เป็นการต้อนรับกลับบ้านมาของเจ้าหนูแมงมุมได้ดีมากกกกก หนังอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่ก็สนุกมาก สนุกทั้งเรื่อง เดี๋ยวมีอันนั้นอันนี้ให้ลุ้นตลอด ตัวละครแต่ละตัวก็ดีมาก เป็นการเริ่มต้นกับบ้านหลังใหม่ของเจ้าหนูแมงมุมที่ดีมาก ๆ เลย

Spider-Man Homecoming ถือเป็นสไปเดอร์แมนภาคที่วัยรุ่นสุด ๆ ไม่ต้องอยู่ในช่วงก้ำกึ่งใด ๆ ทั้งสิ้น คือเป็นเด็กก็คือเด็กเลย ฉะนั้นรสชาติของหนังมันจึงออกมาสไตล์วัยรุ่นใส ๆ มาก ความคิด มุมมองอะไรต่าง ๆ ของปีเตอร์ก็จะดูเด็กมาก กลยุทธ์การต่อสู้อะไรต่าง ๆ ก็จะดูไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยมีชั้นเชิงเท่าไหร่ ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องดีมาก ทำให้มันดูไม่เวอร์จนเกินไป

หนังเล่าเรื่องสนุกมาก ผสมผสานส่วนต่าง ๆ ในเรื่องได้อย่างลงตัว เรื่องดำเนินเร็ว กระชับ และดูง่าย ไม่งง คือถ้าไม่ได้ตามหนังเรื่องสไปเดอร์แมนมาก่อนยังไงก็ดูรู้เรื่องแน่นอน ที่ชอบคือหนังไม่ต้องพยายามปูเรื่องเยอะ คือมีอะไรก็ใส่เข้ามาเลย แล้วก็ค่อย ๆ สอดแทรกอะไรที่เราควรรู้เข้าไป เนื้อเรื่องก็มีอะไรให้ติดตามตลอด เดี๋ยวมีปัญหานั้น ปัญหานี้ เราได้เห็นการเริ่มต้นและเติบโตของปีเตอร์อย่างแท้จริง

หนังซ่อนเซอร์ไพรส์ไว้เยอะเหมือนกันทั้งในเรื่องของตัวละคร สิ่งของอื่น ๆ หรืออะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้จริง ๆ รวมถึงมีการจิกกัดหนังเรื่องอื่นอย่างจงใจ โดยเฉพาะซูเปอร์ฮีโร่ของอีกค่ายอยู่ด้วย บอกเลยว่าแสบอยู่เหมือนกัน อยากรู้ว่าเป็นอะไรต้องดูเอง

พวกตัวละครอะไรต่าง ๆ ก็ดีหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกอย่างปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ที่มีคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำอีกคนหนึ่ง, ตัวร้ายอย่างวัลเจอร์ก็ดูดิบ ดูจริง ดูไม่เวอร์จนเกินไปอันนี้ชอบมาก, โทนี่ สตาร์กที่อาจจะดูน่ารำคาญในช่วงโปรโมต ก็เข้ามาเป็นส่วนเติมให้ปีเตอร์ได้ดี เช่นเดียวกับ “เน็ด” เพื่อนซี้ของปีเตอร์ที่ก็ไม่ได้มาแค่ตลกอย่างเดียว ส่วนป้าเมย์นั้นแทบไม่มีส่วนอะไรกับเรื่องเลยนอกจากมาเพื่อเซ็กซี่เกินวัยอย่างเดียว

ช่วงท้ายของหนังคือพีคมาก เป็นอะไรที่ลุ้นแบบสุด ฉากต่อสู้ว่าลุ้นแล้ว ฉากสุดท้ายลุ้นกว่าเยอะะะะะะ คันปากอยากพูดมากแต่บอกไม่ได้จริง ๆ ฉากหลังเครดิตก็เซอร์ไพรส์มาก มี 2 ตัวนะ อย่าลืมดูกันด้วย


สรุปแล้วสำหรับเราถือเป็นสไปเดอร์แมนอีกเวอร์ชั่นที่ดีมาก ๆ ไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับภาคก่อน ๆ เพราะมันดีคนละแบบอยู่แล้ว จุดบอดของหนังถ้าตั้งใจดูแบบจับผิดมันก็พอมีอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยถ้าเทียบกับความสนุกของเรื่อง หนังมีหลายอย่างให้น่าจดจำและเราก็ชอบหลาย ๆ อย่างที่หนังใส่เข้ามา หนังอาจไม่ได้สนุกแบบสนุกที่สุด แต่มันสนุกแบบพอดีแล้วสำหรับการกลับมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้ .


ฝากติดตามผลงานในเพจด้วยนะครับ

งงว่าทำไม สไปดี้ มันกากจัง ทั้งๆที่ตอน Civil war คนเดียวยังสู้ บัคกี้ กับ แซมไหวเลย

ผมรำคาญ เน็ด เพื่อนพระเอกมากๆ

แต่โดยรวมก็สนุกดี ไม่ได้แย่

สนุกครับดูเพลินจริง ชอบวัลเจ้อร์ตัวร้ายภาคนี้เหมือนกัน ไมเคิล คีตัน แสดงดีครับ เจ้าทอม ก็ไม่ธรรมดาเลย

ไม่รู้ว่าคำพูดจากติ่งสไปดี้อย่างผมจะพอมีน้ำหนักไหม

แต่บอกเลยว่าโคตรดี ถ้าไม่ติดข้อเสียของหนังที่ไม่มีซีนแบบให้ว้าวแล้วเป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้น่าจดจำ
(อย่างเช่นแบบฉากหยุดรถไฟในภาคสองของไตรภาคที่โทบี้ แมคไกวแสดง)
จะให้ 10เต็ม10เลย


ยังไงก็แนะนำให้ไปดู เป็นการกลับมาและหยิบสไปดี้โดดเข้าไปใน MCU ได้อย่างลงตัว
เล่าเรื่องได้ดี ตัวร้ายไม่กาก ฉลาดเก่ง มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป
การเล่าเรื่องเป็นการปูทางในแบบมาร์เวลที่ค่อยๆให้ตัวละครเติบโตไปตามเรื่องตามกาลเวลาใน MCU
ขนาดโทนี่ สตาร์ค ยังรู้สึกโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมจากหนังเดี่ยวของตัวเองในภาคแรกมากๆเลย
และก็ไม่ได้มาอยู่ในเรื่องนี้จนแย่งซีนสไปดี้ไปซะหมดอย่างแน่นอน

ชอบมาก แต่รุ้สึกไม่สุดเหมือนกัน
เหมือนฉากบู๊ ฉากว้าว ไม่ค่อยมี

ดีสุดในเรื่องคือ

ใช่เลยคิดเหมือนกัน . สู้บัคกี้ได้ก็โคตรแจ่มแมว พอมาเจอพวกตัวร้ายภาคนี้
แม่งอ่อนกว่าบัคกี้ด้วยซ้ำนะ แต่สู้กันดูทรงไม่ไหวเล้ยยย