เท่าที่ลองทำดูนะ
1.ประหยัด วัตถุดิบที่ได้มาเทียบราคาตลาดแล้วก็ถือว่าถูก อย่างตอนนี้ผมกำลังกินโลว์คาร์บอยู่ แต่บางทีก็ใช้สูตรคีโตที่ไม่มันมากและเน้นการต้ม ถ้าไปสั่งในร้านมี 80 บาท++ถึง 100 บาท แน่ๆ แต่พอทำกินเองก็ตกมื้อละประมาณ 20-30 บาท
2. ได้สารอาหารเท่าที่เราต้องการ กำหนดปริมาณวัตถุดิบได้ ไม่ใช่อยู่ที่มือแม่ค้าหรืออารมณ์แต่ละวัน หรือจะคุมโซเดียม คุมน้ำตาล ก็ prep ได้
3. ระหว่างปรุงอาหารสามารถกำหนด multi task ได้ คือผมจะเน้นต้ม การต้มแต่ละครั้งใช้เวลา 20-30 นาทีใช้ไฟกลาง ระหว่างนั้นก็เอาผ้าเข้าเครื่อง อาบน้ำ หรือล้างเชียงล้างมีดรอ แช่ผักกินสดรอ ก็ยังได้
4. เวลาไปออกกำลังกายกลับมาแล้ว ต้องมาทำอาหาร ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Calories Hunter อันนี้อาจจะเป็นผมที่เป็นคนเลือดกรุ๊ปโอรู้สึกไปเองก็ได้ คือมันให้อารมณ์ที่ต่างจากนั่งรอกินอย่างเดียว เวลาต้องหั่นต้องแล่เนื้อ ต้องทุบกระเทียม พริกไทย รากผักชี แล้วก็คิด Task อื่นนู่นนี่ไปด้วยทั้งที่เหนื่อยๆ
ผมจะจินตนาการว่าตัวเองไปล่าสัตว์กลับมา
แล้วก็มาทำอาหาร
5. เกิด time management คือข้อนี้อาจจะดูไม่สำคัญนะ แต่จากข้อที่ผ่านๆมา ผมเลิกเล่นเกมได้แบบสนิทเลย เพราะความยุ่งยากในการจัดการเวลานี่มันก็ทาทายอยู่พอประมาณแล้ว challenge มันมีเรื่อยๆนะ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ความสะอาด ความจำเจ เหมือนมี quest ให้ทำทุกวัน แถมนอนหลับดีด้วย มันเหนื่อย 555
6. ถ้าไปตลาดนัดหรือตลาด Local ผมสามารถเลือกซื้อของที่ปลูกหรือเลี้ยง+เชือดนอกระบบนายทุนใหญ่ได้ เช่นผักชาวบ้าน หมูเชือดเอง(ถึงจะซื้ออาหารจากซีพีก็เถอะ) เป็ดเลี้ยงเอง
ทีนี้มาดูข้อเสียบ้าง
1. ถูกป้าร้านข้าวที่กินประจำแซวยับ
2. ตาจะปิดแล้วต้องมานั่งล้างจานกับตากผ้า บางทีต้องถูพื้นด้วย
3. ถ้ามีงานอื่นยุ่งๆมาก็ไปซื้อกินดีกว่า แต่การซื้อกินก็หาร้านยากเพราะกินโลว์คาร์บ ใช้เงินเพิ่มขึ้นพอประมาณเหมือนกัน
4. ถ้าคนประสบการณ์ทำอาหารน้อยอย่างผม บางทีก็ทำอะไรโง่ๆเปลืองๆได้ เช่น ซื้อวัตถุดิบที่ทำยากหรือทำไม่เป็นมาแล้วก็ปล่อยไว้จนหมดอายุ เอาไก่ไปแช่ไว้ใต้ช่องฟรีซแล้วไฟตก เขียวเลย หรือล้างผักสดไม่สะอาด ล้างแปปเดียวกินเลย ก็ได้สารเคมีเยอะดี และอื่นๆที่อาจจะทำออกมาแล้วแดรกไม่ลง