ในยุคแรกๆ ลูกฟุตบอลที่ใช้เตะกันนี่ทำมาจากกระเพาะปัสสาวะของหมู!!!
เด็กแนวสมัยนี้พอจะเคยได้ยินเรื่องนี้ไม๊ครับ
และเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะหมูแต่ละอัน (ไม่รู้ลักษณะนามเรียกว่าอะไรครับ)
มีขนาด นน. ไม่มีคุณสมบัติมาตรฐานที่เท่ากันสักอัน
ในปี 1836 ชาร์ล กู๊ดเยียร์ (Charles Goodyear) ...คุ้นๆนะครับ
ได้จดสิทธิบัตรในการผลิตยางสังเคราะห์ขึ้นมาครั้งแรก
(ไม่แน่ใจว่าแรกๆเลยนี่น่าจะผลิตยางรถยนต์หรือปล่าว)...แต่ช่างมันเถอะครับ......
อีก 19 ปีต่อมา 1855 ชาร์ล กู๊ดเยียร์ (Charles Goodyear)ก็ได้ออกแบบ
และผลิตลูกฟุตบอลที่ทำจากยางสังเคราะห์ลูกแรกของโลกขึ้นมา
"first vulcanized rubber soccer balls" (footballs). ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ the National Soccer Hall of Fame ตั้งอยู่ที่ Oneonta, NY, USA.
*น่าจะเป็น"ลูกฟุตบอลลูกแรกที่ผลิตจากสารสังเคราะห์"นะครับ...ไม่ใช่"ฟุตบอลลูกแรกของโลก"
Match Ball used in the FA Cup Final of 1893
Soccer Balls in the 1900's
Official FC Barcelona Museum 1899 Eight Panel Ball
1900 Eight Panel Ball
1910 Soccer Ball
หลังจากนั้นได้มีการทำให้ลูกฟุตบอลมีน้ำหนักที่เบาขึ้นและ ใส่หนังหุ้มจากด้านนอกอีกที
1929 Soccer Ball
1933 Soccer Ball
ปี 1934 @ Italy / ลูกฟุตบอลโลก
1937 Soccer Ball
ปี 1938 @ France / ลูกฟุตบอลโลก
ได้มีการทดลองใช้ลูกฟุตบอลแบบใหม่ ในฟุตบอลโลกปี 1930 ระหว่างเกมส์ อาเจนติน่า กับ อุรุกวัย แมตท์นั้น อุรุกวัยชนะไป 4-2
1930 World Cup Soccer Ball of "Tiento"
1950 Soccer Ball
1950 era 18 panel ball
ปี 1954 @Switzerland / ลูกฟุตบอลโลก
ปี1958 @Sweden / ลูกฟุตบอลโลก
ปี 1962 @Chile / ลูกฟุตบอลโลก
1963 Santiago
1963 Leather Soccer Ball
White Santiago version of the "unofficial" World Cup 1966 England Ball
ปี 1966 @England / ลูกฟุตบอลโลก
Telstar: Mexico, 1970
adidas ได้ผลิตลูกฟุตบอลครั้งแรกเมื่อปี 1963 แต่ได้เข้ามาเป็นลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งขัน
อย่างเป็นทางการจริงๆ ในปี 1970 ลูกฟุตบอลแบบนี้จะมีหนังสีดำ และขาว
จำนวน 32 ชิ้นเย็บติดกัน (น่าจะถือว่าเป็นบอลในยุคใหม่รุ่นแรกมั้งครับ
เพราะก่อนหน้านี้จะไม่มีสี..คือเป็นสีของหนังเลย)
อ้อ !!! ไอ้เจ้า Telstar ที่เป็นขาวดำนี่ มองเห็นได้แจ่มมากครับในการถ่ายทอดทาง
ทีวีขาวดำในสมัยนั้น และก็เป็นไอ้เจ้า Telstar อีกแหล่ะครับที่เป็นลูกฟุตบอลใน World Cup
ที่ได้ ได้เสนอหน้าออกจอ "ถ่ายทอดสด" เป็นครั้งแรก
(ปี 1970 นี่เริ่มมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกครับ)
หน้าตาอันหล่อเหลา...และลายขาวดำ คลาสสิก คุ้นตาของเจ้า Telstar
ต่อมา Telstar-Chile Durlast : West Germany, 1974
ก็ยังเป็น Telstar เหมือนเดิมครับแต่มีเพิ่มอีกเวอร์ชั่นในรุ่นของ Chile Durlast ซึ่งไม่มีแผ่นหนังสีดำ
อันนี้หน้าตาของ Chile Durlast
Tango River Plate - Argentina, 1978
สำหรับรุ่นนี่คุณเอ๊ย....FBT ก็อปปี้ผลิตมาขายหลังบอลโลกปี 78 จบลงราคาประมาณ 800 บาท
(และน่าจะเป็นลูกฟุตบอลรุ่นแรกในไทยที่มีการก๊อปปี้ขาย...เนื่องจากสวยบาดใจในตอนนั้น)
บอลอะไรลายมันช่างเท่เช่นนี้.....ผมและเพื่อนๆ กำเงินไปข้างสนามศุภฯ หลังจากเก็บเงินเข้าหุ้นกัน....
สบตากะมันครั้งแรกนี่หลงไปเลยครับ...เงาแว๊บ!! แทบจะหยด..แย่งกันถือบอลลูกนี้ขึ้นรถเมล์กลับโรงเรียน
คงไม่ต้องบอกว่าตอนเอาไปเตะกันในโรงเรียนผมและเพื่อนๆจะเป็นอันเตะบอลกันไม๊ครับนี่ (ก็มัวเก๊กกันอยู่...55++
โหม่งนิ่มหัวดีแท้ (หลังจากคอย่นกับบอลยางอัดของ MIKAZA มานาน)
อ้อ!! เจ้ารุ่นนี้ได้ไปปรากฎตัวในโอลิมปิค และยูโรเปี้ยนคัพด้วย......
Tango Espana: Spain, 1982
นี่ก็ซ้ำกับ 4 ปีที่แล้วครับ แต่ adidas เปิดตัวมิติใหม่ (อีกขั้น..ในช่วงนั้น)
ด้วยสีเคลือบมุกบนหนังของลูกฟุตบอลเป็นครั้งแรก
ซึ่งก็มีคุณสมบัติป้องกันการซึมของน้ำได้เช่นกัน..............................
และครั้งนี้ก็เป็นการปิดฉากของลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งฟุตบอลโลกที่ทำจาก "หนังแท้ 100%"
เช่นเดียวกัน
Azteca: México, 1986
รุ่นนี้ลายบนลูกบอลขลังได้ใจชนเผ่าอัซเทคมากครับ (ชนพื้นเมืองของเม็กซิโก ...ชื่อรุ่นก็มาจากนี่แหละครับ)
เป็นการเปิดตัวลูกฟุตบอลที่เคลือบด้วย โพลียูเรเทน เป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถป้องกันน้ำฝนได้อย่างดี
และเป็นลูกฟุตบอลที่ผลิตจากวัสดุที่สังเคราะห์ทางเคมีที่มีคุณภาพใช้ได้ดีบนสภาพพื้นผิวที่แข็งกระด้างและชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ
Etrvsco Unico - Italy, 1990
มาอีกแล้วครับ เทคโนโลยีใหม่ของการผลิต...เห้อ
ลูกบอลลูกแรกที่มีชั้นโฟม โพลียูรีเทน สีดำ อยู่ด้านในครับ
(กรุณาอย่าถามนะครับ..มันคืออะไรผมก็ตามเค้าไม่ทันเช่นกัน...เพื่อนๆมีข้อมูลรบกวนด้วยครับ)
อีทรูซโก้....
Questra: USA, 1994
ยังไม่หมดครับเทคโนโลยีใหม่ๆ....
รุ่นนี้เพิ่มอัตราเร่งเวลาเตะเพิ่มด้วยครับ...ประมาณว่าซัดบอลแล้วพุ่งได้เร็วขึ้น
นอกเหนือจากชั้นโฟม โพลียูรีเทน สีดำ ที่อยู่ด้านในเหมือนรุ่นก่อนครับ
แถมด้วยสัมผัสที่นุ่มนวลอีก และยังควบคุมได้ง่ายขึ้น (คุณสมบัติของลูกบอลหรือภรรยาในอุดมคติกันเนี่ยครับ)
อ้อ!! บอลรุ่นนี้ไม่เคยโดนโรนัลโด(เหยินใหญ่)ลุกจากม้านั่งสำรองลงมาอัดมันได้แม้แต่นัดเดียวครับ...ทั้งทัวร์นาเมนท์
Tricolore : France, 1998
ได้เวลาบอลมีสีซะทีครับ....
แหวกม่านประเพณีเก่าๆ ของลูกฟุตบอลโลกด้วย 3 สีของฝรั่งเศส น้ำ เงิน แดง ขาว
ตริโกลอร์....
Fevernova TM: Korea Japan, 2002
รุ่นล่าสุดแล้วครับ...แต่ยัง....มันยังไม่หยุดพัฒนา
รุ่นนี้เพิ่มความหนาของผิวชั้นใน...และเพิ่มความแม่นยำในขณะแหวกอากาศ...เอากะค้าสิ
ฟีเวอร์โนวา......
Roteiro เป็นลูกฟุตบอลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแมทช์แบบแท้จริงเลยครับ......
คือแต่ละแมทช์ใน ยูโร 2004 นี่ จะมีเจ้า Roteiro 20 ลูกหมุนเวียนใช้ในสนาม..ที่สำคัญระบุไว้บนลูกบอลเลยครับว่า...
ลูกบอลลูกนี้ใช้สำหรับเตะแมทช์ไหน ใครแข่งกับใคร วันที่เท่าไหร่ สนามอะไร ที่เหลือเชื่อก็คือยังบอกเส้นลองติจูด และเส้นละติจูด บริเวณจุดศูนย์กลางที่ตั้งของสนามด้วยนะครับ (เว่อร์ไปป่าวครับ adidas)
ด้วยเหตุนี้...ผู้เก็บลูกบอลจากแมทช์ที่เบคแฮมยิงจุดโทษพลาด จึงสามารถนำไปประมูลขายได้เงินอื้อซ่า เนื่องจากข้อมูลบนลูกบอลระบุได้ว่าเป็นของแท้..
Teamgeist / ลูกฟุตบอลโลก
ปี 2006 ที่ เยอรมัน
ครั้งนี้จัดที่เมืองเบียร์ เจ้าของadidas ต้องพิเศษหน่อย โดยการเปลี่ยนรูปแบบลาย
และรูปแบบการผลิต จากเดิมเป็นลาย5เหลี่ยม6เหลี่ยมแปะติดกัน มาเป็นรูปทรงโค้ง
มาแปะแทน เพื่อลดรอยต่อ มีความกลมขึ้น
Jubulani / ลูกฟุตบอลโลก
ปี2010 ที่ แอฟริกาใต้
เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในกาฬทวีป โดยลูกฟุตบอลใหม่ที่จะใช้ครั้งนี้
มีชื่อว่า จาบูลานี ซึ่งหมายถึง ความสุขและการเฉลิมฉลอง ตามภาษาท้องถิ่น
เป็นลูกฟุตบอลที่มีความกลมมากที่สุด มีความเที่ยงตรง แม่นยำมากที่สุด
เวลาลอยในอากาศ รวมถึง ยึดเกาะเป็นเยี่ยมในทุกสภาพอากาศและพื้นผิวด้วย
ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
credit thailandsusu
pantip
soccerballworld