BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: Tell me u miss me
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Mar 2015
ตอบ: 450
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:44
[RE]การเมืองไทย !!!
คนที่ใหญ่กว่าทหารนั้นแหละครับ ที่ทำให้บ้านเมืองเราแย่
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: adapt or die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2014
ตอบ: 7696
ที่อยู่: 13.999890, 100.685606
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:45
[RE]การเมืองไทย !!!
ทุกวันนี้เบื่อสื่อมากกว่า ไม่มีความเป็นกลางเหลือยุแล้ว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2010
ตอบ: 2608
ที่อยู่: Same Jennie Kim
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:45
ถูกแบนแล้ว
[RE: การเมืองไทย !!!]
Rustey พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมยังเชื่อนักการเมืองที่มาจากสายทำธุรกิจมากกว่านักการเมืองเพียวๆ รู้สึกทักษินมั้งเป็นคนที่ทำได้ คือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะมาเล่นการเมืองเต็มตัว คนพวกนี้จะมีสกิลนึงครับคือไม่ยอมใครง่ายๆ คือถ้ายอมใครในการทำธุรกิจในทุกเรืื่องธุรกิจคุณไม่มีทางเจริญแน่นอน แต่ในเมืองไทยคนพวกนี้มักอยู่ไม่ยืด เพราะมักจะไปหักกับอำนาจเก่า สุดท้ายก็อย่างที่เห็นว่าเกิดอะไรกับทักษิน

ส่วนถ้ามาจากสายการเมืองโดยตรงแล้ว มันจะมีสกิลไหลไปตามน้ำครับ คือยอมทุกอย่างแม้กระทั่งโดนเชิดเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจ สุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่พัฒนาประเทศอะไรเลย เพราะต้องเดินตามทางที่คนเชิดวางไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง

ลองไปดูประวัติศาสตร์ได้ครับ ประเทศอย่างอเมริกาเนี่ยเห็นชัด เอาตอนเลือกตั้ง 1897 เลย ตอนนั้น J.P. Morgan, John D. Rockefeller, Andrew Carnegie ทั้งสามคนเป็นผู้คุมเศรษฐกิจสหรัฐเกือบทั้งหมด มานั่งคุยกัน เพื่อที่จะ "ซื้อ" ประธานธิบดี สุดท้ายด้วยการดันของทั้ง 3 คน William McKinley ได้เป็นประธานธิบดีสมใจ หลังจากนั้นการทำธุรกิจของทั้ง 3 คนนี้ง่ายมาก คืออยากทำอะไรก็ทำได้รัฐช่วยทุกอย่าง จนเกิดเหตุผูกขาดขึ้นมา ถ้า 3 คนนี้ไม่แตกกันตอนเลือกตั้งครั้งต่อไป standard oil กับ carnegie steel คงไม่ล่มสลายหรอก

หรือกรณีนักธุรกิจเป็นนักการเมืองก็เหมือนที่ทรัมป์ได้เป็นแหละ ไม่สนอะไรทั้งนั้น จะปลดใครก็ปลด จะแต่งตั้งใครก็ตามความเห็นของตัวเอง เรื่องเศรษฐกิจสหรัฐมันก็ดีขึ้นจริงหลังจากทรัมป์เข้ามา แต่คนกลับไปโฟกัสเรื่องความเพี้ยนของแกมากกว่า เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยม  


1.อำนาจเก่าคือใคร ?
2.ใครเชิดนักการเมือง ?
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 May 2009
ตอบ: 1502
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:46
[RE: การเมืองไทย !!!]
ถ้าเลือกที่จะทำแบบเดิม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหวังอะไรที่ต่างจากเดิม
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 23761
ที่อยู่: แฟลตรูหนู
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:49
[RE: การเมืองไทย !!!]
การเมืองจากรุ่นสู่รุ่น รุ่นพ่อไป รุ่นลูกมาสานต่อ
ทุกวันนี้บอกเลยว่า ช่างแม่ง
เลือกตั้ง bnk ยังน่าสนใจกว่า
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: Tell me u miss me
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Mar 2015
ตอบ: 450
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 09:49
[RE]การเมืองไทย !!!
joe88 พิมพ์ว่า:
Rustey พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมยังเชื่อนักการเมืองที่มาจากสายทำธุรกิจมากกว่านักการเมืองเพียวๆ รู้สึกทักษินมั้งเป็นคนที่ทำได้ คือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะมาเล่นการเมืองเต็มตัว คนพวกนี้จะมีสกิลนึงครับคือไม่ยอมใครง่ายๆ คือถ้ายอมใครในการทำธุรกิจในทุกเรืื่องธุรกิจคุณไม่มีทางเจริญแน่นอน แต่ในเมืองไทยคนพวกนี้มักอยู่ไม่ยืด เพราะมักจะไปหักกับอำนาจเก่า สุดท้ายก็อย่างที่เห็นว่าเกิดอะไรกับทักษิน

ส่วนถ้ามาจากสายการเมืองโดยตรงแล้ว มันจะมีสกิลไหลไปตามน้ำครับ คือยอมทุกอย่างแม้กระทั่งโดนเชิดเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจ สุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่พัฒนาประเทศอะไรเลย เพราะต้องเดินตามทางที่คนเชิดวางไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง

ลองไปดูประวัติศาสตร์ได้ครับ ประเทศอย่างอเมริกาเนี่ยเห็นชัด เอาตอนเลือกตั้ง 1897 เลย ตอนนั้น J.P. Morgan, John D. Rockefeller, Andrew Carnegie ทั้งสามคนเป็นผู้คุมเศรษฐกิจสหรัฐเกือบทั้งหมด มานั่งคุยกัน เพื่อที่จะ "ซื้อ" ประธานธิบดี สุดท้ายด้วยการดันของทั้ง 3 คน William McKinley ได้เป็นประธานธิบดีสมใจ หลังจากนั้นการทำธุรกิจของทั้ง 3 คนนี้ง่ายมาก คืออยากทำอะไรก็ทำได้รัฐช่วยทุกอย่าง จนเกิดเหตุผูกขาดขึ้นมา ถ้า 3 คนนี้ไม่แตกกันตอนเลือกตั้งครั้งต่อไป standard oil กับ carnegie steel คงไม่ล่มสลายหรอก

หรือกรณีนักธุรกิจเป็นนักการเมืองก็เหมือนที่ทรัมป์ได้เป็นแหละ ไม่สนอะไรทั้งนั้น จะปลดใครก็ปลด จะแต่งตั้งใครก็ตามความเห็นของตัวเอง เรื่องเศรษฐกิจสหรัฐมันก็ดีขึ้นจริงหลังจากทรัมป์เข้ามา แต่คนกลับไปโฟกัสเรื่องความเพี้ยนของแกมากกว่า เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยม  


1.อำนาจเก่าคือใคร ?
2.ใครเชิดนักการเมือง ?  

เปรมชัย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: Pain peko
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 20516
ที่อยู่: แถวๆนี้แหละครับ
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:06
[RE: การเมืองไทย !!!]
ตั้งแบบนี้ โดนแน่นอน

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: ความยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Oct 2007
ตอบ: 10883
ที่อยู่: www.soccersex.com
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:09
[RE: การเมืองไทย !!!]
ตั้งกระทู้การเมืองชัดเจนเลยอ่ะ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: Pain peko
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 20516
ที่อยู่: แถวๆนี้แหละครับ
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:18
[RE: การเมืองไทย !!!]
Rustey พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมยังเชื่อนักการเมืองที่มาจากสายทำธุรกิจมากกว่านักการเมืองเพียวๆ รู้สึกทักษินมั้งเป็นคนที่ทำได้ คือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะมาเล่นการเมืองเต็มตัว คนพวกนี้จะมีสกิลนึงครับคือไม่ยอมใครง่ายๆ คือถ้ายอมใครในการทำธุรกิจในทุกเรืื่องธุรกิจคุณไม่มีทางเจริญแน่นอน แต่ในเมืองไทยคนพวกนี้มักอยู่ไม่ยืด เพราะมักจะไปหักกับอำนาจเก่า สุดท้ายก็อย่างที่เห็นว่าเกิดอะไรกับทักษิน

ส่วนถ้ามาจากสายการเมืองโดยตรงแล้ว มันจะมีสกิลไหลไปตามน้ำครับ คือยอมทุกอย่างแม้กระทั่งโดนเชิดเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจ สุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่พัฒนาประเทศอะไรเลย เพราะต้องเดินตามทางที่คนเชิดวางไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง

ลองไปดูประวัติศาสตร์ได้ครับ ประเทศอย่างอเมริกาเนี่ยเห็นชัด เอาตอนเลือกตั้ง 1897 เลย ตอนนั้น J.P. Morgan, John D. Rockefeller, Andrew Carnegie ทั้งสามคนเป็นผู้คุมเศรษฐกิจสหรัฐเกือบทั้งหมด มานั่งคุยกัน เพื่อที่จะ "ซื้อ" ประธานธิบดี สุดท้ายด้วยการดันของทั้ง 3 คน William McKinley ได้เป็นประธานธิบดีสมใจ หลังจากนั้นการทำธุรกิจของทั้ง 3 คนนี้ง่ายมาก คืออยากทำอะไรก็ทำได้รัฐช่วยทุกอย่าง จนเกิดเหตุผูกขาดขึ้นมา ถ้า 3 คนนี้ไม่แตกกันตอนเลือกตั้งครั้งต่อไป standard oil กับ carnegie steel คงไม่ล่มสลายหรอก

หรือกรณีนักธุรกิจเป็นนักการเมืองก็เหมือนที่ทรัมป์ได้เป็นแหละ ไม่สนอะไรทั้งนั้น จะปลดใครก็ปลด จะแต่งตั้งใครก็ตามความเห็นของตัวเอง เรื่องเศรษฐกิจสหรัฐมันก็ดีขึ้นจริงหลังจากทรัมป์เข้ามา แต่คนกลับไปโฟกัสเรื่องความเพี้ยนของแกมากกว่า เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยม  


ตามระบบว่าด้วย การพัฒนานโยบาย ยังไงก็หนีไม่พ้นกลุ่มนายทุนหรอกครับ

ด้วยหลักการมันมาแบบนี้จริงๆ ถามว่าผิดหลักไหม มันก็ไม่ผิดอะ ถ้าเอาตามหลักการเพียวๆ แต่ถ้าในแง่คุณธรรม จริยธรรม มันก็จะกลายเป็นผิดไป

ส่วนเรื่องของ ประธานาธิปดีของ เมกา ก็ตามนั้นครับ ด้วยหน้าที่ เขามีอำนาจเต็ม จะปลดใครจะวางใครมาแทนก็สุดแท้แต่ ความสำคัญคือสิ่งที่เขาทำลงไป แล้วเสียงตอบรับหลังจากนั้นแหละ คือคำตอบที่ผู้คนของแนวประเทศประชาธิปไตย เขาจะเป็นผู้ตอบเอง

ถ้าจะมาก็มาได้ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ บริหารแบบนี้

ทนๆเอา4ปี ถ้ามองในแง่ดี ประเทศเขาก็ยังโชคดี ยังมีตัวเลือกใหม่ๆมาในอนาคต

ไม่เหมือนหลายๆประเทศที่ระบอบปกครองแตกต่างออกไป มีผู้นำมาจากอำนาจนิยมอะไรแบบนี้ ผมมองว่ามันยังดีกว่าเยอะอะ

ไม่อยากพูดถึงประเทศไทยฮะ ระบบความคิดบางคนยังงงๆ ใจไฝ่หาระบอบปกครองอื่น ทำตัวแบบระบอบปกครองอื่น แต่พอถูกกระทำ กลับมาถามหาเสรีภาพจากประชาธิปไตย น่าสมเพชจริงๆเชียว
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 11599
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:29
[RE: การเมืองไทย !!!]
joe88 พิมพ์ว่า:
Rustey พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวผมยังเชื่อนักการเมืองที่มาจากสายทำธุรกิจมากกว่านักการเมืองเพียวๆ รู้สึกทักษินมั้งเป็นคนที่ทำได้ คือเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนที่จะมาเล่นการเมืองเต็มตัว คนพวกนี้จะมีสกิลนึงครับคือไม่ยอมใครง่ายๆ คือถ้ายอมใครในการทำธุรกิจในทุกเรืื่องธุรกิจคุณไม่มีทางเจริญแน่นอน แต่ในเมืองไทยคนพวกนี้มักอยู่ไม่ยืด เพราะมักจะไปหักกับอำนาจเก่า สุดท้ายก็อย่างที่เห็นว่าเกิดอะไรกับทักษิน

ส่วนถ้ามาจากสายการเมืองโดยตรงแล้ว มันจะมีสกิลไหลไปตามน้ำครับ คือยอมทุกอย่างแม้กระทั่งโดนเชิดเพื่อให้ตัวเองได้อำนาจ สุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่พัฒนาประเทศอะไรเลย เพราะต้องเดินตามทางที่คนเชิดวางไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง

ลองไปดูประวัติศาสตร์ได้ครับ ประเทศอย่างอเมริกาเนี่ยเห็นชัด เอาตอนเลือกตั้ง 1897 เลย ตอนนั้น J.P. Morgan, John D. Rockefeller, Andrew Carnegie ทั้งสามคนเป็นผู้คุมเศรษฐกิจสหรัฐเกือบทั้งหมด มานั่งคุยกัน เพื่อที่จะ "ซื้อ" ประธานธิบดี สุดท้ายด้วยการดันของทั้ง 3 คน William McKinley ได้เป็นประธานธิบดีสมใจ หลังจากนั้นการทำธุรกิจของทั้ง 3 คนนี้ง่ายมาก คืออยากทำอะไรก็ทำได้รัฐช่วยทุกอย่าง จนเกิดเหตุผูกขาดขึ้นมา ถ้า 3 คนนี้ไม่แตกกันตอนเลือกตั้งครั้งต่อไป standard oil กับ carnegie steel คงไม่ล่มสลายหรอก

หรือกรณีนักธุรกิจเป็นนักการเมืองก็เหมือนที่ทรัมป์ได้เป็นแหละ ไม่สนอะไรทั้งนั้น จะปลดใครก็ปลด จะแต่งตั้งใครก็ตามความเห็นของตัวเอง เรื่องเศรษฐกิจสหรัฐมันก็ดีขึ้นจริงหลังจากทรัมป์เข้ามา แต่คนกลับไปโฟกัสเรื่องความเพี้ยนของแกมากกว่า เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยม  


1.อำนาจเก่าคือใคร ?
2.ใครเชิดนักการเมือง ?  


อันนี้รู้ๆ กันอยู่ แต่ไม่กล้าพูด เดี๋ยวงานงอก 555+
คือถ้าจะบอกว่าไม่มี แต่จากเหตการณ์ที่ผ่านมาในประเทศมันก็พอชัดอยู่แล้วว่า น่าจะเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลัง
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 575
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:32
[RE: การเมืองไทย !!!]
เมื่อก่อนผมไม่เชื่อเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อ เราถูกโยงว่านักการเมืองเป็นพวกแสวงหาผลประโยชน์
แต่จริงๆมันมีกลุ่มก้อนที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่จับมือกันเหนียวแน่นใช้ระบบอุปภัมภ์
ดันพวกพ้องของตัวเองขึ้นมารุ่นสู่รุ่น ในระบบราชการและองค์กรอิสระ

นักการเมืองยังต้องเอาใจประชาชนเพื่อเข้าสู่อำนาจ แต่คนกลุ่มนี้ไม่ต้อง
สนับกันนั่งในบอร์ด สว.แต่งตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเมื่อมีการปฏิวัติ
หมดวาระก็ย้ายสลับกัน คนในกลุ่มหรือญาติมิตรทำผิด ก็ช่วยเหลือกัน

ส่วนเหตุการณ์ เดือน ตุลา กับพฤษภา น่าแปลกใจที่ไม่ใครกล้าชำระประวัติศาสตร์ว่าจริงๆเกิดอะไรขึ้น
สุดท้ายคนที่สั่งก็ไม่ต้องรับโทษใดๆทั้งสิ้น ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์คืน ถึงวันเกิดก็มีนายทหารระดับสูง
เอาดอกไม้ไปเยี่ยมเคารพทุกปี แต่คนที่ตายไปไม่ได้รับเยียวยาแต่อย่างใด
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: Youth|Courage|Success
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 18941
ที่อยู่: Old Trafford, Sir Matt Busby Way, Stretford, Manchester M16 0RA, UK
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:34
[RE: การเมืองไทย !!!]
ถ้ามันจะยังวนลูบเดิม

ลุงตูบ 6 ปี ก็ขยะดีๆนี่เอง

จะเข้ามาเป็น Military Government ทำเพื่อ
#GGMU



ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2109
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 10:44
[RE: การเมืองไทย !!!]
TOMCHON พิมพ์ว่า:
ตราบใดที่มนุษย์ยังหาผลประโยชน์ โดยอ้างหลักการและผลประโยชน์ส่วนรวมก็คงมีต่อไปล่ะครับ อย่างว่าถ้าคุณอยากมาช่วยชาติ เป็น สส. คุณต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่. ความรักชาติเพียวๆคงไม่ได้  


ตามหลักการและประชาธิปไตยตามอุดมคติแล้ว บุคคลที่จะมาเป็นนักการเมือง มารับใช้ชาติ จะต้องเป็นผู้เสียสละ ผู้ที่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว แต่ในความจริงนักการเมืองประเทศไทย มันกลับกลายเป็นตรงกันข้ามซะงั้น นักการเมืองคิดถึงแต่ผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง นึกถึงแต่อำนาจ ประชาธิปไตย์ที่แท้จริงและเข้มแข็งจึงไม่เป็นรูปร่างสักที
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: อยากไปหา ตอนนี้เลย!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 18119
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีเธอ
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 11:03
[RE: การเมืองไทย !!!]
TicketToHome พิมพ์ว่า:
ผมเห็นพรรคใหม่พรรคนึงที่มีพี่ๆ บางคนบอกว่ามีเสื้อสักสีหนุนหลังอยู่ หรือว่าเป็นพวกเสื้อสีไรสักอย่าง

แต่ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนคนนึงที่ทำงานอยู่ในพรรคนี้ เขาบอกว่าสิ่งเดียวที่จะแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้ ก็คือการเข้าไปแก้ที่ข้างใน เพราะถ้าเราออกมาประท้วง มันก็คือลูปเดิมๆ นั้นแหละครับ

ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่น้ำหนักของความคิดที่ว่า ต้องเข้าไปแก้ข้างใน ผมก็ว่ามีน้ำหนักอยู่ในระดับหนึ่งนะครับ

เราลองเสี่ยงกับสิ่งใหม่ๆ ดีกว่าไปเสี่ยงกับคำตอบเดิมๆ หรือเปล่า

ขอโทษนะครับถ้าผิดกฏ  

ไอ้ที่บอกเข้าไปแก้ที่ข้างใน ผมกลัวว่าสุดท้ายมันจะกลายเป็นตามน้ำมากกว่า
เหมือนพวกบอกอยากเป็นตำรวจ ร้อยทั้งร้อย ปกป้องคนดี ปราบปรามคนชั่ว เข้ามาเพื่อทำให้วงการสีกากีดีขึ้น
Dave Grohl NIRVANA (1990–1994)
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: Man U
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Mar 2009
ตอบ: 3990
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 09, 2018 11:05
[RE: การเมืองไทย !!!]
ถ้ามันเชี่ย 4 ปีก็อย่าไปเลือกอีกครับ มันก็ตามกฏที่ตั้งไว้

ที่มันวุ่นวายเพราะใครละ สร้างวาทกรรมจนเรางง
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel