Die Tomorrow
“หนังไม่ได้ต้องการจะบอกเราว่าให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เพียงแต่หนังพยายามจะบอกเราว่าความตายมันอยู่ใกล้เราจนเป็นเรื่องธรรมดาแค่นั้นเอง”
Die Tomorrow คือหนังที่เอาข่าว เอาเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาเล่า ย้ำถึงความธรรมดาของการตายแทบจะครั้งที่พูดได้ ผ่านบทสนทนาและสถานการณ์ที่ดูทั่วไปที่สุด ประหนึ่งว่าเราก็ใช้ชีวิตของเราไปเหมือนทุกวันนั่นแหละ คุยกันเหมือนทุกครั้งที่เจอหน้า จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่รู้ว่าตัวเองจะต้องตายเมื่อไหร่ ซึ่งหนังก็พยายามตั้งคำถามเหมือนกันว่า ระหว่างตายโดยที่รู้ล่วงหน้ากับตายโดยที่ไม่รู้ล่วงหน้า เราจะเลือกแบบไหน ?
ถ้าใครเคยดูหนังของเต๋อ และเข้าใจในสไตล์การนำเสนอของเต๋อ ก็จะเข้าใจและรับได้กับในแต่ละอย่างที่เป็นตัวแทนของการสื่อออกมา ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเล่าเรื่อง การเคลื่อนกล้อง การเลือกใช้ภาพ หรือแม้แต่เสียงประกอบต่าง ๆ ซึ่งสำหรับเรื่องอื่นยังไงไม่รู้ แต่สำหรับเรื่องนี้ เราว่ามันช่วยสร้างให้เกิดอารมณ์อึดอัดขึ้นมา และเป็นแบบนี้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
คือเราว่าวิธีการนำเสนอมันเหมาะมาก กับประเด็นที่ต้องการจะสื่อ มันคือการเล่นกับอารมณ์อีกขั้นนึงเหมือนกันนะ
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราก็เรื่องของความเป็นธรรมดา ความเป็นธรรมชาตินี่แหละ และนักแสดงก็เล่นเหมือนไม่ได้เล่นอ่ะ อันนี้ต้องชมการสร้างบทสนทนาของเต๋อที่ทำได้เนียนจริง ๆ เหมือนเพื่อนคุยกัน พี่น้องคุยกันทั่วไปเลย
สุดท้ายแล้วเราอยากบอกว่าถ้ารับได้กับสไตล์นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ก็ลองไปดู ไปลิ้มรสชาติหนังอีกแบบหนึ่งที่ไม่ค่อยเห็นในท้องตลาด ไปซึมซับความธรรมดาของความตาย คือคนจะตายก็ต้องตายอ่ะเนาะ ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องอยู่ต่อไป มันก็แค่นั้นเอง .