ชีวิตคนเราเกิดมาไม่มีใครที่เท่าเทียมกันแม้แต่คนเดียวครับกระทั่งพี่น้องท้องเดียวกันที่คลานตามมาก็ตาม ทุกคนต่างมี "ต้นทุนชีวิต" ที่แตกต่าง
ชีวิตคนเราเกิดมาไม่มีใครที่เท่าเทียมกันแม้แต่คนเดียวครับกระทั่งพี่น้องท้องเดียวกันที่คลานตามมาก็ตาม ทุกคนต่างมี "ต้นทุนชีวิต" ที่แตกต่าง

บางคนน้อย บางคนมาก

แต่สิ่งนึงที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนไว้เสมอมาคือลิขิตฟ้า ฤา จะสู้ชะตาคน อันมีความหมายว่าคนเราสามารถกำหนดเส้นทางเดินชีวิตของตัวเองได้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะลองพยายามทำเหมือนกันหมด อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน

เหมือนชีวิตของ คาร์ลอส บัคก้า ดาวยิงชาวโคลอมเบีย ที่ทำผลงานร้อนแรงให้กับเซบีญ่า สโมสรทางตอนใต้ของสเปน ในแคว้นอันดาลูเชีย ซึ่งเมื่อหลายนัดที่แล้วสร้างชื่อด้วยการทำคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมเอาชนะ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ได้แบบที่ไม่มีใครอยากเชื่อ

น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาเคยผ่านอะไรมาบ้าง

ก่อนจะก้าวมาเป็นสตาร์ประจำทีมเซบีญ่า ซึ่งเล่นอยู่ในลา ลีกา บัคก้า ผ่านชีวิตลำเค็ญมาหลายรูปแบบ อันเนื่องจากฐานะทางครอบครัวที่ยากจน

ย้อนหลังกลับไปในปี 2007 บัคก้า เริ่มเล่นชีวิตนักฟุตบอลอาชีพแล้วก็จริง แต่ด้วยรายได้ที่น้อยนิดของการเล่นในลีกโคลอมเบียทำให้ไม่พอกิน ทำให้เขาต้องตัดสินใจหางานอื่นทำเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงท้องตัวเองให้มีแรงสู้กับโลกวันใหม่ด้วย

บัคก้า เลือกจะทำอาชีพเป็น "กระเป๋ารถเมล์" ครับ

"ชิดในหน่อยพี่" คือคำที่เขาติดปากอยู่นานกับชีวิตกระเป๋ารถเมล์ที่จะคอยเก็บค่าตั๋วโดยสารในเส้นทาง บาราควิญ่า กับเมืองปูเอร์โต โคลอมเบีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาที่ตั้งอยู่ที่คาบสมุทรแคริบเบียน

ทุกวันบัคก้า โดดขึ้นลงรถเมล์หลังการซ้อมหลายเที่ยว หลายรอบ ในระยะทาง 20 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาเดินทางเที่ยวละครึ่งชั่วโมง

โดยถ้าวันไหนไม่ได้ไปรับจ็อบเป็นกระเป๋ารถเมล์ จะก็ไปทำงานอยู่ที่ร้านขายปลาด้วย

เรียกว่าสู้ชีวิตสุดๆ

ส่วนเส้นทางชีวิตลูกหนังก็ลำบากไม่น้อยไปกว่ากัน เขาเริ่มต้นกับแอตเลติโก จูเนียร์ สโมสรดังในบ้านเกิดก็จริงแต่ไม่ได้โอกาสลงเล่นมากนัก จนถูกส่งตัวไปให้ทีมอื่นยืมใช้งานในช่วงแรกก่อนเป็นเวลาถึง 3 ปี

แต่บัคก้า ก็พิสูจน์ตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับบาราควิญา สโมสรในบ้านเกิด หรือกับมิเนร์เวน สโมสรในเวเนซูเอล่า ซึ่งเขาพาทีมผงาดเป็นรองแชมป์ และในการเล่นกับบาราควิญา รอบที่ 2 เขาคว้ารางวัลดาวซัลโวได้ด้วย

หัวใจนักสู้ของเขาได้รับการยอมรับ บัคก้า ได้โอกาสเล่นให้กับแอตเลติโก จูเนียร์ อย่างเต็มตัวและแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ พาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งคว้าแชมป์และคว้าดาวซัลโว ก่อนจะเข้าตาแมวมองจากยุโรปมีการดึงตัวไปคลับ บรูกก์ ในเบลเยี่ยม ซึ่งเขาก็ยังทำผลงานสุดยอด ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเบลเยี่ยม แม้จะเล่นให้กับพวกเขาแค่ปีเดียวก็ตาม

ปัจจุบัน บัคก้า ย้ายมาอยู่กับเซบีญ่า ในฐานะสตาร์ประจำทีมและยังคงต่อสู้ไม่ย่อท้อ เวลานี้ทำไปแล้ว 14 ประตูในลา ลีกา และผลงานในเกมกับเรอัล มาดริด เริ่มเข้าตาแมวมองสโมสรใหญ่ ทำให้อาจจะมีการย้ายทีมอีกครั้งเร็วๆนี้ท่ามกลางข่าวลือว่าบาร์เซโลน่า สนใจอยากได้ตัวเขา

คำถามสั้นๆง่ายๆว่า อะไรที่ทำให้นักฟุตบอลที่ไม่ได้เป็นอัจฉริยะลูกหนังตั้งแต่เกิด กว่าจะได้เล่นฟุตบลอาชีพก็อายุปาเข้าไป 20 ปี แถมยังต้องทำงานเสริมเพื่อให้ชีวิตรอด ก้าวมาถึงจุดนี้ได้?

หวังว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบทุกคนคงได้รับคำตอบนะครับ :)

รอดูบอลโลก

กองหน้าโคลัมเบียโหดๆเหมือนกันนะ

ฟัลเกา บัคคา รามอส มาติเนส

กองหน้าโคลอมเบียดีๆเยอะเกินชั้วโมงนี้

โห อย่างโหด แต่เอาลงได้แค่สองซินะ ฟัลเกาไม่รู้จะหายทันป่าว

มีมูเรียลแห่งอูดิด้วย

อิบารโบ [กายารี่]

หลุยส์ มูเรียล[อูดิ]

นี่เอาที่จำได้ แบบไม่ต้องเซริจ ก็เยอะมากพอละ

แถมตัวรุก-ปีก ก็ท๊อปๆหลายคน

อีกคนที่น่าสนใจ แต่ไม่ค่อยดัง

ก็นักเตะกองหน้าเบลเยี่ยม

เคยมีข่าวกับเวสต์แฮม

เคยถูกปฎิเสธเพราะเคยมีคดีติดคุกมาก่อน

นึกว่าติอาโก้ ซิลวา

เอฟอยากได้