจักรฟุตบอลมันก็แค่นี้

ท้ายสุดกับระดับทีมตอนนี้การสร้างทีมและใช้เงินอย่างรัดกุมก็จำเป็นและเหมาะสมที่สุด ถ้าไม่พอใจ ก็ต้องอดใจรอให้ fsg ขายทีมให้เศรษฐีตะวันออกกลางซักคน เรื่องการทุ่มไม่อั้นถึงจะเกิด  

ผมคิดเหมือนท่านเลยนะ ถ้าขยับพรวดขึ้นนี่ ในแง่บริหารมันไม่เหมาะสมจริงๆ เพราะด้วยอายุของโมด้วย แต่ถ้าฟอร์มแบบปัจจุบันก็สมควรที่จะได้เช่นกัน

ผมยังไงก็ได้นะ นึกถึงหลายๆเคส ที่เคยผ่านมา ตัวหลักหายไป ก็มีคนใหม่ที่มีคาแรกเตอร์ใหม่เข้ามา ใช้เวลาหน่อยแต่ถ้าเข้าระบบก็จะเป็นแบบโมนี่แหล่ะ

ยังไงก็ขอให้หาทางออกกันได้นะครับ ระหว่างสโมสรกับเอเย่น
แก้ไขล่าสุดโดย U-Bank123 เมื่อ Sun Oct 24, 2021 21:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เป็นแฟนหงส์ต้องอดทน!!!!

ไม่ว่าเราจะสุขจะทุกข์ เราก็ไม่มีวันเดินอย่างเดียวดาย

You never walk alone!!!


ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: £iv€rpool
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 2369
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 24, 2021 22:07
[RE: [LFC] ชวนคุยเรื่องโครงสร้างค่าเหนื่อยสโมสร]
ปัญหาคือการบริหารทีมฟุตบอลให้เหมือนอเมริกันเกมมากกว่า คู่แข่งไม่ได้มีแค่ในลีกจบๆไป จำนวนทีมจำนวนลีกในกีฬามันมากกว่า ลีกของอเมริกันเยอะ การแข่งขันระบบซื้อขายก็ต่างกัน FSG มาจากเจ้าของที่เป็นนักลงทุน ที่เน้นทำกำไร เค้าลงทุนตอนนี้กำไรมหาศาล มูลค่าทีมกับเงินที่ลงทุนไปเติบโตมากเดิมเยอะ เจ้าของลงทุนเน้นกำไรคงยากที่จะลงทุนควักกระเป๋าอีกจากช่วงปีลงทุนเริ่มแรก คงได้แต่รอวันขายเพราะมูลค่าสโมสรขึ้นมากได้ที่แล้ว J.W. HENRYก็คือนักลงทุนเก็งกำไร

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel