นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2232
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 10, 2014 18:33
** ความซวยของทีมชาติอังกฤษ **
วันนี้ผมว่างอยุ่บ้านเลยเปิดพวกคลิปบอลตาม Youtube ดูไปเรื่อยๆ
จนเจอคลิปที่อังกฤษแพ้โครเอเชียคาบ้าน 3-2 แล้วอดไปยูโร 2008
ผมเลยเอะคิดว่าทีมชาติอังกฤษเป็นทีมชาติที่ซวยมากเลย
แล้วถ้าใครจำได้จะมีลูกยิงไกลลูกนึงในเกมดังกล่าว
ที่นิโก้ ครานช่ายิงแล้วสก็อต คาร์สันพลาดแบบไม่น่าจะพลาดเกิดขึ้น
แต่ก็เข้าใจว่ามนุษย์พลาดกันได้โดยเฉพาะผู้รักษาประตูพลาดมาทียิ่งเสียเครดิตเสียความน่าไว้วางใจต่อโค้ช
ก่อนหน้านั้นหรือหลังจากนั้นผมจำไม่ได้ลูกที่แกรี่ เนวิลล์อดีตกัปตันแมนยู ส่งคืนหลังแบบไม่น่ามีอะไร
พอล โรบินสันกลับเตะวืดและบอลเข้าประตูไปเสียอย่างนั้นถ้าใครนึกเหตุหารณ์นี้ออกจะคิดแบบผมว่าอังกฤษแม่งโคตรซวยเลยว่ะนี่ยังไม่พอยังถือว่าเล่าเพียงคร่าวๆ
สำหรับความซวยของทีมชาติอังกฤษพวกเขามักจะเจอความซวยความดราม่าทุกทัวร์นาเมนต์
ย้อนกลับไปฟุตบอลโลกปี 2010 รอบแบ่งกลุ่มระหว่าง อังกฤษกับ อเมริกา เป็นความผิดพลาดของผู้รักษาประตู(อีกแล้ว) คราวนี้เป็นความซวยของโรเบิร์ต กรีนเมื่อเขาพลาดลูกยิงที่ไม่น่ามีอะไรของคลิ้นท์ เดมพ์ซี่ พลาดแบบไม่น่าให้อภัยจนส่งผลให้อังกฤษเข้ารอบเป็นที่สองของกลุ่มเพราะเกมส์นั้นเกมส์ที่โรเบิร์ต กรีนพลาดเสมอกัน 1-1 ถ้าชนะจะเป็นแชมป์กลุ่มไม่เจองานหนักมากแต่ด้วยความซวยจบที่สองเข้าไปพบกับทีมชาติเยอรมัน
แต่โค้ชอังกฤษตอนนั้นฟาบิโอ คาเปลโล่ไม่ได้ต่อว่าโรเบิร์ต กรีนแม้แต่น้อยแต่แกดันไปโทษลูกฟุตบอลในทัวร์นาเมนต์นั้นคือ อาดิดาส จาบูลานี่ที่หลายคนหลายฝ่ายออกมาบอกว่าคือลูกฟุตบอลที่ห่วยแตกมากในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกโดยคาเปลโล่บอกว่าคือ ''ลูกฟุตบอลที่ห่วยที่สุดในชีวิตเขา'' ชูลิโอ เซซ่าร์ มือหนึ่งทีมชาติบราซิลปิ 2010 บอกว่า ''เหมือนลูกบอลชายหาด''
ตัดกลับมาที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายบอลโลก 2010 เกมส์ระหว่าง อังกฤษพบกับเยอรมันด้วยความซวยของอังกฤษที่เข้ารอบมาเป็นรองแชมป์กลุ่มทำให้ต้องเจองานหนักกับทีมชาติเยอรมันซึ่งเกมส์นั้นเยอรมันนำก่อน 2-0 และอังกฤษตีตื้นมาเป็น 2-1 และความซวยของอังกฤษเกิดขึ้น(อีกแล้ว) เมื่อลูกยิงของแฟรงค์ แลมพาร์ดยิงข้ามเส้นไปแล้ว ข้ามไปเยอะมากถ้าใครจำได้จะรู้ว่าข้ามไปเยอะมากๆ เป็นความผิดพลาดมหันต์ของกรรมมการ ส่งผลให้โมเมนตั้มของเกมส์เปลี่ยนและสุดท้ายอังกฤษตกรอบและแพ้เละเทะ 4-1
โดยแฟรงค์แลมพาร์ดคนที่ยิงข้ามเส้นไปแล้วแต่ไม่ได้ประตูกล่าวว่า ''ผมไม่ใส่ใจกับเคสที่ผ่านมาแล้ว ผมเจ็บใจมากผมไม่เคยยิงได้ในฟุตบอลโลกเสียทีและมันก็ข้ามเส้นไปเยอะมากด้วย'' แลมพาร์ดกล่าวเปิดใจกับนิตรยสาร 442 ของอังกฤษ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น 4 ปี ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันเกมส์รอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษพบกับโปรตุเกสเกมส์นั้นเวนย์ รูนี่ย์โดนไล่ออกหลังจากพยายามทำหมันริคาร์โด้ คาวัลโญ่กองหลังทีมโปรตุเกสและอังกฤษเหลือ 10 คนทั้งเกม 120 นาทีส์เสมอกัน 0-0 ส่งผลให้ต้องดวลจุดโทษแต่เหมือนเป็นความซวยของอังกฤษเมื่อตัวยิงจุดโทษระดับต้นๆ ของอังกฤษอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด(อีกแล้ว) และสตีเว่น เจอราร์ด ยิงพลาดทั้งคู่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเหมือนพระเอกของสโมสรเชลซีและลิเวอร์พูลในเวลานั้น เป็นดาวยิงจุดโทษประจำทีมแต่ดันมาพลาดหนึ่งในจุดโทษที่สำคัญมากของชีวิตและเจมี่ คาราเกอร์ก็มายิงพลาดอีกคนส่งผลให้อังกฤษตกรอบฟุตบอลโลก 2006 และทั้งหมดที่ยิงพลาดก็เป็นแพะของอังกฤษไปในเวลานั้น
ก่อนหน้านั้น 2 ปียูโร 2004 อังกฤษก็แพ้โปรตุเกสเพราะลูกโทษ(อีกแล้ว)มาแล้วโดยริคาร์โด้ นายทวารทีมโปรตุเกสเป็นพระเอกทั้งสองครั้งและยูโร 2004 พระเอกกัปตันทีมชาติอย่างเดวิด เบ็คแฮมเป็นคนยิงพลาดส่งผลให้ตกรอบยูโร 2004 ไปแบบเจ็บๆ
ย้อนไปปี 98 ฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสหนุ่มเบ็คก็เคยโดนไปแดงจากกรณีมีเรื่องกับดิเอโก้ ซิเมโอเน่กองกลางทีมชาติอาร์เจนติน่า นี่ยังแค่เรื่องต้นๆ ที่ผมนึกออกนะครับ ในอดีตก็มีอีกเหตุการณ์ฟุตบอลโลกปี 86 เกมส์ระหว่างทีมชาติอังกฤษและอาร์เจนติน่า ทีมชาติอังกฤษคงจำไปอีกนานและเป็นความโคตรซวยของพวกเขาเมื่อโดน หัตถ์พระเจ้า ของดิเอโก้ มาราโดน่าแล้วอังกฤษเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปแล้วทีมฟ้าขาวได้แชมป์ไปในปีนั้น
อ่านจบแล้วยาวเลยในฐานะเล่นเป็นผู้รักษาประตูเหมือนกันกรณีของกรีนและคาร์สันผมเข้าใจและสงสารสองคนนี้มากๆ เพราะคนเราพลาดกันได้ แหม่ อังกฤษนี่ซวยมากจริงๆ เลยว่ามั๊ยครับและใครมีเหตุการณ์ความซวยของอังกฤษก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ ขอบคุณครับที่อ่าน
** ภาพประกอบ **
ความซวยของคาร์สันและอังกฤษตกรอบคัดเลือก ยูโร 2008
พอล โรบินสันเตะบอลวืดซะงั้น
แม้บอลจะข้ามเส้นไปเยอะแต่ก็ไม่ได้ประตูสำหรับ แฟรงค์ แลมพาร์ดปี 2010
พลาดระทึกโลกของโรเบิร์ต กรีน
อารมณ์ที่แตกต่างของ เบ็ค และ ริคาร์โด้
แลมพาร์ดกลายเป็นแลมพลาด
แลมพ์พลาดแล้ว เจิดก็พลาดบ้าง
แก้ไขล่าสุดโดย DAVIDBECKHAM23 เมื่อ Mon Mar 10, 2014 05:54, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
"you can change your wife, your politics, your religion, but never, never can you change your favourite football team."