BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7336
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 06, 2018 23:09
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ทำ?]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
Spoil
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
ทหารอาชีพเงินมันต้องเพิ่มทุกปีเลยไม่ใช่หรอครับ แล้วสมมุตเรารับมา 2 แสน อีก 10-20 ปี เงินเดือนเขาจะเท่าไร ไหนจะบำนาญ สวัสดิการ และอายุ ตอนนั้น 40+ มีสงครามขึ้นมาจริงๆ เข้าจะสู้ไหวหรอครับ  


ใช้โควต้าที่ว่า 2 ปีออกครับ คือรับเข้ามาเป็นทหาร 2 ปีอย่างมืออาชีพ (ไม่ใช่ครึ่งปี, 1 ปี, 1 ปีครึ่ง) แน่นอนว่าทหาร 2 ปีย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยใช้ระบบสมัครใจเกณฑ์ครับ  

ถ้าแบบนั้น ผมว่าเขาน่าจะกลัวปัญหาเกิดมีเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมาคนจะไม่มาสมัครแน่นอนหรือว่าปีนั้นอยู่ๆคนก็สมัครน้อยกว่าเกณฑ์เยอะมากๆ เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้รึป่าวครับ เพราะถ้าเอาจริงๆ คนสมัครที่ต้องการเป็นแค่ครึ่งปีหรือ 1 ปี ก็มีเยอะครับ ไม่อยากจะเสี่ยง 2 ปี
ซึ่งถ้าเกิดเปิดสมัครแบบที่ท่านว่าผมก็อยากรู้จริงๆว่าคนสมัครจะมีเยอะมั้ย เพราะถ้ามองแค่รอบข้างตัวเองก็ไม่มีใครที่จะอยากเป็น  


1. ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลังพลเช่นสงคราม ก็ยังเรียกกำลังพลกองหนุนมาใช้ได้ไงครับ ตามโมเดลที่ผมบอกว่าสามารถเรียกทหารอาชีพที่เคยประจำการกลับเข้ามาได้เมื่อเกิดศึกสงครามดังที่ผมตอบคอมเมนท์ก่อนหน้า ซึ่งโมเดลนี้มันเป็นของตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเพราะเป็นสถานการณ์บังคับ แม้แต่พวก รด ก็เรียกได้

2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สมมติครับ ถึงเวลาไม่มีใครรู้นอกจากลองทำ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ คนสมัครต้องเยอะแน่นอน เงินเดือน 15,000 วัน ๆ ทหารส่วนใหญ่ก็เฝ้าแต่กรม กินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเก็บทุกเดือน จบม.3 ม.6 มีหรอครับจะไม่เอา โดยสิ่งดังกล่าวผมได้ทำการติ๊งต่างไว้แล้วด้านบนก่อนคำนวนว่าผมกำหนดไว้แบบนี้

ปัจจุบันมีผู้ทำการสมัครทหารทั้งสิ้น 1/3 ครับ ซึ่งถ้าฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นขนาดที่ผมว่า มีหรอครับที่คนสมัครจะไม่เต็ม เงินเดือนมากกว่าปริญญาตรีซะอีก แต่ก็อย่างที่บอก บทสรุปมันไม่มีครับ เพราะยังไม่เคยเกิด คุณกับผมไม่มีทางรู้หรอกว่าโมเดลที่ผมว่าคนสมัครจะเต็มไหม นอกจากต้องทำมันก่อนครับ
 

นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแค่ยังนึกไม่ออกว่าคนจะสมัครเต็ม เพราะสมัครแบบเลี่ยง 2 ปี ก็มีเยอะที่ไม่อยากลุ้น  


ที่ผมพิมพ์ตามด้านบน จุดประสงค์คือต้องการ"ทหารอาชีพ"

ซึ่งทหารอาชีพที่ผมว่าคือทหาร 2 ปี เราจะได้มีกองทัพที่เข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพจริง ๆ ครับ

ปัจจุบันทหารครึ่งปี/ 1 ปี พวกนี้ไม่ได้ไปเป็นทหารอาชีพจริง ๆ หรอกครับ เพื่อนผมจบป.ตรี ฝึก 3 เดือนก็เอาไปทำงานธุรการแทนจ่ากันทั้งนั้น

สรุปคือ เราจะเปลืองงบประมาณไปกับทหารที่นั่งพิมพ์งานแทนจ่าทำไม????

ผมไม่ได้สนใจเรื่องสมัครหรือไม่สมัครอย่างเดียว แต่ผมต้องการปฏิรูปกองทัพให้มีพลทหารอาชีพที่เข้มแข็งด้วยครับ และอย่างที่ผมบอก ไม่ลอง เราไม่มีทางรู้ครับ แต่จากโมเดลของประเทศอื่นโดยใช้โมเดลรูปแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ศึกษาโมเดลของประเทศอื่นหละครับ ซึ่งถ้าใช้โมเดลที่ผมว่า เรื่องงบประมาณนี่ตัดทิ้งไปเลยนะครับมีพอแน่นอน ทำไม่ทำ เป็นอีกเรื่อง

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ
 

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะ 2 ปี แลกกับเงิน 15000 ก็คืองานลูกจ้างสัญญา 2 ปีใช่มั้ยครับ เหมือนมันไม่มีอนาคต เพราะถ้าคิดในมุมมองของผมคือเข้าเอาเวลา 2 ปีที่จะมาเป็นทหารไปทำงานระยะยาวของเขาดีกว่ารึป่าว เป็นทหารหนีไม่พ้นความลำบากที่จะต้องเจอคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ถ้าคนเลือกได้ผมว่าคงไม่มีใครทำแบบแรงงานในโรงงานที่คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ การที่ได้คำว่าคุณภาพมันต้องใช้เวลาฝึกและเรียนรู้อย่างยาวนานรึป่าวครับ ถ้าแค่ 2 ปี ผมว่าคุณภาพมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวมองการเกณฑ์ทหารเข้าเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ทหารจะมีงานอะไรให้ทำละครับ แต่จะไม่มีก็ไม่ได้ ส่วนการไปอยู่บ้านนายผมว่านั้นคือความต้องการบุคคลมากกว่าระบบ คือวินๆทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ใช้แรงงาน อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ความสะดวกสบายที่มากขึ้น จำนวนผมว่าตอนนี้เขาคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็พอจะรับมือได้  
 

FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:


เอาแบบนี้นะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องยกเลิกสิครับ

แต่ใช้โมเดลเดิม ใครสมัครใจเอาไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ครบ 2 ปี ไม่เต็มก็ค่อยเกณฑ์เพิ่ม

พวกเกณฑ์เพิ่มให้ฐานเงินเดือนเท่าเดิม เพราะถือว่าไม่สมัครใจ (พวกนี้ใช้ระบบจำนวนปีประจำการเท่าเดิมเช่นกัน เช่นป.ตรี จับฉลากอยู่ 1 ปี เป็นต้น)

ถือเป็นการ survey ไปในตัวว่าถ้าฐานเงินเดือนเท่านี้ จะมีคนสมัครใจเกณฑ์เท่าไหร่

มันมีหลายอย่างที่ทำได้ครับ ถ้ากองทัพจริงใจที่จะทำจริง ๆ

ผมถึงบอกไงครับว่าจริง ๆ สิ่งที่เป็นอยู่กองทัพต้องการจะแก้ไขรึเปล่า หรือมองประชาชนเป็นไพร่ถึงเวลาก็จับมาเกณฑ์แค่นั้น



 

ถ้าเพิ่มเงินให้คนสมัครผมว่าก็เป็นไปได้ครับ อาจจะคนสมัครเพิ่มเยอะขึ้น
แต่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะมองว่าทหารเกณฑ์เขาเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพ
อย่าลืมกองทัพเขามีทหารสัญญาบัตร ที่เขาคิดว่าเป็นทหารระดับคุณภาพของเขาอยู่แล้วก็ได้ครับ
ที่เกณฑ์เข้ามาต้องการแค่จำนวนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในปีนั้นๆ  


คุณครับ มีบรรทัดไหนที่ผมบอกให้ลดขนาดกองทัพหรอครับ?  

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ  


เห้อออออออ คุณอ่านหนังสือไม่ละเอียด หรือต้องการจะเถียงผมเพื่อที่จะเอาชนะผมเองก็ไม่รู้นะ ใคร ๆ อ่านก็รู้ว่าข้อความนั้นผมต้องการจะสื่ออะไร

เริ่มต้นผมคำนวณจากปริมาณพลทหารในปัจจุบัน 200,000 นาย ไม่ได้ไปลดจำนวนอะไรเลย ก็บอกว่าเงินที่จ่ายมันพอ อันนี้ชัดเจนนะ


ประเด็นที่คุณยกมา ผมบอกว่าทหารไปอยู่บ้านนาย, ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน มันคือ "คอรัปชั่น" ถ้าคุณตัดตรงนี้ไปได้ คุณก็จะได้ทรัพยากรเพิ่ม คุณอาจจะลดปริมาณคนเกณฑ์ได้ (ก็พวกนี้มันเกณฑ์ไปรับใช้นาย เกณฑ์ไปคอรัปชั่น ไม่ได้เกณฑ์ไปรบแบบที่คุณพูดหนิ) หรืออาจจะได้จำนวนทหารประจำการที่ทำงานจริง ๆ เยอะขึ้น

ผมว่าผมชัดเจนทุกคำพูดนะครับ
 

ผมไม่ได้จะเอาชนะอะไรคุณนะครับคือแค่แสดงความคิดเห็นต่อกัน
คือในมุมมองของผมเขาต้องการแค่จำนวนคนมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ซึ่งจำนวนที่เขาต้องอาจจะที่คุณยก 200,000 คน เขาจะเอาเงินไปเพิ่มให้คนที่สมัครทำไม เพราะเข้ามาก็เหมือนกับคนที่เกณฑ์ระยะเวลา 2 ปี เหมือนกัน ฝึกเหมือนกัน มันได้เกิดคำว่าคุณภาพแบบที่ท่านว่ามาเลย แล้วคนที่ไปรับใช้นายแบบที่ท่านว่า มันไม่เกี่ยวนิครับว่าเขาจะทำอะไร ตัดหญ้า ดูดส้วม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเหล่านั้นเขาสามารถเรียกมารับมือได้ทันที ที่คุณมองว่ามันไร้ประโยชน์ที่เขาไปทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่มีงานหลักของเขาให้ทำมากกว่า งานหลักของเขาคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คิดง่ายเหมือนยามอะครับ วันๆเขาก็ไม่ทำอะไร นั่งเล่นไปวันๆ แต่เกือบทุกที่ต้องมียามไว้ในกรณีฉุกเฉิน  
 



ผมอ่านคอมเมนท์คุณเอาจริง ๆ ผมท้อเลย เพราะผมได้อธิบายทุกอย่างที่คุณพูดไปหมดแล้ว


1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ


รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก


ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!



คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

ผมจะแสดงความคิดตามประเด็นที่คุณยกมานะครับ

1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ

รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก

ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


คือการที่คุณยกประเด็นหมอหรือคนที่มีลูกขึ้นมา มันทำให้คิดว่าแล้วอะไรมาวัดอะครับว่าใครต้องเกณฑ์หรือไม่ต้องเกณฑ์ หมอหรือคนมีลูกไม่ต้องเกณฑ์แบบนั้นหรอครับ แล้วคิดอื่นๆ จะคิดยังไงละครับ ถ้ากรณีที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ผมเห็นด้วยนะครับในกรณีที่คุณว่าเพิ่มเงินให้คนที่สมัครใจเข้ามา เพราะจะได้เป็นแรงดึงดูดอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ได้แสดงความคิดว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาไม่สนใจไงครับ ทำไมเขาต้องเพิ่มเงินอะไรกับเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดคุณภาพมากขึ้นหรือยกระดับทหารเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งผมยกประเด็นที่ว่าเข้ามาฝึกเหมือนกัน ระยะเวลา 2 ปีเท่ากัน มันไม่ได้มีความแตกต่างให้เขาลงทุนนอกจากว่า เพิ่มเปอร์เซ็นให้คนที่ไม่อยากเป็นได้มีโอกาสไม่ต้องเป็นทหารมากขึ้น ซึงคุณยกการเพิ่มคุณภาพให้ทหาร ซึ่งสำหรับความคิดผมยังไม่เห็นความแตกต่าง

2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!


คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว


คือคนที่เป็นทหารทุกคนต้องไปอยู่บ้านนายต้องรับใช้นายไปเ้นเด็กเสิร์ฟทุกคนหรอครับ ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะทำแบบนั้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย มากกว่าการอยู่ในกรมหรือครับ มันก็เหมือนการยัดเงินเอาตัวรอดแหละครับ ที่เขาทำแบบนั้นคือการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง อันนี้แล้วแต่คนมองละครับ ส่วนเรื่องฝึก 3 เดิอนแล้วปล่อยกับบ้านอันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ค่ายฝึก คือเขาไม่ได้ฝึกทุกวันหรอครับ ไม่ต้องสแตนบายรอรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอกเวลาหรอครับ ผมก็ยกเรื่องยามมากอีก มันคล้ายๆกันรึป่าวคือต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7523
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 06, 2018 23:34
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ทำ?]
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
Spoil
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
ทหารอาชีพเงินมันต้องเพิ่มทุกปีเลยไม่ใช่หรอครับ แล้วสมมุตเรารับมา 2 แสน อีก 10-20 ปี เงินเดือนเขาจะเท่าไร ไหนจะบำนาญ สวัสดิการ และอายุ ตอนนั้น 40+ มีสงครามขึ้นมาจริงๆ เข้าจะสู้ไหวหรอครับ  


ใช้โควต้าที่ว่า 2 ปีออกครับ คือรับเข้ามาเป็นทหาร 2 ปีอย่างมืออาชีพ (ไม่ใช่ครึ่งปี, 1 ปี, 1 ปีครึ่ง) แน่นอนว่าทหาร 2 ปีย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยใช้ระบบสมัครใจเกณฑ์ครับ  

ถ้าแบบนั้น ผมว่าเขาน่าจะกลัวปัญหาเกิดมีเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมาคนจะไม่มาสมัครแน่นอนหรือว่าปีนั้นอยู่ๆคนก็สมัครน้อยกว่าเกณฑ์เยอะมากๆ เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้รึป่าวครับ เพราะถ้าเอาจริงๆ คนสมัครที่ต้องการเป็นแค่ครึ่งปีหรือ 1 ปี ก็มีเยอะครับ ไม่อยากจะเสี่ยง 2 ปี
ซึ่งถ้าเกิดเปิดสมัครแบบที่ท่านว่าผมก็อยากรู้จริงๆว่าคนสมัครจะมีเยอะมั้ย เพราะถ้ามองแค่รอบข้างตัวเองก็ไม่มีใครที่จะอยากเป็น  


1. ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลังพลเช่นสงคราม ก็ยังเรียกกำลังพลกองหนุนมาใช้ได้ไงครับ ตามโมเดลที่ผมบอกว่าสามารถเรียกทหารอาชีพที่เคยประจำการกลับเข้ามาได้เมื่อเกิดศึกสงครามดังที่ผมตอบคอมเมนท์ก่อนหน้า ซึ่งโมเดลนี้มันเป็นของตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเพราะเป็นสถานการณ์บังคับ แม้แต่พวก รด ก็เรียกได้

2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สมมติครับ ถึงเวลาไม่มีใครรู้นอกจากลองทำ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ คนสมัครต้องเยอะแน่นอน เงินเดือน 15,000 วัน ๆ ทหารส่วนใหญ่ก็เฝ้าแต่กรม กินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเก็บทุกเดือน จบม.3 ม.6 มีหรอครับจะไม่เอา โดยสิ่งดังกล่าวผมได้ทำการติ๊งต่างไว้แล้วด้านบนก่อนคำนวนว่าผมกำหนดไว้แบบนี้

ปัจจุบันมีผู้ทำการสมัครทหารทั้งสิ้น 1/3 ครับ ซึ่งถ้าฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นขนาดที่ผมว่า มีหรอครับที่คนสมัครจะไม่เต็ม เงินเดือนมากกว่าปริญญาตรีซะอีก แต่ก็อย่างที่บอก บทสรุปมันไม่มีครับ เพราะยังไม่เคยเกิด คุณกับผมไม่มีทางรู้หรอกว่าโมเดลที่ผมว่าคนสมัครจะเต็มไหม นอกจากต้องทำมันก่อนครับ
 

นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแค่ยังนึกไม่ออกว่าคนจะสมัครเต็ม เพราะสมัครแบบเลี่ยง 2 ปี ก็มีเยอะที่ไม่อยากลุ้น  


ที่ผมพิมพ์ตามด้านบน จุดประสงค์คือต้องการ"ทหารอาชีพ"

ซึ่งทหารอาชีพที่ผมว่าคือทหาร 2 ปี เราจะได้มีกองทัพที่เข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพจริง ๆ ครับ

ปัจจุบันทหารครึ่งปี/ 1 ปี พวกนี้ไม่ได้ไปเป็นทหารอาชีพจริง ๆ หรอกครับ เพื่อนผมจบป.ตรี ฝึก 3 เดือนก็เอาไปทำงานธุรการแทนจ่ากันทั้งนั้น

สรุปคือ เราจะเปลืองงบประมาณไปกับทหารที่นั่งพิมพ์งานแทนจ่าทำไม????

ผมไม่ได้สนใจเรื่องสมัครหรือไม่สมัครอย่างเดียว แต่ผมต้องการปฏิรูปกองทัพให้มีพลทหารอาชีพที่เข้มแข็งด้วยครับ และอย่างที่ผมบอก ไม่ลอง เราไม่มีทางรู้ครับ แต่จากโมเดลของประเทศอื่นโดยใช้โมเดลรูปแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ศึกษาโมเดลของประเทศอื่นหละครับ ซึ่งถ้าใช้โมเดลที่ผมว่า เรื่องงบประมาณนี่ตัดทิ้งไปเลยนะครับมีพอแน่นอน ทำไม่ทำ เป็นอีกเรื่อง

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ
 

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะ 2 ปี แลกกับเงิน 15000 ก็คืองานลูกจ้างสัญญา 2 ปีใช่มั้ยครับ เหมือนมันไม่มีอนาคต เพราะถ้าคิดในมุมมองของผมคือเข้าเอาเวลา 2 ปีที่จะมาเป็นทหารไปทำงานระยะยาวของเขาดีกว่ารึป่าว เป็นทหารหนีไม่พ้นความลำบากที่จะต้องเจอคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ถ้าคนเลือกได้ผมว่าคงไม่มีใครทำแบบแรงงานในโรงงานที่คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ การที่ได้คำว่าคุณภาพมันต้องใช้เวลาฝึกและเรียนรู้อย่างยาวนานรึป่าวครับ ถ้าแค่ 2 ปี ผมว่าคุณภาพมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวมองการเกณฑ์ทหารเข้าเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ทหารจะมีงานอะไรให้ทำละครับ แต่จะไม่มีก็ไม่ได้ ส่วนการไปอยู่บ้านนายผมว่านั้นคือความต้องการบุคคลมากกว่าระบบ คือวินๆทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ใช้แรงงาน อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ความสะดวกสบายที่มากขึ้น จำนวนผมว่าตอนนี้เขาคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็พอจะรับมือได้  
 

FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:


เอาแบบนี้นะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องยกเลิกสิครับ

แต่ใช้โมเดลเดิม ใครสมัครใจเอาไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ครบ 2 ปี ไม่เต็มก็ค่อยเกณฑ์เพิ่ม

พวกเกณฑ์เพิ่มให้ฐานเงินเดือนเท่าเดิม เพราะถือว่าไม่สมัครใจ (พวกนี้ใช้ระบบจำนวนปีประจำการเท่าเดิมเช่นกัน เช่นป.ตรี จับฉลากอยู่ 1 ปี เป็นต้น)

ถือเป็นการ survey ไปในตัวว่าถ้าฐานเงินเดือนเท่านี้ จะมีคนสมัครใจเกณฑ์เท่าไหร่

มันมีหลายอย่างที่ทำได้ครับ ถ้ากองทัพจริงใจที่จะทำจริง ๆ

ผมถึงบอกไงครับว่าจริง ๆ สิ่งที่เป็นอยู่กองทัพต้องการจะแก้ไขรึเปล่า หรือมองประชาชนเป็นไพร่ถึงเวลาก็จับมาเกณฑ์แค่นั้น



 

ถ้าเพิ่มเงินให้คนสมัครผมว่าก็เป็นไปได้ครับ อาจจะคนสมัครเพิ่มเยอะขึ้น
แต่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะมองว่าทหารเกณฑ์เขาเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพ
อย่าลืมกองทัพเขามีทหารสัญญาบัตร ที่เขาคิดว่าเป็นทหารระดับคุณภาพของเขาอยู่แล้วก็ได้ครับ
ที่เกณฑ์เข้ามาต้องการแค่จำนวนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในปีนั้นๆ  


คุณครับ มีบรรทัดไหนที่ผมบอกให้ลดขนาดกองทัพหรอครับ?  

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ  


เห้อออออออ คุณอ่านหนังสือไม่ละเอียด หรือต้องการจะเถียงผมเพื่อที่จะเอาชนะผมเองก็ไม่รู้นะ ใคร ๆ อ่านก็รู้ว่าข้อความนั้นผมต้องการจะสื่ออะไร

เริ่มต้นผมคำนวณจากปริมาณพลทหารในปัจจุบัน 200,000 นาย ไม่ได้ไปลดจำนวนอะไรเลย ก็บอกว่าเงินที่จ่ายมันพอ อันนี้ชัดเจนนะ


ประเด็นที่คุณยกมา ผมบอกว่าทหารไปอยู่บ้านนาย, ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน มันคือ "คอรัปชั่น" ถ้าคุณตัดตรงนี้ไปได้ คุณก็จะได้ทรัพยากรเพิ่ม คุณอาจจะลดปริมาณคนเกณฑ์ได้ (ก็พวกนี้มันเกณฑ์ไปรับใช้นาย เกณฑ์ไปคอรัปชั่น ไม่ได้เกณฑ์ไปรบแบบที่คุณพูดหนิ) หรืออาจจะได้จำนวนทหารประจำการที่ทำงานจริง ๆ เยอะขึ้น

ผมว่าผมชัดเจนทุกคำพูดนะครับ
 

ผมไม่ได้จะเอาชนะอะไรคุณนะครับคือแค่แสดงความคิดเห็นต่อกัน
คือในมุมมองของผมเขาต้องการแค่จำนวนคนมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ซึ่งจำนวนที่เขาต้องอาจจะที่คุณยก 200,000 คน เขาจะเอาเงินไปเพิ่มให้คนที่สมัครทำไม เพราะเข้ามาก็เหมือนกับคนที่เกณฑ์ระยะเวลา 2 ปี เหมือนกัน ฝึกเหมือนกัน มันได้เกิดคำว่าคุณภาพแบบที่ท่านว่ามาเลย แล้วคนที่ไปรับใช้นายแบบที่ท่านว่า มันไม่เกี่ยวนิครับว่าเขาจะทำอะไร ตัดหญ้า ดูดส้วม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเหล่านั้นเขาสามารถเรียกมารับมือได้ทันที ที่คุณมองว่ามันไร้ประโยชน์ที่เขาไปทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่มีงานหลักของเขาให้ทำมากกว่า งานหลักของเขาคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คิดง่ายเหมือนยามอะครับ วันๆเขาก็ไม่ทำอะไร นั่งเล่นไปวันๆ แต่เกือบทุกที่ต้องมียามไว้ในกรณีฉุกเฉิน  
 



ผมอ่านคอมเมนท์คุณเอาจริง ๆ ผมท้อเลย เพราะผมได้อธิบายทุกอย่างที่คุณพูดไปหมดแล้ว


1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ


รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก


ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!



คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

ผมจะแสดงความคิดตามประเด็นที่คุณยกมานะครับ

1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ

รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก

ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


คือการที่คุณยกประเด็นหมอหรือคนที่มีลูกขึ้นมา มันทำให้คิดว่าแล้วอะไรมาวัดอะครับว่าใครต้องเกณฑ์หรือไม่ต้องเกณฑ์ หมอหรือคนมีลูกไม่ต้องเกณฑ์แบบนั้นหรอครับ แล้วคิดอื่นๆ จะคิดยังไงละครับ ถ้ากรณีที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ผมเห็นด้วยนะครับในกรณีที่คุณว่าเพิ่มเงินให้คนที่สมัครใจเข้ามา เพราะจะได้เป็นแรงดึงดูดอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ได้แสดงความคิดว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาไม่สนใจไงครับ ทำไมเขาต้องเพิ่มเงินอะไรกับเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดคุณภาพมากขึ้นหรือยกระดับทหารเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งผมยกประเด็นที่ว่าเข้ามาฝึกเหมือนกัน ระยะเวลา 2 ปีเท่ากัน มันไม่ได้มีความแตกต่างให้เขาลงทุนนอกจากว่า เพิ่มเปอร์เซ็นให้คนที่ไม่อยากเป็นได้มีโอกาสไม่ต้องเป็นทหารมากขึ้น ซึงคุณยกการเพิ่มคุณภาพให้ทหาร ซึ่งสำหรับความคิดผมยังไม่เห็นความแตกต่าง

2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!


คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว


คือคนที่เป็นทหารทุกคนต้องไปอยู่บ้านนายต้องรับใช้นายไปเ้นเด็กเสิร์ฟทุกคนหรอครับ ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะทำแบบนั้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย มากกว่าการอยู่ในกรมหรือครับ มันก็เหมือนการยัดเงินเอาตัวรอดแหละครับ ที่เขาทำแบบนั้นคือการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง อันนี้แล้วแต่คนมองละครับ ส่วนเรื่องฝึก 3 เดิอนแล้วปล่อยกับบ้านอันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ค่ายฝึก คือเขาไม่ได้ฝึกทุกวันหรอครับ ไม่ต้องสแตนบายรอรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอกเวลาหรอครับ ผมก็ยกเรื่องยามมากอีก มันคล้ายๆกันรึป่าวคือต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา  
 


ให้ภาพตอบละกันครับ ป่วยการจะพูดตรรกะคุณมันเพี้ยนตั้งแต่มองว่าเอาเข้าบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นละ บุยยย



https://www.facebook.com/220967538411800/photos/a.222152298293324.1073741828.220967538411800/347738392401380/?type=3&theater
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: กินหวานไม่กินคาว สันดานไพร่
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 10154
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 06, 2018 23:34
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ทำ?]
volunteer พิมพ์ว่า:
เอาง่ายๆนะครับ ทหารเกณเยอะๆ พวกมียศจะได้แดกกันเยอะๆอ่ะครับง่ายๆเลย เพื่อนผมเกณไม่ถึง3เดือน ออกมาอยู่บ้านสบายๆละ มันบอกเอาเงินเดือนให้เค้าไป แล้วต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แลกกับการออกมาอยู่บ้าน มีอะไรสำคัญๆเค้าจะมาแจ้งให้เข้าไปแค่นั้น และที่สำคัญมันบอกใครก็ทำกัน มันเน่าเฟะเกินแก้แล้วองค์กรทหารเนี่ย  


จริงครับ เราอยู่ในประเทศตอแหล คนดีคงมีแต่คงหายากจิง
รายจ่ายเขาเยอะ ค่ารถ ค่านาฬิกา ค่าตำแหน่ง ค่าเทอมคนที่ไม่ใช่ลูก
รู้จักคนกลุ่มนี้มากพอสมควร ไม่เห็นมีใครมีเมียคนเดียว สักคน

ถ้ามีกระแสคำถาม ก็จะตอบว่า "ไม่มีถ้ามีผมต้องรู้สิ"
ทั้งๆที่ก็รู้กันว่า มันก็มีอะ ตอแหลทำไม หลักๆก็คนกลุ่มเดิมๆนั้นแหละ
เงินเดือนหลักหมื่น ซื้อของ เที่ยว ใช้ชีวิตกัน อู้ฟู้มาก

เป็นคนกลุ่มที่น่าขยะแขยง ไอ้พวกเชื้อโรค ขากถุย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7336
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 07, 2018 00:00
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ?]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
Spoil
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
ทหารอาชีพเงินมันต้องเพิ่มทุกปีเลยไม่ใช่หรอครับ แล้วสมมุตเรารับมา 2 แสน อีก 10-20 ปี เงินเดือนเขาจะเท่าไร ไหนจะบำนาญ สวัสดิการ และอายุ ตอนนั้น 40+ มีสงครามขึ้นมาจริงๆ เข้าจะสู้ไหวหรอครับ  


ใช้โควต้าที่ว่า 2 ปีออกครับ คือรับเข้ามาเป็นทหาร 2 ปีอย่างมืออาชีพ (ไม่ใช่ครึ่งปี, 1 ปี, 1 ปีครึ่ง) แน่นอนว่าทหาร 2 ปีย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยใช้ระบบสมัครใจเกณฑ์ครับ  

ถ้าแบบนั้น ผมว่าเขาน่าจะกลัวปัญหาเกิดมีเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมาคนจะไม่มาสมัครแน่นอนหรือว่าปีนั้นอยู่ๆคนก็สมัครน้อยกว่าเกณฑ์เยอะมากๆ เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้รึป่าวครับ เพราะถ้าเอาจริงๆ คนสมัครที่ต้องการเป็นแค่ครึ่งปีหรือ 1 ปี ก็มีเยอะครับ ไม่อยากจะเสี่ยง 2 ปี
ซึ่งถ้าเกิดเปิดสมัครแบบที่ท่านว่าผมก็อยากรู้จริงๆว่าคนสมัครจะมีเยอะมั้ย เพราะถ้ามองแค่รอบข้างตัวเองก็ไม่มีใครที่จะอยากเป็น  


1. ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลังพลเช่นสงคราม ก็ยังเรียกกำลังพลกองหนุนมาใช้ได้ไงครับ ตามโมเดลที่ผมบอกว่าสามารถเรียกทหารอาชีพที่เคยประจำการกลับเข้ามาได้เมื่อเกิดศึกสงครามดังที่ผมตอบคอมเมนท์ก่อนหน้า ซึ่งโมเดลนี้มันเป็นของตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเพราะเป็นสถานการณ์บังคับ แม้แต่พวก รด ก็เรียกได้

2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สมมติครับ ถึงเวลาไม่มีใครรู้นอกจากลองทำ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ คนสมัครต้องเยอะแน่นอน เงินเดือน 15,000 วัน ๆ ทหารส่วนใหญ่ก็เฝ้าแต่กรม กินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเก็บทุกเดือน จบม.3 ม.6 มีหรอครับจะไม่เอา โดยสิ่งดังกล่าวผมได้ทำการติ๊งต่างไว้แล้วด้านบนก่อนคำนวนว่าผมกำหนดไว้แบบนี้

ปัจจุบันมีผู้ทำการสมัครทหารทั้งสิ้น 1/3 ครับ ซึ่งถ้าฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นขนาดที่ผมว่า มีหรอครับที่คนสมัครจะไม่เต็ม เงินเดือนมากกว่าปริญญาตรีซะอีก แต่ก็อย่างที่บอก บทสรุปมันไม่มีครับ เพราะยังไม่เคยเกิด คุณกับผมไม่มีทางรู้หรอกว่าโมเดลที่ผมว่าคนสมัครจะเต็มไหม นอกจากต้องทำมันก่อนครับ
 

นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแค่ยังนึกไม่ออกว่าคนจะสมัครเต็ม เพราะสมัครแบบเลี่ยง 2 ปี ก็มีเยอะที่ไม่อยากลุ้น  


ที่ผมพิมพ์ตามด้านบน จุดประสงค์คือต้องการ"ทหารอาชีพ"

ซึ่งทหารอาชีพที่ผมว่าคือทหาร 2 ปี เราจะได้มีกองทัพที่เข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพจริง ๆ ครับ

ปัจจุบันทหารครึ่งปี/ 1 ปี พวกนี้ไม่ได้ไปเป็นทหารอาชีพจริง ๆ หรอกครับ เพื่อนผมจบป.ตรี ฝึก 3 เดือนก็เอาไปทำงานธุรการแทนจ่ากันทั้งนั้น

สรุปคือ เราจะเปลืองงบประมาณไปกับทหารที่นั่งพิมพ์งานแทนจ่าทำไม????

ผมไม่ได้สนใจเรื่องสมัครหรือไม่สมัครอย่างเดียว แต่ผมต้องการปฏิรูปกองทัพให้มีพลทหารอาชีพที่เข้มแข็งด้วยครับ และอย่างที่ผมบอก ไม่ลอง เราไม่มีทางรู้ครับ แต่จากโมเดลของประเทศอื่นโดยใช้โมเดลรูปแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ศึกษาโมเดลของประเทศอื่นหละครับ ซึ่งถ้าใช้โมเดลที่ผมว่า เรื่องงบประมาณนี่ตัดทิ้งไปเลยนะครับมีพอแน่นอน ทำไม่ทำ เป็นอีกเรื่อง

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ
 

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะ 2 ปี แลกกับเงิน 15000 ก็คืองานลูกจ้างสัญญา 2 ปีใช่มั้ยครับ เหมือนมันไม่มีอนาคต เพราะถ้าคิดในมุมมองของผมคือเข้าเอาเวลา 2 ปีที่จะมาเป็นทหารไปทำงานระยะยาวของเขาดีกว่ารึป่าว เป็นทหารหนีไม่พ้นความลำบากที่จะต้องเจอคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ถ้าคนเลือกได้ผมว่าคงไม่มีใครทำแบบแรงงานในโรงงานที่คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ การที่ได้คำว่าคุณภาพมันต้องใช้เวลาฝึกและเรียนรู้อย่างยาวนานรึป่าวครับ ถ้าแค่ 2 ปี ผมว่าคุณภาพมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวมองการเกณฑ์ทหารเข้าเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ทหารจะมีงานอะไรให้ทำละครับ แต่จะไม่มีก็ไม่ได้ ส่วนการไปอยู่บ้านนายผมว่านั้นคือความต้องการบุคคลมากกว่าระบบ คือวินๆทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ใช้แรงงาน อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ความสะดวกสบายที่มากขึ้น จำนวนผมว่าตอนนี้เขาคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็พอจะรับมือได้  
 

FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:


เอาแบบนี้นะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องยกเลิกสิครับ

แต่ใช้โมเดลเดิม ใครสมัครใจเอาไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ครบ 2 ปี ไม่เต็มก็ค่อยเกณฑ์เพิ่ม

พวกเกณฑ์เพิ่มให้ฐานเงินเดือนเท่าเดิม เพราะถือว่าไม่สมัครใจ (พวกนี้ใช้ระบบจำนวนปีประจำการเท่าเดิมเช่นกัน เช่นป.ตรี จับฉลากอยู่ 1 ปี เป็นต้น)

ถือเป็นการ survey ไปในตัวว่าถ้าฐานเงินเดือนเท่านี้ จะมีคนสมัครใจเกณฑ์เท่าไหร่

มันมีหลายอย่างที่ทำได้ครับ ถ้ากองทัพจริงใจที่จะทำจริง ๆ

ผมถึงบอกไงครับว่าจริง ๆ สิ่งที่เป็นอยู่กองทัพต้องการจะแก้ไขรึเปล่า หรือมองประชาชนเป็นไพร่ถึงเวลาก็จับมาเกณฑ์แค่นั้น



 

ถ้าเพิ่มเงินให้คนสมัครผมว่าก็เป็นไปได้ครับ อาจจะคนสมัครเพิ่มเยอะขึ้น
แต่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะมองว่าทหารเกณฑ์เขาเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพ
อย่าลืมกองทัพเขามีทหารสัญญาบัตร ที่เขาคิดว่าเป็นทหารระดับคุณภาพของเขาอยู่แล้วก็ได้ครับ
ที่เกณฑ์เข้ามาต้องการแค่จำนวนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในปีนั้นๆ  


คุณครับ มีบรรทัดไหนที่ผมบอกให้ลดขนาดกองทัพหรอครับ?  

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ  


เห้อออออออ คุณอ่านหนังสือไม่ละเอียด หรือต้องการจะเถียงผมเพื่อที่จะเอาชนะผมเองก็ไม่รู้นะ ใคร ๆ อ่านก็รู้ว่าข้อความนั้นผมต้องการจะสื่ออะไร

เริ่มต้นผมคำนวณจากปริมาณพลทหารในปัจจุบัน 200,000 นาย ไม่ได้ไปลดจำนวนอะไรเลย ก็บอกว่าเงินที่จ่ายมันพอ อันนี้ชัดเจนนะ


ประเด็นที่คุณยกมา ผมบอกว่าทหารไปอยู่บ้านนาย, ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน มันคือ "คอรัปชั่น" ถ้าคุณตัดตรงนี้ไปได้ คุณก็จะได้ทรัพยากรเพิ่ม คุณอาจจะลดปริมาณคนเกณฑ์ได้ (ก็พวกนี้มันเกณฑ์ไปรับใช้นาย เกณฑ์ไปคอรัปชั่น ไม่ได้เกณฑ์ไปรบแบบที่คุณพูดหนิ) หรืออาจจะได้จำนวนทหารประจำการที่ทำงานจริง ๆ เยอะขึ้น

ผมว่าผมชัดเจนทุกคำพูดนะครับ
 

ผมไม่ได้จะเอาชนะอะไรคุณนะครับคือแค่แสดงความคิดเห็นต่อกัน
คือในมุมมองของผมเขาต้องการแค่จำนวนคนมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ซึ่งจำนวนที่เขาต้องอาจจะที่คุณยก 200,000 คน เขาจะเอาเงินไปเพิ่มให้คนที่สมัครทำไม เพราะเข้ามาก็เหมือนกับคนที่เกณฑ์ระยะเวลา 2 ปี เหมือนกัน ฝึกเหมือนกัน มันได้เกิดคำว่าคุณภาพแบบที่ท่านว่ามาเลย แล้วคนที่ไปรับใช้นายแบบที่ท่านว่า มันไม่เกี่ยวนิครับว่าเขาจะทำอะไร ตัดหญ้า ดูดส้วม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเหล่านั้นเขาสามารถเรียกมารับมือได้ทันที ที่คุณมองว่ามันไร้ประโยชน์ที่เขาไปทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่มีงานหลักของเขาให้ทำมากกว่า งานหลักของเขาคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คิดง่ายเหมือนยามอะครับ วันๆเขาก็ไม่ทำอะไร นั่งเล่นไปวันๆ แต่เกือบทุกที่ต้องมียามไว้ในกรณีฉุกเฉิน  
 



ผมอ่านคอมเมนท์คุณเอาจริง ๆ ผมท้อเลย เพราะผมได้อธิบายทุกอย่างที่คุณพูดไปหมดแล้ว


1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ


รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก


ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!



คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

ผมจะแสดงความคิดตามประเด็นที่คุณยกมานะครับ

1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ

รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก

ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


คือการที่คุณยกประเด็นหมอหรือคนที่มีลูกขึ้นมา มันทำให้คิดว่าแล้วอะไรมาวัดอะครับว่าใครต้องเกณฑ์หรือไม่ต้องเกณฑ์ หมอหรือคนมีลูกไม่ต้องเกณฑ์แบบนั้นหรอครับ แล้วคิดอื่นๆ จะคิดยังไงละครับ ถ้ากรณีที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ผมเห็นด้วยนะครับในกรณีที่คุณว่าเพิ่มเงินให้คนที่สมัครใจเข้ามา เพราะจะได้เป็นแรงดึงดูดอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ได้แสดงความคิดว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาไม่สนใจไงครับ ทำไมเขาต้องเพิ่มเงินอะไรกับเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดคุณภาพมากขึ้นหรือยกระดับทหารเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งผมยกประเด็นที่ว่าเข้ามาฝึกเหมือนกัน ระยะเวลา 2 ปีเท่ากัน มันไม่ได้มีความแตกต่างให้เขาลงทุนนอกจากว่า เพิ่มเปอร์เซ็นให้คนที่ไม่อยากเป็นได้มีโอกาสไม่ต้องเป็นทหารมากขึ้น ซึงคุณยกการเพิ่มคุณภาพให้ทหาร ซึ่งสำหรับความคิดผมยังไม่เห็นความแตกต่าง

2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!


คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว


คือคนที่เป็นทหารทุกคนต้องไปอยู่บ้านนายต้องรับใช้นายไปเ้นเด็กเสิร์ฟทุกคนหรอครับ ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะทำแบบนั้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย มากกว่าการอยู่ในกรมหรือครับ มันก็เหมือนการยัดเงินเอาตัวรอดแหละครับ ที่เขาทำแบบนั้นคือการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง อันนี้แล้วแต่คนมองละครับ ส่วนเรื่องฝึก 3 เดิอนแล้วปล่อยกับบ้านอันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ค่ายฝึก คือเขาไม่ได้ฝึกทุกวันหรอครับ ไม่ต้องสแตนบายรอรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอกเวลาหรอครับ ผมก็ยกเรื่องยามมากอีก มันคล้ายๆกันรึป่าวคือต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา  
 


ให้ภาพตอบละกันครับ ป่วยการจะพูดตรรกะคุณมันเพี้ยนตั้งแต่มองว่าเอาเข้าบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นละ บุยยย



https://www.facebook.com/220967538411800/photos/a.222152298293324.1073741828.220967538411800/347738392401380/?type=3&theater  

ผมว่าผมก็คุยกันด้วยเหตุผลนะครับ แล้วก็เอาความเป็นจริงมาพูดด้วย แสดงความคิดเห็นด้วย แสดงความคิดเห็นในแง่ที่คุณคิดว่าจะทำแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ไม่ได้มีคำแขวะสักคำ แต่กลับมาเจอแบบนี้

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Aug 2009
ตอบ: 7523
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 07, 2018 00:25
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ?]
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
Spoil
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
ทหารอาชีพเงินมันต้องเพิ่มทุกปีเลยไม่ใช่หรอครับ แล้วสมมุตเรารับมา 2 แสน อีก 10-20 ปี เงินเดือนเขาจะเท่าไร ไหนจะบำนาญ สวัสดิการ และอายุ ตอนนั้น 40+ มีสงครามขึ้นมาจริงๆ เข้าจะสู้ไหวหรอครับ  


ใช้โควต้าที่ว่า 2 ปีออกครับ คือรับเข้ามาเป็นทหาร 2 ปีอย่างมืออาชีพ (ไม่ใช่ครึ่งปี, 1 ปี, 1 ปีครึ่ง) แน่นอนว่าทหาร 2 ปีย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยใช้ระบบสมัครใจเกณฑ์ครับ  

ถ้าแบบนั้น ผมว่าเขาน่าจะกลัวปัญหาเกิดมีเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมาคนจะไม่มาสมัครแน่นอนหรือว่าปีนั้นอยู่ๆคนก็สมัครน้อยกว่าเกณฑ์เยอะมากๆ เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้รึป่าวครับ เพราะถ้าเอาจริงๆ คนสมัครที่ต้องการเป็นแค่ครึ่งปีหรือ 1 ปี ก็มีเยอะครับ ไม่อยากจะเสี่ยง 2 ปี
ซึ่งถ้าเกิดเปิดสมัครแบบที่ท่านว่าผมก็อยากรู้จริงๆว่าคนสมัครจะมีเยอะมั้ย เพราะถ้ามองแค่รอบข้างตัวเองก็ไม่มีใครที่จะอยากเป็น  


1. ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลังพลเช่นสงคราม ก็ยังเรียกกำลังพลกองหนุนมาใช้ได้ไงครับ ตามโมเดลที่ผมบอกว่าสามารถเรียกทหารอาชีพที่เคยประจำการกลับเข้ามาได้เมื่อเกิดศึกสงครามดังที่ผมตอบคอมเมนท์ก่อนหน้า ซึ่งโมเดลนี้มันเป็นของตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเพราะเป็นสถานการณ์บังคับ แม้แต่พวก รด ก็เรียกได้

2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สมมติครับ ถึงเวลาไม่มีใครรู้นอกจากลองทำ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ คนสมัครต้องเยอะแน่นอน เงินเดือน 15,000 วัน ๆ ทหารส่วนใหญ่ก็เฝ้าแต่กรม กินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเก็บทุกเดือน จบม.3 ม.6 มีหรอครับจะไม่เอา โดยสิ่งดังกล่าวผมได้ทำการติ๊งต่างไว้แล้วด้านบนก่อนคำนวนว่าผมกำหนดไว้แบบนี้

ปัจจุบันมีผู้ทำการสมัครทหารทั้งสิ้น 1/3 ครับ ซึ่งถ้าฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นขนาดที่ผมว่า มีหรอครับที่คนสมัครจะไม่เต็ม เงินเดือนมากกว่าปริญญาตรีซะอีก แต่ก็อย่างที่บอก บทสรุปมันไม่มีครับ เพราะยังไม่เคยเกิด คุณกับผมไม่มีทางรู้หรอกว่าโมเดลที่ผมว่าคนสมัครจะเต็มไหม นอกจากต้องทำมันก่อนครับ
 

นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแค่ยังนึกไม่ออกว่าคนจะสมัครเต็ม เพราะสมัครแบบเลี่ยง 2 ปี ก็มีเยอะที่ไม่อยากลุ้น  


ที่ผมพิมพ์ตามด้านบน จุดประสงค์คือต้องการ"ทหารอาชีพ"

ซึ่งทหารอาชีพที่ผมว่าคือทหาร 2 ปี เราจะได้มีกองทัพที่เข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพจริง ๆ ครับ

ปัจจุบันทหารครึ่งปี/ 1 ปี พวกนี้ไม่ได้ไปเป็นทหารอาชีพจริง ๆ หรอกครับ เพื่อนผมจบป.ตรี ฝึก 3 เดือนก็เอาไปทำงานธุรการแทนจ่ากันทั้งนั้น

สรุปคือ เราจะเปลืองงบประมาณไปกับทหารที่นั่งพิมพ์งานแทนจ่าทำไม????

ผมไม่ได้สนใจเรื่องสมัครหรือไม่สมัครอย่างเดียว แต่ผมต้องการปฏิรูปกองทัพให้มีพลทหารอาชีพที่เข้มแข็งด้วยครับ และอย่างที่ผมบอก ไม่ลอง เราไม่มีทางรู้ครับ แต่จากโมเดลของประเทศอื่นโดยใช้โมเดลรูปแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ศึกษาโมเดลของประเทศอื่นหละครับ ซึ่งถ้าใช้โมเดลที่ผมว่า เรื่องงบประมาณนี่ตัดทิ้งไปเลยนะครับมีพอแน่นอน ทำไม่ทำ เป็นอีกเรื่อง

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ
 

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะ 2 ปี แลกกับเงิน 15000 ก็คืองานลูกจ้างสัญญา 2 ปีใช่มั้ยครับ เหมือนมันไม่มีอนาคต เพราะถ้าคิดในมุมมองของผมคือเข้าเอาเวลา 2 ปีที่จะมาเป็นทหารไปทำงานระยะยาวของเขาดีกว่ารึป่าว เป็นทหารหนีไม่พ้นความลำบากที่จะต้องเจอคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ถ้าคนเลือกได้ผมว่าคงไม่มีใครทำแบบแรงงานในโรงงานที่คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ การที่ได้คำว่าคุณภาพมันต้องใช้เวลาฝึกและเรียนรู้อย่างยาวนานรึป่าวครับ ถ้าแค่ 2 ปี ผมว่าคุณภาพมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวมองการเกณฑ์ทหารเข้าเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ทหารจะมีงานอะไรให้ทำละครับ แต่จะไม่มีก็ไม่ได้ ส่วนการไปอยู่บ้านนายผมว่านั้นคือความต้องการบุคคลมากกว่าระบบ คือวินๆทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ใช้แรงงาน อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ความสะดวกสบายที่มากขึ้น จำนวนผมว่าตอนนี้เขาคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็พอจะรับมือได้  
 

FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:


เอาแบบนี้นะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องยกเลิกสิครับ

แต่ใช้โมเดลเดิม ใครสมัครใจเอาไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ครบ 2 ปี ไม่เต็มก็ค่อยเกณฑ์เพิ่ม

พวกเกณฑ์เพิ่มให้ฐานเงินเดือนเท่าเดิม เพราะถือว่าไม่สมัครใจ (พวกนี้ใช้ระบบจำนวนปีประจำการเท่าเดิมเช่นกัน เช่นป.ตรี จับฉลากอยู่ 1 ปี เป็นต้น)

ถือเป็นการ survey ไปในตัวว่าถ้าฐานเงินเดือนเท่านี้ จะมีคนสมัครใจเกณฑ์เท่าไหร่

มันมีหลายอย่างที่ทำได้ครับ ถ้ากองทัพจริงใจที่จะทำจริง ๆ

ผมถึงบอกไงครับว่าจริง ๆ สิ่งที่เป็นอยู่กองทัพต้องการจะแก้ไขรึเปล่า หรือมองประชาชนเป็นไพร่ถึงเวลาก็จับมาเกณฑ์แค่นั้น



 

ถ้าเพิ่มเงินให้คนสมัครผมว่าก็เป็นไปได้ครับ อาจจะคนสมัครเพิ่มเยอะขึ้น
แต่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะมองว่าทหารเกณฑ์เขาเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพ
อย่าลืมกองทัพเขามีทหารสัญญาบัตร ที่เขาคิดว่าเป็นทหารระดับคุณภาพของเขาอยู่แล้วก็ได้ครับ
ที่เกณฑ์เข้ามาต้องการแค่จำนวนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในปีนั้นๆ  


คุณครับ มีบรรทัดไหนที่ผมบอกให้ลดขนาดกองทัพหรอครับ?  

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ  


เห้อออออออ คุณอ่านหนังสือไม่ละเอียด หรือต้องการจะเถียงผมเพื่อที่จะเอาชนะผมเองก็ไม่รู้นะ ใคร ๆ อ่านก็รู้ว่าข้อความนั้นผมต้องการจะสื่ออะไร

เริ่มต้นผมคำนวณจากปริมาณพลทหารในปัจจุบัน 200,000 นาย ไม่ได้ไปลดจำนวนอะไรเลย ก็บอกว่าเงินที่จ่ายมันพอ อันนี้ชัดเจนนะ


ประเด็นที่คุณยกมา ผมบอกว่าทหารไปอยู่บ้านนาย, ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน มันคือ "คอรัปชั่น" ถ้าคุณตัดตรงนี้ไปได้ คุณก็จะได้ทรัพยากรเพิ่ม คุณอาจจะลดปริมาณคนเกณฑ์ได้ (ก็พวกนี้มันเกณฑ์ไปรับใช้นาย เกณฑ์ไปคอรัปชั่น ไม่ได้เกณฑ์ไปรบแบบที่คุณพูดหนิ) หรืออาจจะได้จำนวนทหารประจำการที่ทำงานจริง ๆ เยอะขึ้น

ผมว่าผมชัดเจนทุกคำพูดนะครับ
 

ผมไม่ได้จะเอาชนะอะไรคุณนะครับคือแค่แสดงความคิดเห็นต่อกัน
คือในมุมมองของผมเขาต้องการแค่จำนวนคนมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ซึ่งจำนวนที่เขาต้องอาจจะที่คุณยก 200,000 คน เขาจะเอาเงินไปเพิ่มให้คนที่สมัครทำไม เพราะเข้ามาก็เหมือนกับคนที่เกณฑ์ระยะเวลา 2 ปี เหมือนกัน ฝึกเหมือนกัน มันได้เกิดคำว่าคุณภาพแบบที่ท่านว่ามาเลย แล้วคนที่ไปรับใช้นายแบบที่ท่านว่า มันไม่เกี่ยวนิครับว่าเขาจะทำอะไร ตัดหญ้า ดูดส้วม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเหล่านั้นเขาสามารถเรียกมารับมือได้ทันที ที่คุณมองว่ามันไร้ประโยชน์ที่เขาไปทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่มีงานหลักของเขาให้ทำมากกว่า งานหลักของเขาคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คิดง่ายเหมือนยามอะครับ วันๆเขาก็ไม่ทำอะไร นั่งเล่นไปวันๆ แต่เกือบทุกที่ต้องมียามไว้ในกรณีฉุกเฉิน  
 



ผมอ่านคอมเมนท์คุณเอาจริง ๆ ผมท้อเลย เพราะผมได้อธิบายทุกอย่างที่คุณพูดไปหมดแล้ว


1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ


รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก


ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!



คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

ผมจะแสดงความคิดตามประเด็นที่คุณยกมานะครับ

1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ

รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก

ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


คือการที่คุณยกประเด็นหมอหรือคนที่มีลูกขึ้นมา มันทำให้คิดว่าแล้วอะไรมาวัดอะครับว่าใครต้องเกณฑ์หรือไม่ต้องเกณฑ์ หมอหรือคนมีลูกไม่ต้องเกณฑ์แบบนั้นหรอครับ แล้วคิดอื่นๆ จะคิดยังไงละครับ ถ้ากรณีที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ผมเห็นด้วยนะครับในกรณีที่คุณว่าเพิ่มเงินให้คนที่สมัครใจเข้ามา เพราะจะได้เป็นแรงดึงดูดอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ได้แสดงความคิดว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาไม่สนใจไงครับ ทำไมเขาต้องเพิ่มเงินอะไรกับเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดคุณภาพมากขึ้นหรือยกระดับทหารเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งผมยกประเด็นที่ว่าเข้ามาฝึกเหมือนกัน ระยะเวลา 2 ปีเท่ากัน มันไม่ได้มีความแตกต่างให้เขาลงทุนนอกจากว่า เพิ่มเปอร์เซ็นให้คนที่ไม่อยากเป็นได้มีโอกาสไม่ต้องเป็นทหารมากขึ้น ซึงคุณยกการเพิ่มคุณภาพให้ทหาร ซึ่งสำหรับความคิดผมยังไม่เห็นความแตกต่าง

2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!


คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว


คือคนที่เป็นทหารทุกคนต้องไปอยู่บ้านนายต้องรับใช้นายไปเ้นเด็กเสิร์ฟทุกคนหรอครับ ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะทำแบบนั้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย มากกว่าการอยู่ในกรมหรือครับ มันก็เหมือนการยัดเงินเอาตัวรอดแหละครับ ที่เขาทำแบบนั้นคือการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง อันนี้แล้วแต่คนมองละครับ ส่วนเรื่องฝึก 3 เดิอนแล้วปล่อยกับบ้านอันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ค่ายฝึก คือเขาไม่ได้ฝึกทุกวันหรอครับ ไม่ต้องสแตนบายรอรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอกเวลาหรอครับ ผมก็ยกเรื่องยามมากอีก มันคล้ายๆกันรึป่าวคือต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา  
 


ให้ภาพตอบละกันครับ ป่วยการจะพูดตรรกะคุณมันเพี้ยนตั้งแต่มองว่าเอาเข้าบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นละ บุยยย



https://www.facebook.com/220967538411800/photos/a.222152298293324.1073741828.220967538411800/347738392401380/?type=3&theater  

ผมว่าผมก็คุยกันด้วยเหตุผลนะครับ แล้วก็เอาความเป็นจริงมาพูดด้วย แสดงความคิดเห็นด้วย แสดงความคิดเห็นในแง่ที่คุณคิดว่าจะทำแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ไม่ได้มีคำแขวะสักคำ แต่กลับมาเจอแบบนี้

 
 


ถ้าผมเข้าใจคุณผิดอันนี้ขออภัย เพราะผมรับไม่ได้กับตรรกะที่ว่าการเอาทหารรับใช้นายไม่ใช่คอรัปชั่น มันคือคอรัปชั่นที่ฝังรากลึก เอาเด็กประถมมาถามผมว่าเค้าก็ตอบได้ ผมถึงงงหลักการของคุณ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งนี้ไม่ใช่คอรัปชั่นก็อย่างที่บอก ผมว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยแล้ว

ผมพูดเรื่องการเพิ่มงบประมาณของ คสช ไปหลายทีแล้ว คุณกลับเงียบที่จะไม่พูดเรื่องนี้ จริง ๆ กระทู้นี้สรุปได้เสร็จสรรพว่า ถ้าเอางบประมาณที่คสช เพิ่มให้พิเศษกับกลาโหมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มาพัฒนาระบบเงินเดือนและสวัสดิการพลทหาร กองทัพจะไม่เดือดร้อนอะไรเลย ไม่ต้องเจียดเงินอะไรแบบที่คุณบอก เพราะงบประมาณก็ยังได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนก่อนรัฐประหาร เพียงแต่ไม่ได้งบพิเศษที่คสช มาเพิ่มให้ตั้ง 28,000 ล้านบาท อันนี้ชัดเจน

ผมสังเกตว่าเรื่องนี้คุณพยายามจะไม่พูดถึง


หลังจากนี้จะไม่ตอบจริง ๆ แล้วครับ ถ้าพูดจาไม่ดีก็ขออภัย ผมชอบนะคนเห็นต่าง ชอบโต้เถียง และยอมรับสิ่งที่คุณพูดได้ แต่บอกตรง ๆ ผมรับไม่ได้กับเรื่องคอรัปชั่น และสิ่งที่คุณพูดมันวางอยู่บนพื้นฐานของคอรัปชั่น แค่นี้ก็หมดประโยชน์จะ discuss แล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7336
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 07, 2018 01:42
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ?]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
Spoil
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
F-Se-A พิมพ์ว่า:
ทหารอาชีพเงินมันต้องเพิ่มทุกปีเลยไม่ใช่หรอครับ แล้วสมมุตเรารับมา 2 แสน อีก 10-20 ปี เงินเดือนเขาจะเท่าไร ไหนจะบำนาญ สวัสดิการ และอายุ ตอนนั้น 40+ มีสงครามขึ้นมาจริงๆ เข้าจะสู้ไหวหรอครับ  


ใช้โควต้าที่ว่า 2 ปีออกครับ คือรับเข้ามาเป็นทหาร 2 ปีอย่างมืออาชีพ (ไม่ใช่ครึ่งปี, 1 ปี, 1 ปีครึ่ง) แน่นอนว่าทหาร 2 ปีย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยใช้ระบบสมัครใจเกณฑ์ครับ  

ถ้าแบบนั้น ผมว่าเขาน่าจะกลัวปัญหาเกิดมีเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมาคนจะไม่มาสมัครแน่นอนหรือว่าปีนั้นอยู่ๆคนก็สมัครน้อยกว่าเกณฑ์เยอะมากๆ เขาจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้รึป่าวครับ เพราะถ้าเอาจริงๆ คนสมัครที่ต้องการเป็นแค่ครึ่งปีหรือ 1 ปี ก็มีเยอะครับ ไม่อยากจะเสี่ยง 2 ปี
ซึ่งถ้าเกิดเปิดสมัครแบบที่ท่านว่าผมก็อยากรู้จริงๆว่าคนสมัครจะมีเยอะมั้ย เพราะถ้ามองแค่รอบข้างตัวเองก็ไม่มีใครที่จะอยากเป็น  


1. ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้กำลังพลเช่นสงคราม ก็ยังเรียกกำลังพลกองหนุนมาใช้ได้ไงครับ ตามโมเดลที่ผมบอกว่าสามารถเรียกทหารอาชีพที่เคยประจำการกลับเข้ามาได้เมื่อเกิดศึกสงครามดังที่ผมตอบคอมเมนท์ก่อนหน้า ซึ่งโมเดลนี้มันเป็นของตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเพราะเป็นสถานการณ์บังคับ แม้แต่พวก รด ก็เรียกได้

2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สมมติครับ ถึงเวลาไม่มีใครรู้นอกจากลองทำ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ คนสมัครต้องเยอะแน่นอน เงินเดือน 15,000 วัน ๆ ทหารส่วนใหญ่ก็เฝ้าแต่กรม กินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเก็บทุกเดือน จบม.3 ม.6 มีหรอครับจะไม่เอา โดยสิ่งดังกล่าวผมได้ทำการติ๊งต่างไว้แล้วด้านบนก่อนคำนวนว่าผมกำหนดไว้แบบนี้

ปัจจุบันมีผู้ทำการสมัครทหารทั้งสิ้น 1/3 ครับ ซึ่งถ้าฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นขนาดที่ผมว่า มีหรอครับที่คนสมัครจะไม่เต็ม เงินเดือนมากกว่าปริญญาตรีซะอีก แต่ก็อย่างที่บอก บทสรุปมันไม่มีครับ เพราะยังไม่เคยเกิด คุณกับผมไม่มีทางรู้หรอกว่าโมเดลที่ผมว่าคนสมัครจะเต็มไหม นอกจากต้องทำมันก่อนครับ
 

นั้นแหละครับ ส่วนตัวผมแค่ยังนึกไม่ออกว่าคนจะสมัครเต็ม เพราะสมัครแบบเลี่ยง 2 ปี ก็มีเยอะที่ไม่อยากลุ้น  


ที่ผมพิมพ์ตามด้านบน จุดประสงค์คือต้องการ"ทหารอาชีพ"

ซึ่งทหารอาชีพที่ผมว่าคือทหาร 2 ปี เราจะได้มีกองทัพที่เข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพจริง ๆ ครับ

ปัจจุบันทหารครึ่งปี/ 1 ปี พวกนี้ไม่ได้ไปเป็นทหารอาชีพจริง ๆ หรอกครับ เพื่อนผมจบป.ตรี ฝึก 3 เดือนก็เอาไปทำงานธุรการแทนจ่ากันทั้งนั้น

สรุปคือ เราจะเปลืองงบประมาณไปกับทหารที่นั่งพิมพ์งานแทนจ่าทำไม????

ผมไม่ได้สนใจเรื่องสมัครหรือไม่สมัครอย่างเดียว แต่ผมต้องการปฏิรูปกองทัพให้มีพลทหารอาชีพที่เข้มแข็งด้วยครับ และอย่างที่ผมบอก ไม่ลอง เราไม่มีทางรู้ครับ แต่จากโมเดลของประเทศอื่นโดยใช้โมเดลรูปแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จ แล้วทำไมเราถึงไม่ศึกษาโมเดลของประเทศอื่นหละครับ ซึ่งถ้าใช้โมเดลที่ผมว่า เรื่องงบประมาณนี่ตัดทิ้งไปเลยนะครับมีพอแน่นอน ทำไม่ทำ เป็นอีกเรื่อง

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ
 

ส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะ 2 ปี แลกกับเงิน 15000 ก็คืองานลูกจ้างสัญญา 2 ปีใช่มั้ยครับ เหมือนมันไม่มีอนาคต เพราะถ้าคิดในมุมมองของผมคือเข้าเอาเวลา 2 ปีที่จะมาเป็นทหารไปทำงานระยะยาวของเขาดีกว่ารึป่าว เป็นทหารหนีไม่พ้นความลำบากที่จะต้องเจอคอยรองรับอารมณ์คนอื่น ถ้าคนเลือกได้ผมว่าคงไม่มีใครทำแบบแรงงานในโรงงานที่คนไทยส่วนใหญ่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ การที่ได้คำว่าคุณภาพมันต้องใช้เวลาฝึกและเรียนรู้อย่างยาวนานรึป่าวครับ ถ้าแค่ 2 ปี ผมว่าคุณภาพมันก็ไม่ต่างอะไรจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนตัวมองการเกณฑ์ทหารเข้าเพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ทหารจะมีงานอะไรให้ทำละครับ แต่จะไม่มีก็ไม่ได้ ส่วนการไปอยู่บ้านนายผมว่านั้นคือความต้องการบุคคลมากกว่าระบบ คือวินๆทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ใช้แรงงาน อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ความสะดวกสบายที่มากขึ้น จำนวนผมว่าตอนนี้เขาคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็พอจะรับมือได้  
 

FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:


เอาแบบนี้นะ ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็ไม่ต้องยกเลิกสิครับ

แต่ใช้โมเดลเดิม ใครสมัครใจเอาไปเลยเงินเดือน 15,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ครบ 2 ปี ไม่เต็มก็ค่อยเกณฑ์เพิ่ม

พวกเกณฑ์เพิ่มให้ฐานเงินเดือนเท่าเดิม เพราะถือว่าไม่สมัครใจ (พวกนี้ใช้ระบบจำนวนปีประจำการเท่าเดิมเช่นกัน เช่นป.ตรี จับฉลากอยู่ 1 ปี เป็นต้น)

ถือเป็นการ survey ไปในตัวว่าถ้าฐานเงินเดือนเท่านี้ จะมีคนสมัครใจเกณฑ์เท่าไหร่

มันมีหลายอย่างที่ทำได้ครับ ถ้ากองทัพจริงใจที่จะทำจริง ๆ

ผมถึงบอกไงครับว่าจริง ๆ สิ่งที่เป็นอยู่กองทัพต้องการจะแก้ไขรึเปล่า หรือมองประชาชนเป็นไพร่ถึงเวลาก็จับมาเกณฑ์แค่นั้น



 

ถ้าเพิ่มเงินให้คนสมัครผมว่าก็เป็นไปได้ครับ อาจจะคนสมัครเพิ่มเยอะขึ้น
แต่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะมองว่าทหารเกณฑ์เขาเน้นจำนวนมากกว่าคุณภาพ
อย่าลืมกองทัพเขามีทหารสัญญาบัตร ที่เขาคิดว่าเป็นทหารระดับคุณภาพของเขาอยู่แล้วก็ได้ครับ
ที่เกณฑ์เข้ามาต้องการแค่จำนวนเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในปีนั้นๆ  


คุณครับ มีบรรทัดไหนที่ผมบอกให้ลดขนาดกองทัพหรอครับ?  

ปล.และปริมาณทหารที่ชาติเราต้องการจริง ๆ คือเท่าไหร่ครับ ถ้าตัดที่อยู่บ้านนาย ตัดที่มีแต่ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน คุณว่ายอดจริง ๆ มันจะลดไหมครับ  


เห้อออออออ คุณอ่านหนังสือไม่ละเอียด หรือต้องการจะเถียงผมเพื่อที่จะเอาชนะผมเองก็ไม่รู้นะ ใคร ๆ อ่านก็รู้ว่าข้อความนั้นผมต้องการจะสื่ออะไร

เริ่มต้นผมคำนวณจากปริมาณพลทหารในปัจจุบัน 200,000 นาย ไม่ได้ไปลดจำนวนอะไรเลย ก็บอกว่าเงินที่จ่ายมันพอ อันนี้ชัดเจนนะ


ประเด็นที่คุณยกมา ผมบอกว่าทหารไปอยู่บ้านนาย, ชื่ออยู่กรมตัวอยู่บ้าน มันคือ "คอรัปชั่น" ถ้าคุณตัดตรงนี้ไปได้ คุณก็จะได้ทรัพยากรเพิ่ม คุณอาจจะลดปริมาณคนเกณฑ์ได้ (ก็พวกนี้มันเกณฑ์ไปรับใช้นาย เกณฑ์ไปคอรัปชั่น ไม่ได้เกณฑ์ไปรบแบบที่คุณพูดหนิ) หรืออาจจะได้จำนวนทหารประจำการที่ทำงานจริง ๆ เยอะขึ้น

ผมว่าผมชัดเจนทุกคำพูดนะครับ
 

ผมไม่ได้จะเอาชนะอะไรคุณนะครับคือแค่แสดงความคิดเห็นต่อกัน
คือในมุมมองของผมเขาต้องการแค่จำนวนคนมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ซึ่งจำนวนที่เขาต้องอาจจะที่คุณยก 200,000 คน เขาจะเอาเงินไปเพิ่มให้คนที่สมัครทำไม เพราะเข้ามาก็เหมือนกับคนที่เกณฑ์ระยะเวลา 2 ปี เหมือนกัน ฝึกเหมือนกัน มันได้เกิดคำว่าคุณภาพแบบที่ท่านว่ามาเลย แล้วคนที่ไปรับใช้นายแบบที่ท่านว่า มันไม่เกี่ยวนิครับว่าเขาจะทำอะไร ตัดหญ้า ดูดส้วม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเหล่านั้นเขาสามารถเรียกมารับมือได้ทันที ที่คุณมองว่ามันไร้ประโยชน์ที่เขาไปทำอย่างนั้น เพราะเขาไม่มีงานหลักของเขาให้ทำมากกว่า งานหลักของเขาคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ คิดง่ายเหมือนยามอะครับ วันๆเขาก็ไม่ทำอะไร นั่งเล่นไปวันๆ แต่เกือบทุกที่ต้องมียามไว้ในกรณีฉุกเฉิน  
 



ผมอ่านคอมเมนท์คุณเอาจริง ๆ ผมท้อเลย เพราะผมได้อธิบายทุกอย่างที่คุณพูดไปหมดแล้ว


1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ


รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก


ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!



คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  

ผมจะแสดงความคิดตามประเด็นที่คุณยกมานะครับ

1.ประการแรก ผมเข้าใจมุมมองของคุณว่าคุณมองว่าทหารจะต้องจ่ายเพิ่มทำไม ในเมื่อก็ได้จำนวนคนเท่าเดิม

ที่ผมบอกว่าคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่แรก เพราะผมมองในแง่ของประโยชน์ของรัฐและประชาชน ไม่ได้มองในแง่ของประโยชน์ของกองทัพ

รัฐและประชาชนได้อะไร?
-ประชาชนจะได้ทำงานที่มันเหมาะสมกับหน้าที่ของตน ผมได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นเช่น คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้อยล้าน หาเงินเข้าประเทศ มันก็คือผลประโยชน์ของรัฐ
- เอาหมอไปเกณฑ์ทหาร เรียนแทบตาย 6 ปี หมอในประเทศก็ขาดแคลน จะเอาไปเกณฑ์ทำไม
- เมียเพิ่งคลอดลูก ตกระกำลำบาก ผัวไปเกณฑ์ทหาร เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ เพราะขาดหัวหน้าครอบครัวที่ดี เกิดเป็นปัญหาสังคมอีก

ถ้าคุณเป็นประธานบริษัท คุณจะเอานักบัญชีไปเป็นยามไหมหละ? แบบนี้รัฐจะต้องเสียทรัพยากรบุคคลรึเปล่า? ผมไม่ได้ดูถูกว่ายามเป็นอาชีพต้อยต่ำนะ แต่ผมจะสื่อว่าถ้าบริษัทคุณใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เหมาะกับงาน มันก็เจ๊งอย่างเดียว เปรียบบริษัทเป็นประเทศ คุณว่าประเทศจะต้องเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมากน้อยเพียงใด


ในแง่ของกองทัพ จริง ๆ ก็พอหาข้อดีได้
- กองทัพได้ทหารอาชีพที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันทั่วโลกก็ยึดโมเดลนี้กันทั้งนั้น เราไม่ได้อยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เน้นปริมาณกองทัพกันแล้วนะ
- ถือเป็นการลงทุนระยะสั้นของกองทัพ ถ้าคุณวิเคราะห์สิ่งที่ผมพูดมา ไม่มีตรงไหนที่มันลำบากกองทัพเลย ผมให้เงิน rate ของการเพิ่มงบประมาณเท่าเดิม เพียงแต่เอางบกลาโหมส่วนที่เพิ่มในช่วง 4 ปีที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลในรัฐบาล คสช. มาลงทุนกับพลทหาร (ย้ำว่ากองทัพยังมีอัตราเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ล้านต่อปีนะ ถึงแม้จะเจียดส่วนที่ผมขอมา ) ผมถึงงงว่ากองทัพเสียหายตรงไหน?


คือการที่คุณยกประเด็นหมอหรือคนที่มีลูกขึ้นมา มันทำให้คิดว่าแล้วอะไรมาวัดอะครับว่าใครต้องเกณฑ์หรือไม่ต้องเกณฑ์ หมอหรือคนมีลูกไม่ต้องเกณฑ์แบบนั้นหรอครับ แล้วคิดอื่นๆ จะคิดยังไงละครับ ถ้ากรณีที่ใครๆก็ไม่อยากเป็น ผมเห็นด้วยนะครับในกรณีที่คุณว่าเพิ่มเงินให้คนที่สมัครใจเข้ามา เพราะจะได้เป็นแรงดึงดูดอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ได้แสดงความคิดว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้น เพราะเขาไม่สนใจไงครับ ทำไมเขาต้องเพิ่มเงินอะไรกับเรื่องแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำให้เกิดคุณภาพมากขึ้นหรือยกระดับทหารเกณฑ์ขึ้นมา ซึ่งผมยกประเด็นที่ว่าเข้ามาฝึกเหมือนกัน ระยะเวลา 2 ปีเท่ากัน มันไม่ได้มีความแตกต่างให้เขาลงทุนนอกจากว่า เพิ่มเปอร์เซ็นให้คนที่ไม่อยากเป็นได้มีโอกาสไม่ต้องเป็นทหารมากขึ้น ซึงคุณยกการเพิ่มคุณภาพให้ทหาร ซึ่งสำหรับความคิดผมยังไม่เห็นความแตกต่าง

2. อันนี้ผมว่าคุณต้องเช็คมโนธรรมของตัวเองละ ผมรับไม่ได้มาก ๆ กับสิ่งที่คุณบอกว่าการทำงานบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่น

มันคือคอรัปชั่นชัดเจน!!!!


คิดแค่ว่าการเอาเงินหลวงไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปทำความสะอาดบ้านของนาย ไปเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเมียนาย มันโครตจะไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิ้นดี นี่ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันแบบนี้หรอ เค้าเป็นทหาร เค้าควรจะมีศักดิ์มีศรีมากกว่านี้ เค้าต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน เค้าไม่ใช่ไพร่หรือทาสนะเว่ย!!!!!

ถ้ายึดโมเดลที่คุณบอกว่าต้องการทหารสำรองไว้ ความจริงมีตั้งหลายวิธีที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว คุณก็กำหนดมาสิ 100,000 คนรับสมัคร อีกแสนคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร คุณก็อาสาให้มาฝึก 3 เดือน แล้วก็ปล่อยกลับแต่ไม่ปลดประจำการ คุณก็ประจำเอาไว้เลยว่าถ้าเกิดกองทัพเรียกก็ต้องรีบมารายงานตัวทันที อาจจะนัดฝึกรวมทุกเสาร์-อาทิตย์ และให้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย

มันก็ย่อมดีกว่าการเอาไปขัดส้วมบ้านนาย การที่ยกเงินเดือนให้จ่ากินเงินหลวงแล้วปล่อยกลับบ้านไปเปล่า ๆ หรือเปล่า

ผมจะไม่เถียงคุณอีกแล้ว ถ้าคุณมองว่าการเอาทหารไปรับใช้บ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นผมว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว


คือคนที่เป็นทหารทุกคนต้องไปอยู่บ้านนายต้องรับใช้นายไปเ้นเด็กเสิร์ฟทุกคนหรอครับ ไม่ใช่ว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะทำแบบนั้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย มากกว่าการอยู่ในกรมหรือครับ มันก็เหมือนการยัดเงินเอาตัวรอดแหละครับ ที่เขาทำแบบนั้นคือการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง อันนี้แล้วแต่คนมองละครับ ส่วนเรื่องฝึก 3 เดิอนแล้วปล่อยกับบ้านอันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ค่ายฝึก คือเขาไม่ได้ฝึกทุกวันหรอครับ ไม่ต้องสแตนบายรอรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอกเวลาหรอครับ ผมก็ยกเรื่องยามมากอีก มันคล้ายๆกันรึป่าวคือต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา  
 


ให้ภาพตอบละกันครับ ป่วยการจะพูดตรรกะคุณมันเพี้ยนตั้งแต่มองว่าเอาเข้าบ้านนายไม่ใช่คอรัปชั่นละ บุยยย



https://www.facebook.com/220967538411800/photos/a.222152298293324.1073741828.220967538411800/347738392401380/?type=3&theater  

ผมว่าผมก็คุยกันด้วยเหตุผลนะครับ แล้วก็เอาความเป็นจริงมาพูดด้วย แสดงความคิดเห็นด้วย แสดงความคิดเห็นในแง่ที่คุณคิดว่าจะทำแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ไม่ได้มีคำแขวะสักคำ แต่กลับมาเจอแบบนี้

 
 


ถ้าผมเข้าใจคุณผิดอันนี้ขออภัย เพราะผมรับไม่ได้กับตรรกะที่ว่าการเอาทหารรับใช้นายไม่ใช่คอรัปชั่น มันคือคอรัปชั่นที่ฝังรากลึก เอาเด็กประถมมาถามผมว่าเค้าก็ตอบได้ ผมถึงงงหลักการของคุณ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งนี้ไม่ใช่คอรัปชั่นก็อย่างที่บอก ผมว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยแล้ว

ผมพูดเรื่องการเพิ่มงบประมาณของ คสช ไปหลายทีแล้ว คุณกลับเงียบที่จะไม่พูดเรื่องนี้ จริง ๆ กระทู้นี้สรุปได้เสร็จสรรพว่า ถ้าเอางบประมาณที่คสช เพิ่มให้พิเศษกับกลาโหมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มาพัฒนาระบบเงินเดือนและสวัสดิการพลทหาร กองทัพจะไม่เดือดร้อนอะไรเลย ไม่ต้องเจียดเงินอะไรแบบที่คุณบอก เพราะงบประมาณก็ยังได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนก่อนรัฐประหาร เพียงแต่ไม่ได้งบพิเศษที่คสช มาเพิ่มให้ตั้ง 28,000 ล้านบาท อันนี้ชัดเจน

ผมสังเกตว่าเรื่องนี้คุณพยายามจะไม่พูดถึง


หลังจากนี้จะไม่ตอบจริง ๆ แล้วครับ ถ้าพูดจาไม่ดีก็ขออภัย ผมชอบนะคนเห็นต่าง ชอบโต้เถียง และยอมรับสิ่งที่คุณพูดได้ แต่บอกตรง ๆ ผมรับไม่ได้กับเรื่องคอรัปชั่น และสิ่งที่คุณพูดมันวางอยู่บนพื้นฐานของคอรัปชั่น แค่นี้ก็หมดประโยชน์จะ discuss แล้ว
 

คือผมมองว่าพูดสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงๆอะครับ การเอาตัวรอดไม่ว่าจะยัดเงินหรือให้เงินนายแล้วเอาไปอยู่บ้าน มันต้องแก้ที่ตัวบุคคลอะครับไม่ใช่ระบบเกณฑ์ทหาร ส่วนเรื่องเงินที่คุณบอกว่ารัฐเจียดเงินมา มันทำได้อะครับ แต่ที่ผมแย้งคุณไปเพราะผมคิดว่ามันไม่มีน้ำหนักพอ ที่จะทำให้เขายอมฟังได้ เหตุผลก็อย่างที่คุยกันก่อนหน้านี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Jan 2008
ตอบ: 686
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 07, 2018 07:50
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ?]
"เหตุการณ์ไม่คาดคิด" ประโยคคลาสสิค
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2495
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Apr 07, 2018 13:07
[RE: "พลทหารอาชีพ" ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ?]
ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้เค้าคือกฎหมาย

แต่ถ้าเค้าไม่ใช่กฎหมายเมื่อไหร่ รับรองเลย ชาติพัฒนาขึ้นอีกเยอะ

ประเด็นเรื่องถ้าเกิดสงคราม บอกเลย จำนวนพลทหารมากน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่เงิน

เอากำลังคนหาเงิน ไปดายหญ้า จะเอาเงินจากไหนมาป้องกันประเทศ

สมัยนี้เกิดสงครามคงจะเอาคนแบกปืนไปยึดประเทศอื่นครับ? เค้าเล่นอาวุธหนักๆกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel