ความภาคภูมิใจ #ครั้งหนึ่งในชีวิต
#ครั้งหนึ่งในชีวิต
เมื่อวานนี้(จริงๆคือเมื่อคืนตอนตี 2) ผมได้มีโอกาสไปกราบสักการะพระบรมศพ ซึ่งถือเป็นวันรองสุดท้าย(วันที่ 4 ตุลาคม) ที่จะได้มีโอกาสเข้าไปกราบสักการะเป็นครั้งสุดท้าย
เริ่มจากขับรถไปจอดแล้วนั่งแท็กซี่ต่อไป พี่แท็กซี่ใจดีมากครับ เล่าให้ฟังตลอดทาง บอกตลอดว่าปริมาณคนเยอะมากนะ ทนไหวใช่มั้ย อะไรแบบนี้ ผมเลือกที่จะไปต่อแถวฝั่งโรงแรมรัตนโกสินทร์ครับ เมื่อไปถึงแยกคอกวัว หางแถวอยู่แยกคอกวัวพอดีครับ แต่เป็นหางแถวที่ปัดมาจากทางอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ถือเป็นความโชคดีนิดหน่อยครับ ที่ไม่เจอหางแถวยาวไปถึงสะพานผ่านฟ้า หรือภูเขาทอง หรือจะเป็นเสาชิงช้า (เมื่อตอนผมเสร็จพิธี เห็นพี่เค้าบอกหางแถวอยู่เสาชิงช้า)
ลงไปก็ไปต่อแถวยืนรอ ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่บอกให้ทำเป็นสองแถวครับ จะได้เดินกันง่ายๆ ไม่เบียดเสียดกันจนเกินไป เห็นแถวเดินได้เรื่อยๆก็อุ่นใจ คงไม่นานเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว จะได้กราบพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ที่เป็นที่รักของปวงชนชาวไทยแล้ว เสร็จแล้วเดี๋ยวก็กลับบ้านไปนอน (ในใจตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ)
แต่แล้ว .. แถวก็หยุดชะงักลงครับ ไม่ได้เกิดจากว่ามีใครป่วยหรืออะไรยังไง แต่มีสัญญาณไฟทำให้ต้องหยุดเดิน ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่เอ๊ะ ทำไมนานจัง เมื่อกี๊ยังเดินไวกันอยู่เลย พอมองไปด้านหน้า ครับ .. มีคนมาแทรกครับ อาศัยจังหวะช่วงเจ้าหน้าที่เผลอ เดินใส่เลย แต่ช่างเถอะ เรามาทำความดีัก็ปล่อยๆไป
พอข้ามแยกคอกวัวมาได้ เจ้าหน้าที่ให้แยกออกเป็น 4 แถวครับ แล้วก็ค่อยๆเดินไปตามคิวที่ได้เข้าลงทะเบียนครับ แต่ช่วงนั้นเป็นอะไรที่ต้องใช้ความทรหดอย่างมากจริงๆ เนื่องด้วยเป็นวันที่ 4 แล้ว คนเยอะมาก ใช้คำว่าเยอะมากนี่มากจริงๆนะครับ จากแยกคอกวัว ไปจนถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ ใช้เวลาไปร่วม 8 ชั่วโมง ระยะทางประมาณไม่น่าจะเกิน 500 เมตร ที่ลองคิดคำนวนดูนะครับ แต่แถวไม่ค่อยจะขยับ เวลาขยับก็ได้ทีละ 3-5 ก้าว แล้วก็ติดแหงกไปอีก 20-30 นาที บางครั้งขยับได้เยอะหน่อย แต่เวลาติดก็ติดนานเช่นกัน ยืนจนปวดหลังครับ (โชคดีหน่อยที่ไม่มีแดด ฝนมีพอลงมาให้เย็นสดชื่น มีลมพัดเบาๆตลอดเวลา) บางคนไม่ไหวก็มีครับ คนข้างๆผม(ผู้ชาย)เห็นบ่น ปวดขาจัง ขาสั่นไปหมดแล้ว ไม่ไหวแล้ว แล้วอีกซักประมาณ 20 นาที เค้าก็เดินออกจากแถวไปโบกแท็กซี่กลับบ้าน ตอนนั้นเดินอยู่ในแถวมาประมาณ 5-6 ชั่วโมงแล้วครับ ก่อนถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ ที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ มีไข่ต้ม เค้กกล้วยหอม น้ำเปล่า ข้าว มาแจกฟรีนะครับ สำหรับคนที่หิว รู้เลยว่าคนไทยรักกันจริงๆ ช่วงก่อนถึงโรงแรมนี่จุดพีคที่สุดผมคิดว่าคงเป็นช่วงที่หัวแถวแตกล่ะครับ จากที่เคยต่อมาเป็น 4 แถว แตกออกน่าจะประมาณ 15-16 แถวได้ เลยทำให้ช้าในช่วงนั้นครับ
พอถึงโรงแรม ได้เดินผ่านโรงแรมแล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ครับ จากที่ยืนจนปวดหลัง เมื่อยขา เหงื่อแตกเต็มหัวเพราะคนเบียดกัน อากาศแทบจะหายใจก็ไม่มี (ถ้าคนตัวเล็กไปแนะนำให้ยืนขอบๆครับ จะได้หายใจได้สะดวก) โอ้โห เดินกันเป็นม้าคึกเลยครับทีนี้ เดินจนหายปวดหลังเลยทีเดียว พอเข้าไปลงทะเบียนที่เต๊นท์ตรงพระแม่ธรณีบีบมวยผมแล้ว ก็จะมีน้ำดื่ม(เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง เพราะเย็นไม่ทัน)แจกครับ มีทั้งน้ำเปล่า แล้วก็เกลือแร่อย่าง Pocari Sweat แจกครับ การลงทะเบียนจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากนะครับ เตรียมบัตรประชาชนเพียงอย่างเดียวใช้ชูให้หน้ากล้องแค่นั้นครับ
พอมาถึงเต๊นท์ตรงจุดก่อนที่จะถึงพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว ตรงนั้นยังไม่มีเก้าอี้นะครับ เดิน+ยืนกันต่อไปอีกซักพักหนึ่ง จนถึงตรงจุดที่มีเก้าอี้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารเค้าจะให้หัวแถวแบ่งเป็น 4 แถวครับ เพื่อที่จะได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ได้ตามแถวอย่างเป็นระเบียบ ก็นั่งรอกันไปเรื่อยๆครับ การเข้าไปสักการะ ทางเจ้าหน้าที่จะแบ่งเป็นคิวครับ จากฝั่งโรมแรมรัตนโกสินทร์ 3 เต๊นท์ ฝั่งวงเวียน รด. อีก 2 เต๊น ไล่ไปตามคิวเรื่อยๆไม่มีการข้ามคิวครับ (เรื่องเส้นสายอันนี้ผมไม่รู้นะครับ ผมไม่ได้สนใจ) ของกินก็จะมีมาเรื่อยๆครับ ทั้งขนม ข้าว น้ำ ลูกอม อะไรประมาณนี้ ใครอยากเข้าห้องน้ำก็เดินไปเข้าได้ครับ ฝากคิวไว้กับคนข้างๆ (สำหรับคนที่ไปคนเดียว) จำหน้าเค้าให้ได้ก็พอครับ
เมื่อผ่านเต๊นท์ที่นั่งรอ ได้เดินเข้าพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วแล้ว จุดนี้สำคัญมากครับ การแต่งกายต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงสแล็ค ส่วนผู้หญิงก็กระโปรงเลยหัวเข่า เสื้อถ้าเป็นแขนกุดอนุญาตให้ใส่เสื้อคลุมได้ ชุดนักศึกษาได้ แต่ที่ห้ามเลยคือ ยีนส์ครับ ต่อให้เป็น ยีนส์สีดำก็โดนห้ามนะครับ ต้องไปเปลี่ยนครับ (อันนี้ผมได้ยินเจ้าหน้าที่เค้าบอกมานะครับ) เมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่แจกถุงดำให้เก็บรองเท้า แล้วให้เดินเข้าไปนั่ง เข้าไปกราบสักการะ ทางเจ้าหน้าที่จะมีจังหวะบอกให้ พนมมือ ก้มกราบ อะไรแบบนี้นะครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่พร้อมคนอื่นหรืออะไรยังไง (เวลานั่ง ให้นั่งพับเพียบ เก็บปลายเท้า กราบ 1 ครั้งแบบไม่แบบมือนะครับ)
มาถึงช่วงสุดท้าย เมื่อกราบพระบรมศพเสร็จแล้ว ให้เดินออกมา นำถุงดำที่ใส่รองเท้ามาคืน แล้วเดินออกครับ จุดนี้สำคัญนิดนึงครับ เพราะจริงๆแล้ว แถวจะไม่ติดขัดเลย ถ้าเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เค้าห้ามแวะถ่ายรูปกับทหารที่ยืนประจำการอยู่นะครับ บางคนไปยืนถ่ายรูป คนข้างหลังก็รอ ร๊อ รอ (จนเจ้าหน้าที่เดินมาต่อว่า ทางประชาชนยังอุตส่าห์ไปต่อว่าเจ้าหน้าที่กลับอีกว่า แค่ถ่ายแค่นี้ไม่ได้เหรอ อะไรทำนองนี้) ก็เมื่อเดินออกมาจากถึงประตูทางออก จากมีข้าวมีน้ำแจกให้รับประทานกันนะครับ ส่วนเรื่องของชำร่วย ได้รับมาตลอดทางเดินออกมาอยู่แล้ว
เบ็ดเสร็จแล้ว ผมใช้เวลาไปทั้งสิ้น 11 ชั่วโมง 30 กว่านาทีครับ เหนื่อยครับ เมื่อยครับ ล้ามากครับ แต่ความรู้สึกเหล่านี้ทั้งหมดมันหายไปครับ เมื่อได้นั่งอยู่ต่อหน้าพระบรมโกศ มันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ "คิดถึงจับใจ" ครับ ความรู้สึกนี้เคยเกิดกับตัวผมเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ "พ่อผู้ให้กำเนิด" ได้จากไป แต่ครั้งนี้กลับมาอีกครั้ง กับ "พ่อผู้ให้แผ่นดินอยู่" ครับ
นี่คือความภาคภูมิใจอย่างแท้จริง ชั่วลูกชั่วหลานครับ
เหลือเวลาอีก 24 ชั่วโมง 25 นาที (ณ เวลาที่ผมพิมพ์นี้ 23.35 น.) ครับ ใครคิดว่าอยากจะไป ไปเถอะครับ ผมเชื่อเลยว่า รอนานแค่ไหน เมื่อได้เข้าไปกราบสักการะแล้ว คำว่ารอ จะกลายเป็นความภาคภูมิใจอย่างแน่นอนครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ