สัมภาษณ์ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จากศูนย์หน้าทีมชาติ สู่เฮดโค้ชผู้นำแชมป์ซีเกมส์กลับบ้าน
เป็นบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร สารคดี สัมภาษณ์ไว้ตอนหลังจากได้แชมป์ซีเกมส์ ลองอ่านดูนะครับ
มีทั้งหมด 5 หน้า ผมก็อปมาเฉพาะหน้าแรก หน้าต่อไปอ่านในเวบสารคดีเลยครับ
แฟนบอลไทยยุคทศวรรษ ๒๕๓๐-๒๕๔๐ ไม่มีใครไม่รู้จัก ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย เจ้าของผลงานติดทีมชาติ ๑๓๐ นัด ยิง ๖๕ ประตู
โก้ หรือ “ซิโก้” อันเป็นฉายาที่ตั้งตามยอดนักเตะทีมชาติบราซิล นับเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติไทยชุดประวัติศาสตร์ที่เรียกติดปากว่า ทีมชาติชุดดรีมทีม ซึ่งเป็นยุคที่ทีมฟุตบอลไทยสร้างผลงานตราตรึงแฟนบอลด้วยการคว้าเหรียญทองฟุตบอลซีเกมส์ติดต่อกันหลายสมัย รวมถึงคว้าแชมป์รายการสำคัญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ฟุตบอลคิงส์คัป ฟุตบอลไทเกอร์คัป หรือคว้าอันดับ ๔ เอเชียนเกมส์ ผ่านเข้ารอบ ๑๐ ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย นับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดในวงการลูกหนังไทยถึงทุกวันนี้
ขณะผลงานของยอดดาวยิงแข้งทองจากขอนแก่นระดับทีมสโมสรก็ถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งการลงเล่นในลีกเพื่อนบ้านอย่าง M League ของมาเลเซีย S League ของสิงคโปร์ V League ของเวียดนาม ซิโก้ล่าตาข่ายคู่แข่งขัน นำทีมคว้าแชมป์ระดับสโมสรหลายสมัย ในช่วงสั้น ๆ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยเจ้าของเสื้อหมายเลข ๑๓ ยังเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรฮัดเดอร์สฟีลด์ทาวน์ (Huddersfield Town) ในลีกดิวิชัน ๑ ของอังกฤษ นับเป็นนักเตะไทยคนแรกในลีกต้นแบบของโลก
หลังอิ่มเอมกับความสำเร็จทั้งในเกมสโมสรและทีมชาติ ยอดหัวหอกระดับตำนานผู้สร้างความสุขแก่แฟนบอลมานานเกือบ ๒๐ ปีก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดหันหลังให้เกมหนัก ๆ ในสนามหลังค้าแข้งมานานครึ่งค่อนชีวิต น่าสนใจว่านักเตะหลายคนอาจหันไปเอาดีด้านการทำธุรกิจ บางคนเปิดร้านอาหาร บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวหรือนักวิจารณ์เกมการแข่งขันแต่สำหรับนักเตะหน้าหยกคนนี้ เขาเลือกจะมีลมหายใจติดขอบสนามต่อไปด้วยการทำงานในฐานะเฮดโค้ชหรือหัวหน้าผู้ฝึกสอน อาชีพที่ว่ากันว่าโหดและมีความกดดันมากที่สุดอาชีพหนึ่ง เพราะเมื่อใดผลงานทีมตกต่ำหรือไม่เข้าตาเจ้าของทีมเพียงไม่กี่นัด ก็มีสิทธิ์โดนเด้งจากเก้าอี้ได้
อดีตดาวยิงผู้มีท่าดีใจหลังทำประตูได้โดยกระโดดตีลังกา เริ่มจับงานโค้ชให้ทีมระดับสโมสรทั้งในและต่างประเทศ กระทั่งต้นปี ๒๕๕๖ ขณะเมฆหมอกปกคลุมท้องฟ้าฟุตบอลไทยหลังทีมชาติไทยผู้เคยได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าพ่อ” บอลอาเซียน พุ่งชนความล้มเหลวในการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ติดต่อกันสองสมัยโดยมิเพียงพลาดท่าไม่ได้แชมป์เท่านั้น ทว่าทีมช้างศึกถึงกับพลิกคว่ำตกรอบแรกอย่างไม่เป็นท่า หรือนับแต่นี้ทีมชาติไทยจะไม่ใช่เสือที่เพื่อนบ้านอาเซียนเกรงกลัวอีกแล้ว
ระหว่างนั้นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตัดสินใจแต่งตั้งอดีตศูนย์หน้าขวัญใจชาวไทยขึ้นคุมบังเหียนทีมชาติลุยศึกซีเกมส์ที่เนปิดอว์ ประเทศพม่า
ท่ามกลางความกดดันถาโถม ผู้เป็นโค้ชต้องนำเหรียญทองกลับบ้านเท่านั้น ซิโก้ใช้เวลา ๑๑ เดือนหลังรับตำแหน่งเตรียมทีม ซ้อมแท็กติก ทำความเข้าใจนักเตะ รวมทั้งสร้างบรรยากาศที่ดีในแคมป์ทีมชาติ จนนำความสำเร็จคืนถิ่นได้อีกครั้ง นักเตะทีมชาติเดินทางกลับจากการแข่งขันซีเกมส์พร้อมเหรียญทองห้อยคอ
ในฐานะ “ขุนพลกีฬา” ชื่อ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองก้าวสู่ความเป็นตำนานที่มีชีวิตซึ่งพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์รายการสำคัญทั้งในฐานะนักเตะและเฮดโค้ช
ยามสายต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังซิโก้เดินทางกลับจากการอบรมโค้ชระดับ A-License (AFC Coaching Course “A” Certificate) ที่ลำปางด้วยใบหน้าและผิวพรรณกร้านแดดสารคดี นัดสัมภาษณ์เขาที่สำนักงานบริษัทสปอร์ตฮีโร่ จำกัด นนทบุรี ภายในห้องรับแขกตกแต่งภาพอดีตหัวหอกกระโดดตีลังกา อีกภาพเขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติ เดินนำลูกทีมรับถ้วยรางวัลชนะเลิศฟุตบอลคิงส์คัปที่สนามศุภชลาศัย
ไร้เสียงนกหวีดเริ่มการแข่งขัน ทว่าบทสนทนานอกสนามกำลังเริ่มขึ้น
- See more at:
http://www.sarakadee.com/2014/07/02/zico-kiattisak/#sthash.g7Gwgzz9.dpuf