เออร์วินรอมเมล ขุนพลเทพแห่งนาซี
เคยลงไปเมื่อนานมาแล้ว ขอเอามาลงบอร์ดใหม่หน่อยละกันจะได้เข้าarchive ไว้
เออร์วินรอมเมล ขุนพลเทพแห่งนาซี
วันก่อนเขียนถึงอาวุธต่างๆของเยอรมันไป
http://pantip.com/topic/30821593
วันนี้ขอเขียนถึงคนบ้าง คนที่จะพูดถึงวันนี้คือ นายพล เออร์วิน "จิ้งจอกทะเลทราย"รอมเมล ขุนพลเทพแห่งเยอรมัน อดีตลูกรักของท่านผู้นำ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์นั่นเอง
ทำไมถึงเรียกว่าขุนพลเทพ หลายๆคนคงสงสัย มาดูกันดีกว่า อ้อ รายละเอียดของประวัติของนักรบท่านนี้ผมไม่แม่น หากอะไรผิดพลาดก็ขออภัยนะ เพราะเล่าเท่าที่รู้
เออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) เกิดเมื่อ 15 พ.ย. 1891 ที่เมือง Heidenheim ในเยอรมัน เริ่มต้นนั้นอยากเป็นวิศวกร แต่พ่อไม่ยอม จึงเข้าเป็นทหารในกองทัพบกเยอรมัน โดยได้ริ่มสร้างผลงานและชื่อเสียงให้ตนเองมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่1 นำทหารออกรบจนได้รับเหรียญกล้าหาญ iron cross นำทหารบุกยึดป้อมในอิตาลี(ตอนนั้นรบกันในสงครามโลกครั้งที่1)
หลังจบสงครามโลกครั้งที่1 ปี 1929 รอมเมลได้รับ การแต่งตั้ง ให้เป็นครูสอนวิชาทหารราบที่ Dresden
ในเดือน ต.ค. 1935 เขาได้รับการเลื่อนยศเป็นพันโท สอนวิชาทหารราบที่สถาบันสงคราม Potsdam
ในปี 1937 จากความที่เป็นอาจารย์ที่เก่งมาก บทความแนวคิดที่เขาสอนจึงได้รับการตีพิมพ์ ซึ่งหนังสือนี้ได้ไปถึงมือ"ท่านผู้นำ" ซึ่งโดนใจท่านผู้นำมิใช่น้อยเลย
เนื่องจากประทับใจกับแนวคิดของรอมเมล ฮิตเลอร์จึงแต่งตั้งเขาให้เป็นฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการ ของฮิตเลอร์ในออสเตรีย เชคโกสโลวะเกีย และโปแลนด์ในปีต่อมา
ต่อมาในปี1940 ฮิตเลอร์ก็แต่งให้เขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยยานเกราะที่7 (7th panzer division)ประดับยศพลตรี แล้วนำกองทัพบุกฝรั่งเศส
ผลน่ะหรอ....
กดซะน่วมไปทุกแนวที่บุก ฝรั่งเศสโดนบุกยับ รอมเมลไล่ตีพันธมิตร ฝรั่งเศส-อังกฤษแทบตกทะเล บุกยึดปารีส และฉายา ghost division หรือกองพันปีศาจ ก็ได้มาจากครั้งนี้นี่เอง
ในการสงคราม สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ "ทรัพยากร" ซึ่งอาฟริกาเป็นน1ในเป้าหมายสำคัญ ซึ่ง "อิลดูเช่" เบนิโต้ มุโสลินี ผู้นำอิตาลี คู่เกย์ของท่านผู้นำหมายตาไว้ และได้นำกองทัพอิตาลีเปิดศึกในอาฟริกาเหนือ แต่
กองทัพอิตาลีนั้นล้าสมัย การจัดการก็ไม่ได้เรื่อง แถมโดนอังกฤษไล่ตีเละเทะ จนสุดท้ายต้องร้องขอความช่วยเหลือมาที่ฮิตเลอร์
ฮิตเลอร์จึงส่งรอมเมล ขุนพลเทพ ไพ่ตาย พร้อมกับหน่วย afrika korps ไปช่วยเหลือ เพื่อต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่กำลังฮึกเหิมสุดๆ
ผลน่ะเหรอ ภายในไม่กี่เดือน กองทัพ เยอรมัน-อิตาลี ภายใต้การนำของรอมเมล ไล่ตีอังกฤษเละเทะ จนทหารอังกฤษเสียขวัญ มองรอมเมลว่าไร้เทียมทาน ขวัญกำลังใจหดหาย ลือกันไปถึงขั้นว่ารอมเมลเป็นคน"มีของ"ก็มี (ใครว่าฝรั่งไม่งมงาย กูเถียงตายห่าเลย -*-)
ขวัญและกำลังใจ ณ.เกาะอังกฤษเองก็ย่ำแย่ เมื่อชัยชนะที่ได้มา กลับโดนทำลายไปในไม่กี่เดือน โดย วินสตัน เชอร์ชิล นายกฯอังกฤษตอนนั้น ได้พูดถึงรอมเมลในหลายๆครั้งประมาณว่า คงไมดีนักที่จะชมศัตรู แต่ต้องยอมรับว่าเป็นนายพลที่มีความสามารถ และเก่งมากๆจริงๆ
และครั้งหนึ่งถึงกับยอมรับว่า ถ้าเราจะแพ้สงครามก็เพราะนายพลคนนี้แหละ
คือศัตรูยังต้องยอมรับเลยว่าพี่แกเมพ เอากับแกสิ และฉายาจิ้งจอกทะเลทรายก็ได้มาจากศึกทีอาฟริกานี่เอง
และแล้วก็มาถึงศึกที่เป็นตัวตัดสินสงครามในอาฟริกา นั่นคือ การศึก ณ. เอล อาลาเมน (the battle of el alamein) ที่ซึ่งรอมเมลจะได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกับเขา พลเอก เบอร์นาต มอนต์โกเมอรี่ (Bernard Law Montgomery) แห่งกองทัพสหราชอาณาจักร
หลังจากที่พ่ายแพ้ยับเยินในตอนแรก (เรียกกันว่า การศึกแห่งเอลอาลาเมน ครั้งที่1) อังกฤษได้เปลี่ยนตัวนายพล ซึ่งมอนโกเมอรี่ไม่ใช่ตัวเลือกแรก แต่นายพลที่จะมาตอนแรกดันเครื่องบินตก ส้มเลยมาหล่นที่มอนโกเมอรี่แทน
ณ.จุดนั้นขวัญกำลังใจทหารกำลังย่ำแย่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้อย่างจริงจัง แต่ข่าวดีก็คือ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเยอรมันกำลังเจอแนวรบหลายด้านทั้งจากอเมริกาและรัสเซีย และอังกฤษได้สายการสนับสนุนอย่างมหาศาลจากอเมริกาซึ่งเข้าสู่สงครามอย่างเต็มตัว แตกต่างจากรอมเมล ซึ่งสายการสนับสนุนถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเรือลำเลียงไม่สามารถผ่านแนวป้องกันเข้ามาได้
รอมเมลถูกบีบให้ต้องสู้กับข้าศึกที่เหนือกว่าทั้งจำนวนคน ยุทโธปกรณ์ และสายการสนับสนุน ผลการศึกจึงไม่ต้องเดา สุดท้ายรอมเมลต้องยอมรับสภาพ ยอมฝืนคำสั่งฮิตเลอร์ที่ให้สู้ต่อไป ถอนกำลังกลับ เพราะสู้ต่อไปก็เอาทหารไปทิ้งเปล่าๆ
หลายๆคนอาจจะคิดว่ารอมเมลนั้นเป็นนายพลประเภทที่นั่งสั่งการอยู่ในห้องแต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เหตุผลที่ทหารใต้บังคับบัญชาบูชาเขาเพราะเขาเป็นนายพลที่กินนอนกับทหาร ลงดูพื้นที่ บัญชาการรบเอง ระหว่างการศึกที่อาฟริกา รอมเมลถึงกับต้องโดนส่งกลับเยอรมันเพราะป่วย แล้วก็กลับมาบัญชาการรบต่อหลังจากอาการดีขึ้น
หลังจากนั้นก็มีแผนลอบสังหารฮิตเลอร์เกิดขึ้นในหมู่นายทหารของเยอรมันเพราะกำลังจแพ้สงคราม รอมเมลเป็นคนที่ค้านแผนนี้และบอกว่าต้องจับมาแล้วเอาขึ้นศาลแทน
ระหว่างนั้นรอมเมลได้รับหน้าที่ไปคุมการสร้าง"กำแพงแอตแลนติก " เพื่อป้องกันไคจู เอ๊ยไม่ใช่!!!! เพื่อป้องกันปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด(operation overlord) ที่เป็นปฏิบัติการยกพลขึ้นบกของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งสุดท้ายแม้จะสร้างความเสียหายให้ฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างมากมาย แต่ด้วยทรัพยากรที่จำกัดจากสายการสนับสนุนที่ขาดแคลน กองทัพเยอรมันจึงต้องพ่ายแพ้ไป
วาระสุดท้ายของนายพลใจสิงห์ผู้นี้มาถึงเมื่อแผนลอบสังหารฮิตเลอร์ไม่สำเร็จ และผู้ร่วมก่อการโดนจับได้ โดยรอมเมลเป็น1ในผู้ก่อการ
ในวันที่ 14 ต.ค. 1944 ฮิตเลอร์ได้ส่งนายพล2คไปพบรอมเมล พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่า จะให้รอมเมลฆ่าตัวตาย แล้วทางรัฐจะจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติวีรบุรุษของชาติ ลูกเมียจะได้รับการดูแลอย่างดี หรือจะขึ้นศาลทหารในฐานะกบฏ ซึ่งลูกเมียก็จะต้องโดนไปด้วย
เมื่อทางเลือกเหลือแค่นี้ รอมเมลจึงต้องยอมฆ่าตัวตาย และให้ฮิตเลอร์ใช้เขาเป็นเครื่องมือโฆษณาอีกครั้ง
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรอมเมลจึงได้รับการยกย่องจากทังคนเยอรมัน และจากข้าศึก
เหตุผลก็เพราะรอมเมลเป็นทหารครับ ทหารอาชีพแท้ๆ รบเพราะหน้าที่ เพราะกูเป็นทหาร ไม่ได้รบเพราะเกลียด
กองทัพที่รอมเมลคุม ไม่เคยโดนร้องเรียนเรื่องทารุณกรรมเชลย เขามีคำสั่งให้ปันส่วนอาหารให้เท่ากับที่ทหารของเขาได้รับด้วยซ้ำ ในการรบ หากต้องใช้แรงงานชาวบ้าน รอมเมลถึงกับจ่ายค่าจ้างให้ด้วย มีคนเล่าว่า รอมเมลเป็นคนเดียวที่ฝ่ายสัมพันธมิตรยอมให้สร้างอนุสาวรีย์
จบแระ อ่านแล้วชอบไหม สนุกไหม ก็บอกกันหน่อยนะ ขอไปหาไรกินก่อน นั่งเขียนมา2ชม กว่าๆ หิวแระ - -