BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: รับปรึกษาปัญหา iPhone,iPad,iPod
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 9371
ที่อยู่: ความทรงจำของคนที่รักเรา
โพสเมื่อ: Thu Nov 14, 2013 09:56
14 พ.ย. "วันเบาหวานโลก"


14 พฤศจิกายน วันนี้ คือ วันเบาหวานโลก (World Diabetes Day) “รวมพลัง ลดเสี่ยง เลี่ยงเบาหวาน” เรามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวันนี้มาฝาก

องค์การอนามัยโลกและสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation : IDF) ได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันเบาหวานโลก (World Diabetes Day) และได้กำหนดประเด็น (theme) การรณรงค์วันเบาหวานโลกในตลอด 5 ปี ระหว่างปี 2552 – 2556 คือ “ Diabetes Education and Prevention ” หรือ “การให้ความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน”

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของโลก รวมทั้งประเทศไทยสถานการณ์เบาหวานปัจจุบันมีอุบัติการณ์เพิ่มมากขึ้น และได้ประมาณการว่าจะมีจำนวนผู้เป็นเบาหวานทั่วโลกเพิ่มมากกว่า 435 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2573 หากไม่มีการดำเนินการในการป้องกันและควบคุมที่มีประสิทธิภาพ

เบาหวานเป็นสาเหตุทำให้เกิดการป่วยและตายก่อนวัยอันสมควร จากภาวะแทรกซ้อนต่อตา ไต ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือดสมอง

เบาหวาน เป็นกลุ่มอาการจากความผิดปกติที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ตามปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินออกมาได้เพียงพอ หรือสร้างไม่ได้เลย ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเหลือค้างอยู่มากและมีระดับสูงกว่าปกติ (ในคนปกติ ก่อนรับประทานอาหารเช้าจะมีระดับน้ำตาลในเลือดประมาณ 70 – 110 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และหลังรับประทานอาหารแล้ว 2 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร)


อาการสงสัยว่าเป็นโรคเบาหวานเป็นอย่างไร
1. ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะปริมาณมาก ปัสสาวะตอนกลางคืน
2. คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อย
3. หิวบ่อย กินจุ แต่น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
4. เป็นแผล หรือฝี ง่าย
5. มีอาการคันตามผิวหนัง และอวัยวะสืบพันธ์ มีการติดเชื้อราง่าย
6. ชาบริเวณปลายมือและปลายเท้า ความรู้สึกทางเพศลดลง
7. มองเห็นไม่ชัด ตาพร่ามัว

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน
1. น้ำหนักเกิน ความอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย
2. กรรมพันธุ์
3. ความเครียดเรื้อรัง
4. อายุที่มากขึ้น มีโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น
5. โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน
6. การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม ซึ่งมีผลต่อตับอ่อน
7. การได้รับยาบางชนิด ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้นหรือการตอบสนองของอินซูลินได้ไม่ดี
8. การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน

ภาวะแทรกซ้อนเบาหวาน
1. ตา อาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย ประสาทตาหรือจอตาเสื่อม ทำให้ตามัวลงเรื่อยๆ และอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
2. เท้า เบาหวานไปที่เส้นประสาท ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า เกิดแผลได้ง่ายและ อาจก่อให้เกิดความพิการ
3. ไต มักจะเสื่อม จนเกิดภาวะไตวาย
4. เป็นการติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากภูมิต้านทานต่ำ
5. ภาวะคีโตซีส ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำมาก หายใจหอบลึก มีไข้ กระวนกระวาย
6. ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง อัมพาต หัวใจขาดเลือด

มาตรการในการป้องกันโรคเบาหวาน ใช้เคล็ดลับ “ใส่ใจ 3อ. บอกลา 2ส.ต้านโรคเบาหวาน” (3 อ. ได้แก่ อาหาร ออกกาลังกาย อารมณ์ และ 2 ส. คือ ไม่สูบบุหรี่ ลดดื่มสุรา)


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

ทีมา khonkaenlink
ภาพ www.innnews.co.th
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel