BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
แสดงความเห็น
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
ไปที่หน้า
GO
ชมรมนักลงทุน SS
สมาชิก 113 คน, จำนวนคอมเมนต์ 128
Description
แหล่งสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการเงินการลงทุน ไม่ว่าจะสายวีไอ หรือสายเทคนิคคอลเปิดกว้างโลกทัศน์ด้านการลงทุน ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ชมรมของเรา [ชมรมนักลงทุน SS]

ระเบียบการชมรม

  • สมาชิกที่ต้องการเข้าร่วมชมรมให้กดปุ่ม join ที่อยู่ด้านบนของกระทู้
  • สมาชิกที่เข้าร่วมชมรมเสีย 10 แผล่บครั้งเดียวถาวร(หัวหน้าไม่เสีย)
  • สมาชิกที่เข้าร่วมแล้วเสีย 10 แผล่บจะได้รับการคืนหากหัวหน้ากดปฏิเสธไม่ให้ร่วมกลุ่ม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
เข้าร่วม: 18 Dec 2007
ตอบ: 55046 (บอร์ดเก่า 25323)
ที่อยู่: อยู่ที่ไหนก็ได้
โพสเมื่อ: Wed Sep 25, 2013 15:10
There is no good in anything until it is finished and Do not regret what you have done.

My Locker
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
เข้าร่วม: 25 Feb 2011
ตอบ: 1116 (บอร์ดเก่า 1587)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 26, 2013 09:14
ขอบคุณครัชชช

แหม่มม กว่าจะสะสมแผล่บเข้ามาได้
My Locker
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 290
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 30, 2013 22:40
ขอบคุณครับ สะสมแผล่ม อยู่นานกว่าจะเข้ามาได้อิอิ
My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 01, 2013 08:38
ผู้หญิงกับการลงทุน





Cr. http://pantip.com/topic/31042351
My Locker
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 9514 (บอร์ดเก่า 1890)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 01, 2013 09:21
สะสมแผล่บมานานนับเดือนจนเข้าได้
My Locker
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
เข้าร่วม: 18 Dec 2007
ตอบ: 55046 (บอร์ดเก่า 25323)
ที่อยู่: อยู่ที่ไหนก็ได้
โพสเมื่อ: Tue Oct 01, 2013 19:56
ฮาน้อยต่ายกับน้องเม่าอะ
There is no good in anything until it is finished and Do not regret what you have done.

My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 26 Jul 2010
ตอบ: 3084 (บอร์ดเก่า 14337)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 02, 2013 21:05
ชมรมนักลงทุนเงียบๆจัง

อยากสอบถามทุกท่านว่า มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนอะไร สอบถามได้นะครับ

ผมจะตอบแถวที่เม่าแบบผมจะตอบให้ได้นะครับ

My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 08:34
หุ้นถูก หุ้นแพง ดูอย่างไร

My Locker
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1841
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 09:02
สวัสดีตอนเช้าครับ เพิ่งสมัครร่วมกลุ่มเช้านี้เอง
My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 09:05
kopman36 พิมพ์ว่า:
สวัสดีตอนเช้าครับ เพิ่งสมัครร่วมกลุ่มเช้านี้เอง  

ยินดีต้อนรับ ชมรมแห่งความมั่งคั่ง
My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 09:08


จอร์จ ตัน เผยเทคนิคเซียนหุ้นขาใหญ่

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ก่อนจะทำศึก นอกจากคุณจะสำรวจความพร้อมของตัวเองให้ดีแล้ว คุณจะจำเป็นต้องสนใจพฤติกรรมและกลยุทธ์ของคู่ต่อสู้ ในตลาดหุ้นก็เช่นกัน คุณจำเป็นต้องเรียนรู้กลเม็ดเผด็จศึกของขาใหญ่ ที่คอยวางแผนจะกินเงินคุณทุกวินาที คุณต้องคอยเงี่ยหูฟังว่ารายใหญ่เขาคิดอะไรกันอยู่ รับรองว่าหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณจะเข้าใจหลักการของตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งหวังว่าจะทำให้คุณเป็นอีกคนที่ร่ำรวยจากตลาดหุ้น

"จอร์จ ตัน" หรือ เอกยุทธ อัญชันบุตร เซียนหุ้นขาใหญ่ เปิดเผยว่า คนที่เล่นหุ้นระดับ 1,000 ล้านขึ้นไป มีไม่เกิน 30 คน ที่เล่นหุ้นระดับ 2,000 ล้านบาทขึ้นไปมีอยู่ 4-5 คนในตลาด

"พวกนี้จะรู้จักกันเองผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมาชนกันในตลาด จะรู้เลยว่าซื้อขายสไตล์นี้ใครเล่น ถ้าเห็นลักษณะการขายที่รุนแรงออกมา จะรู้ได้ว่าเขาถือ "ต้นทุนต่ำ" ได้กำไรกลับออกไปเยอะ คนพวกนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนรัฐบาล"

รายใหญ่จะวนเวียนกับโบรกเกอร์ 5-6 แห่ง ใครก๊วนใคร หุ้นตัวนี้ "ทุ่น" ของใครสามารถยกหูเช็คข้อมูลง่ายมากผ่านโบรกเกอร์ที่ตัวเองใช้บริการ ข่าวสารสำหรับรายใหญ่ค่อนข้าง "แม่นยำ" แต่บางครั้งก็มี "ข่าวลวง" ถูกปล่อยออกมาเช่นเดียวกัน

"การลากหุ้นบางครั้งจะลากครั้งละ 2-3 มือ(ตัว)พร้อมกัน พวกนี้จะมี "วอร์รูม" (ห้องปฏิบัติการ) บางกลุ่มชอบไปคุยกันในร้านอาหารว่าจะเล่นตัวไหนดี"

ชื่อย่อถูกเรียกขาน และรู้กันเองในหมู่เซียน ภาษาที่ "เซียน" ใช้กันในตลาด
เอกยุทธ เล่าให้ฟังว่า คนที่ตกใจรีบขายหุ้นราคาถูกออกมาเขาเรียกว่า "ขายหมู" คำว่า "ซื้อยกไม้" หมายถึงการเก็บหุ้นเพื่อไล่ราคา "ทุ่นใคร" หมายถึง "หุ้นตัวนี้ของใคร"

กฎการทำกำไรของเซียน "จังหวะ" นั้นสำคัญที่สุด เอกยุทธบอกว่า คุณต้องรู้วิธีเข้า และวิธีออก แต่ไม่ใช่รู้วิธีเข้าๆ ออกๆ คนที่เข้าเร็วออกเร็วไม่มีทางรวยหุ้น..."เชื่อผม!!!"

จังหวะตลาดสำคัญมากในการกำหนด "กำไร" ในช่วงที่ตลาดหุ้น "ขาลง" หรือ"ไซด์เวย์" รายใหญ่ที่ชอบกินคำใหญ่ๆ จะถอนตัว พวกที่เล่นจะใช้วิธี "วิ่งราว" หรือ "วิ่งเร็ว" กำไร 2-3 ช่อง (ช่วง) ราคา..."หนี"

"ช่วงที่จังหวะตลาดไม่ดี เวลาไล่หุ้นเขาจะ "ซื้อขึ้น" จะใช้วิธีกวาดทีเดียว 3-4 ช่อง ล่อพวกตามแห่ ถ้าอยู่ดีๆ ช่อง Offer หายไป 3-4 ช่อง คนจะรีบคีย์คำสั่ง Bid (ซื้อ) ตามเข้ามา จากนั้นเขาจะลากขึ้นไป "ปล่อยของ" เหลือกำไร 2-3 ช่องก็ทิ้ง รายใหญ่ที่เล่นหุ้นในลักษณะนี้เขาเรียกว่าพวก "ฟาสต์ฟู้ด" (กินเร็ว) กินคำเล็กแล้วรีบออก"
เอกยุทธ ย้ำว่านักเล่นหุ้นที่มือระดับเซียน เขาไม่มานั่งดูเทคนิคแล้วซื้อๆ ขายๆ แต่เขาจะเก็บข้อมูลหุ้นเป้าหมาย ต้องรู้หมดทุกเรื่องเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้น

"Free Float" (จำนวนหุ้นหมุนเวียน)ในตลาด "หน้าตัก" เจ้าของหุ้น ดูว่าเจ้าของหุ้น "เซียน" แค่ไหนถือหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วติดต่อขอนัดคุย จากนั้นถึงมาเลือกกลยุทธ์ในการเก็บหุ้นว่าจะใช้วิธี "ทุบ" หรือจะค่อยๆ เก็บ

"ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการสร้างข่าว"

เขาเล่าว่า นักเล่นหุ้นที่พบมีหลากหลายประเภท ทั้งดูกราฟ ดูเป้าหมายราคา มีจุดตัดลากกันมั่วไปหมด แล้วก็มีอีกประเภทหนึ่งฟังข่าวลือในตลาดอย่างเดียว พวกนี้สั่งซื้อหุ้นยังไม่รู้เลยว่าบริษัททำธุรกิจอะไร ประเภทนี้ในตลาดหุ้นมีเยอะ..."เจ๊งลูกเดียว"

"ประเภทเซียนตัวจริง ข่าวลือมาไม่สนใจ ส่วนผมชอบ "ขี่หุ้น" ก็ไม่รู้ว่าจัดอยู่ประเภทไหน ผมจะให้น้ำหนักกับ "วอลุ่ม" มากกว่าสัญญาณทุกอย่าง หุ้นไม่มีวอลุ่มผมไม่เล่น ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับเทคนิค
รู้ว่าตัวไหนกำลังถูกเก็บก็จะเข้าก่อน เวลาออกก็จะหนีก่อน"

หุ้นที่เอกยุทธเล่นจะเลือกหุ้นที่มีโอกาสขายทำกำไรมากกว่า 10% ขึ้นไป จังหวะที่ตลาดไม่ดีเขาจะออกจากตลาด เพราะฉะนั้น กำไรมากหรือน้อยมันบอกเป็นกฎตายตัวไม่ได้ ต้องดูแนวโน้มของหุ้น ดูแนวโน้มตลาดว่ามันขึ้นมาแล้วกี่แต้ม(จุด)

"ช่วงที่ขึ้นจาก 605 แต้มขึ้นไป 800 แต้ม ใช้เวลา 2 เดือน ตลาดกำลังบ้าเลือด ช่วงนี้ผมได้กำไรเยอะมาก ไปเก็บไว้ก่อนช่วง 600-605 จุดเทหมดหน้าตัก"

ในการลงทุนของเอกยุทธ จะซื้อครั้งละไม่เกิน 4-5 ตัวมากที่สุด หุ้นที่เขาเล่นมีกฎตายตัวว่าต้องมีสภาพคล่องสูง และมีวอลุ่มแน่น (เท่านั้น)...."เช่น PTT BANPU ผมได้กำไรมาเยอะ" ช่วงนั้นจะเข้าแต่ตัวใหญ่ๆ ตัวละหลายร้อยล้านบาท

เอกยุทธ บอกว่า พวกกองทุนใหญ่ๆ ในต่างประเทศที่เข้ามาเล่นหุ้นไทย มันจะวนเวียนมาเจอกันในตลาด เขาเคยเจอ "จอร์จ โซรอส" มาแล้วหลายตลาด ไปเจอกันที่ลอนดอน ตอนไปทุบค่าเงินปอนด์

"ตอนจอร์จ โซรอสทุบเงินบาทปี 2540 ผมอยู่มาเลเซีย ช่วงนั้นหายนะประเทศไทยผมอยู่ข้างนอกมองเห็นหมด
ยังโทรมาบอกเพื่อนๆ ว่าขายทรัพย์สินให้หมด เก็บเงินสดไว้เดี๋ยวจะได้ซื้อของถูก"

ถ้าคุณอยากเป็นรายใหญ่ เขาย้ำว่า กฎของรายใหญ่มีเพียง 2 ข้อเท่านั้น
หนึ่ง คุณต้องมี "เงินสด" ติดกระเป๋า กับอีกข้อ อย่าโลภ (เด็ดขาด)

"ถ้ารู้ว่าเข้าจังหวะผิดต้อง "ทิ้ง? เขาเรียกว่า Cut Loss (ตัดขาดทุน) และ Let Profit Run (ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อไป) ช่วงที่หุ้นกำไรดีราคากำลังขึ้น ผมจะไล่ราคาตลอด สมมติว่าราคา 2 บาท กำไรเยอะแล้วล่ะ แต่ผมจะไม่ขายเลย จะเฝ้าหน้าจอตลอดว่าจะหนีหรือไม่หนี ช่วงนี้จะไม่ให้เด็กดูเลย ....ถ้ามันกลับหัวลงมาที่ 1.90 บาท..."ผมเลิก" ถ้าไปต่อที่ 2.20 ผมจะยังตามอยู่ วิธีการคือจะขยับเป้าหมายขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าหักหัวลงมา 2 บาทผมถึงจะขาย แต่ถ้ามันไม่ลงไปต่อ 2.50 ถ้า ลงมา 2.30 ผมขายแต่ถ้า 2.50 ยืนได้ เป้าของผมก็ขยับไป 2.80 คือ ผมจะ Let Profit Run ตลอด ผมจะไม่ Cut เลย"

หลักในการขายหุ้น "ขาขึ้น"
เอกยุทธ บอกเคล็ดลับว่า จะต้องปรับราคาขายอยู่ตลอด ถึง 2 บาทผมจะกำไรมากแล้ว แต่ถ้าราคายังวิ่งต่อ ผมจะไม่ขายเด็ดขาด ใครจะมาด่าว่าโง่ก็ไม่สน เพราะไม่รู้จะขายทำไม เพื่อให้ Let Profit มัน Run ไปตลอด

"แต่เมื่อใดที่มันเริ่มหันหัวกลับ...ผมเลิก ทุกราคาผมขายหมดจะไม่รอ และไม่เสียดายเงิน 5 สตางค์ 10 สตางค์ ทุกช่องที่มีอยู่จะโยน (ขาย) ทิ้งหมดเลย สมมติว่าถ้าราคา 2 บาทลงมา 1.80 ทุกราคาที่มี 1.80 บาทผมทิ้งหมด
แต่ถ้าขึ้นต่อ 1.80 ผมไม่ขายแล้ว รายใหญ่เขาเล่นกันอย่างนี้"

เอกยุทธให้นิยามของ ความโลภ
ในมุมมองของเขาว่า คนที่โลภคือคนที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน ไม่ประเมินภาวะตลาด เห็นคนอื่นได้ก็อยากได้ด้วย คุณอย่าคิดว่าหุ้นมันขึ้นเองโดยธรรมชาติ มันขึ้นเพราะ "ดีมานด์" มันขึ้นเพราะ "ความเชื่อ" 2 ปัจจัยนี้เท่านั้น

"ผมยกตัวอย่างเวลาคุณผ่านสี่แยกราชประสงค์ คุณยกมือไหว้พระพรหม เพราะคุณเชื่อถือ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง คุณผ่านประตูน้ำคุณเห็นตึกใบหยก ถ้าคุณยกมือไหว้ ที่นั่นก็ "ศักดิ์สิทธิ์" เหมือนกับการเล่นหุ้น คุณซื้อเพราะคุณเชื่อ!

....ผมจะบอกว่าคุณเชื่อได้ แต่อย่างมงาย
ผมเชื่อว่ามันจะขึ้นผมก็ไม่งมงายว่ามันจะขึ้นไปจนสุดยอด เพราะไม่มีอะไรขึ้นไปสุดยอดแล้วไม่มีลง ไม่มีใครขายหุ้นได้ในราคาสูงสุด ผมเองเล่นหุ้นมาเป็นสิบๆ ปี เคยขายหุ้นจุดสุดยอดไม่กี่ครั้ง ซึ่งมันต้องฟลุ้คจริงๆ

....เพราะฉะนั้นบางคนกำไร 10-20 สตางค์ก็ขายแล้ว คือ "Cut Profit" (ตัดกำไร) แต่หุ้นตกลงมา 50 สตางค์ Let Loss Run(ปล่อยให้ขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ) ไม่ยอมขาย ลงมาอีกก็ไม่ยอมขาย หวังว่ามันจะกลับไปที่เก่า เล่นอย่างงี้เจ๊งแน่ๆ"

เขากล่าวว่า ระดับมืออาชีพจริงๆ เขาจะไม่มีกฎอะไรตายตัว เช่น หุ้นลงมา 50% แล้วต้องซื้อหรือขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์แล้วต้องขาย...."ผมว่ามันเพ้อเจ้อ" หรือพวกที่ชอบซื้อหุ้น "ถัวเฉลี่ยต้นทุน" เขาก็จะไม่ทำ พวกนี้จะตายช้าๆ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน เล่นหุ้นขาลงซื้อถัวเฉลี่ยไม่ได้...ต้อง Cut Loss ทิ้งอย่างเดียว

เอกยุทธเล่าว่า วิธีการของรายใหญ่บางกลุ่มซึ่งเขาถือว่า "สกปรก" ที่สุด คือ จับบริษัท "เน่า" แต่งตัวแล้วนำมาซื้อขายในตลาด หุ้นเน่าจะมาจาก 2 แหล่ง จากหมวด Rehabco (ฟื้นฟูกิจการ) และผ่านเข้ามาทาง "ไอพีโอ" (หุ้นจอง)

ขบวนการจะเริ่มจากซื้อบริษัทที่ "เจ๊ง" ไปแล้วอาจจะอยู่ในตลาด หรือไม่ได้อยู่ในตลาด แต่ต้องมีขนาดที่ใหญ่หน่อยระดับหลายๆ ร้อยล้านบาทขึ้นไป เล็กๆ จะทำไม่คุ้ม ระดับที่เขาสนใจจริงๆ คือระดับ 2,000-3,000 ล้าน มันเห็นน้ำเห็นเนื้อ

มีต่อ....

แก้ไขล่าสุดโดย ssman เมื่อ Thu Oct 03, 2013 09:09, ทั้งหมด 1 ครั้ง
My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 09:10
...ต่อ

"ผมอยากจะเปรียบเหมือนกับเอาของเน่าๆ มาต้มให้ร้อน กินดูก็รู้ว่าเน่า หุ้นพวกนี้ราคาจะพุ่งแรงมากในช่วงแรกๆ แต่ไม่นานมันก็จะตกลงมาอย่างหนัก กราฟเหมือนยอดภูเขา"

ส่วนหุ้น "ไอพีโอ" วิธีการที่จะได้เงินตอนเข้าตลาดจะกำหนดค่าพี/อี เรโช สูงๆ บางบริษัทพื้นฐานไม่ดี แต่ขายพี/อี 12-13 เท่า บางตัวขาย 15 เท่า "ในความเห็นผมที่มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ บริษัทใหม่เขาจะให้พี/อีไม่เกิน 8 เท่า ตลาดจะต้องเป็นผู้กำหนดไม่ใช่ให้เจ้าของบริษัทเป็นผู้กำหนด หรือให้โบรกเกอร์เป็นคนกำหนด ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง

ก่อนเอาหุ้นเข้าตลาดต้องประมาณการ Cashflow และคาดการณ์กำไรปีถัดไป พอเข้าตลาดได้เงินแล้วประกาศตัวเลขขาดทุน จริงๆ แล้วเขาต้องมี Profit การันตี 3 ปี โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องเป็นคนรับประกัน"

ที่ไม่ถูกต้องอีกข้อทางการต้องห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือ ผู้บริหาร ซื้อๆ ขายๆ (เทรดหุ้น)เพราะคุณรู้ข้อมูลภายใน ในต่างประเทศเขาไม่ให้เรื่องนี้ เพราะเป็นการชี้นำราคา

Cr.http://pantip.com/topic/31013679
My Locker
ออฟไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status:
เข้าร่วม: 07 May 2010
ตอบ: 4469 (บอร์ดเก่า 1)
ที่อยู่: ชายแดน
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 09:16
รายงานตัวครับ กำลังเก็บเกี่ยวความรู้อยู่
My Locker
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1416 (บอร์ดเก่า 6888)
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 12:13
โลโก้ ชมรมใหม่จ้า
My Locker
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
เข้าร่วม: 16 Jul 2007
ตอบ: 17819 (บอร์ดเก่า 14704)
ที่อยู่: โกโรโฮ ประเทศจีน
โพสเมื่อ: Thu Oct 03, 2013 12:14
มือใหม่
My Locker
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
ไปที่หน้า
GO
ดูทีวีย้อนหลัง
แสดงความเห็น