ธรรมกาย กับการต่อสู้ที่เลยขอบเขตของความเป็น “พระ”
หลายๆ คนพอได้ยินชื่อ”ธรรมกาย”ในช่วงนี้ก็อาจจะเกิดความรู้สึก เบื่อหน่าย รำคาญ โดยความรู้สึกเหล่านี้มีต่อทั้งทางวัดพระธรรมกายเอง และเช่นเดียวกันมีกับเจ้าหน้าที่ด้วย
โดยส่วนใหญ่ความรู้สึกต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะเป็นในแนวทางว่า ทำงานกันช้า ไม่เด็ดขาด ไร้ประสิทธิภาพ
ซึ่งมันอาจจเกิดจากบุคคลนั้นๆ คิดหาแนวทางที่ดีกว่านี้ได้? หรืออาจจะไม่ได้ปลื้มในการทำงานของภาครัฐมาก่อนอยู่แล้ว
แต่!!! ผมอยากจะบอกให้ใจเย็นๆ เพราะ! คู่กรณีในครั้งนี้ไม่ธรรมดา การดำเนินการขอพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการเตรียมการในแต่ละเรื่องมาเป็นอย่างดี ราวกับรับรู้แผนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่มาก่อนแล้ว และวางหลักการตอบโต้ในเบื้องต้นมาพอสมควร
ผมขอเกริ่นก่อนเลยว่าตัวผมเองนั้นเมื่อย้อนไปสัก 7-8 ปีก่อน(สมัยมัธยม) ตัวผมเองก็เป็นแฟนทีวีช่อง DMC เช่นกัน จะด้วยการที่ช่องนี้เป็นช่องแรกๆ ที่นำเสนอพระพุทธศาสนาได้อย่างน่าสนใจ ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมมีปัญหาจากความเครียด และหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งเยียวยาตัวผมได้อย่างดีที่สุดในช่วงเวลานั้น มันเลยทำให้ผมเริ่มสนใจในการศึกษาหลักธรรม คำสอน ของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ไม่เว้นแม้แต่ทีวีช่อง DMC หรือ ธรรมกาย
แต่ด้วยวันเวลาผ่านไป ธรรมกายเริ่มเสื่อมลงๆ ขึ้นในทุกวัน ซึ่งก็แน่นอนละว่าความศรัทธาที่ผมเคยมีมันย่อมลดลงเช่นกัน
ซึ่งความเสื่อมที่เกิดขึ้น มันไม่ได้มาจากใครทำให้มันเกิด แต่มันเกิดมาจากการกระทำของธรรมกายเองล้วนๆ เช่นการบิดเบือนหลักคำสอนเป็นต้น โดยในบทความนี้ผมจะไม่ขอขยายในประเด็นนี้นะครับ
เอาละมาเริ่มกันเลย
ย้อนไปในปี พ.ศ.2542 พระธัมมชโย ได้ประสบพบเจอกับเหตุการคล้ายๆกันในช่วงเวลานี้ มีพระลิขิตจากสมเด็จพระสังฆราชฯ โดนฟ้องร้องเป็นคดีความต่างๆ ก่อนที่ในภายหลังอัยการจะทำการถอนฟ้อง ใครที่อยากรู้เรื่องราวตรงนี้แนะนำให้หาข้อมูลเอาเองได้เลยครับ เพราะผมไม่อยากจะเน้นย้ำถึงประเด็นตรงนี้เท่าไรนัก แต่!!! ประเด็นที่ผมต้องการจะกล่าวถึงมากที่สุดก็คือ ในช่วงเวลานั้นได้มีการกระทำการคล้ายๆกับในปัจจุบันนี้ โดยมีการเกณฑ์คนมาที่วัดเพื่อมาเป็นโล่มนุษย์ นำรถยนต์มาเป็นบังเกอร์ การกระทำเหล่านี้เหมือนกับการกระทำในปัจจุบันไม่มีผิด
Spoil
การกระทำการหลายๆ อย่างของทางวัดพระธรรมกายทำให้ผมวิเคราะห์ได้ว่า กลุ่มผู้ที่เป็นคนวางแผนมีประสบการณ์ในการต่อสู้ในลักษณะของการก่อ ”ม็อบ” มาพอสมควร จะชี้ให้เห็นถึงการกระทำดังนี้
การเรียกร้องเงื่อนไขที่ฟังดูตลก
-ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ออกแถลงการณ์ไม่ยินยอมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปในวัด เพื่อตรวจค้นและจับกุมพระเทพญาณมหามุณี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามหมายค้นของศาลอาญา ด้วยเหตุผลที่ว่ารอให้บ้านเมืองมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
Spoil
คือรอประชาธิปไตยหรือรอใครมาช่วยกันแน่ หุหุ
การกระทำที่เหมือนๆกัน คล้ายกับว่าได้รับคำสั่งมาให้ดำเนินการแบบนี้
-ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายรวมถึงชายห่มผ้าเหลืองบางส่วน ได้นำหน้ากากมาปิดบังใบหน้าไว้ตลอดเวลา
-ศิษยานุศิษย์วัดให้พกมือถือที่อัดวิดีโอได้ คอยถ่ายคลิปขณะเจอเจ้าหน้าที่ แต่ในทางกลับกันกับสื่อทั่วไป กลับห้ามไม่ให้ถ่าย
Spoil
-ให้ศิษยานุศิษย์ต่อต้านสื่อที่เสนอข่าวในด้านลบของตนเอง
Spoil
-ปฏิเสธทุกอย่างที่เป็นการกระทำด้านลบของฝั่งตนเอง ปัดเป็นมือที่สาม ธรรมกายปลอม
-อ้างว่ากระทำการต่อสู้อย่างอหิงสา อดข้าว อดน้ำ ไม่ใช้ความรุนแรง แต่อีกฝั่งนึงกลับนำพระไปดันกับเจ้าหน้าที่
-พยายามทำป้ายภาษาอังกฤษออกมา หวังให้เรื่องออกไปสู่สังคมโลก
-ตั้งป้อมลวดหนาม
-พยายามอย่างมากที่จะดึงต่างชาติให้เข้ามาแทรกแทรง
-พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดภาพที่ว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับ พระ, ลูกศิษย์
-กล่าวหาเรื่องงบประมานที่ให้กับลูกน้องในการใช้กำลังควบคุมพื้นที่
-กุข่าวว่ารัฐบาลถังแตกหนัก สั่งปล้นวัดของประชาชน จะเอาพระทองคำ ? (เพียงแค่นำคำนี้ไปเสิชท่านจะเห็นเลยว่าสื่อไหนเล่นประเด็นนี้บ้าง แล้วใครพูดถึงกรณีนี้บ้าง….ผ่านยูทูป…อยู่ต่างแดน)
ถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วนะครับว่าทำไมสื่ออย่างอมรินทร์ถึงโดนแบน จริงๆยังมีอีกเยอะแต่ขี้เกียจแล้วครับ
ที่นี้เรามาดูตัวแทงค์อย่าง พระสนิทวงศ์ กันบ้าง ซึ่งนายคนนี้นอกจากจะมีวาทศิลป์แล้วยังทำหน้าที่สำคัญในการคอยแก้ข่าวให้ทางวัดอยู่ตลอดเวลาด้วย เท่านั้นยังไม่พอแกยังโชว์ฟอร์มล่าสุดโดยการโพสเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของ รมต.ยุติธรรม กับ ภรรยา แล้วยังไม่แสดงความรู้สึกผิดใดๆทั้งสิ้นอีกด้วย
แต่!!! ที่น่าสงเกตุคือเพจพลเมืองต่อต้าน คสช เอ้ยยย Single Gateway ได้โพสเบอร์โทรศัพท์ก่อนหน้าทาง พระสนิทวงศ์ เรียกได้ว่าหลวงพี่แกแทบจะก็อบวางเลยทีเดียว งานนี้ไม่รู้ว่าแกเป็นแฟนเพจนี้ด้วยหรือว่าทั้งหมดมันพวกเดียวกันกันแน่ เพราะทางเพจนี่ก็ชัดเจนมากออกแถลงการ 4 ข้ออะไรของมันเนี่ยแหละอยู่ข้างธรรมกายเลย
แล้วผมได้ลองหาข้อมูลในอากู๋ดู ก็ได้ทราบว่าแกค่อนข้างจะชอบเล่นโซเชียลเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าเล่น ss ด้วยป่าว ถ้าเล่นเขาจาขู่เปิดเผยชื่อจริง ประวัติผมมั้ยครับ555 ยังไงก็ช่วยprotectผมด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคนที่เป็นกุนซือคอยวางแผนต่างๆจะเป็นใคร แล้วใช่ชายห่มผ้าเหลืองหรือไม่ ผมก็ไม่อาจทราบได้ แต่ยืนยันได้แน่นอนละว่ามีการทำงานเป็นทีมและวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเพื่อปกป้อง “นายไชยบูลย์ สุทธิผล” หรือ “พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย” ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วตอนนี้สภาพอาจไม่ต่างอะไรกับตุ้กตาที่ถูกส่งไปมา โดยความสำคัญมีเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อไม่ให้ถูกจับ
ส่วนตัวผมไม่ได้โกรธหรือเกียจอะไรเหล่าคนที่เขารักและศรัทธาในธรรมกายหรอกนะ เพราะสำหรับผมแล้วคนเหล่านี้คือ”เหยื่อ” แล้วไม่ใช่กลุ่มคนที่สมควรถูกประนามเลย แต่คนที่สมควรถูกประนามคือคนที่พาพวกคุณออกมาเป็นโล่ป้องกันตัวเขาเองต่างหาก