ในช่วงนี้ที่ทุกคนมีการตื่นตัวและเคลื่อนไหวทางการเมืองเห็นแล้วชื่นใจ
เพราะหมายความว่าทุกคนนั้นไม่ได้ยอมให้กับการคอรัปชั่น
แต่อย่าฟังความที่โจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ลืมหูลืมตานะครับ
เพราะหลายๆข้อความนั้นเป็นข้อมูลที่สร้างมาเพื่อโจมตีอย่างเดียวจริงๆ
อย่าพลาดเป็นเครื่องมือของนักการเมืองชั่วๆที่หวังผลจากเหตุการณ์นี้
ไม่ว่าจะเป็นภาพจากเหตุการณ์เก่าที่ถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่พร้อมเรื่องราวใหม่
รึว่าจะเป็นข้อมูลเลื่อนลอยที่ไม่มีความสมจริง
เราต้องสังเกตและจำว่าภาพไหนที่ถูกนำเสนอไปแล้วและมีเรื่องราวอะไรในช่วงไหน
เพื่อป้องกันการถูกชักจูงให้ไปสู่เหตุการณ์ที่ไมคาดฝันนะครับ

นักอุดมการณ์ในอดีตนั้นพยายามเคลื่อนไหวเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด
โดยเน้นไปที่การให้ความรู้เพื่อที่จะไม่เป็นเหยื่อทางความคิด
เช่น อับราฮัม ลินคอล์น
ลินคอล์นเริ่มเคลื่อนไหวโดยการให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการมีสิทธิที่เท่าเทียมกันของเหล่าทาสกับประชาชนชาวยอเมริกา
โดยชี้ให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียม
จนกระทั่งการรวมประเทศอเมริกาก็พยายามยุติสงครามให้เร็วที่สุด
โดยการใช้วาทศิลป์เพื่อให้คู่แข่งต้องสู้กันเอง

แต่ในไทยนั้นยังห่างนักจากอุดมการณ์ที่ถูกต้องกับความเท่าเทียม
ด้วยการเปลี่ยนแปลงจากอดีตนั้นไม่ได้เตรียมพร้อมกับสิ่งใหม่ที่ถูกเรียกว่า"ประชาธิปไตย"
ประชาชนขาดความรู้ ทำให้ยังยึดติดกับเจ้านาย
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแต่การดำเนินการต่อนั้นไม่มี
ไม่มีการให้ความรู้ ไม่มีการให้การศึกษา
มีเพียงแต่การเป็นปัจเจกของตนเอง
ส่งผลให้คนเราเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นเพราะคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน
"ก็นี่มีสิทธิของชั้น ใครจะทำไม"
ลืมนึกไปว่าสิทธิที่ได้มานั้นเบียดเบียนใครไปบ้าง
ยิ่งในปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ยิ่งเด่นชัด
คนไทยหลายๆคนมองการคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติทืี่ใครก็ทำกัน
โกงแล้วแบ่งมาบ้างก็ไม่ผิด
ไม่โกงก็ไม่ชนะ
ไม่โกงก็ไม่พัฒนา
ไม่จำเป็นเลยครับ หากเราทำให้มันถูกต้องตามครรลอง การพัฒนาก็จะเกิดขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ
ดังนั้นเราจึงควรปลูกฝังลูก-หลานของเราให้เกลียดการโกงและอย่ายอมกับการถูกเอาเปรียบ
เพื่อที่ประเทศชาติจะพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โดยทำใจให้เป็นสาธารณะ คิดถึงแต่ส่วนรวมเป็นหลัก

เริ่มจากตอนนี้
พยายามหลีกเลี่ยงจากการปลุกระดมที่ก่อให้เกิดการสูญเสีย
ชัยชนะไม่จำเป็นต้องแลกด้วยการสูญเสียเสมอ
เราต้องตามทันเกมของบรรดาแกนนำทั้งหลาย
สังเกตและจดจำ
ใครที่พยายามผลักให้เราไปสู่การปะทะกันเองของพี่น้องชาวไทย(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมือง)
อย่ายุ่งเกี่ยวกับผู้นั้นอีก
และหากเห็นลงสมัครเป็น ส.ส. กรุณาอย่าเลือก
เพราะบุคคลนั้นไม่บริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่แน่ๆ

รักตัวเองและอย่าลืมรักคนอื่นด้วยนะครับ
---------

เตรียมตัวโดนหิ้ว

30 วันป่าว เนี่ยย

เตือนครับ ผมไม่อยากเห็นพี่น้องฆ่ากันเอง

เป็นไปได้ยากมากๆครับ

กลัวว่าจะกลับมาลูปเดิม หากมีการยุบสภาจริงๆก็จะมีแต่หน้าเดิมๆ
เหตุการณ์แบบเดิมก็จะกลับมาอีก
พูดกับเพื่อนไปก็โดนด่า เครียดครับ

gg ครัช

บ่องตง ยอมครับ
อยากให้ทุกคนๆเตือนคนใกล้ชิดด้วย อย่าเป็นเครื่องมือนักการเมือง

ไมงั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นได้

คนหล่อถ้าไม่รีบแก้อาจจะหล่อได้อีกไม่นานนะครับ

จริงๆ ไอประโยคโดนหิ้ว บาย ลาก่อน ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ก็ได้นะครับ

ถ้า ผิด MOD จะแบน เค้าเห็นสมควร เค้าก็จัดการเอง แม้ว่าจะ Edit แล้ว ถ้าสมควร MOD ก็แบนได้ครับ (ผมเคยโดน)

เพราะงั้น ไม่มีความจำเป็นต้องพิมพ์เลย

ผลประโยชน์มาก่อน ประเทศไม่ไปไหน แน่นอน

ไม่อยู่ฝ่ายใด เค้าก็หากันว่าไม่ทำอะไรเลย

ออกไปข้างนอกรวมตัว ก็คาดว่าจะเป็นเครื่องมือ(ชัดเจนด้วย)

แล้วคนอย่างเราๆควรทำยังไงดีครับ

ดูๆไปก็น่ากลุ้มนะครับ

จากใจผมครับ เตรียมตัวรับโทษแบนได้เลย

คงต้องคอยลากคนใกล้ชิดไว้ก่อนล่ะครับ ทุกวันนี้ผมพยายามลากไว้ ดึงๆไว้ ไม่ให้อินกับข่าวสารมากไป

เพราะยิ่งไปร่วมชุมนุมยิ่งถูกปลุกง่ายด้วย ประมาณว่าบรรยากาศพาไป

ทุกวันนี้ถ้าคุณแสดงความคิดเห็น คุณจะถูกเลือกข้างให้โดยอัตโนมัตโดยยังไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าที่คุณพูดคือความจริงหรือไม่ ตอนนี้ประเทศไทยต่างจากเผด็จการยังไง หลักการของประชาธิปไตยคือปชชเป็นเจ้าของอำนาจ ข้อเสียของเผด็จการคือการสืบทอดอำนาจการมีพวกพ้อง หันมาดูไทยนักการเมืองมาจากตระกูลเดิมๆ ปชชไม่เข้าใจอำนาจตัวเองนับถือนักการเมือง มันก็แค่เผด็จการที่แย่งอำนาจกันอยู่2ฝ่าย

ประเทศไทยต่างจากอิตาลียังไง ทั้ง2ประเทศต่างมีปัญหาการคอรัปชันเหมือนกัน แต่วิธีแก้ปัญหามันต่างกัน เขาแก้ปัญหาภายใต้รัฐธรรมนูญ ต่างจากไทยที่บ้างเรื่องก็น่าตลก การชุมนุมบ้างกลุ่มของผู้รักประชาธิปไตยแต่กับมีการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฎิวัติ