Jesus Vallejo, 19 (แฟรงเฟิร์ต, ยืมตัวจาก เรอัล มาดริด)
ปีที่แล้ว “ราชันชุดขาว” ส่ง วัลเรโจ่ ไปให้ เรอัล ซาราโกซ่า ยืมตัว ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุแค่ 18 ปี ทว่า ปราการหลังทีมชาติสเปนชุดเยาวชน กลับได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมของสโมสร เนื่องจากความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
วัลเรโจ่ เกิดมาเพื่อเป็นกัปตันอย่างแท้จริง โดยเขายังครองตำแหน่งกัปตันทีมชุดแชมป์ยุโรปชุดอายุต่ำกว่ำ 19 ปีของทัพกระทิงดุ เมื่อปี 2015 อีกด้วย
หลายคนขนานนาม วัลเรโจ่ ว่า จะเป็น “เคราร์ด ปีเก้ คนใหม่” โดยจุดเด่นของ ดาวเตะวัย 19 ปี คือ ความนิ่ง สุขุม ใจเย็น พาบอลขึ้นหน้าได้ดีและช่วยทีมตั้งเกมรุกได้อีกด้วย
นอกจากนี้ วัลเรโจ่ ยังสามารถโยกไปเล่นเป็นฟลูแบ็คได้ เพราะเขามีความเร็วที่ยอดเยี่ยม หรือจะเป็น กองกลางตัวรับ ก็ทำได้ดีได้เช่นกัน
และนี่คืออนาคตใหม่ของทีมชาติสเปนอย่างแท้จริง
Thiago Maia, 19 (ซานโตส)
หลังจากที่เพื่อนสนิทของเขาอย่าง มาร์ควินญอส แห่ง เปแอสเช แนะนำให้ มาเอีย เซ็นสัญญาเข้าไปเป็นนักเตะในสังกัดของเอเยนต์อย่าง จูเลียโน่ เบอร์โตลุชชี่ เมื่อปีที่แล้ว ทำให้โอกาสที่ ดาวเตะทีมชาติบราซิลชุดโอลิมปิก จะย้ายมาค้าแข้งในยุโรปก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะกับ เชลซี
และเราบอกได้เลยว่า หาก “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้ตัวเขาไปจริงๆ รับรองว่า ดีลนี้จะมีแต่ความคุ้ม เพราะว่า ผลงานของ มิดฟิลด์ตัวรับคนนี้ นั้นน่าประทับใจมาโดยตลอด
จุดเด่นของ มาเอีย คือ ความแข็งแกร่งและการจ่ายบอลที่ดี นอกจากนี้ ยังคุมบอลและเลี้ยงบอลได้เก่งตามสไตล์นักเตะแซมบ้าอีกด้วย
Malcom, 19 (บอร์กโดซ์)
ปีกเลือดแซมบ้า ย้ายสู่ฝรั่งเศสเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่ง มัลคอม ใช้เวลาปรับตัวสักพัก ก่อนโชว์ฟอร์มเก่งออกมาในตอนนี้
โดยแม้ ดาวเตะวัย 19 ปี ถูกจับเล่นเป็นปีกขวาซะส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้ใช้เท้าซ้ายลากตัดเข้าในได้ถนัด จุดเด่นของ มัลคอม คือ ความเร็วและวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล
นอกจากนี้ ลูกนิ่งก็สามารถไว้ใจเขาได้ โดยเกมเปิดซีซั่นนี้ มัลคอม ยิงฟรีคิกสุดสวยให้ทีม ซึ่งนั่นคือ 1 ใน 3 ลูกที่ อดีตแข้งโครินเธียนส์ ทำได้ในฤดูกาลนี้
Santi Mina, 20 (บาเลนเซีย)
หลังจากที่เริ่มสร้างชื่อกับ เซลต้า บีโก้ จนทำให้ บาเลนเซีย ทุ่มเงินถึง 10 ล้านยูโร เพื่อคว้าเขาไปร่วมทีม
จุดเด่นของ มีน่า คือ การเคลื่อนที่ในกรอบเขตโทษที่ชาญฉลาด การวิ่งทำทางที่ได้ประโยชน์ หรือจะเป็นการแอบฉีกไปเล่นริมเส้นและตัดเข้าใน โดยคนที่เขาคล้ายมากที่สุดน่าจะเป็น หลุยส์ ซัวเรส นั่นเอง
โดยซีซั่นนี้ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ของ มีน่า เพราะว่า ตอนนี้ทีมเพิ่งขาย ปาโก้ อัลกาเซร์ ออกไป ทำให้ ดาวยิงชาวสเปน น่าจะได้ลงสนามมากขึ้นแน่นอน
Kylian Mbappa, 17 (โมนาโก)
เอ็มบาปเป้ เคยตกเป็นข่าวกับหลายทีมดังทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล, บาเยิร์น มิวนิค หรือกระทั่ง เรอัล มาดริด มาแล้ว
หัวหอกวัย 17 ปีลงสนามประเดิมสนามให้ทีมตั้งแต่ตุลาคม ปีที่แล้ว โดย เอ็มบาปเป้ ยิงในเกมเปิดตัวได้ทันทีในเกม ยูโรป้า ลีก ที่ โมนาโก พบกับทีมดังอย่าง สเปอร์ส ซึ่งประตูนั้นทำให้ ดาวยิงวัยรุ่น ทำลายสถิติตลอดกาลของ เธียร์รี่ อองรี ในการเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูแรกได้
อีกทั้งยังตอกย้ำพรสวรรค์ด้วยการพายิงคนเดียว 5 ลูกจนช่วยให้ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ยุโรป รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปีเมื่อช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมา โดยสไตล์ของ ดาวยิงวัยรุ่น นั้นคล้ายกับ คิงส์ลีย์ โคมอง นั่นคือมีความเร็วสูง สามารถถ่างออกไปเล่นด้านข้างได้ หรือถอยลงต่ำเป็นปีกก็เยี่ยม ทั้งยังชอบเลี้ยงตัดเข้าในและใช้เท้าขวาในการทะลวงตาข่ายคู่แข่งจากระยะไกล พรสวรรค์ของ เอ็มบาปเป้ คือ การเลี้ยงบอลที่เชื่องเท้า และไม่เคยกลัวที่จะเลี้ยงฝ่าคู่แข่งที่มาหลายคนอีกด้วย และแม้จะถนัดเท้าขวา แต่ ดาวเตะผิวสี ก็ยิงได้ดีทั้งสองเท้า ที่สำคัญที่สุดคือ คมมากอีกด้วย
Goncalo Guedes, 19 (ปารีสฯ)
อคาเดมี่ของ เบนฟิก้า ได้นำเสนอ เรนาโต้ ซานเชส ขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว มาในปีนี้ กูเอดาส คือ รายต่อไปที่จะได้รับการจับตามองจากยักษ์ทั่วยุโรป
โดย ปีกชาวโปรตุกีส ประเดิมสนามตั้งแต่วัยเพียง 17 ปี ก่อนจะมาสร้างด้วยการยิงประตูชัยในเกมพบ แอตฯ มาดริด ในศึกยูซีแอลเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยสรุปแล้ว ฤดูกาลนั้น กูเอดาส ลงสนามไป 31 เกม และยิงไป 4 ประตู
มาในปีนี้ ดาวเตะที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นไปอีก ทั้งในลีกและยุโรป โดยล่าสุด กูเอดาส เพิ่งยิงประตูใส่ นาโปลี มา พร้อมกับตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว
Enes Ünal, 19 (ทเวนเต้, ยืมตัวจาก แมนฯ ซิตี้)
จนถึงตรงนี้ถือว่า ดาวรุ่งชาวตุรกี ทำผลงานได้ดีในฮอลแลนด์ โดย อูนัล ยิงไป 7 ประตูจากทุกรายการ
อันที่จริง ดาวเตะวัย 19 ปี ดังมาตั้งแต่อยู่กับ บูร์ซาสปอร์ ก่อนจะโดน “เรือใบสีฟ้า” ซื้อไปในปี 2015 จากนั้น เขาส่งไปยืมตัวที่ เกงค์ 2 ปี ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เมื่อทีมดังแห่งเบลเยี่ยมขอยกเลิกสัญญา หลังจากลงเล่นไปเพียง 12 เกมลีกเท่านั้น ต่อมา อูนัล ย้ายไปอยู่กับ เอ็นเอซี เบรด้า แทน
สไตล์การเล่นของ หัวหอกเลือดเติร์ก ถูกยกย่องว่ามีลีลาคล้ายคลึงกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่ง เป๊ป คงหวังว่า เจ้าตัวจะเอาแค่ฝีเท้าเช่นนั้น แต่ไม่ก๊อปปี้นิสัยของ อดีตศิษย์รายนั้น มาแน่นอน
Maxwel Cornet, 19 (ลียง)
ผลผลิตจากอคาเดมี่ เม็ตซ์ ก่อนถูกลียงคว้าตัวไปเมื่อปี 2015 และไม่เคยมองกลับหลังอีกเลยนับตั้งแต่นั้น โดยดาวรุ่งวัย 19 ปีได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นหนึ่ง หลังจากที่ได้ลงเล่นเพียงหยิบมือเมื่อซีซั่นก่อน ซึ่งหลายๆ คนมองว่าเขาจะเป็นทายาทของ อเล็กซานเดอร์ ลากาแซ็ตต์ ไปแล้วในตอนนี้
กอร์เน่ต์ มีสเต็ปเท้าอันว่องไวในการเลี้ยงตัดเข้าใน นอกจากนี้ยังมีความนิ่งในการยิงประตูสำคัญๆ รวมถึงความแข็งแกร่งและความรวดเร็วเป็นจุดขายอีกด้วย อีกทั้งยังเติบโตขึ้นกว่านี้ได้อีกเยอะ
Riechedly Bazoer, 19 (โวล์ฟบวร์ก)
ถ้าฟอร์มของ บาซอร์ ไม่ตกลงจากต้นปีที่ผ่านมา อันดับของเขาคงไปติดท็อปเทนได้สบายๆ โดยก่อนหน้านี้ เขาเป็นเด็กโปรดของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ ทว่าหลังจากที่ ปีเจอร์ โบซ เข้ามาคุมทีมนั้น โอกาสของ บาซอร์ ก็น้อยลงไป
โดยสไตล์การเล่นของ ดาวรุ่งวัย 19 ปี คือ กองกลางฉบับบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า บาซอร์ มีโอกาสไปถึงระดับโลกได้เหมือนกัน
อดีตเด็กฝึกพีเอสวี เก่งในเรื่องของการผ่านบอล ทั้งยังสามารถยิงประตูได้ดีอีกด้วย โดยตอนนี้มีข่าวว่า เดอ บัวร์ สนใจดึงศิษย์รักไปร่วมงานกันที่ อินเตอร์ มิลาน แล้ว
Mikel Oyarzabal, 19 (เรอัล โซเซียดาด)
ที่ เรอัล โซเซียดาด นั้น พวกเขารอคอยดาวรุ่งความหวังใหม่มาแสนนาน โดยนับตั้งแต่ อองตวน กรีซมันน์ ลาทีมไป ก็ไม่มีใครขึ้นมาได้อีกเลย จนกระทั่ง โอยาร์ซาบาล ลงสนามนั่นแหละ
ดาวเตะวัย 19 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักหลังเป็นคนยิงประตูชัยใส่ บาร์เซโลน่า เมื่อซีซั่นที่แล้ว และยังโชว์ฟอร์มโหดต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ โดยถึงตรงนี้ โอยาร์ซาบาล จ่ายไป 3 แอสซิสต์จาก 7 เกมลีกล่าสุด
และเชื่อว่าอีกไม่นาน เขาจะเดินตามรอย กรีซมันน์, ซาบี้ อลอนโซ่ และ มิเกล อาร์เตต้า เพื่อความภาคภูมิใจของชาวโซเซียดาดได้แน่ๆ
Lucas Hernández, 20 (แอตฯมาดริด)
กองหลังชาวฝรั่งเศส สามารถเล่นได้ทั้งแบ็คซ้ายและเซนเตอร์แบ็ค ทั้งยังเป็นนักเตะที่ชอบเล่นเกมใหญ่ด้วย
จุดเด่นของ เอร์นานเดซ คือ ความแข็งแกร่ง ลูกกลางอากาศ และไม่เคยกลัวเจ็บ นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 20 ปี ยังมีความเร็วและพลังที่จะหยุดคู่แข่งได้เสมอ
ซึ่งลองคิดดูละกันว่า เอร์นานเดซ เก่งแค่ไหน เพราะหากไม่เทพจริง กุนซืออย่าง ดีเอโก้ ซิโมเอเน่ คงไม่ส่งเขาเลยด้วยวัยแค่นี้แน่นอน
Santiago Ascacibar, 19 (เอสตูเดียนเตส ลา พลาต้า)
ว่ากันว่านี่คือ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ คนใหม่เลยทีเดียว
โดยสิ่งทั้งสองเหมือนกันคือรูปร่างที่เล็ก แต่แฝงไปด้วยความดุและเลือดนักสู้ที่พร้อมจะวิ่งไล่ตัดเกมคู่แข่งตลอดเวลา เช่นเดียวกับ ชีวิตนอกสนามที่มีสไตล์คล้ายๆกัน
กองกลางวัย 19 ปี มีไอดอล คือ มาสเคราโน่ และ มาเทียส เครนวิทเทอร์ จาก แอตฯมาดริด โดยปัจจุบัน แอสคาคิบาร์ ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ไม่มีรถ และยังเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย
“น่าเสียดายที่ แอสคาคิบาร์ คงไม่ได้อยู่กับเรานานแน่ๆ” เนลสัน วิวาส อดีตผู้ช่วยของ ดีเอโก้ ซิโมเอเน่ ที่กำลังคุม เอสตูเดียนเตส กล่าว “ครั้งล่าสุดที่ผมดินเนอร์กับ เอล โชโล่ เขาถามผมถึง แอสคาคิบาร์ แล้ว”
อีกไม่นานคงได้เจอกันที่ มาดริด
Jean Kevin Augustin, 19 (ปารีส แซงต์แชร์กแมง)
เขาอาจจะไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอที่ใจต้องการ ทว่าไม่มีใครสงสัยว่า นี่คืออนาคตใหม่ของเปแอสเชและทีมชาติฝรั่งเศสอย่างแท้จริง
ออกุสติน คว้าตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลยูโร รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปีเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาได้ โดย เขายิงไปถึง 6 ประตู
จุดเด่นของ ดาวยิงเชื้อสายฮาติ คือ ความเร็วและลูกยิงอันทรงพลัง โดย ออกุสติน มักจะเลี้ยงตัดเข้าในและซัดประตูตามสไตล์นักเตะสมัยใหม่
นอกจากนี้ กองหน้าดาวรุ่งที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2009 ยังพัฒนาในเรื่องกล้ามเนื้อและรูปร่างอยู่ ซึ่งเมื่อถึงเวลา ออกุสติน จะก้าวสู่ระดับโลกแน่นอน
Emre Mor, 19 (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ชื่อของ มอร์ เริ่มเป็นที่รู้จักเรื่อยๆในโลกลูกหนัง หลังจากที่เขาทำผลงานกับ “เสือเหลือง” ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
โดยจุดเด่นของ ดาวเตะลูกครึ่งตุรกี-นอร์เวย์ คือ การเลื้อยผ่านคู่แข่ง ที่ซีซั่นนี้ เขาทำสถิติเลี้ยงผ่านได้ถึง 61% ซึ่งถือว่าสูงมากๆ
อย่างไรก็ตาม หลายครั้งที่แฟนๆและผู้จัดการทีมรู้สึกว่า มอร์ เล่นมากจนเกินไป เช่นเดียวกับ การจ่ายบอลที่ยังไม่ดีเท่าไร ดังนั้น เมื่อลีลาได้แล้ว ชั้นเชิงก็ต้องพัฒนาตามไปด้วย ซึ่ง มอร์ กำลังพยายามอยู่
Breel Embolo, 19 (ชาลเก้)
เจ้าของฉายา “นิวบาโลเตลี่” มีทุกอย่างที่กองหน้าควรมี ไม่ว่าจะเป็น พลัง ความเร็ว ยิงแรง ซึ่งนั่นทำให้ เอ็มโบโล โด่งดังตั้งแต่สมัยอยู่กับ บาเซิ่ล แล้ว โดยที่ สวิสฯ เขามีค่าเฉลี่ย ยิง 1 ลูก ทุกๆ 3 เกม และ จ่าย 1 แอสซิสต์ จากราวๆ 4 เกม
นั่นคือเหตุผลที่ “ราชันสีน้ำเงิน” ยอมจ่ายเงิน 20 ล้านยูโรเพื่อซื้อตัวเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ เอ็มโบโล ไม่สามาถโชว์ฟอร์มได้ดีในยูโร 2016 ต่อเนื่องมาจนถึงผลงานกับต้นสังกัดที่ยังไม่เข้าตามากนัก ซึ่งส่งผลให้ ชาลเก้ ทำผลงานได้ไม่ดีในช่องออกสตาร์ท
ทว่า สัญญาณทั้งหมดเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ ดาวยิงจากแดนนาฬิกา ยิง 2 ประตูใส่ มึนเช่นกลัดบัค ได้ ซึ่งนี่คือเรื่องที่ดีและต้องติดตามต่อไปว่า ชีวิตในเยอรมันของ เอ็มโบโล จะเป็นอย่างไร
Jairo Riedewald, 20 (อาแจกซ์ฯ)
กองหลังวัย 20 ปี เป็นหนึ่งในผลผลิตที่ภาคภูมิใจต่อจากบรรดาปราการหลังรุ่นพี่อย่าง แยน แฟร์ตองเกน และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ โดยจุดเด่นของพวกเขา คือ การเล่นบอลบนพื้นและผ่านบอลที่ยอดเยี่ยม
โดยแม้ว่า รีเดวัลด์ อาจจะไม่ใช่เซนเตอร์แบ็คประเภทสูงใหญ่หรือแข็งแกร่งพร้อมชน แต่ว่า ดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์ มีข้อดีคือ อ่านเกมขาด พร้อมกับสามารถเล่นเป็น สต็อปเปอร์ หรือ มิดฟิลด์ ได้ด้วย
ซึ่งเขายังมีเวลาอีกเยอะในการพัฒนาตัวเองเพื่อสู่กองหลังระดับโลก
Andreas Christensen, 20 (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, ยืมตัวจาก เชลซี)
บ่อยครั้งที่ คริสเตนเซ่น ถูกจับไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่อย่าง จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งการเล่นบอลบนพื้นของทั้งคู่ มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยจุดเด่นของ กองหลังเลือดเดนส์ คือ การจ่ายบอลที่แม่นยำ
ทว่าที่น่าประหลาดใจ คือ ด้วยความสูงถึง 6 ฟุต 2 นิ้ว แต่ คริสเตนเซ่น กลับไม่เก่งเรื่องลูกกลางอากาศเท่าไร ซึ่งหากเขาพัฒนาในจุดนี้ได้ รับรองว่า ดาวเตะวัย 20 ปีจะครบเครื่องมากกว่านี้ไปอีก
ที่น่าติดตามคือ อนาคตหลังจากนี้ต่างหาก คริสเตนเซ่น จะได้กลับไปช่วย เชลซี หรือไม่? หรือว่า ปลายทางของเขาจะเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆที่ต้องย้ายทีมถาวรกันแน่?
Andre Silva, 20 (ปอร์โต้)
นี่คือความหวังใหม่ของทีมชาติโปรตุเกสที่ปราศจากกองหน้าอาชีพระดับท็อปมาหลายปี
จุดเด่นของ ซิลวา คือ แข็งแกร่ง ทักษะดี และจมูกไวในกรอบเขตโทษสุดๆ โดยก่อนหน้านี้ ดาวยิงฝอยทอง สร้างชื่อกับทีมบีของ ปอร์โต้ ก่อนถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และทำผลงานได้ใช้ได้เรื่อยมาจนถึงตอนนี้
ในซีซั่นนี้ ซิลวา ยิงไปแล้ว 6 ลูกจาก 11 เกม จนตกเป็นข่าวกับ อาร์เซนอล อย่างต่อเนื่อง
และเสื้อเบอร์ 9 ของโปรตุเกสน่าจะถูกเติมเต็มด้วยเขาคนนี้นี่แหละ
Alex Iwobi, 20 (อาร์เซนอล)
ชื่อของ อิโวบี เป็นที่รู้จักของแฟนบอลหลายคนอยู่แล้ว
ด้วยวัยเพียง 20 ปี ทว่า ดาวเตะทีมชาติไนจีเรีย กลับติดทีมชุดใหญ่ของ “ปืนใหญ่” และยังได้ลงสนามต่อเนื่อง โดย อิโวบี ถูกคาดหวังจะเป็นผลผลิตของอคาเดมี่คนต่อไปที่จะขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่อย่างถาวร
“ครั้งแรกที่คุณมองเขา คุณจะไม่รู้สึกถึงความพิเศษอะไรเลย” อาร์แซน เวนเกอร์ กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว “แต่เมื่อคุณมองลึกลงไป จะเจอว่า เขาต่อเข้าขาพวกผู้เล่นระดับสูงได้ง่ายมากๆ ทั้งยังมีความเร็วสูงด้วย นั่นจึงทำให้ผมคิดว่าเขากำลังเก่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่า มีงานหนักอีกเยอะรอเขาอยู่ แต่เขาสามารถพัฒนาไปสู่ระดับท็อปได้แน่นอน”
Jonathan Tah, 20 (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
ด้วยวัยแค่ 20 ปี แต่ ทาห์ กำลังเข้าสู่หลักไมล์ 100 เกมของการลงสนามในลีกฟุตบอลอาชีพแล้ว(ตอนนี้ประมาณ 3 ใน 4 ของทั้งหมด)
ทั้งยังติดทีมชาติเยอรมันชุดลุยทำศึกใหญ่อย่างยูโร 2016 ด้วย(แม้จะไม่ได้ลงสนามเลยก็ตาม) แต่ทั้งหมดหมายความว่า โยกี้ เลิฟ ต้องหลงในตัวเด็กหนุ่มคนนี้แน่นอน
จุดเด่นของ ทาห์ คือ สูง ใหญ่ และแข็งแกร่ง ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นกองหลังประเภทตัวชนและเก็บกวาดคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนว่า ยังมีอีกหลายจุดที่ ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน ต้องพัฒนาต่อไป แต่เชื่อเหลือเกินว่า นี่คืออนาคตใหม่ของทีม “อินทรีเหล็ก” ไปอีกหลายปีเลย…
Mahmoud Dahoud, 20 (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค)
ดาวเตะที่เกิดในซีเรีย ตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล ตลอดซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยหลายคนยกย่องว่า เขาจะเป็นกองกลางบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ที่ดีที่สุดในโลกได้เลย
ดาฮูด แย่งบอลได้เก่งมาก ทั้งยังมีทีเด็ดจากลูกยิงไกล เช่นเดียวกับการสร้างสรรค์เกมที่ทำได้ไม่เลว ซึ่งผลงานในเกมกับ บาร์เซโลน่า ที่ผ่านมานั้น ตอบเหตุผลที่ว่าทำไม “หงส์แดง” ถึงอยากได้เขาเหลือเกินได้ดีที่สุด
และแน่นอนว่า ก้าวย่างของ ดาฮูด ยังไม่จบแค่นี้แน่…
Ante Ćorić, 19 (ดินาโม ซาเกร็บ)
แฟนบอลโครเอเชียต่างคาดหวังว่ากองกลางดาวรุ่งผู้นี้จะกลายเป็น “นิวโมดริช” ซึ่งจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาของนักเตะนั้นมีความเป็นไปได้พอสมควรเลยทีเดียว คอริคเป็นมิดฟิลด์จอมปั้นเกมที่มีลูกจ่ายอันแม่นยำเป็นอาวุธ จนถูกยกไปเปรียบกับกองกลางซูเปอร์สตาร์ของเรอัล มาดริด
คอริคมีบาร์เซโลนาเป็นทีมในดวงใจ แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำตามความต้องการ คอริคคงต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ ดินาโม ซาเกร็บ ต่อไปก่อน เขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่าสุดท้ายไม่มีการเจรจาอย่างเป็นจริงเป็นจังเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เจ้าตัวเคยปฏิเสธบิ๊กทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มาแล้ว หลังมีโอกาสไปร่วมทดสอบฝีเท้ากับทีมเสือใต้ พร้อมสร้างสถิติเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้คะแนนเต็มจากบททดสอบทุกรูปแบบ เขาทำผลงานได้อย่างสุดยอดมากแม้สุดท้ายไม่ย้ายไปค้าแข้งที่นั่น
คอริคประเดิมสนามกับซาเกร็บตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี และกลายเป็นส่วนสำคัญของทีมทันที แต่ด้วยรูปร่างที่เล็กและบางทำให้เขามักยืนระยะไม่ถึงตอนจบเกม จนเป็นเหตุให้เขาตัวไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมยุโรปในฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นหากเขาต้องการก้าวเป็นนักเตะชั้นยอดในอนาคต เขาจำเป็นต้องหาทางเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งกว่านี้ คอริคมีชื่อติดทีพตราหมากรุกชุดลุยศึกยูโร 2016 ที่ผ่านมาด้วย เพียงแต่ไม่มีโอกาสลงสัมผัสเกม หวังว่าเขาจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าต่อไป
Tin Jedvaj, 20 (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
หลังจากทีมเสีย ดาเนียล การ์บาฆัล กองหลังตัวเก่งที่ย้ายกลับไปเล่นกับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2014 ทัพ“ห้างยา”จึงต้องเร่งหาคนมาทำหน้าที่แทน แต่ ทิน เยดวาย ที่ย้ายมาจากโรมายังทำผลงานได้ไม่เข้าตานัก แม้จะยิงประตูสุดสวยใส่แวร์เดอร์ เบรเมน จนได้รับคำชมจากแฟนบอล แต่เขายังต้องพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอีกเยอะ
อย่างไรก็ตาม แบ็คขวารายนี้เริ่มยกระดับตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น โดยเฉพาะการอ่านเกมที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังขยันวิ่งขึ้นวิ่งลงทางกราบขวา แต่มันยังไม่ดีพอทำให้เขาต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ เบนจามิน เฮนริชส์ รุ่นน้องในทีมต่อไป แน่นอนว่าการแข่งขันในทีมส่งผลดีต่อสโมสร แต่มันคงไม่ดีต่อเยดวายหากโอกาสลงเล่นของเขาเหลือน้อยลง
เยดวายถูกจับไปเล่นเป็นกองหลังตัวกลางเมื่อฤดูกาลก่อน 3 นัด แต่ทีมกลับเสียไปถึง 10 ประตู ดังนั้นเขายังต้องปรับปรุงแก้ไขอีกพอสมควร แต่อย่าลืมว่าเขาเพิ่งจะอายุ 20 ปีเท่านั้น อยู่ที่ว่านักเตะจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้หรือไม่
Timo Werner, 20 (ไลป์ซิก)
ในตอนที่เวอร์เนอร์อำลาต้นสังกัดตั้งแต่สมัยเยาวชนอย่างสตุทการ์ท ดูเหมือนว่าเขาจะมาได้ไกลเพียงเท่านี้หลังได้ประเดิมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี อย่างไรก็ตาม การย้ายมาเล่นกับไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ของเขานั้น มันคือเครื่องพิสูจน์ว่าเขายังไม่หยุดพัฒนาเสียทีเดียว เพียงแต่เขาถูกดาวรุ่งคนอื่นในทีมม้าขาวกลบรัศมีมากกว่า
ดีลนี้ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่มันพิสูจน์แล้วว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันชุดยู-17(ร่วมกับแม็กซ์ เมเยอร์ และ ยูเลี่ยน แบนด์)เคยพาบ้านเกิดคว้าตำแหน่งรองแชมป์ยูโร 2012 โดยตอนนั้นเขาอายุอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น เวอร์เนอร์พัฒนาฝีเท้าตัวเองมาตลอด โดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบขาด เขาทำได้ถึง 31 ประตู จาก 34 นัด ในทีมยู-17 และ ยิงอีก 24 ประตูจาก 25 นัด ในทีมยู-19 สมัยอยู่กับสตุทการ์ท
ปัญหาของเวอร์เนอร์นั้นไม่ใช่เรื่องของประสบการณ์ เพราะเจ้าตัวผ่านการลงเล่นในเวทีบุนเดลีก้าเกินกว่า 100 นัด พร้อมทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำแบบนี้ได้ แต่ปัญหาของเขาคือยังขาดความนิ่งยามอยู่หน้าปากประตู แต่หากเขาสามารถเรียกความมั่นใจกลับมากับทีมใหม่ได้ ปี 2017 น่าจะเป็นปีที่สุดยอดสำหรับเขา
Youri Tielemans, 19 (อันเดอร์เลชท์)
ด้วยวัยเพียง19 ปี แต่กองกลางพรสวรรค์รายนี้กลับยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมอันเดอร์เลชท์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน พร้อมทำสถิติเป็นแข้งชาวเบลเยียมอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย เตเลมันส์เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีมตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันจึงน่าแปลกใจที่เขายังไม่ถูกทีมใหญ่ดึงตัวไปร่วมทัพเสียที
เตเลมันส์เป็นมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ที่สามารถเป็นยอดกองกลางระดับโลกได้ในอนาคต เขาเล่นได้ทั้ง 2 เท้า, มักคุมจังหวะเกมในแดนลึก รวมถึงมีลูกยิงไกลทีเด็ดที่หวังผลได้ เขาผ่านบอลได้อย่างแม่นยำและมีสถิติทำประตูที่ไม่เลว 22 ประตูจากทุกรายการว(5 ประตูจาก 13 นัดในฤดูกาลนี้)
อย่างไรก็ตาม เรื่องหนึ่งที่เตเลมันส์ยังต้องปรับคือความสม่ำเสมอ รวมถึงเขายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในระดับที่สูงขึ้นอย่างทีมชาติ เพราะเบลเยียมเต็มไปด้วยกองกลางชื่อดังมากมาย แต่เวลาของเขาจะมาถึงในอีกไม่นานนี้
Christian Pulisic, 18 (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
แม้ว่าสื่อหลายสำนักของเมริกามักเชิดชูนักเตะของตัวเองเกินความจริงไปบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าพูลิซิคือข้อยกเว้น ดาวรุ่งวัย 18 ปี กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังย้ายจากเพนซิลวาเนียไปร่วมทัพดอร์ทมุนด์เมื่อปี 2015
วันเดอร์คิดรายนี้พัฒนาฝีเท้าของตัวเองก้าวไกลเกินอายุุไปแล้ว เขาทำ 2 ประตู ในเกมบุนเดสลีก้า 2 นัดสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อน พร้อมช่วยทีมเก็บชัยชนะทั้ง 2 นัด นี่คือหลักฐานชั้นดีว่า ดีลของเขาไม่ได้เป็นเพียงการซื้อเพื่อการตลาดเท่านั้น
พูลิซิชยังรักษาฟอร์มเก่งและพัฒนาฝีเท้าได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เขาทำผลงานสุดโดดเด่นในเกมที่ทีมเสือเหลืองไล่ถลุงดาร์มสตัดท์ 6-0 รวมถึงถูกส่งลงมาปั่นป่วนแนวรับของ เรอัล มาดริด ในช่วงท้ายเกมของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึงเวลาที่ต้องยอมรับว่าเพชรเม็ดงามสัญชาติอเมริกันคงแจ้งเกิดในวงการลูกหนังยุโรปในอนาคตอันใกล้
Kelechi Iheanacho, 20 (แมนฯ ซิตี้)
หากคุณเป็นนักเตะอายุ 20 ปี ที่ต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ เซร์คิโอ อเกวโร เพราะทีมของคุณเล่นระบบกองหน้าตัวเดียว หน้าที่ของคุณคือการคว้าโอกาสที่ผ่านเข้ามาไว้ให้มากที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าอิเฮียนาโชทำได้ดีเลยทีเดียว
กองหน้าชาวไนจีเรียอาจไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือน มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ อองโตนี มาร์กซิยาล ของแมนฯ ยู เขาอาจไม่ใช่กองหน้าประเภททักษะลีลาสูงจนแฟนบอลต้องทำคลิปอัพในยูทูป แต่เขาคือคนที่ทำประตูและแอสซิสต์เป็นประจำ
อิเฮียนาโชลงรับใช้เรือใบสีฟ้าไปแล้ว 43 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2014 เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 15 นัด หากคิดเป็นนาทีเขาได้ลงเล่นเพียงแค่ 1,576 นาที แต่กองหน้าเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 1 นิ้วรายนี้ กลับยิงได้ถึง 17 ประตู และทำ 8 แอสซิสต์ นั่นหมายความว่า เขาจะมีส่วนร่วมกับ 1 ประตูของซิตี้ในทุกๆ 63 นาที หรือหากดูเฉพาะประตูนั้น สถิติของเขาบ่งบอกว่าเขาจะยิงได้ในทุกๆ 90 นาที สำหรับนักเตะในวัยแบบเขาคงต้องใช้เวลาอีกมากในการสร้างความประทับใจให้กับผู้จัดการทีม ทว่าอิเฮียนาโชนั้นทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แถมมันยังไม่มีแววว่าจะหยุดเพียงเท่านี้ด้วย
Julian Brandt, 20 (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
แบรนด์ทกำลังมีฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตค้าแข้ง หลังก่อนหน้านี้ระเบิดฟอร์มยิง 6 นัดติดต่อกัน และทำ 5 แอสซิสต์ในช่วง 10 นัดสุดท้ายของซีซั่นที่ผ่านมา จนทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติเยอรมันชุดทำศึกยูโร 2016 ก่อนถูกตัดตัวอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ดี เขาคือหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ช่วยทีมอินทรีเหล็กคว้าเหรียญเงินในศึกโอลิมปิคเกมส์มาครอง พร้อมทำ 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่นครบทุกนัดทุกนาที และเป็น 1 ใน 5 ขุนพลชุดแรกตอนดวลจุดโทษกับบราซิลด้วย
ดาวเตะวัย 20 ปี แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเลเวอร์คูเซน หลังจากหมดสัญญากับทีมเยาวชนของโวล์ฟบวร์กเมื่อปี 2014 เขามีจุดเด่นอยู่ที่การควบคุมลูกบอลชั้นเยี่ยม จบสกอร์เฉียบคม และ ปั้นเกมในฐานะเพลย์เมคเกอร์ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เขาพัฒนาฝีเท้าและมีโอกาสประสบความสำเร็จทั้งในนามสโมสรและนามทีมชาติมากขึ้น
แบรนด์ทลงสนามรับใช้ทีมห้างยาไปแล้วกว่า 100 นัด ซึ่งมีโอกาสที่เราจะได้เห็นเขาย้ายไปเล่นกับทีมที่ใหญ่และยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติในอนาคตอันใกล้นี้
Gabriel Barbosa "Gabigol", 20 (อินเตอร์ มิลาน)
คำกล่าวที่ว่า “ฟ้าจะไม่ผ่าซ้ำที่เดิม 2 รอบ” อาจนำมาใช้ไม่ได้จริงในวงการลูกหนัง โดยเฉพาะกับซานโตส พวกเขาปั้นผู้เล่นชื่อดังขึ้นมามากมาย ทั้ง โรบินโญ และ ดิเอโก้ ที่แจ้งเกิดมาพร้อมกันเมื่อปี 2002, เนย์มาร์ และ กานโซ่ เมื่อไม่กี่ปีก่อน จนมาถึงในรายของ กาเบรียล บาร์โบซา ซึ่งต้องยอมรับว่าอะคาเดมีของทีมดังแห่งบราซิลนี้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลย โดยเฉพาะผลผลิตรายล่าสุดที่เพิ่งย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน
กาบิโกลใช้บริการของ วาคเนอร์ ริเบย์โร เอเย่นต์คนเดียวกับทั้งเนย์มาร์, กาก้า และ โรบินโญ จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาดูบ้าคลั่ง เพราะทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้, ยูเวนตุส และ บาร์เซโลนา ต่างแสดงความสนใจในตัวของเขา
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทีมงูใหญ่เป็นฝ่ายได้ครอบครองลายเซ็นของนักเตะ ด้วยสนนราคาสูงถึง 30 ล้านยูโร ซึ่งเครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้กับความเก่งกาจของดาวรุ่งรายนี้ เพราะเขาเป็นเพียงไม่กี่คนจากอะคาเดมี่ที่แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ของซานโตสได้สำเร็จ จุดเด่นของบาร์โบซาคือ เทคนิคอันยอดเยี่ยมและความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง เมื่อมีครบทั้ง 2 อย่างนี้ ทำให้เขาโชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างโดดเด่นจนหลายต่อหลายทีมหันมาให้ความสนใจ
Ousmane Dembele 19 (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
จุดเด่นที่สุดของเดมเบเล่นั้นคือการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง เขาเป็นนักเตะจอมลีลาขนาดที่ทำได้ทุกทริคที่มีในเกม ขณะที่ผลงานในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวกับดอร์ทมุนด์(ที่ปาดหน้า เลสเตอร์ ซิตี้, แมนฯ ยู และลิเวอร์พูล คว้าลายเซ็นเขามาครองได้สำเร็จพร้อมค่าเสียหาย 15 ล้านยูโร) ในเวทีบุนเดสลีก้านั้นก็ถือว่าดีทีเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่เขาได้บอล คู่แข่งจะต้องระมัดระวังเขาเป็นพิเศษ แถมยามที่เขาหลอกล่อคู่แข่งนั้น มันเหมือนกับว่าหลอกล่อเด็กอยู่ยังไงยังงั้น
เด็มเบเล่เป็นนักเตะที่มีสเต็ปเท้าดีมากๆ คนหนึ่ง แถมเขายังมักจะพยายามมองหาโอกาสทำประตูเสมอ ทว่าสำหรับโทมัส ทูเคิล นายใหญ่ของทีมเสือเหลืองนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะชื่นชอบเดมเบเล่ที่สามารถเอาชนะการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่งมากกว่า ดังนั้นยามที่เดมเบเล่ลงสนามนั้น เขามักจะถูกคู่แข่งตามประกบ 2 ด่านก่อนจะมีช่องให้เขายิงหรือจ่ายเสมอ
ต่อจากนี้เด็มเบเล่คงจะต้องพยายามยกระดับของตัวเองให้ได้อีกขั้น โดยเฉพาะในเรื่องของการตัดสินใจและการผ่านบอลที่ควรจะทำให้ได้ดีเหมือนกับการลากเลื้อยของเจ้าตัว อย่างไรก็ตามสำหรับตอนนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเขาได้สามารถความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการลูกหนังไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Leroy Sané, 19 (แมนฯ ซิตี้)
แม้ว่าการเริ่มต้นในถิ่นเรือใบสีฟ้าของซาเนอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เจ้าตัววางแผนไว้ แต่เชื่อได้เลยว่าเป๊ป กวาร์ดิโอลาคงไม่ยอมให้เงิน 37 ล้านปอนด์ที่ใช้จ่ายเป็นค่าตัวของปีกรายนี้สูญเปล่าอย่างแน่นอน แถมจริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของกุนซือรายนี้ด้วยที่ส่งซาเนออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว เนื่องจากปีกรายนี้ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตั้งแต่ย้ายมาเมื่อซัมเมอร์ทีผ่านมา
สำหรับซาเนนั้น เขามีชื่อติดทีมชาติเยอรมันชุดทำศึกยูโร 2016 ที่ผ่านมาด้วยส่วนกับต้นสังกัดเดิมอย่างชาลเก้ เขาก็ได้รับโอกาสลงเล่นในเวทีบุนเดสลีก้าไปแล้วกว่า 60 นัด ทำได้ทั้งสิ้น 13 ประตู ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำให้เขากลายเป็น 1 ในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของวงการลูกหนังเมืองเบียร์
ซาเนต้องเร่งพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้ได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ประเดิมสนามในสีเสื้อชาลเก้ไปตั้งแต่อายุ 18 ปีเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ปรับตัวและทำได้ดีเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ด้านครอบครัวของซาเนเองก็เป็นสายเลือดนักกีฬาเช่นกัน เมื่อคุณพ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ส่วนคุณแม่ของเขานั้นเป็นนักยิมนาสติกเหรียญเงินในโอลิมปิกปี 1984
แม้ว่าในตอนนี้ ซาเนจะพบกับการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เขาก็ยังจัดการกับแรงกดดันเหล่านั้นได้ดีทีเดียว การที่เขาถูกลดขั้นลงไปเล่นกับทีมชาติเยอรมัน ยู-21 นั้น เจ้าตัวก็มองว่ามันเป็นโอกาสได้ลงสนามมากกว่าการถูกลดขั้น อีกทั้งเจ้าตัวน่าจะรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วกวาร์ดิโอลาก็ต้องหันมาใช้บริการของเขาบ้าง เพราะด้วยความเร็ว การวิ่งทำทาง และความอันตรายจากการเข้าทำริมเส้นของเจ้าตัวนั้น สามารถเล่นงานคู่แข่งได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นขอให้แฟนบอลเรือใบสีฟ้าอดใจรออีกสักพัก แล้วทุกคนจะได้เห็นทีเด็ดจากปีกรายนี้แน่นอน
Marco Asensio, 20 (เรอัล มาดริด)
สำหรับดีลนี้ต้องขอยกเครดิตให้กับเรอัล มาดริด เพราะนอกจากที่พวกเขาสามารถตัดหน้าคู่อริชิงลายเซ็นของอเซนซิโอได้แล้ว พวกเขายังควักเงินเพียงแค่ 3.9 ล้านยูโรเท่านั้นเพื่อแลกกับกองกลาง(ว่าที่)ระดับโลกรายนี้
ในฤดูกาลที่ผ่านมา อเซนซิโอถูกส่งไปให้เอสปันญอลยืมตัวใช้งาน ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นกำลังหลักให้กับทัพ “นกแก้ว” และแล้วความพยายามของเจ้าตัวก็ได้ผลตอบแทน เมื่อเขามีโอกาสได้กลับมาเล่นทีมชุดใหญ่ของเรอัล มาดริดภายใต้การนำทีมของซิเนอดีน ซีดาน ดำนานแห่งถิ่นซานติอาโก เบอร์นาเบว
กองกลางวัย 20 ปีรายนี้แสดงใหเห็นว่าเขาไม่รู้สึกกดดันใดๆ ที่ต้องเล่นให้กับยอดทีมแห่งยุโรปนี้หรือแม้แต่นักเตะซูเปอร์สตาร์ที่ขวางทางเขาอยู่ก็ตาม ทำให้เขาสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาคืออนาคตของเรอัล มาดริด และแย่งตำแหน่งมาจากอิสโก้ และฮาเมส โรดิเกวซ 2 ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังได้สำเร็จ
อเซนซิโอเป็นนักเตะที่มีทั้งความเร็วและสามารถเลี้ยงบอลได้ดี แถมเจ้าตัวยังมักจะมองหาช่องผ่านบอลเสมอ เวลาที่เจ้าตัวประจำการที่ตำแหน่งปีกซ้าย เขามักจะหาทางเลี้ยงเข้าหากองหลังคู่แข่ง ส่วนถ้าหากเจ้าตัวถูกส่งลงไปประจำการตรงกลางสนาม เขาก็จะคอยเป็นคนกำหนดจังหวะเข้าทำของทีม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนมาจากความมั่นใจของเจ้าหนูรายนี้ เห็นได้ชัดว่าอเซนซิโอมั่นใจในความสามารถของตัวเองมาก ทำให้เขาสามารถเอาชนะแข้งรุ่นพี่คนอื่นๆ ได้ ดังนั้นอีกไม่นานเราคงเห็นเขากลายเป็นกำลังหลักให้กับทัพราชันชุดขาวแบบเต็มตัว รวมถึงในทีมชาติด้วย
Anthony Martial, 20 (แมนฯ ยู)
เมื่อพูดถึงกองหน้ารายนี้ หลายๆ คนก็คงนึกถึงประตูนี้ มาร์กซิอัลวิ่งไปรับบอลก่อนเลี้ยงจี้เข้าหาประตู มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังของลิเวอร์พูลพยายามบังไว้ แต่เจ้าตัวก็ล็อกหนีและเข้าไปแปสวนตัวซิมง มินโญเรต์เข้าไปอย่างสวยงาม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคือ 1 ในเวทีที่ดีที่สุดสำหรับนักฟุตบอลทุกคนที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งสำหรับมาร์กซิอัลก็เช่นกัน ด้วยค่าตัวมหาศาลที่แมนฯ ยูยอมจ่ายไปเพื่อแลกกับตัวเขา ทำให้ไม่มีใครสามารถมองข้ามประตูสุดสวยลูกนี้ไปได้ โดยแม้ว่ามันจะไม่ใช่ลูกยิงในนัดเปิดสนามของเจ้าตัว แต่มันก็เกิดขึ้นในเกมที่อาจจะเรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในฤดูกาล แถมจากประตูสุดสวยนี้ มันทำให้หลายๆ คนเห็นเงาของเธียร์รี อองรี ตำนานของอาร์เซนอลในตัวของกองหน้ารุ่นน้องชาวฝรั่งเศสรายนี้ เนื่องจากอองรีเองก็ชอบวิ่งตัดแนวรับของคู่แข่งก่อนเข้าไปแปสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไปง่ายๆ แบบนี้เช่นกัน
สำหรับดาวรุ่งหลายๆ รายนั้น มันไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าพวกเขาจะเติบโตไปเป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของโลก ทว่าสำหรับมาร์กซิอัลนั้น มันมีความเป็นไปได้สูงทีเดียวเพราะหลังจากที่เราได้เห็นฟอร์มอันคงเส้นคงวาของเจ้าตัวแล้วในช่วงที่ผ่านมา แถมเมื่อปี 2015 มาร์กซิอัลยังจัดการจารึกชื่อตัวเองอยู่ในทำเนียบโกลเด้นบอยตามหลังเซร์คิโอ อเกวโร และลิโอเนล เมสซีไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะก้าวตามยอดกองหน้าเหล่านั้นได้ในอนาคต
Gabriel Jesus, 19 (แมนฯ ซิตี้)
การได้ไปดูพัลไมรัสเล่นในบ้านนั้น คุณจะได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามทีนักเตะหมายเลข 33 ของพวกเขาได้บอล เพราะแฟนบอลทุกคนจะเริ่มร้องตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “กลอรี่ กลอรี่ ฮาเลลูยา นั่นมันกาเบรียล เฆซุส”
ความจริงแล้ว ดาวเตะวัย 19 ปีรายนี้ก็สมควรได้รับการยกย่องแบบนี้แหละ เพราะเขาคือผู้เล่นที่ยิง 2 ประตูในฟุตบอลโลกหนแรกในชีวิต ซึ่งดาวดังอย่าง โรมาริโอ, การ์รินชา หรือซิโก้เองก็ไม่เคยทำได้มาก่อน ด้วยความสุดยอดนี้ ทำให้ โรนัลโด้ ตำนานทีมชาติบราซิลนั้นชื่นชอบเขาเอามากๆ ขณะที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาเองก็มีเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขาด้วย
วันเดอร์คิดจากพัลไมรัสรายนี้เพิ่งจะเซ็นสัญญาตกลงย้ายมาร่วมทัพแมนฯ ซิตี้เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ และจะย้ายมาร่วมทีมในเดือนมกราคมนี้ และแม้ว่าเจ้าตัวจะเพิ่งอายุ 19 ปี แต่อย่าได้ประมาทเขาเป็นอันขาด เพราะเฆซุสนั่นดูจะโตนำอายุของตัวเองไปแล้ว เขาไม่มีทีท่าจะเป็นนักเตะประเภทที่เดินทางออกนอกประเทศไปได้ 6 เดือนแล้วใจเสาะร้องกลับบ้านเนื่องจากคิดถึงอาหารในบ้านเกิดตัวเองอย่างแน่นอน เฆซุตเป็นนักเตะประเภทที่มักจะถอยต่ำลงมาช่วยในเกมรับด้วย ซึ่งจุดนี้เองที่ช่วยให้บราซิลคว้าเหรียญทองโอลิมปิคมาครองได้สำเร็จ
นออกจากนั้น ในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวยังทำไปแล้ว 26 ประตูให้กับสโมสรและทีมชาติด้วย
Marcus Rashford, 18 (แมนฯ ยู)
อีก 1 ดาวรุ่งไฟแรงที่บังเอิญได้แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ของหลุยส์ ฟาน ฮัล โดยในเกมที่ทัพปีศาจแดงพบกับสโมสรมิดต์ทิลลันด์ในศึกยูโรป้า ลีก อองโตนี มาร์กซิอัลได้รับบบาดเจ็บในระหว่าอบอุ่นร่างกาย ทำให้เจ้าหนูชาวอังกฤษรายนี้ได้เสียบแทนทันที และเขาก็ทำน่าประทับใจทีเดียว
แรชฟอร์ดทำได้ 2 ประตูในวันนั้น ช่วยให้แมนฯ ยูเป็นฝ่ายไล่ถล่มไปได้ 5-1 ทว่าในตอนนั้น คำถามก็คือ “ไอ้หมอนี่เป็นใครกันแน่?” หลังจากนั้นอีก 3 วัน แรชฟอร์ดก็จัดการแผลงฤทธิ์ใส่อาร์เซนอลบ้าง โดยเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และยิงไป 2 ประตูในช่วง 32 นาทีแรก บวกกับอีก 1 แอสซิสต์จนช่วยให้ทัพปีศาจแดงเก็บชัยชนะเหนือทีมปืนใหญ่ไปได้ 3-2
นับตั้งแต่นั้น สาวกแมนฯ ยูทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขามีเพชรเม็ดงามอยู่ในทีมอยู่แล้ว ขณะที่ในฤดูกาลที่แล้ว แรชฟอร์ดได้ออกสตาร์ททั้งหมด 17 นัดรวมทุกรายการ โดยเขาสามารถยิงเพิ่มได้อีก 6 ประตูด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่า การเคลื่อนที่ของแรชฟอร์ดนั้นยอดเยี่ยมมากๆ แถมเขายังมีลูกยิงที่คมใช่เล่นอีกด้วย
ทว่าการเข้ามาของโชเซ่ มูรินโญ และซลาตัน อิบราฮิโมวิชนั้น ทำให้อนาคตของแรชฟอร์ดดูเหมือนจะต้องกลับมาอยู่บนม้านั่งข้างสนามอีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ใน 2 นัดแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะมียิงช่วยชีวิตแมนฯ ยูในเกมที่พบกับฮัลล์ ตามด้วยการยิงประตูวัตฟอร์ด และเลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ตอนนี้ดูเหมืนว่าเขาจะกลับมามีอนาคตที่สดใสกับทีมอีกแล้ว
Gianluigi Donnarumma, 17 (มิลาน)
ถ้าจะให้อธิบายถึงความเก่งกาจของนายทวารรายนี้ก็อาจจะยากสักหน่อย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผู้รักษาประตูทุกคนจะเก่งขึ้นตามช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทว่าสำหรับนายทวารวัยละอ่อนของมิลานรายนี้ เขาได้โอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดแดนมักกะโรนีไปแล้วถึง 30 นัด แถมตอนนี้เขายังอายุไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำ ดอนนารุมมาประเดิมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่า อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในเวทีเซเรีย อา
หากได้เคยดูนายยทวารรายนี้เล่นละก็ จะเห็นได้ว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยืนตำแหน่งดีมากๆ จนทำจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เลย แถมเขายังเป็นนักเตะที่กล้าต่อว่ารุ่นพี่คนอื่นๆ ในทีมเมื่อเล่นผิดพลาดอีกด้วย
เป็นที่รู้ๆ กันว่า มิลานนั้นไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมกับแต่ก่อนแล้ว แต่ดอนนารุมมาก็เป็น 1 ในคนสำคัญที่ช่วยเซฟ 3 แต้มให้กับทีมได้บ่อยๆ ซึ่งจากควายอดเยี่ยมนี้ของเขา มันทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารตัวเก๋าของยุเวนตุส รวมถึง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารชาวฮอลแลนด์ ซึ่งจุดหนึ่งที่ทั้งคู่เหมือนกันคือ พวกเขามีความยืนหยุ่นร่างกายแถมยังสูงเหมือนกันอีกด้วย ทำให้เขาสามารถเซฟลูกยิงยากๆ ได้แม้ว่าจะยืนตำแหน่งผิดก็ตาม
ดอนนารุมมาคือนักเตะในความดูแลของ มิโน ไรโอล่า ซูเปอร์เอเย่นต์คนดัง ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าเขาจะอยู่เฝ้าเสาให้กับทัพรอสโซเนรีอีกนานแค่ไหน เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีทีมอื่นมองหาผู้รักษาประตูระยะยาวก็ได้ ซึ่งดอนนารุมมาคือคำตอบสุดท้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
Renato Sanches, 19 (บาเยิร์นฯ มิวนิค)
สำหรับในวงการฟุตบอลนั้น ดาวรุ่งหลายๆ คนก็เปรียบเสมือนดาวตก ที่แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ดับหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่านั้นไม่ใช่สำหรับเรนาโต้ ซานเชส เพราะดังที่เห็นกัน เขาเพิ่งจัดการเขย่าเวทียูโร 2016 ที่ผ่านมาอย่างยิ่งใหญ่
ดาวรุ่งรายนี้ได้ประเดิมสนามให้กับเบนฟิก้าในเกมที่พวกเขาพบสโมสรอัสตานาในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 และอีก 1 อาทิตย์ต่อมา เจ้าตัวก็จัดการยิงไกลระยะ 30 หลาแบบสุดสวยใส่สโมสรอคาเดมิก้า หลังจากนั้น เขาก็ไม่เคยหลุดจากทีมชุดใหญ่อีกเลย
ด้วยความแข็งแกร่ง ความอึด และความนิ่งที่นำหน้าอายุของเขาไปแล้ว ซานเชสกลายเป็นแข้งคนสำคัญที่พาทัพเบนฟิก้าคว้าแชมป์ลีกได้ในสำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา แถมยังช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบกับบาเยิร์น มิวนิคด้วย อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของเจ้าตัวก็ไปเตะตายอดทีมแห่งเยอรมันถึงขั้นที่ยอมง่ายเงิน 35 ล้านปอนด์ (ออฟชั่นเพิ่มอีก 45 ล้านปอนด์) เพื่อดึงตัวเขาไปร่วมทีมทันที
ทว่าเจ้าตัวยังไม่พอใจแค่ความสำเร็จในระดับสโมสร แต่เขายังช่วยให้ทัพโปรตุเกสประสบความสำเร็จในเวทียุโรปด้วย โดยเขาได้โอกาสติดทัพฝอยทงอง และลงช่วยเกือบครบทุกนัดในศึกยูโร 2016 ที่ผ่านมา และคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งทัวร์นาเมนต์ พร้อมกับเหรียญแชมป์มานอนกอดได้สำเร็จ...ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะอายุ 19 ปีด้วยซ้ำไป
Kingsley Coman, 20 (บาเยิร์น มิวนิค)
เทียบกับปีกทุกรายในซีรีย์นี้ คงต้องบอกว่า โกมองคือคนที่ครบครื่องที่สุดแล้ว เพราะแม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ลีลาเหลือร้ายเหมือนกับเด็มเบเล แต่ด้วยรูปร่างที่พร้อมเพรียวของเขา มันทำให้เขาสามารถสลัดหนีตัวประกบได้ไม่ยากนัก แถมแข้งวัย 20 กะรัตรายนี้ยังมีที่เด็ดเป็นการจ่ายบอลให้เพื่อนอีกด้วย
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โคมองโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในเกมที่พบกับยูเวนตุสในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาแสดงให้เห็นว่า เขาสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ยามที่พวกเขาต้องการ โดยลูกเปิดของเขานั้นยอดเยี่ยมมากๆ รวมถึงประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษก็เยือกเย็นสุดๆ
โคมองเป็นนักเตะที่จะทำให้คุณตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ดูเขาเล่น โดยเฉพาะเวลาที่เขาควบบอลไปทางกราบขวา รวมถึงเวลาที่เขาย้ายไปเล่นอีกฝั่งของสนามเช่นกัน เพราะโคมองเป็นนักเตะที่ทำได้ดีทั้งเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมและเลี้ยงตัดเข้าในด้วย
สำหรับปีกชาวฝรั่งเศสรายนี้ อาจจะบอกได้ว่าเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่งแล้วแม้ว่าช่วงแรกแฟนบอลในฝรั่งเศสอาจจะสงสัยในความสามารถของเขากันบ้างแต่เจ้าตัวจัดการคว้าแชมป์ลีกไปแล้ว 3 ประเทศ คือ ลีกเอิง, เซเรีย อา และบุนเดสลีก้า ขณะที่ตอนนี้ สัญญายืมตัว 2 ปีของเขากับบาเยิร์นกำลังจะหมดลง จึงค่อนข้างน่าสนใจว่าพวกเขาจะยอมควักเงินจำนวนมหาศาลเก็บปีกรายนี้ไว้กับทีมหรือไม่
Dele Alli, 20 (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)
เรียกได้ว่าเกิดความคาดหมายจริงๆ สำหรับเจ้าหนูรายนี้ เพราะในตอนแรกที่เขาย้ายมาจากสโมสรเอ็มเค ดอนส์นั้น เจ้าตัวยังเป็นดาวรุ่งที่ค้าแข้งอยู่ในลีกระดับ 3 ของประเทศอยู่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้แฟนๆ อาจจะไม่ได้คาดหวังจากเขามากนัก แถมบรรดาแฟนๆ ไก่เดือยทอง ยังเรียกร้องหาผู้เล่นบิ๊กเนมคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ความต้องการขอพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อเด็กหนุ่มที่ออกสตาร์ทด้วยความมั่นใจมากไปหน่อย ประกาศศักดาคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีได้สำเร็จ โดยอัลลีสามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลลีกสูงสุดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมยังทำประตูสวยๆ ได้อีกหลายๆ ลูก ทั้งในเกมที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้, คาราบัค เรียกได้ว่าฟอร์มของเจ้าตัวในปีแรกนั้นสอบผ่านฉลุยเลยทีเดียว ทำให้ในตอนจบฤดูกาล คงวไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเจ้าตัวอีกต่อไป
สำหรับอัลลีนั้น เขาเป็นนักเตะประเภทที่ชอบโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ และสร้างความแตกต่างให้กับทีมในเสี้ยววินาทีนั้น ยกตัวอย่างเช่นในเกมกับคริสตัล พาเลซ ที่อยู่ๆ เจ้าตัวก็จัดการทำประตูชัยสุดสวยให้กับทีมแบบงงกันทั้งสนาม
นอกจากมีทักษะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทัศนคติของเขาก็ยอดเยี่ยมมากๆ อีกด้วย โดยเขาใช้เวลาเพียงแต่ปีเดียวเท่านั้น ในการก้าวจากลีกระดับ 3 ของประเทศ สู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ซึ่งนั่นคือก้าวที่ใหญ่มากๆ แถมยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก การที่เขาทำแบบนี้ได้นั่นมันแปลว่าเขาจะต้องมีความกล้าหาญมากๆ รวมถึงสามารถรับแรงกดดันมหาศาลจากรอบข้างด้วย
ด้วยทักษะการทำประตูที่ยอดเยี่ยม บวกกับการจับบอลที่นิ่มนวลและการเคลื่อนที่ที่เป็นประโยชน์ต่อทีมเสมอ ทำให้อีกไม่นานนี้ เจ้าตัวจะต้องเป็นหัวใจของทัพไก่เดือยทองอย่างแน่นอน
ถ้าชอบบทความที่นำมาฝากก็ช่วยแผล่บเป็นกำลังใจด้วยนะครับ