The Happy One : Jose Mourinho Part 2

การกลับมาคุมทีมรอบ 2 เริ่มแรกมีแต่แฟนบอลเรียกร้องให้กลับมาคุมทีม เพราะภาค 1 สร้างผลงานไว้ได้อย่างดีมาก แต่ภาค 2 เริ่มต้นเหมือนจะไม่ใช่อย่างที่แฟนบอลคาดหวังไว้ และบวกกับทรัพยากรนักเตะที่เรียกได้ว่า ไม่เป็นสองรองใครในลีกแน่นอน

มูริญโย่ คุมทีมไปได้ 20กว่านัดแล้ว ในลีกพาทีมรั้งอันดับ 3 อยู่ตามหลัง"จ่าฝูง" อยู่เพียง 2 แต้ม และการแข่งขัน UCL ก็เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบ 16ทีม แต่ผลงานก็ไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่นัก ในศึก UCL

และล่าสุดตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยการพ่ายแพ้ซันเดอร์แลนด์ 2-1 ในรายการแคปิตอล วันคัพ ทำให้หมดลุ้นแชมป์ไปอีก 1 รายการ แต่ที่พลาดที่สุดคือ การส่ง แลมพาร์ด มิเกล เป็นคู่กลาง เพราะไม่สามารถไล่บอล จากคู่แข่งได้ถนัด เพราะทั้งคู่มีความเร็วที่ช้า พอเจอบอลเร็ว วิ่งไล่ บางครั้งงานหนักจึงตกอยู่ที่กองหลัง

แต่ที่สำคัญที่สุดของมูริญโญ่ในภาค 2 คือ รูปแบบการเล่นของเชลซี ที่เล่นกันไม่เป็นรูปร่างเลย บางเกมเล่นได้ไม่เหนือกว่าทีมคู่แข่งเลย ในมุมกลับกันเชลซี มีนักเตะชั้นยอดอยู่มาก มูริญโย่ก็ยังไม่ค่อยเปิดใจกับนักเตะเท่าไหร่นัก บวกกับเกมรับของมูริญโย่ยุคนี้เละ โดนยิงเป็นว่าเล่นและตอนนี้เชลซีสามารถ พร้อมแพ้ได้ทุกทีม

ทำให้มีแฟนบอลบางส่วนเริ่มไม่พอใจกับผลงาน แต่ก็มีแฟนบอลบางกลุ่มที่ยังรักมูริญโย่อยู่ ที่จะคอยออกมาปกป้อง แต่ก็มีคำถามออกมาเรื่อยๆจากแฟนบอล ว่า มูริญโย่คือคำตอบหรอ ? ,โค้ชกับนักเตะที่มีอยู่เหมือนกับคนละสไตส์กันใช่มัย ? ,นักเตะชุดนี้ไม่ดีพออีกหรอ ต้องซื้อเพิ่มมัย ? ฯลฯ

โดยส่วนตัวแล้วตอนนี้ผลงานของมูริญโย่อยู่ในระดับ กลางๆ ไม่ดีมาก และก็ไม่ถึงกับแย่มาก จะให้ปลดเลยก็ยังไงอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นโค้ชคนอื่นคงอยู่ลำบากมาก น่าจะลองให้มูริญโย่พิสูจน์ตัวเองต่อจนจบฤดูกาล แต่จะให้ซื้อนักเตะใหม่ก็ใช่เรื่อง เพราะมองว่าที่มีอยู่นี้ศักยภาพเพียงพอ อยากให้มูริญโย่ลดอีโก้ตัวเองลง บางครั้งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อทีมและตัวเอง

ปล.รู้สึกว่ากองหน้าจะกลายเป็นแพะมากกว่า จะมีกองหน้าสักกี่คนที่เป็นแบบ ดรอกบา อิบรา โยนๆบอลเข้าไป เด่วมันพักบอลเล่นเองยิงตูมเข้า สไตส์เชลซีตอนนี้ค่อยๆขึงเกม ถ่ายบอลไปซ้าย-ขวา ทำไรไม่ได้ครอสเข้าใน การเจาะพื้นที่ตรงกลาง ทำชิ่ง1-2 คิสเลอร์พาสแทบไม่มี กองหน้าทุกคนต้องการพื้นที่เล่น แต่เมื่อขึงเกม ฝั่งตรงข้ามรับหมด กองหน้าอยู่กลางวงล้อมของอีกฝั่ง ทำให้ไม่ได้บอล หรือก็ ล้ำหน้าแบบ เดมบ้า บา โดยส่วนตัวเชลซีควรจะเปลี่ยนสไตส์การเล่นได้แล้ว เล่นแบบนี้มีตั้งแต่มูริญโย่ภาค 1 ไม่ว่าจะเปลี่ยนโค้ชกี่คน ส่วนใหญ่ก็เล่นเหมือนเดิม จนกระทั้งมูริญโย่กลับมาคุมทีมอีกครั้ง ก็ยังเล่นเหมือนเดิม
ปล. คิดถึงสมัย 4-4-2 กุ๊ด-ฮัลเซลแบง T_T

มูไม่ได้แย่ถึงต้องปลด แต่ที่สงสัยคือ สงสัยในความสามารถของมู มูไม่สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้เลยหรือ?? หลายคนบอกว่านักเตะเล่นไม่เข้าแผนของมู แล้วมูมีแผนเดียวหรือ???

ดูไปก่อนแล้วกันอย่างน้อยผลงานก็ยังทำได้ดี ตามจ่าฝูงสองแต้ม บอลยุโรปก็ยังโออยู่
แค่ไม่ปลื้มกับแนวทางการเล่นในตอนนี้เลย
ชนะอยู่หรอก แต่กว่าชนะหืดจับทุกที แบบที่ชนะทั้งรูปเกมส์ทั้งสกอร์นับนัดได้เลย

ถ้าจะพูด ถึงการเซตแผนที่ไม่ทำร้ายกองหน้า มากที่สุด ในช่วงยุคของเสี่ยหมีผมว่า น่าจะพูดถึง ยุคของอันเช่มากที่สุดครับ การเล่น 4-4-2แบบต้นคริสต์มาสนั้น สามารถ ใช้ ศักยภาพของกองหน้าได้อย่างเต็มที่มากๆครับ แทบจะไม่มีโค้ชคนไหนเลย ที่จะส่งกองหน้าลงมาคู่กับดรอกบาแล้ว ไม่มีคนใดคนนึงต้องฉีกออกไปด้านกว้าง แต่นั่นละครับถึงแม้มันจะดีแต่มันก็ไม่เสมอไป ในช่วงยุคอันเช่ที่ฟอร์มแผ่วๆก็เพราะว่า เมื่อโดนแพคแดนหลังแล้ว ไม่มีพื้นที่ระหว่างไลน์เซนเตอร์แบคกับโกล์มากพอ ที่จะแแทงให้ กองหน้าคู่ได้เล่นอย่างเต็มที่ มันก็กลับมาอีหรอบเดิมว่า ต้องลากต้องโยน
การที่เน้นการใช้ปีกที่พิษสงมากในสไตล์ที่มูถนัด เหมือนจะเปรียบเทียบอาซาเป็นรอบเบน ในอดีตนั้น ผมว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด เพียงแต่ การจูนการฟอร์มการเล่นต้องใช้เวลา การให้ปีกทำงานคนเดียวนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าลองเปรียบเทียบกับแมนยูของเซอร์ที่รุ่งเรืองได้อย่างยาวนานนั่น ก็เพราะทั้งทีมพร้อมใจกันถ่างแนวรับออก การเล่นออกปีกบ่อยๆที่เหมือนจะเป็นเรื่องน่าเบื่อเดิมๆ แต่แมนยูสามารถใช้มันในลีกได้โดยที่คุณภาพไม่มีเสื่อมถอย ทั้งนี้ทั้งนั้นกองหน้าก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องรับผิดชอบแสดงออกถึงความสามารถให้สมกับราคาเช่นกัน

เสียวโรมันจัง เงียบๆจังช่วงนี้ บรรยากาศมาคุจริงๆ เดียวออกมาตูมเดียวเสียวทั้งบางอีก ขืนฟอร์มพร้อมที่จะแพ้ได้ทุกทีมแบบนี้

พญาเสือกลับมากินซากเก่า คงไม่อร่อยลิ้นซักเท่าใดดอก