Florence Shaw – ร้องนำ
Tom Dowse – กีต้าร์
Lewis Maynard – เบส
Nick Buxton – กลอง
พวกเขานำเสนอผลงานดนตรีสนุกๆในสไตล์ Post Punk / Art Rock และเสียงขับร้องของฟรอนต์วูแมนสาวสุดมึนที่จะทำให้เพื่อนๆรู้สึกว่าเธอนั้นไม่ได้กำลังร้องเพลง แต่เธอน่ะ...กำลังท่องบทอาขยานต่างหากล่ะ!(ทำเสียงเข้มๆแบบคนพากย์โจโจ้...)
เราไปเริ่มกันด้วยผลงานจากอัลบั้มล่าสุดที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักกันครับ “Scratchcard Lanyard” เป็นผลงานที่สามารถ Define ถึงงานดนตรีสุดปั่นของศิลปินกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของซาวด์ดนตรีนั้นสำหรับผมมันให้ความรู้สึกเหมือนเอากลิ่นอายความเป็นโพสพังค์ของ The Stroke และ Joy Division มาผสมผสานกัน บรรเลงคู่ไปกับเสียงขับร้องที่ให้อารมณ์เหมือนกับเสียงประกาศตามสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ(ในเวอร์ชั่นที่ไร้อารมณ์กว่า) ที่มาพร้อมกับเนื้อหาเพลงปั่นๆในแบบกวีสายพังค์ โดยรวมแล้วผมก็ยังมองว่า นี่เป็นผลงานเพลงสุดสร้างสรรค์ที่ให้ความรู้สึกแปลกๆ และมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก (เนื้อเพลงในสปอยล์)
Spoil
Many years have passed but you're still charming
-แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายปีแล้วแต่เธอนั้นยังคงสวยไม่สร่าง
Rose falling and exploding
-ดอกกุหลาบที่ร่วงโรยและสลายไป
And you can't save the world on your own
-และเธอไม่มีทางกอบกู้โลกได้ด้วยตัวคนเดียว
I guess
-ฉันว่านะ
Don't send me it
-อย่าส่งมาให้ฉันอ่านเลย
You keep it
-เธอเก็บไว้อ่านเองเถอะ
You keep it
-เธอเก็บไว้อ่านเองเถอะ
You keep it
-มรึงเก็บไว้อ่านเองเหอะ
Weak arms, can't open the door
-แขนที่อ่อนแอ ไม่สามารถเปิดประตู
Kung fu council
-กับปรามาจารย์กังฟู
It'll be okay, I just need to be weird and hide for a bit
-มันจะไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ต้องทำตัวแปลกๆแล้วก็ซ่อนตัวซักแป๊บ
And eat an old sandwich from my bag
-และก็นั่งกินแซนวิชค้างคืนซักชิ้นจากในกระเป๋า
I've come here to make a ceramic shoe
-ฉันมาที่นี่เพื่อทำรองเท้าเซรามิค
And I've come to smash what you made
-และฉันมาเพื่อมาทำลายสิ่งที่เธอสร้างขึ้น
I've come to learn how to mingle
-ฉันมาเรียนรู้วิธีการพบปะกับผู้คน
I've come to learn how to dance
-ฉันมาเรียนรู้วิธีเต้นรำ
I've come to join your knitting circle
-ฉันมาเข้าร่วมก๊วนถักนิตติ้งของเธอ
I've come to hand-weave my own bunkbed ladder
-ฉันมาถักทอบันไดสำหรับขึ้นเตียงชั้นสองของตัวเอง
In a few short sessions
-ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ
It's a Tokyo bouncy ball
-มันคือลูกเด้งจากกรุงโตเกียว
It's an Oslo bouncy ball
-มันคือลูกเด้งจากกรุงออสโล
It's a Rio de Janiero bouncy ball
-มือคือลูกเด้งจากกรุงริโอ เด จาเนโร
Filter, I love these mighty oaks, don't you?
-ฉันชอบลูกโอ้กเม็ดใหญ่พวกนี้ที่คัดมาแล้วจัง ใช่มะ?
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
Wristband, theme park, scratch card, lanyard
-สายรัดข้อมือ สวนสนุก บัตรขูดชิงโชค สายคล้องเข้างาน
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
Pat dad on the head
-เอามือตบหัวพ่อเบาๆ
Alright you big loudmouth
-เอาล่ะคุณยักษ์จอมพูดมาก
And thanks very much for the Twix
-ขอบคุณมากนะสำหรับช็อคโกแล็ตบาร์ทวิกซ์
I think of myself as a hearty banana
-ฉันคิดว่าตัวเองเป็นดั่งกล้วยหอมแสนอร่อย
With that waxy surface
-ที่เคลือบผิวมาอย่างเงาวิ๊ง
And small delicate flowers
-กับดอกไม้ช่อเล็กที่บอบบาง
A woman in aviators firing a bazooka
-และสาวแว่นดำสุดคูลที่กำลังยิงปืนบาซูวก้าห์
A woman in aviators firing a bazooka
-สาวแว่นดำสุดคูลที่กำลังยิงปืนบาซูวก้าห์
I've come here to make a ceramic shoe
-ฉันมาที่นี่เพื่อทำรองเท้าเซรามิค
And I've come to smash what you made
-และฉันมาเพื่อมาทำลายสิ่งที่เธอสร้างขึ้น
I've come to learn how to mingle
-ฉันมาเรียนรู้วิธีการพบปะกับผู้คน
I've come to learn how to dance
-ฉันมาเรียนรู้วิธีเต้นรำ
I've come to join your knitting circle
-ฉันมาเข้าร่วมก๊วนถักนิตติ้งของเธอ
That's just child chat
-นั่นมันก็แค่เสียงเด็กคุยกัน
Why don't you want oven chips now?
-ทำไมเธอไม่ไปอบเฟรนช์ฟรายส์มากินซะตอนนี้ล่ะ?
It's a Tokyo bouncy ball
-มันคือลูกเด้งจากกรุงโตเกียว
It's an Oslo bouncy ball
-มันคือลูกเด้งจากกรุงออสโล
It's a Rio de Janiero bouncy ball
-มือคือลูกเด้งจากกรุงริโอ เด จาเนโร
Filter, I love these mighty oaks, don't you?
-ฉันชอบลูกโอ้กเม็ดใหญ่พวกนี้ที่คัดมาแล้วจัง ใช่มะ?
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
Wristband, theme park, scratch card, lanyard
-สายรัดข้อมือ สวนสนุก บัตรขูดชิงโชค สายคล้องเข้างาน
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
Do everything and feel nothing
-ทำทุกๆอย่างแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
You seem really together
-ดูเหมือนเธออยากจะอยู่ด้วยกันจริงๆ
You've got a new coat
-เธอใส่เสื้อโค้ทตัวใหม่ด้วยหนิ
New hair
-แล้วก็ผมทรงใหม่
Well, I'll tell you one thing
-เอาล่ะ ฉันจะบอกอะไรให้เธออย่างนะ
You've got it coming
-ซักวันเธอจะได้รู้
One day, you're gonna get it
-แล้ววันหนึ่ง เธอจะเข้าใจมันเอง
Ha
-เฮอะ!
Brrring brrring, brrring brrring, brrring brrring, hello?
กริ๊ง กริ๊งงง, กริ๊ง กริ๊งงง, กริ๊ง กริ๊งงง, หั่นโหลว?
I can only live in isolation, Fast and Furious live.
-ฉันทำได้แค่ใช้ชีวิตที่ห่างไกลออกไป ชีวิตแบบฟาร์ตแอนด์ฟิวเรียสไงล่ะ
Followed by another porn account on Instagram.
-แล้วก็ตามด้วยการนั่งส่องรูปโป๊บนไอจี
Am I on a date right now? Is this a date?
-อ่าวนี่กรูกำลังออกเดตอยู่หรอ? นี่คือการออกเดตงั้นหรอ?
I come across strange
-ฉันทำตัวแปลกๆ
He's saying be yourself
-เขาบอกว่าให้ฉันทำตัวสบายๆ
But if I'm myself
-แต่ถ้าฉันทำตัวสบายๆ
I come across strange
-ฉันก็จะกลายเป็นคนแปลกๆ
My jokes don't land
-คนจะไม่ค่อยเก็ตมุกที่ฉันเล่น
People say, what's that? Pardon?
-พวกเขาจะพูดว่า อะไรนะ? ขอโทษทีนะ?
hm mmmhmmm mmm
brrrrrp brrrrrp, brrrrrp brrrrrp, brrrrrp brrrrrp, hello?
-กรุ๊งงงง กรุ๊งงงง, กรุ๊งงงง กรุ๊งงงง, กรุ๊งงงง กรุ๊งงงง, หั่นโหลว?
Oh hey yeah, sure, yeah, that would be nice. Yeah definitely. See you then.
-โอ้ ใช่ ว่าไงล่ะ, ได้เลย, ช่ายย, นั่นก็ดีเหมือนกันนะ, ช่ายยย แน่นอนอยู่แล้ว, ไว้เจอกันนะ
Byyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyeee.
-บาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาายยย์
Emailed by the takeaway
-ส่งอีเมล์โดยคนซื้อกลับบ้าน
Emailed by the take away again
-ส่งอีเมล์โดยคนซื้อกลับบ้านอีกครั้ง
hm mmm
never walk about after dark
-ฉันไม่เคยออกไปเดินเล่นในยามค่ำคืน
It's my point of view
-ที่ฉันตั้งใจจะพูดก็คือ
'Cause someone could break your neck
-ว่าอาจจะมีคนมาบีบคอเธอก็ได้
Coming up behind you
-มาคว้าเธอไปจากข้างหลัง
Always coming and you'd never have a clue
-มันมักจะมาตอนที่เธอไม่ได้ระวังตัว
I never look behind all the time
-ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยมองไปข้างหลัง
I will wait forever
-ฉันจะต้องรอไปชั่วนิรันดร์
Always looking straight
-มองตรงไปข้างหน้าตลอดเวลา
Thinking, counting all the hours you wait
-ครุ่นคิด นั่งนับเวลาทุกๆชั่วโมงที่เธอรอคอย
See you on a dark night
-แล้วเจอกันในยามรัตติกาล
See you on a dark night
-ไว้เจอกันในยามรัตติกาล
See you on a dark night
-แล้วเจอกันในยามรัตติกาล
See you on a dark night
-ไว้เจอกันในยามรัตติกาล
And no, I'm not a jerk
-และไม่ใช่ ฉันไม่ใช่คนชอบเหวี่ยง
I would ask if you could help me out
-ฉันจะร้องขอถ้าเธอช่วยฉันได้จริงๆ
It's hard to understand
-มันเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ
'Cause when you're running by yourself
-เพราะว่าเวลาที่เธอกำลังวิ่งไปเพียงลำพัง
It's hard to find someone to hold your hand
-มันเป็นเรื่องยากที่จะหาใครซักคนเพื่อจับมือเธอไว้
You know it's good to be tough like me
-เธอรู้ไหม มันดีนะที่แข็งแกร่งเหมือนกับฉัน
But I will wait forever
-แต่ฉันจะต้องรอไปชั่วนิรันดร์
I need someone else
-ฉันต้องการใครซักคน
To look into my eyes and tell me
-ที่จะมองเข้ามาในดวงตาคู่นี้แล้วพูดว่า
"Girl, you know you've got to watch your health"
-“หนูน้อย, รู้ไหมเธอต้องไม่ลืมรักษาสุขภาพตัวเองนะ”
To look into my eyes and tell me
-ที่จะมองเข้ามาในดวงตาคู่นี้แล้วพูดว่า
La la la la la
-
To look into my eyes and tell me
-ที่จะมองเข้ามาในดวงตาคู่นี้แล้วพูดว่า
La la la la la
-