นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Nov 2007
ตอบ: 545
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 00:52
[RE: กาลครั้งหนึ่งไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ลุก "ปราสาทสายฟ้า" ครั้งใหญ่ในลูกหนังไทย]
ปีนั้นเป็นปีที่แย่ที่สุดของบุรีรัมย์จริงๆครับ มันโดมิโน่กันมาตั้งแต่การปล่อยมาเชน่าออกไปแล้ว ซึ่งตัวที่เซ็นมามันไม่มีใครเข้ามาทดแทนได้เลย ยิ่งดีโอโก้เจ็บยาวไปอีกก็ไม่ต้องสืบเลยว่าทีมจะเละแค่ไหน จากนั้นทีมก็ไม่ได้พักฟื้นจากอาการเสียใจเพราะก็ไปเละใน ACL ต่มาเรื่อยๆ แถมเจออาการบาดเจ็บของนักเตะไปเรื่อยๆ เพราะขนาดทีมเล็กมาก จนเป็นที่มาของการเซ็นสัญญามั่วซั่วในครึ่งปีหลังที่ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย
แต่มาดราม่าสุดๆก็เรื่อง อุ้ม นี่แหละ อุ้ม เป็นนักเตะสัญลักษณ์ของสโมสรและไม่มีตัวทดแทนในตำแหน่งของเขา (อานนท์พอเล่นได้แต่คุณภาพยังห่างอีกมาก) ซึ่งตอนนั้นก็คงไม่แปลกที่จะดราม่ากัน แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไปผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ
1. ทีมบริหารเริ่มลดบทบาทในโซเชี่ยลมีเดีย หรือการปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆน้อยลง (ซึ่งดีมาก)
2. ทีมได้เริ่มต้นใหม่อย่างจริงจังกับแกงค์เด็กๆ ซึ่งไปๆมาๆ ความเป็นทีมเวิร์คและความสนิทสนมดูมีมากกว่า
3. ทีมไม่มีสตาร์ที่เป็นนักเตะไทยอีกต่อไป ผมว่ามันลดอีโก้ที่มีกันระหว่างนักเตะได้พอสมควร
4. อุ้มได้ไปญี่ปุ่นสมใจอยาก และบุรีรัมย์ก็ได้กลับมาเริ่มต้นในจุดที่สมควรอยู่ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ส่วนผลสรุปของการเปลี่ยนแปลงในปีต่อมาที่กลับมาได้แชมป์อีกครั้ง นอกจากการที่ต้นปีไม่ต้องไป ACL แล้ว ต้องให้เครดิตกับทีมแมวมองนะ การเซ็นสัญญากับ Jaja, Rafael Bastos, พรรษา, ศศลักษณ์ และการรักษาตูเญซไว้กับทีมได้ รวมถึงแจ้งเกิดอย่างทันเวลาของนักเตะวัยรุ่นอย่าง สุภโชค, รัตนากร มันทำให้ทีมมีตัวเลือกมากขึ้น จาจ้า อย่างที่เห็นยิงกระจายสุดๆ ถึงแม้ไม่ได้สร้างสรรค์ได้แบบดีโอโก้ แต่ก็ทดแทนได้ประมาณหนึ่ง บาสโตส ก็มีลูกยิงพลิกเกมหรือช่วยเซฟแต้มให้ทีมหลายครั้ง จากนั้นมากราฟของบุรีรัมย์ก็ค่อยๆกลับมาเหมือนเดิมครับ ทีมงานหลังบ้านยังรักษาคุณภาพของทีมไว้ได้เหมือนเดิม การเสียนักเตะอย่าง โกซุลกิ เป็นทีมอื่นคงกระทบมหาศาล แต่บุรีรัมย์ก็ผ่านมาได้ ตอนนี้ผมว่าทีมงานน่าจะต้องเจอบททดสอบใหญ่กับ ดีโอโก้ ว่าจะอยู่เป็นตำนานของทีมอีกนานแค่ไหน วันใดที่ดีโอโก้ตัดสินใจลาจากบุรีรัมย์ไม่ว่าจะแขวนสตั๊ดหรือย้ายทีม วันนั้นแหละเราอาจจะได้เห็นบุรีรัมย์ผลัดใบอีกครั้งใหญ่