ว่าด้วย รอยสักของท่านกรมหลวงชุมพร
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีนามเดิมว่า “อาภากร”
ทรงสักยันต์ทั้งพระองค์ตั้งแต่สมัยวัยหนุ่ม รูปสักที่มีบันทึกมีดังนี้ หนุมาน, ลิงลม(บริเวณพระชงฆ์ เพื่อเดินเร็ว), มังกร (เลื่อยพันบริเวณแขน), อักขระ(บริเวณข้อนิ้ว เพื่อชกต่อยหนัก)
บริเวณอุระสัก “ร.ศ. 112 ตราด” เพื่อจำไม่ลืมกับการบุกรุกของกองเรือรบฝรั่งเศสที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา หลังเหตุการณ์นี้ไทยต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเพื่อแลกกับอธิปไตยของไทยโดยรวม เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อพระองค์เจ้าอาภากรยังทรงพระเยาว์เพียง 13 ชันษาเท่านั้น เหตุนี้จึงทำให้พระองค์ท่านทรงมุ่งมั่นในการศึกษาวิชาทหารเรือเพื่อกลับมารับใช้บ้านเมือง และยังได้ทรงสักให้นักเรียนนายเรือรุ่นแรกๆเพียงไม่กี่คนด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง เพื่อให้เป็นที่จดจำเหตุการณ์นี้
เล่ากันต่อมาว่า เมื่อหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบจะสักอาคมเพิ่มเติมให้ปรากฏว่าพระวรกายไม่มีที่ว่าง จึงได้อักขระ “นะ” คำเดียวที่บริเวณกัณฐมณี (ลูกกระเดือก) เท่านั้น
การที่เสด็จเตี่ยกราบเกจิอาจารย์ขอเป็นศิษย์กับทุกอาจารย์ที่ได้พบนั้น ทำให้พระองค์ทรงเป็นศิษย์หลายครู ครูบาอาจารย์ของพระองค์นั้นมีดังนี้ หลวงปู่ดำ ภูเก็ต, หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, หลวงปู่ศุข วัดอู่ทอง ปากคลองมะขามเฒ่า (ปัจจุบันเรียก วัดมะขามเฒ่า), หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงพ่อจร วัดดอนรวบ, หลวงพ่อเจียม ชลบุรี, หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก,หลวงพ่อเขียว วัดเครือวัลย์, หลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ฯลฯ
แต่ที่พระองค์ท่านผูกพันจริงๆ ใกล้ชิดเป็นพิเศษมีเพียง 3 รูปคือ หลวงปู่ศุข,หลวงพ่อเงินและหลวงพ่อพริ้งเท่านั้น
ช่วงสุดท้ายของชีวิตเสด็จในกรม สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2466 สิริอายุพระชนมายุได้เพียง 43 พรรษาเท่านั้น
มีการสถาปนาวันที่ 19 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวัน “อาภากร” เพื่อเป็นการระลึกถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก่อนพระองค์ท่านจะจากไป ท่านได้ฝากบันทึกสุดท้ายไว้ย้ำเตือนแก่ลูกหลานชาวไทย ซึ่งมีใจความว่า
“… เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า
กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช
ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้
ไอ้อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์
ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว
ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู
ตราบใดที่คำว่าอาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู
ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน
ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น…”
แสดงให้เห็นว่าท่านทรงรักแผ่นดินสยามนี้เพียงใด
Credit
lovelikejourney.com
navy22.com
th.wikipedia.org
แถมๆๆๆๆ เกี่ยวกับแม่นาคพระโขนง
อันนี้คิดคำนวนเอาเองคร่าวๆนะครับ เรื่องแม่นาคครับ
เชื่อกันว่าแม่นาคพระโขนงตายเมื่อปลายรัชการที่ 3 เลยประมาณว่าปี 2390 (ก่ิอนรัชกาลที่ 4 ครองราช 3 ปี)
ปั้นเหน่งของแม่นาคนั้น กรมหลวงชุมพรเคยได้ครบครองไว้ และวันหนึ่ง (ไม่รู้วันไหนหาไม่พบ) ระหว่างอยู่ที่โต๊ะเสวย ท่านได้ตรัสว่า "แม่นาคเขาลาไปเกิดแล้ว" แปลว่าแม่นาคได้ลาไปเกิดก่อนกรมหลวงชุมพรจะ สิ้นพระชนม์ เลยประมานว่าปี 2460 (6 ปีก่อนสิ้นพระชนม์)
สรุปว่า หลังจากแม่นาคตาย กว่าจะได้ไปเกิดใหม่ใช่เวลาร่วม 70 ปี .....จารู้ไปทำมายยยยยย.
ขึ้นด้วยรอยสัก จบด้วยแม่นาค
สมแล้วที่ตกเรียงความ
พยายามหารูปรอยสักของท่าน หาไม่พบเลยครับ.
ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือรูปก็มาแชร์ๆกันหน่อยครับ